01 มิถุนายน 2566

คัมภีร์อนุตรธรรมภาคจิตจักรวาล 1/06/2023

(เพื่อยุวจิตจักรวาลยุคสุดท้าย)
 
พี่ๆน้องๆที่รักแห่งเราทั้งหลาย
เราจะกล่าวความจริงต่อท่านทั้งหลายว่า
 
การเดินทางกลับบ้านแดนสุญตาของจิตวิญญาณ
จิตหยาบของคุณซึ่งทำหน้าที่แทนขณะเป็นมนุษย์
จะต้องร่วมทางไปกับผู้มอบอำนาจให้ทำแทนเสมอ
ทั้งสองจิตต้องหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกันให้จงได้
วิธีหลอมรวมก็คือการหมุนธรรมจักรในตนเองให้ได้
แล้วเรียนรู้ที่จะชวนคนอื่นๆมาร่วมหมุนกับคุณด้วย
โดยต้องสอบผ่านบททดสอบจิตสามนึกด้านบวก
ทั้งเงื่อนไขด้านลบและด้านบวกที่ผลัดกันหยิบยื่นให้
ในชีวิตประจำวันของพวกคุณให้จงได้
 
การสอบผ่าน “บททดสอบ” ก็คือ
คุณต้องรักคนที่ทำตนไม่น่ารักกับคุณให้ได้
ด้วยการอดทนและอดกลั้นโดยไม่ตอบโต้ต่อสู้ต่อต้าน
คุณต้องให้อภัยแก่คนที่ทำตัวไม่น่าให้อภัยให้จงได้
โดยไม่มีเงื่อนไขหรือข้อแม้แต่อย่างใดทั้งสิ้น
เพื่อทำให้สภาวะจิตในปัจจุบันขณะของคุณนั้น
บริสุทธิ์ผุดผ่องเพราะว่างไปจากกิเลสตัณหาอารมณ์
อันเกิดจากจิตตกเพราะเกิดการยึดติดอัตตาขึ้นมาได้
ซึ่งเป็นผลมาจากการรับรู้แล้วรับเอามาปรุงแต่ง
แทนที่จะรับรู้เพื่อเรียนรู้ว่าอะไรเป็นอะไรว่าอย่างไร
 
คำว่า “บททดสอบจิตสามนึก” ในที่นี้เราหมายถึง
เงื่อนไขทั้งดีไม่ดีที่คนใกล้ตัวผัวๆเมียๆในครอบครัว
หยิบยื่นให้แก่กันและกันในชีวิตประจำวันนั่นเอง
หากเป็นเงื่อนไขที่ดีก็ไม่มีปัญหาอะไรคงสอบผ่านได้
แต่ถ้าเป็นเงื่อนไขที่ไม่ดีนี่คือปัญหาหรือบททดสอบ
ซึ่งคุณต้องมีคำตอบเดียวเท่านั้นคือ #รักและอภัย
จึงจะสามารถสอบผ่านบททดสอบบทนั้นกันไปได้
โดยพื้นฐานพวกคุณก็เป็นลูกผัวตัวเมียพ่อแม่กันอยู่
เพียงแค่มีสติรู้สติและใช้สติที่เรียกว่า “มหาสติ” ได้
พวกคุณก็จะสอบผ่านบททดสอบกันและกันได้เสมอ
 
“บททดสอบจิตสามนึก” เบื้องต้นมันคือบทละคร
ที่จิตวิญญาณคือตัวคุณเองนั่นแหละออกแบบกันมา
โดยวางแผนร่วมกันไว้ตั้งแต่มาเกิดในภพชาติแรก
ณ วิหารสีขาว ตรงด่านนภาลัยหรือประตูคอกแกะ
เพื่อเตรียมการไว้ให้จิตหยาบของแต่ละรูปธรรม
ใช้เป็นเงื่อนไขสั่นสะเทือนขันธ์ห้าหมุนธรรมจักร
ด้วยความรักเพื่อให้อันเป็นรักที่บริสุทธิ์นั่นแหละ
ซึ่งจะเป็นจริงได้ก็ต่อเมื่อคุณครอง “มหาสติ” ได้
อันหมายถึงต้องมี #ธรรมชาติสมาธิ ตลอดเวลา
จิตคุณก็จะว่างไปจากเงื่อนไขว่างไปจากกิเลส
ว่างไปจากการยึดติดอัตตาตัวตนเพราะหลงมายา
จนก่อให้เกิด “เวทนา” แล้วปรุงแต่งเป็น “สังขาร”
ยังผลให้พวกคุณตกหลุมพรางที่ถูกขุดบ่อล่อไว้
จนทำหน้าที่แทนจิตวิญญาณไม่ได้มานับหมื่นปี
 
เมื่อจิตหยาบทำหน้าที่แทนจิตวิญญาณไม่ได้
จิตวิญญาณของคุณก็ต้องรองรับผลกรรมนั้นไว้
แม้ตนเองจะมิได้เป็นผู้ก่อไม่ได้เป็นผู้กระทำก็ตาม
โดยต้องยอมรับมันในฐานะของผู้มอบอำนาจให้
ด้วยการย้อนกลับมาเกิดใหม่ในภพชาติต่อไป
เพื่อจะได้แก้ไขพฤติกรรมที่ผิดพลาดบกพร่องนั้น
ด้วยการเผชิญกับบททดสอบแบบเดิมๆซ้ำอีก
จนกว่าจะจดจำและสามารถสอบผ่านมันไปได้
 
แต่ถ้าได้รับโอกาสให้มาเกิดใหม่เพื่อแก้ไขตนเอง
แล้วยังสอบตกอยู่ซ้ำซากจนผ่านมาหลายภพชาติ
วงจรชีวิตแต่ละภพชาติต่อมาคุณจะมีอายุขัยสั้นลง
หากใช้เวลาเปลืองไปหลายภพชาติมากเท่าใด
อายุขัยในการมีภพชาติเป็นมนุษย์ก็จะยิ่งสั้นลงๆ
เพื่อแบ่งปันโอกาสในการเกิดให้แก่รูปธรรมอื่นด้วย
 
จิตวิญญาณใครจะคืนกลับสู่อ้อมกอดพระเจ้าได้
หลังการตายของจิตหยาบและกายหยาบในชาตินี้
ต้องมีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์พร้อมแล้วเท่านั้น
มิใช่แค่ว่ายอมรับในพระเจ้าและเชื่อในองค์พระเยซู
เมื่อตายแล้วจะไปอยู่ในอ้อมกอดของพระองค์ได้
โดยขณะเป็นมนุษย์นั้นคุณไม่ร่วมกันหมุนธรรมจักร
เพื่อสร้างมหัศจรรย์ในมิติของจิตวิญญาณให้เกิดขึ้น
ด้วยการเข้าถึงความบริสุทธิ์สูงสุดจากฤทธิ์อำนาจ
ที่จะได้รับจากการเจิมของพระวิญญาณบริสุทธิ์ก่อน
จงอย่าหลงเชื่อคำหลอกลวงของพวกไม่หวังดีเลย
แม้จะรักพระบิดาศรัทธาในพระองค์ก็ทรงช่วยมิได้
 
จงจำไว้เถิดว่ากฎของพระเจ้านั้นยังมีอีกข้อหนึ่ง
นั่นคือ #เด็กเส้น ไม่มีไม่เว้นแม้แต่พระบุตรเอก
ใครหิวใครกินจะให้ใครกินแทนให้อิ่มแทนไม่ได้
ใครกระหายใครดื่มจะให้ใครดื่มแทนนั้นไม่ได้
มิเช่นนั้นคุณก็จะดับกระหายไม่ได้ถ้าไม่ดื่มเอง
 
เวลาทำงานก็เหมือนกัน
เนื้อตัวผิวกายคุณจะต้องเปียกเปื้อนหยาดเหงื่อ
อวัยวะร่างกายคุณจะต้องใช้พลังงานด้วย
งานที่ทำจึงก้าวหน้าไปสู่ความสำเร็จที่ต้องการได้
ถ้าคุณอยากก้าวหน้าคุณจึงต้องก้าวไปข้างหน้า
ด้วยการยอมลงทุนที่จะนับก้าวตนเองไปทีละก้าว
พร้อมที่จะนับหนึ่งสองสามไปเรื่อยๆจนถึงเส้นชัย
นี่คือความจริงทั้งโลกียะธรมและโลกุตรธรรม
ที่ไม่ผิดกฎแห่งธรรมชาติที่มิใช่เรื่องของเด็กเส้น
 
การจะฟื้นขึ้นจากความตายไปรับกายนิรันดร์
จากตัวตนภาคแรกที่สูงส่งที่รอคอยพระจิตอยู่
ในพระนิเวศน์พระบิดานอกเอกภพอันไพศาลนี้
จึงไม่ต่างจากการกลับคืนสู่อ้อมกอดของพระองค์
เพราะที่นั่นเป็นสนามพลังงานแห่งองค์จิตจักรวาล
ที่พระองค์เป็นจุดศูนย์กลางของสนามพลังงานนั้น
ไม่ต่างจากโครงข่ายสายใยแมงมุมยักษ์ที่ถักทอไว้
โดยมีลูกๆคือจิตจักรวาลดวงเล็กเกาะก่ายอาศัยอยู่
เป็นจำนวนมากมายนับไม่ถ้วน
 
ในราตรีใดที่ฟ้าเปิด
ภาพของดวงดาราประดับฟ้าวับๆแวมๆที่คุณเห็น
จะเป็นภาพที่พระเจ้าทรงจำลองมาจากแดนสุญตา
พระนิเวศน์ของพระองค์ซึ่งเป็นบ้านเกิดของพวกคุณ
ให้คุณสามารถเข้าใจความจริงที่ว่านี้ได้ง่ายดายขึ้น
เมื่อได้อ่านคำกล่าวของเราที่นำมาเล่าสู่กันฟังนี้ว่า
พระนิเวศน์พระเจ้าคือแดนสุญตาบ้านเกิดพวกคุณ
ซึ่งปกตินั้นจะไม่มีกิจกรรมอะไรเกิดขึ้นที่นั่น
คงมีแต่จิตจักรวาลดวงเล็กที่มีสภาวะจิตเป็นสุญตา
ที่ทุกรูปธรรมนิ่งสงบและอิ่มเอิบอยู่กับความว่าง
 
การเดินทางกลับไปเป็นหนึ่งเดียวกัน
กับตัวตนภาคแรกที่สูงส่งที่มีคุณสมบัติเป็นสุญตานี้
จะเกิดขึ้นหลังการตายของจิตหยาบกับกายหยาบ
ขณะที่จิตวิญญาณก็เป็นขึ้นจากการเวียนตายเกิด
เพื่อรับเอากายนิรันดร์แต่เดิมของตนไว้ ณ บัดนั้น
แดนสุญตานี้จึงเป็น #สวรรค์นิรันดร ตามพระคัมภีร์
ที่ศัตรูของพวกคุณหลอกให้สร้างสวรรค์มายาขึ้นมา
แล้วพาจิตวิญญาณไปขังไว้บนสวรรค์เทียมเท็จแทน
ตามที่เราเคยเปิดเผยความจริงให้รู้กันมานานแล้ว
 
จึงต้องรู้ว่าสวรรค์นิรันดรเป็นแดนสุญตาของพระเจ้า
แต่สวรรค์มายาเป็นสวรรค์เทียมเท็จที่มิได้ทรงสร้าง
จงอย่าหลงทางกลับบ้านไปอยู่สวรรค์เทียมเท็จเลย
เพราะการนิพพานแท้จริงนั้นมิใช่แค่หายไปจากโลก
โดยไม่ย้อนกลับมาเกิดเป็นมนุษย์อีกนานเท่านาน
ถ้าแม้ว่าคนบนโลกจะไม่มีใครรู้เห็นคุณได้อีกก็ตาม
แต่ถ้าจิตวิญญาณบนสวรรค์เทียมเท็จแลเห็นคุณอยู่
นั่นแสดงว่าจิตวิญญาณคุณยังมิได้นิพพานแท้จริง
เพราะการนิพพานที่แท้จริงคือการกลับสวรรค์นิรันดร
 
การที่เราย้อนกลับมาตามสัญญา
ก็เพื่อจะนำพาจิตหยาบของพวกคุณทุกคน
เข้าถึงจิตวิญญาณบริสุทธิ์ของตนเองให้จงได้
เพราะถ้าเจ้าสาวของเราไม่ได้รับการเจิมเต็ม
ความบริสุทธิ์สูงสุดด้วยฤทธิ์อำนาจของจิตวิญญาณ
ก็จะฟื้นขึ้นมาจากตายเพื่อรับกายนิรันดร์ไม่ได้
 
สื่อถ่ายทอดคลื่นความคิดในระบบจิตสู่จิต
จากองค์จิตจักรวาลดวงใหญ่
 
ปัญญาวิสุทธิ์
1/06/2566