(เพื่อยุวจิตจักรวาลยุคสุดท้าย)
พี่ๆน้องๆที่รักแห่งเราทั้งหลาย
เราจะกล่าวความจริงต่อท่านทั้งหลายว่า
ภารกิจสำคัญที่มนุษย์ทั้งโลกต้องทำ
นั่นคือจะต้องยกระดับจิตหยาบให้สูงขึ้น
จากที่เป็นรูปธรรม 4 มิติ หรือมีสี่เหลี่ยมมุม
ซึ่งเป็นรูปทรงเรขาคณิตนี้มาตั้งแต่แรกคลอด
ให้เป็นรูปธรรม 5 มิติที่มีห้าเหลี่ยมมุมให้ได้
แน่นอนว่าถ้าจะเป็นรูปธรรม
5 มิติหรือ 5D
จิตหยาบของคุณต้องยกระดับให้สูงขึ้นอีก
จนเป็นรูปธรรมที่มี 6 มิติเรียกว่า 6D ให้จงได้
เพราะจิตหยาบที่สั่นสะเทือนทางด้านบวก
จนเข้าถึงรูปธรรมที่เป็น 5D ได้นั้นมันยังไม่สมดุล
ธรรมชาติของจิตหยาบนั้นยังจะยกระดับต่อไปอีก
จนเข้าถึงรูปธรรมที่เป็น 6 มิติ หรือ 6D ได้เท่านั้น
จิตหยาบจึงจะมีความสมดุลในตนเอง
ณ เวลานั้น
โดยความถี่ของการสั่นสะเทือนนั้นจะสั่นแบบคงที่
ความเร็วการเหวี่ยงหมุนรอบตัวเองก็จะคงที่ด้วย
ซึ่งเป็นคุณสมบัติเดียวกันกับจิตวิญญาณแก่นแท้
จึงเท่ากับว่าจิตหยาบและจิตวิญญาณของคุณ
เข้าถึงการเป็นหนึ่งเดียวกันได้แล้วนั่นเอง
การยกระดับแรงสั่นสะเทือนและการเหวี่ยงหมุน
เป็นภารกิจที่มนุษย์ทุกคนจะต้อง #ปฏิบัติทำ
โดยวิธีปฏิบัติทำก็คือ #การปฏิบัติธรรม ในยามตื่น
การปฏิบัติธรรมในยามตื่นก็คือ #การหมุนธรรมจักร
หมุนธรรมจักรก็คือใช้จิตหยาบสั่นสะเทือนขันธ์ห้า
ด้วย #ความรักเพื่อให้หรือรักที่ไร้เงื่อนไขกำกับไว้
ความรักที่ “ไร้เงื่อนไข” หมายถึง
ความรักที่เกิดจากสภาวะจิตอันบริสุทธิ์แท้จริง
เป็นความรักเพื่อให้ที่ไม่นึกหวังสิ่งใดตอบแทน
ทั้งในชาตินี้หรือชาติหน้าซึ่งเป็นการทำที่บริสุทธิ์
แต่การอธิษฐานขออานิสงส์ในบุญกุศลที่ทำนั้น
อุทิศแบ่งปันให้ใครผู้ใดทั้งเจาะจงและไม่เจาะจง
แม้เป็นการทำดีเพื่อคนเหล่านั้นอันเป็นบุคคลอื่น
มันคือการทำความดีแต่เป็นกรรรมดีที่ไม่บริสุทธิ์
จริงอยู่ที่การอดทนอดกลั้นและให้อภัย
ต่อบุคคลรอบข้างทุกคนที่เขาทำบาปชั่วต่อตัวคุณ
โดยไม่โกรธไม่ตอบโต้ไม่ต่อสู้และไม่ต่อต้าน
ซึ่งคุณไม่ได้อธิษฐานร้องขอบุญกุศลที่คุณก่อนั้น
อีกทั้งคุณไม่ได้ทำไปโดยมีเงื่อนไขหรือข้อแม้ว่า
คราวนี้ทีมึงกูจะรักมึงอย่างไม่มีเงื่อนไขให้ได้
แต่คราวหน้าถึงตามึงบ้างหากกูทำผิดบาปกับมึง
มึงก็ต้องอดทนอดกลั้นให้อภัยต่อกูตอบแทนด้วย
ดังนั้น
ผลกรรมด้านบวกที่เกิดขึ้นจากขันธ์ห้าในกรณีที่ว่านี้
ก็จะเป็นพลังงานกรรมด้านบวกบริสุทธิ์อย่างแท้จริง
ซึ่งจะอยู่ในรูปของคลื่นไฟฟ้าแม่เหล็กด้านบวก
จึงเป็นพลังงานสะอาดเพราะไม่มีสิ่งใดเจือปนอยู่
เป็นพลังงานที่คุณเหวี่ยงมันออกมาข้างนอกร่างกาย
ในแบบที่โลกต้องการเพราะนำเอาไปใช้ประโยชน์ได้
เนื่องจากไม่มีใครเป็นเจ้าของและไม่มีใครจองจำไว้
สำหรับคุณที่เป็นผู้ทำบุญสุนทานด้วยกิริยาวัตถุต่างๆ
คุณที่เป็นผู้แสดงออกต่อคนอื่นด้วยความรักเพื่อให้นั้น
พระเจ้าทรงออกแบบเอาไว้ให้อย่างเหมาะสมแล้วว่า
กรรมดีหรือบุญกุศลที่คุณเป็นผู้กระทำในแต่ละครั้งนั้น
แม้คุณหรือผู้กระทำนั้นจะไม่ร้องขอผลตอบแทน
คุณหรือผู้กระทำไม่มีเงื่อนไขใดๆในการกระทำนั้น
แต่ผลบุญที่เกิดขึ้นในมิติพลังงานด้านจิตวิญญาณ
คุณซึ่งเป็นผู้ก่อผู้กระทำขึ้นนั้นก็จะได้รับมันอยู่แล้ว
#กรรมดีกรรมชั่วเป็นของตัวเอง
#ใครทำใครได้ทำแทนกันไม่ได้
#ใครจะแย่งผลกรรมผู้อื่นมาเป็นของตนไม่ได้
#พ่อแม่ลูกสามีภรรยาในครอบครัวเดียวกัน
ถ้าใครคนใดคนหนึ่งก่อกรรมทำดีหรือทำชั่วขึ้นมา
ทั้งกรรมดีและกรรมชั่วนั้นมันก็จะเป็นของทุกคน
แม้คนอื่นๆมิได้เป็นผู้ก่อมิได้เป็นผู้กระทำก็ตาม
เพราะพระบิดาทรงออกแบบให้รับผิดชอบร่วมกัน
ด้วยสมการพลังงานจิต ∑βₓ ที่ทรงกำหนดไว้
แปลว่าจิตวิญญาณทุกคนในครอบครัวเดียวกัน
จะมีความคล้ายคลึงกันทางด้านบุคลิกทั้งหมด
ถ้าจิตหยาบของใครคนใดคนหนึ่งสั่นสะเทือนขึ้น
มันจะมีอิทธิพลต่อจิตหยาบของกันและกันเสมอ
เพราะจิตหยาบของทุกคนจะสั่นสะเทือนตามกัน
ทั้งด้านบวกเมื่อก่อกรรมดีหรือด้านลบเมื่อทำชั่ว
แม้เป็นจิตวิญญาณลูกผัวตัวเมียพ่อแม่ที่ตายแล้ว
ก็จะรับรู้แรงสั่นสะเทือนของคนที่ยังไม่ตายได้ด้วย
พ่อแม่ก่อกรรมใดลูกๆก็จะได้รับผลกรรมนั้นด้วย
ลูกๆก่อกรรมใดพ่อแม่จะรับผลกรรมนั้นด้วยเสมอ
เพราะพระเจ้าทรงวางเงื่อนไขเอาไว้แบบนี้
เพื่อให้จิตหยาบของพ่อแม่ที่รักลูกและอยากมีลูก
ช่วยสั่นสะเทือนจิตหยาบของจิตวิญญาณที่มาใหม่
ให้ยกระดับจากมิติที่ “ศูนย์” จนเติบโตเป็นทารก
แล้วคลอดออกมาเป็น “กุมารน้อย” ที่มี 4D ได้
เมื่อมีอายุขัยครบเก้าเดือนตามกำหนดแล้ว
การยกระดับมิติของจิตหยาบจนเติบโตของทารก
ได้จากความรักของพ่อแม่และจิตวิญญาณผู้มาใหม่
ช่วยกันสั่นสะเทือนเป็นความรักบริสุทธิ์ให้ทั้งสิ้น
ต่อเมื่อคลอดออกมาแล้วกว่าจะโตครบสามขวบ
ความน่ารักน่าเอ็นดูของเจ้ากุมารน้อยคนนั้น
จะเป็นเงื่อนไขให้คนรอบข้างทุกคนนอกจากพ่อแม่
สั่นสะเทือนเป็นความรักความเมตตาเมื่อได้เห็น
จนอยากเล่นด้วยอยากอุ้มอยากกอดอยากหอมแก้ม
ล้วนเป็นการสร้างสมการพลังงานความรักร่วมกัน
เพื่อช่วยยกระดับจิตหยาบของกันและกันให้สูงขึ้น
ด้วยวิธีหมุนธรรมจักรร่วมกันตามที่ทรงออกแบบไว้
จนเมื่อกุมารน้อยคนนั้นอายุครบสามขวบปี
เป็นวัยที่สมองสองซีกเชื่อมต่อกันเรียบร้อยแล้ว
จึงจะต้องใช้จิตหยาบของตัวเองซึ่งอยู่ในมิติที่ 4D
สั่นสะเทือนให้เป็นความรักพ่อรักแม่หรือรักน้อง
รักพี่ป้าน้าอา รักหมอนข้าง รักผ้าห่ม รักสัตว์เลี้ยง
รักขวดนม รักของเล่น ด้วยจิตสามนึกของตน
เพื่อยกระดับจิตหยาบของตนร่วมกับผู้อื่นต่อไป
สื่อถ่ายทอดคลื่นความคิดในระบบจิตสู่จิต
จากองค์จิตจักรวาลดวงใหญ่
ปัญญาวิสุทธิ์
26/06/2566
พี่ๆน้องๆที่รักแห่งเราทั้งหลาย
เราจะกล่าวความจริงต่อท่านทั้งหลายว่า
ภารกิจสำคัญที่มนุษย์ทั้งโลกต้องทำ
นั่นคือจะต้องยกระดับจิตหยาบให้สูงขึ้น
จากที่เป็นรูปธรรม 4 มิติ หรือมีสี่เหลี่ยมมุม
ให้เป็นรูปธรรม 5 มิติที่มีห้าเหลี่ยมมุมให้ได้
จนเป็นรูปธรรมที่มี 6 มิติเรียกว่า 6D ให้จงได้
เพราะจิตหยาบที่สั่นสะเทือนทางด้านบวก
จนเข้าถึงรูปธรรมที่เป็น 5D ได้นั้นมันยังไม่สมดุล
จนเข้าถึงรูปธรรมที่เป็น 6 มิติ หรือ 6D ได้เท่านั้น
โดยความถี่ของการสั่นสะเทือนนั้นจะสั่นแบบคงที่
ความเร็วการเหวี่ยงหมุนรอบตัวเองก็จะคงที่ด้วย
ซึ่งเป็นคุณสมบัติเดียวกันกับจิตวิญญาณแก่นแท้
จึงเท่ากับว่าจิตหยาบและจิตวิญญาณของคุณ
เข้าถึงการเป็นหนึ่งเดียวกันได้แล้วนั่นเอง
การยกระดับแรงสั่นสะเทือนและการเหวี่ยงหมุน
เป็นภารกิจที่มนุษย์ทุกคนจะต้อง #ปฏิบัติทำ
โดยวิธีปฏิบัติทำก็คือ #การปฏิบัติธรรม ในยามตื่น
การปฏิบัติธรรมในยามตื่นก็คือ #การหมุนธรรมจักร
ด้วย #ความรักเพื่อให้หรือรักที่ไร้เงื่อนไขกำกับไว้
ความรักที่ “ไร้เงื่อนไข” หมายถึง
ความรักที่เกิดจากสภาวะจิตอันบริสุทธิ์แท้จริง
เป็นความรักเพื่อให้ที่ไม่นึกหวังสิ่งใดตอบแทน
ทั้งในชาตินี้หรือชาติหน้าซึ่งเป็นการทำที่บริสุทธิ์
แต่การอธิษฐานขออานิสงส์ในบุญกุศลที่ทำนั้น
อุทิศแบ่งปันให้ใครผู้ใดทั้งเจาะจงและไม่เจาะจง
แม้เป็นการทำดีเพื่อคนเหล่านั้นอันเป็นบุคคลอื่น
มันคือการทำความดีแต่เป็นกรรรมดีที่ไม่บริสุทธิ์
จริงอยู่ที่การอดทนอดกลั้นและให้อภัย
ต่อบุคคลรอบข้างทุกคนที่เขาทำบาปชั่วต่อตัวคุณ
โดยไม่โกรธไม่ตอบโต้ไม่ต่อสู้และไม่ต่อต้าน
ซึ่งคุณไม่ได้อธิษฐานร้องขอบุญกุศลที่คุณก่อนั้น
อีกทั้งคุณไม่ได้ทำไปโดยมีเงื่อนไขหรือข้อแม้ว่า
คราวนี้ทีมึงกูจะรักมึงอย่างไม่มีเงื่อนไขให้ได้
แต่คราวหน้าถึงตามึงบ้างหากกูทำผิดบาปกับมึง
มึงก็ต้องอดทนอดกลั้นให้อภัยต่อกูตอบแทนด้วย
ดังนั้น
ผลกรรมด้านบวกที่เกิดขึ้นจากขันธ์ห้าในกรณีที่ว่านี้
ก็จะเป็นพลังงานกรรมด้านบวกบริสุทธิ์อย่างแท้จริง
ซึ่งจะอยู่ในรูปของคลื่นไฟฟ้าแม่เหล็กด้านบวก
จึงเป็นพลังงานสะอาดเพราะไม่มีสิ่งใดเจือปนอยู่
เป็นพลังงานที่คุณเหวี่ยงมันออกมาข้างนอกร่างกาย
ในแบบที่โลกต้องการเพราะนำเอาไปใช้ประโยชน์ได้
เนื่องจากไม่มีใครเป็นเจ้าของและไม่มีใครจองจำไว้
สำหรับคุณที่เป็นผู้ทำบุญสุนทานด้วยกิริยาวัตถุต่างๆ
คุณที่เป็นผู้แสดงออกต่อคนอื่นด้วยความรักเพื่อให้นั้น
พระเจ้าทรงออกแบบเอาไว้ให้อย่างเหมาะสมแล้วว่า
กรรมดีหรือบุญกุศลที่คุณเป็นผู้กระทำในแต่ละครั้งนั้น
แม้คุณหรือผู้กระทำนั้นจะไม่ร้องขอผลตอบแทน
คุณหรือผู้กระทำไม่มีเงื่อนไขใดๆในการกระทำนั้น
แต่ผลบุญที่เกิดขึ้นในมิติพลังงานด้านจิตวิญญาณ
คุณซึ่งเป็นผู้ก่อผู้กระทำขึ้นนั้นก็จะได้รับมันอยู่แล้ว
#กรรมดีกรรมชั่วเป็นของตัวเอง
#ใครทำใครได้ทำแทนกันไม่ได้
#ใครจะแย่งผลกรรมผู้อื่นมาเป็นของตนไม่ได้
#พ่อแม่ลูกสามีภรรยาในครอบครัวเดียวกัน
ถ้าใครคนใดคนหนึ่งก่อกรรมทำดีหรือทำชั่วขึ้นมา
ทั้งกรรมดีและกรรมชั่วนั้นมันก็จะเป็นของทุกคน
แม้คนอื่นๆมิได้เป็นผู้ก่อมิได้เป็นผู้กระทำก็ตาม
เพราะพระบิดาทรงออกแบบให้รับผิดชอบร่วมกัน
ด้วยสมการพลังงานจิต ∑βₓ ที่ทรงกำหนดไว้
แปลว่าจิตวิญญาณทุกคนในครอบครัวเดียวกัน
จะมีความคล้ายคลึงกันทางด้านบุคลิกทั้งหมด
ถ้าจิตหยาบของใครคนใดคนหนึ่งสั่นสะเทือนขึ้น
มันจะมีอิทธิพลต่อจิตหยาบของกันและกันเสมอ
เพราะจิตหยาบของทุกคนจะสั่นสะเทือนตามกัน
ทั้งด้านบวกเมื่อก่อกรรมดีหรือด้านลบเมื่อทำชั่ว
แม้เป็นจิตวิญญาณลูกผัวตัวเมียพ่อแม่ที่ตายแล้ว
ก็จะรับรู้แรงสั่นสะเทือนของคนที่ยังไม่ตายได้ด้วย
พ่อแม่ก่อกรรมใดลูกๆก็จะได้รับผลกรรมนั้นด้วย
ลูกๆก่อกรรมใดพ่อแม่จะรับผลกรรมนั้นด้วยเสมอ
เพราะพระเจ้าทรงวางเงื่อนไขเอาไว้แบบนี้
เพื่อให้จิตหยาบของพ่อแม่ที่รักลูกและอยากมีลูก
ช่วยสั่นสะเทือนจิตหยาบของจิตวิญญาณที่มาใหม่
ให้ยกระดับจากมิติที่ “ศูนย์” จนเติบโตเป็นทารก
แล้วคลอดออกมาเป็น “กุมารน้อย” ที่มี 4D ได้
การยกระดับมิติของจิตหยาบจนเติบโตของทารก
ได้จากความรักของพ่อแม่และจิตวิญญาณผู้มาใหม่
ช่วยกันสั่นสะเทือนเป็นความรักบริสุทธิ์ให้ทั้งสิ้น
ต่อเมื่อคลอดออกมาแล้วกว่าจะโตครบสามขวบ
ความน่ารักน่าเอ็นดูของเจ้ากุมารน้อยคนนั้น
จะเป็นเงื่อนไขให้คนรอบข้างทุกคนนอกจากพ่อแม่
สั่นสะเทือนเป็นความรักความเมตตาเมื่อได้เห็น
จนอยากเล่นด้วยอยากอุ้มอยากกอดอยากหอมแก้ม
ล้วนเป็นการสร้างสมการพลังงานความรักร่วมกัน
เพื่อช่วยยกระดับจิตหยาบของกันและกันให้สูงขึ้น
ด้วยวิธีหมุนธรรมจักรร่วมกันตามที่ทรงออกแบบไว้
จนเมื่อกุมารน้อยคนนั้นอายุครบสามขวบปี
เป็นวัยที่สมองสองซีกเชื่อมต่อกันเรียบร้อยแล้ว
จึงจะต้องใช้จิตหยาบของตัวเองซึ่งอยู่ในมิติที่ 4D
รักพี่ป้าน้าอา รักหมอนข้าง รักผ้าห่ม รักสัตว์เลี้ยง
รักขวดนม รักของเล่น ด้วยจิตสามนึกของตน
เพื่อยกระดับจิตหยาบของตนร่วมกับผู้อื่นต่อไป
สื่อถ่ายทอดคลื่นความคิดในระบบจิตสู่จิต
จากองค์จิตจักรวาลดวงใหญ่
ปัญญาวิสุทธิ์
26/06/2566