05 มิถุนายน 2566

คัมภีร์อนุตรธรรมภาคจิตจักรวาล 5/06/2023

(เพื่อยุวจิตจักรวาลยุคสุดท้าย)
 
พี่ๆน้องๆที่รักแห่งเราทั้งหลาย
เราจะกล่าวความจริงต่อท่านทั้งหลายว่า
 
เพราะมนุษย์เสพติดกิเลสกันมายาวนาน
จึงเป็นทาสของตัณหาราคะอารมณ์ขยะรายวัน
จนไม่สามารถสั่นสะเทือนจิตสามนึกด้านบวก
ด้วยการนึกดีคิดดีพูดดีทำดีเพื่อหมุนธรรมจักร
ทั้งภายในตนเองและหมุนร่วมกับคนอื่นๆได้
มนุษย์จึงล้มเหลวในหน้าที่ตามพันธสัญญา 6
เฉพาะข้อแรกคือเป็นเพื่อนร่วมงานกับโลกมิได้
 
เพราะการเป็นเพื่อนร่วมงานกับโลก
ต้องใช้ความรักบริสุทธิ์ขับเคลื่อนขันธ์ห้าเท่านั้น
ไม่ว่าคนรอบข้างจะยื่นเงื่อนไขดีหรือร้ายมาให้
คุณต้องกระทำตอบสนองด้านบวกกลับคืนเสมอ
ในแบบถ้าดีมาก็ดีตอบแม้ใครชั่วมาก็จะดีตอบ
ซึ่งความดีงามนั้นล้วนเป็นคุณสมบัติของทุกคน
ที่ต่างก็มีในตนเองกันอยู่แล้ว
 
แต่มนุษย์กลับเข้าถึงความดีงามของตนไม่ได้
ความดีงามนี้เป็นภาพรวมของความรักบริสุทธิ์
อันเป็นรักเพื่อให้รักได้โดยไม่หวังสิ่งตอบแทน
ซึ่งเข้าถึงได้ด้วยอำนาจทางปัญญาของสมอง
ทั้งความดีงามความรักและสติปัญญาของมนุษย์
จึงเป็นอำนาจในตนเองทางด้านบวกที่คุณมีอยู่
เพื่อใช้มันยึดรั้งตนเองเอาไว้กับคนอื่นๆนั่นเอง
 
เพราะศัตรูของมนุษย์แต่โบราณ
ไม่ต้องการให้พวกคุณเข้าถึงอำนาจแท้จริง
จึงหลอกพวกคุณให้แสวงอำนาจมาจากภายนอก
ด้วยการใช้เวทย์มนต์คาถาเป็นภาษา “อะรูมิไร้”
ทำให้เนื้อหนังตนเองทนคมมีดทนต่อศาสตราวุธ
ทำร้ายคนอื่นลับหลังได้โดยไม่ต้องเข้าใกล้ตัว
ทำให้คนอื่นอยู่ภายใต้อำนาจของตนอย่างว่าง่าย
ทั้งนี้เพื่อช่วยให้คนอื่นขลาดกลัวและแพ้พ่าย
เพื่อทำให้ตนเองเป็นฝ่ายมีชัยชนะเป็นผู้รอดได้
 
ด้วยการใช้ยาสมุนไพรอายุวัฒนะดื่มกิน
เพื่อทำให้ตนเองมีอายุขัยยืนยาวให้มากที่สุด
โดยทำให้ตนเองไม่เป็นคนแก่ง่ายตายเร็วให้ได้
อย่างเช่นฮ่องเต้ของจีนโบราณ เป็นต้น
 
ด้วยการยอมก้มหัวให้ลัทธิเทพเจ้าต่างๆ
ซึ่งอ้างตนว่าเป็นเทพเจ้าผู้ข้ามฟ้ามาจากดาวอื่น
เพราะหวังว่าถ้ายอมตนกราบไหว้บูชาเทพเจ้า
แล้วเอาเลือดเนื้อสัตว์มาบูชายัญแลกเปลี่ยนกัน
ตนก็จะได้รับอานิสงส์บางอย่างเป็นการตอบแทน
โดยที่ตนได้รับแต่เพื่อนมนุษย์คนอื่นๆไม่ได้รับ
ที่สำคัญคือคิดว่าถ้าตนยอมเป็นพวกกับเทพเจ้า
ตนก็จะไม่ถูกเทพเจ้าองค์นั้นทำร้ายให้เดือดร้อน
นี่จึงเป็นการเลือกอยู่กันคนละข้างกับพระเจ้า
ทั้งๆที่คำว่า “เทพเจ้า” กับ “พระเจ้า” นั้นต่างกัน
 
เทพเจ้าดลบันดาลสิ่งดีๆให้ตามที่คุณต้องการ
โดยที่คุณต้องมีเครื่องเซ่นสรวงบูชาแลกเปลี่ยน
โดยที่คุณต้องเคารพต้องให้เกียรติจะลบหลู่มิได้
จะทำสิ่งใดให้เทพเจ้าไม่สบอารมณ์ก็ไม่ได้
เพราะนอกจากจะไม่ได้รับอำนาจจากเทพเจ้าแล้ว
คุณอาจถูกเทพเจ้านั้นๆลงโทษลงทัณฑ์อีกด้วย
 
แต่สำหรับพระบิดาแห่งจิตวิญญาณของคุณเอง
ซึ่งทรงเป็นพระผู้เป็นเจ้าเหนือสิ่งทั้งปวงนั้น
พระองค์ทรงรักเมตตาบุตรมนุษย์และทุกสรรพสิ่ง
อย่างเสมอภาคกันโดยไม่มีเงื่อนไขข้อแม้ใดๆ
ไม่ว่าคุณจะมาเกิดทางซีกโลกฝั่งพระอาทิตย์ขึ้น
หรือว่าคุณจะไปยืนอยู่ทางซีกโลกฝั่งอาทิตย์ตก
ไม่ว่าคุณจะดำรงอยู่ในป่ารกบนขุนเขาหรือที่ไหน
พระองค์จะทรงปฏิบัติต่อพวกคุณเหมือนกันทุกคน
ลูกที่ดีพระองค์ก็ทรงรักลูกที่ชั่วๆพระองค์ก็ทรงรัก
พระเมตตาของพระองค์เปี่ยมล้นโดยไม่มีประมาณ
 
พี่ๆน้องๆที่รักทั้งหลาย
เพราะกิเลสในเวทนาขันธ์ตัวเดียวเท่านั้น
ทำให้มนุษย์ทุกคนเข้าถึงอำนาจในตนเองไม่ได้
เมื่อเข้าถึงกันไม่ได้จึงไม่อาจใช้ประโยชน์ได้
จนเพาะนิสัยใหม่โดยหันไปพึ่งอำนาจภายนอก
จึงเข้าทางศัตรูตัวร้ายของมนุษย์ไปในที่สุด
 
มนุษย์จึงหมุนธรรมจักรกันไม่เป็น
วันๆเก่งแต่ร่วมกันหมุนกรรมจักร
สมัครเป็นเจ้ากรรมนายเวรของกันและกัน
มนุษย์จึงโง่ง่ายเพราะใช้ปัญญาไม่เป็น
จนเห็นถูกเป็นผิด เห็นผิดเป็นถูก ไม่รู้ดีชั่ว
ไม่รู้เท่าทันเล่ห์เหลี่ยมของฝ่ายชั่ว
เพราะถูกกิเลสครอบงำจนจิตหยาบชำรุด
ขนาดทำบุญสร้างกุศลก็ยังทำด้วยกิเลสแฝง
ผลบุญกุศลที่ทำนั้นมันจึงไม่สะอาดบริสุทธิ์
เนื่องจากผลบุญกุศลที่ทำนั้นมันมีเจ้าของ
โลกและสิ่งอื่นๆเอาไปใช้ประโยชน์ไม่ได้เลย
 
คุณต้องรู้ว่า
ผลบุญกุศลที่คุณทำด้วยกระบวนการขันธ์ห้า
มันจะถูกผลิตออกมาในรูปของพลังงานจิต
พลังงานจิตคือคลื่นความถี่ทางไฟฟ้าแม่เหล็ก
เพราะคุณสั่นสะเทือนขันธ์ห้าด้วยรักเพื่อให้
เช่น อดทน อดกลั้น ให้อภัย เมตตา กรุณา
พลังงานที่ผลิตออกมาจึงเป็นพลังงานสะอาด
ซึ่งอยู่ในรูปของคลื่นไฟฟ้าแม่เหล็กด้านบวก
ที่ไม่มีคุณและไม่มีใครเป็นเจ้าของมันนั่นเอง
 
พลังงานหรือวิญญาณที่คุณเหวี่ยงมันออกมานี้
จึงเป็นพลังงานในแบบที่โลกและทุกสิ่งต้องการ
เพราะสามารถนำมันไปใช้ประโยชน์ได้ทั้งหมด
แต่ถ้าคุณทำบุญสร้างกุศลแล้วทำเพื่อตัวเอง
โดยทำแล้วร้องขอผลตอบแทนในชาตินี้ชาติหน้า
ผลกรรมทางพลังงานนั้นจะมีคุณเป็นเจ้าของอยู่
โลกและทุกสรรพสิ่งจะนำเอาไปใช้ประโยชน์มิได้
 
ขณะเดียวกัน
ถ้าคุณทำบุญสร้างกุศลแล้วทำเพื่อคนอื่นๆ
โดยระบุตัวตนอย่างชัดเจนในทุกครั้งที่คุณทำ
ด้วยการเจาะจงว่าจะอุทิศให้ใคร
ผลกรรมทางพลังงานที่เรียกว่า “วิญญาณ”
ซึ่งเป็นพลังงานด้านบวกนั้นก็มีเจ้าของอีกแล้ว
เพราะคุณดันไปเจาะจงกำหนดมันด้วยจิตไว้
มีแต่ผู้ที่คุณอุทิศให้เท่านั้นที่จะนำมันไปใช้ได้
 
ยิ่งถ้าคุณกล่าวว่าขอแผ่ให้สรรพสัตว์ทั้งหลาย
ภาพมายาเบื้องหลังมิติโลกมันก็ไม่ต่างจาก
การสาดเศษอาหารให้นกกาเป็ดไก่แย่งกันกิน
ตัวไหนแข็งแรงแย่งเก่งกว่าก็เอาไปกินก่อน
เพราะมันเป็นผลกรรมทางพลังงาน
ที่แม้จะไม่มีการเจาะจงนามผู้รับอย่างชัดเจน
แต่มันก็ยังเป็นพลังงานที่ไม่สะอาดอยู่นั่นเอง
ซึ่งโลกจะนำไปใช้ประโยชน์ยังไม่ได้
 
มนุษย์ถูกหลอกผ่านคนนำทางตาบอด
ให้ทำบุญสุนทานที่แฝงด้วยกิเลสแบบนี้มานาน
อันเป็นการผลิตพลังงานไม่สะอาด
เพราะสร้างบุญกุศลเพื่อตนเองและพวกตัว
มิได้มุ่งทำเพื่อโลกตามหน้าที่ของจิตวิญญาณ
ที่ขันอาสามาเกิดเพื่อใช้ความรักค้ำจุนสมดุลโลก
โดยการทำให้โลกเสรีนี้หมุนได้อย่างต่อเนื่อง
เพราะกิเลสหนาตัณหามากจิตหยาบจึงทำผิด
หันมาทำเพื่อจิตหยาบของตนกับพวกตัวเท่านั้น
มนุษย์มิได้ทำเพื่อโลกกันมาตลอดเพราะโง่ง่าย
 
ที่น่าเศร้าใจมากไปกว่านี้ก็คือ
มนุษย์ใช้กิเลสปฏิเสธพระเจ้ากันตลอดมา
พวกที่อ้างว่าเลือกอยู่ข้างพระองค์
ก็ยังคงเป็นผู้ “ชอบทำ” คือทำแต่สิ่งที่ชอบ
มากกว่าการเป็นผู้ “ชอบธรรม”
คือชอบทำในสิ่งที่สมควรกระทำที่ไม่อุตริพิเรน
 
สื่อถ่ายทอดคลื่นความคิดในระบบจิตสู่จิต
จากองค์จิตจักรวาลดวงใหญ่
 
ปัญญาวิสุทธิ์
5/06/2566