14 มิถุนายน 2566

คัมภีร์อนุตรธรรมภาคจิตจักรวาล 14/06/2023

(เพื่อยุวจิตจักรวาลยุคสุดท้าย)
 
พี่ๆน้องๆที่รักแห่งเราทั้งหลาย
เราจะกล่าวความจริงต่อท่านทั้งหลายว่า
 
โลกทุกวันนี้...
มีข่าวสารเรื่องมนุษย์ต่างดาวอย่างแพร่หลาย
มีข่าวเรื่องเจ้าลัทธิผู้มีอำนาจวิเศษเหนือมนุษย์
เช่น พบคนที่มีความสามารถแตกต่างจากผู้อื่น
พบเด็กน้อยด้อยปัญญาที่สอนธรรมผู้อาวุโสได้
พบนักบวชนักเทศน์หนุ่มชื่อดังทำทุจริตผิดศีล
พบธุรกิจขายเครื่องรางวัตถุมงคลกำลังรุ่งเรือง
พบลัทธิใหม่สำนักใหม่ผุดขึ้นมากเป็นดอกเห็ด
โดยเจ้าสำนักจะมีทั้งหญิงและชายให้เลือกหา
 
พบนักบวชที่เป็นชายชาตรีแท้เพียงแค่ตัวตน
แต่สภาวะจิตหยาบของตนยังคงสับสนเพศอยู่
ซึ่งปรากฏเป็นข่าวให้พบเห็นกันมากขึ้นเรื่อยๆ
 
จากตัวอย่างที่เรายกมากล่าวเหล่านี้
ล้วนเป็นแผนการของพวกวิญญาณผีโสโครก
ที่ต้องการด้อยค่าผู้ทำหน้าที่ทางจิตวิญญาณ
ให้ผู้คนเสื่อมความเชื่อมั่นศรัทธาทางศาสนา
ด้วยการชักจูงดลใจให้ผู้ที่ครองตนในศาสนา
หลงในอัตตามายาหลงในฤทธิ์อุตริที่เกิดแก่ตน
โดยอธิบายไม่ได้ว่าฤทธิ์อุตรินั้นตนได้มายังไง
ซึ่งเป็นพวกผีโสโครกนี่เองที่แอบอยู่เบื้องหลัง
 
ทำให้คนชอบธรรมเป็นได้แค่คนชอบ “ทำ”
เพราะทำบุญด้วยจิตสามนึกที่เป็นกุศลแท้ไม่ได้
เนื่องจากจิตหยาบที่ติดกิเลสจะชอบแต่สิ่งอุตริ
เมื่อพบเห็นสิ่งอุตริเมื่อใดกิเลสก็จะพาไปเสมอ
การเข้าวัดเข้าหานักบวชเพื่อทำบุญสุนทานกัน
จึงมีสิ่งที่วาดหวังต้องการตอบแทนแอบแฝงอยู่
อย่างเช่นทำบุญเบื้องล่างเอาไปสร้างเบื้องบน
ทำบุญหลายหนเพื่อให้ได้กุศลหลายครั้ง
ทำบุญชาตินี้เพื่อหวังจะรับกุศลผลบุญชาติหน้า
จะทำบุญกับเฉพาะผู้มีคุณวิเศษเหนือรูปธรรมอื่น
เป็นการกระทำเพื่อหวังจะได้เป็นการให้เพื่อเอา
มิใช่การทำบุญด้วยจิตใจที่ใสบริสุทธิ์สะอาดเลย
 
เพราะเหตุนี้เองผลกรรมที่จิตหยาบ
ใช้ขันธ์ห้าผลิตสร้างขึ้นมาในมิติทางพลังงาน
แล้วเหวี่ยงออกมาภายนอกร่างกายให้กับโลก
จึงเป็นพลังงานที่ไม่สะอาดซึ่งโลกนำไปใช้ไม่ได้
เพราะพลังงานจิตที่สะอาดที่มนุษย์ผลิตขึ้นมานั้น
ต้องเป็นคลื่นความถี่ทางไฟฟ้าแม่เหล็กด้านบวก
อันเกิดจากความรักเพื่อให้ เช่น อดทน อดกลั้น
เมตตา กรุณา และมุทิตา เป็นต้น
 
กับความรักในแบบที่ไม่มีเงื่อนไขใดๆเลย
ซึ่งเป็นความรักบริสุทธิ์ที่แท้จริง นั่นคือ
การให้อภัยหรือการให้อโหสิกรรม
แก่คนที่เขากระทำไม่ถูกต้องต่อตัวคุณเสมอ
ไม่ว่าจะเป็นคนใกล้ตัวที่คุ้นเคยกันอยู่
หรือว่าจะเป็นคนแปลกหน้าค่าตากันก็ตาม
 
ความรักในแบบสุดท้ายนี่แหละ
ขันธ์ห้าของคุณจึงจะผลิตพลังงานสะอาด
ในแบบที่โลกต้องการออกมาได้
ซึ่งเป็นคลื่นความถี่ทางไฟฟ้าแม่เหล็กด้านบวก
ที่ไม่มีรหัสของจิตหยาบของผู้ผลิตสร้าง
กำกับไว้ว่าผลิตสร้างให้ใครผลิตเพื่อใครอย่างไร
เจ้ารหัสที่คุณร้องขอเอาไว้ขณะที่ทำบุญนี่แหละ
มันทำให้พลังงานจิตที่ผลิตได้นั้นไม่สะอาด
 
เพราะกฎของจักรวาลของพระเจ้ามีอยู่ว่า
กรรมดีกรรมชั่วเป็นของตัวเองใครทำใครได้
ไม่สามารถจะให้ใครทำแทนใครได้
 
คุณจึงก่อกรรมทำดีได้
โดยไม่ต้องร้องขอผลบุญจากกรรมดีที่คุณทำ
เพราะคุณเป็นผู้กระทำคุณจะต้องได้รับผลนั้น
คนไหนใครอื่นจะแย่งบุญจากคุณมิได้เด็ดขาด
 
กรรมชั่วที่ตัวคุณได้กระทำลงไปก็เช่นเดียวกัน
คุณจะขอร้องให้คนอื่นมาช่วยรับผลกรรมแทน
เพื่อคุณจะไม่ต้องรับผิดชอบผลกรรมชั่วก็มิได้
แม้จะมีผู้เมตตาพร้อมขันอาสารับบาปแทนให้
แต่ในมิติของจิตวิญญาณนั้นจะเป็นจริงไม่ได้
เพราะกรรมใครคนนั้นจะต้องเป็นผู้ “กำ” มัน
สิ่งที่อยู่ในกำมือใครต้องเป็นของคนนั้นเท่านั้น
 
คุณทุกคนจะต้องรู้ว่า
บุญกุศลในมิติทางพลังงานที่คุณผลิตขึ้นมานั้น
ปกติมีคุณสมบัติเป็น #อนัตตา คือคลื่นพลังงาน
แต่มันจะกลายเป็นมี #อัตตา ตัวตนขึ้นมาทันที
ถ้าทำบุญสุนทานแล้วอธิษฐานขอสิ่งตอบแทน
พลังงานกลุ่มนั้นจะเปลี่ยนเป็นมีคุณเป็นเจ้าของ
ที่จะถูกกำกับไว้ด้วย “การร้องขอ” อีกต่างหาก
นี่จึงเป็นที่มาของคำว่า “พลังงานขยะ” โดยแท้
 
คำว่า “พลังงานขยะ” แม้จะเป็นพลังงานบุญ
อันเกิดจากจิตที่เป็นกุศลของคุณเป็นผู้ก่อก็ตาม
มันจึงเป็นพลังงานส่วนตัวแบบของใครของมัน
ใครทำแล้วร้องขอไว้คนนั้นก็จะได้ไปตามที่ขอนั่น
โลกจะนำไปใช้ประโยชน์เพื่อสร้างสมดุลก็ไม่ได้
เพราะพลังงานที่จะใช้ในการบิดแกนแม่เหล็ก
เพื่อทำให้โลกเหวี่ยงหมุนรอบตัวเองได้ต่อเนื่อง
ต้องไม่มีเจ้าของและต้องสะอาดบริสุทธิ์เท่านั้น
นี่จึงเป็นสิ่งหนึ่งที่พวกคุณต้องรู้ไม่รู้ไม่ได้
 
นอกจากนั้น
การทำบุญสร้างกุศลด้วยกิริยาวัตถุแบบต่างๆ
คำอธิษฐานของคุณมันคือ “สัจจะ” ทั้งสิ้น
ไม่ว่าจะคุณตั้งจิตอธิษฐานไว้ว่าอย่างไร
มันจะเกิดผลเช่นนั้นในมิติทางพลังงานเสมอ
ถ้าคุณสั่นสะเทือนจิตหยาบอย่างเข้มข้นชัดเจน
ขณะที่คุณกำลังกระทำหรือปฏิบัติมันอยู่
โดยเฉพาะการระบุว่า “ชาติหน้าถ้ามี” เป็นอาทิ
ผลกรรมนั้นจะเป็นเหตุให้คุณมีชาติหน้าเสมอ
 
คำว่า “ชาติหน้าถ้ามี” แปลว่าชาตินี้คุณต้องตาย
เพื่อจะกลับมาเกิดใหม่คุณจึงจะมีชาติหน้าได้
นี่เท่ากับว่าคุณกำลังร้องขอความตายให้ตนเอง
ทั้งๆที่จิตวิญญาณคุณไม่มีหน้าที่จะต้องตายเลย
 
นอกจากนั้น
คำว่า #อุทิศ ของคุณที่นิยมใช้กันนั้น
สัจจะในการอุทิศให้ในมิติจิตวิญญาณก็คือ
การยินยอมพร้อมใจ “ยกให้ผู้รับทั้งหมด”
แปลว่าคุณใจดีเป็นเศรษฐีบุญ
มีเท่าไหร่ยกให้คนที่คุณระบุชื่อนามไว้ทั้งหมด
มิได้แบ่งเก็บไว้เป็นเสบียงของจิตวิญญาณเลย
ถ้าคุณเป็นเศรษฐีบุญแท้จริงก็ไม่มีปัญหาอะไร
แต่ถ้าแสร้งทำเป็นเศรษฐีทั้งๆที่ไม่ค่อยมีปัจจัย
หามาทำมาเท่าไหร่ก็จะไม่มีอะไรเหลือเลย
คุณจึงควรเลี่ยงคำว่า “อุทิศ” ไปเป็น “แบ่งปัน”
พลังงานกรรมด้านบวกนั้นจึงจะมีประโยชน์
ทั้งต่อตัวตนคนทำและตัวตนคนที่คุณมีใจให้
แต่พลังงานแบบนี้ก็ยังไม่ใช่แบบที่โลกต้องการ
เพราะเป็นพลังงานที่มีเจ้าของนั่นเอง
 
พลังงานที่มีเจ้าของ คือ #พลังงานขยะ
พลังงานขยะ คือ พลังงานที่รกโลก
พลังงานที่รกโลกเพราะมันจะล่องลอยค้างอยู่
เพื่อรอคอยเจ้าของพลังงานบุญนั้นชำระมัน
 
คำว่า “ชำระ” คือทำให้พลังงานนั้นเป็นกลาง
ด้วยการเปลี่ยนจากมีอัตตาเป็นอนัตตาให้ได้
วิธีการเปลี่ยนแปลงคุณสมบัติทางพลังงานก็คือ
การกลับมาเกิดใหม่เพื่อชดใช้พลังงานนั้นให้สิ้น
หรือเกิดใหม่เพื่อแก้ไขจิตสามนึกของตนใหม่
ในสถานการณ์เงื่อนไขแบบเดิมๆเหมือนชาตินี้
แล้วตัดสินใจใหม่เสียให้ถูกต้องถ่องแท้ให้ได้
ซึ่งมนุษย์โลกเรียกว่า “ชดใช้กรรม” นั่นเอง
ถ้าชดใช้กรรมดีที่ร้องขอไว้ก็เรียกว่า #เสวยสุข
ถ้าเป็นการชดใช้กรรมดีที่ยังทำไม่ถูกต้อง
ก็เรียกว่า “เสวยกรรมดี” หรือว่า “บุญหล่นทับ”
 
พวกคุณต้องรู้เอาไว้ด้วยว่า
คำว่า #เจ้ากรรมนายเวร เป็นคำ “ทั่วไป”
รวมทั้งคำว่า #เวไนยสัตว์ทั้งหลาย นี้ด้วย
ซึ่งมิได้เจาะจงตัวตนว่าใครเป็นใครให้ชัดเจน
ผลบุญผลกรรมที่คุณอุทิศหรือแบ่งปันให้นั้น
จะเป็นการยกให้แบบ “เหวี่ยงแห” ในทะเล
ถ้าเหวี่ยงแหลงตรงไหนที่มีปลาว่ายวนอยู่
แหของคุณก็จะติดปลาเหล่านั้นขึ้นมาได้
แต่ถ้าน้ำตรงนั้นลึกเกินไปจนสุดที่แหจะหยั่งถึง
คุณก็จะไม่ได้ปลาและเสียแรงเสียเวลาเปล่า
 
ยิ่งถ้าทะเลกว้างใหญ่ปลาทั้งหลายอยู่ห่างไกล
คุณก็จะเหวี่ยงแหออกไปแล้วไม่ได้ปลาสักตัว
ก็มีโอกาสเป็นไปได้สูงยิ่งนัก
แสดงว่าถ้าคุณทำบุญสร้างกุศลเมื่อไหร่ก็ตาม
คุณจงอย่าตั้งจิตอธิษฐานขออุทิศแบ่งปันให้
สรรพสัตว์ทั้งหลายหรือเวไนยสัตว์ทั้งหลาย
รวมทั้งเจ้ากรรมนายเวรอะไรของคุณเด็ดขาด
เพราะพลังจิตขณะทำบุญต้องใช้แรงใช้พลัง
ไม่ต่างจากการออกแรงเหวี่ยงแหทอดแหเลย
พลังจิตที่คุณใช้ในระดับต่ำคือมีฌานต่ำนั้น
มันจึงเหมือนกับคุณออกแรงทอดแหน้อยๆ
ปากแหที่แผ่ออกไปไม่กว้างพอจะคลุมฝูงปลา
และไปไม่ไกลจากเรือที่คุณกำลังลอยลำอยู่ได้
ล้วนเป็นเงื่อนไขทำให้คุณไม่บรรลุผลได้ทั้งสิ้น
 
นี่แน่ะ...เราจะบอกความจริงให้คุณรู้ว่า
 
พ่อแม่ลูกที่เป็นสายเลือดเดียวกันนั้น
จะมีความคล้ายคลึงกันด้านบุคลิกของแก่นแท้
คือจิตวิญญาณจะมีคุณสมบัติคล้ายคลึงกันอยู่
ถ้าคุณคนใดคนหนึ่งสั่นสะเทือนจิตหยาบขึ้น
จนเกิดการกระทำในมิติทางพลังงานด้วยขันธ์ห้า
มันจะยังผลให้จิตหยาบของทุกคนในครอบครัว
ที่ร่วมรู้เห็นการกระทำดังกล่าวนั้นอยู่ด้วย
สั่นสะเทือนตามจิตของคนที่กระทำนั้นได้เสมอ
โดยทั้งหมดทุกคนที่ร่วมรู้เห็นการกระทำนั้น
ไม่ต้องลงมือทำหรือสั่นสะเทือนด้วยตนเองเลย
 
นี่คือที่มาของคำว่า
ทุกคนในครอบครัวเดียวกัน
ล้วนเป็นผู้ร่วมชะตากรรมกันก็เพราะเหตุนี้
 
สื่อถ่ายทอดคลื่นความคิดในระบบจิตสู่จิต
จากองค์จิตจักรวาลดวงใหญ่
 
ปัญญาวิสุทธิ์
14/06/2566