(เพื่อยุวจิตจักรวาลยุคสุดท้าย)
พี่ๆน้องๆที่รักแห่งเราทั้งหลาย
เราจะกล่าวความจริงต่อท่านทั้งหลายว่า
สำหรับพี่น้องชาวดาวโลกเสรีดวงนี้นั้น
ภารกิจหลักที่ต้องทำเมื่อรับโอกาสให้เป็นมนุษย์
เฉพาะประเด็นที่สำคัญมีดังนี้ คือ
1.ต้องคนตนเองใน “สองมิติ” เพื่อเป็น “มนุษย์”
คำว่า “สองมิติ” ในที่นี้หมายถึง #มิติแห่งเนื้อหนัง
อันเป็นมิติโลกทางกายภาพที่เป็น “เปลือกนอก”
ซึ่งมี “จิตหยาบ” หรือจิตมนุษย์กำกับควบคุมดูแล
กับ #มิติจิตวิญญาณ ที่เป็น “ตัวตนแก่นแท้”
ผู้อาสามาเกิดในมิติทางพลังงานที่เร้นอยู่ข้างใน
การคนตนเองในสองมิติจึงหมายถึง
คุณจะต้องใช้จิตหยาบหรือจิตมนุษย์ของคุณ
สั่นสะเทือนด้วยจิตสามนึกคือนึกออกนึกเอานึกเอง
เพื่อขับเคลื่อน “ขันธ์ 5” หรือสั่นสะเทือนเป็น 5 ขั้น
นั่นคือ รูป เวทนา สัญญา สังขาร และวิญญาณ
ซึ่งจิตสามนึกจะต้องเป็นด้านบวกอย่างเดียวเท่านั้น
ในอันที่จะเข้าถึง #รักเพื่อให้ หรือรักที่ไร้เงื่อนไข
เพื่อการนึกดี คิดดี พูดดีและทำดีต่อกันได้ในที่สุด
ส่วนคำว่า “มนุษย์” ในที่นี้เราหมายถึง
ผู้ที่มีจิตใจสูงเป็นผู้ที่มีคุณธรรมเป็นคนชอบธรรม
เพราะสามารถเข้าถึงความรักของจิตวิญญาณ
กับเข้าถึงความสามารถในการใช้ปัญญาของสมอง
อันเป็นอำนาจบริสุทธิ์สูงสุดที่มีอยู่ในตนเองได้
2.ต้องใช้ “อายตนะ” #หมุนธรรมจักรในตนเอง ได้
ค้ำว่า “อายตนะ” ในที่นี้เราหมายถึง
กลไกหรือเครื่องมือในการ “สัมผัส” สิ่งเร้าภายนอก
ที่เป็น “มายา” ของสรรพสิ่งซึ่งพระเจ้าทรงสร้างไว้
ประกอบด้วยรูปรสกลิ่นเสียงแสงสีเย็นร้อนอ่อนแข็ง
กับกลไกอายตนะภายในที่เรียกว่า “จิตหยาบ” เอง
ซึ่งมันสามารถที่จะนึกได้ นึกออก นึกเอา นึกเอง
แล้วใช้สิ่งที่ตนนึกสั่นสะเทือนขันธ์ห้าต่อไปได้ด้วย
กระบวนการ 5 ขั้นตอนของจิตหยาบที่ว่านี้
ที่คุณสั่นสะเทือนขับเคลื่อนด้วยรักบริสุทธิ์นี่แหละ
มันคือที่มาของการเกิดมโนกรรม วจีกรรม กายกรรม
รวมทั้ง “พลังงานกรรม” อันหมายถึง #วิญญาณ
ที่เป็นผลกรรมหรือผลผลิตจากกระบวนการขันธ์ห้า
เมื่ออายตนะภายนอกที่เป็นตาหูจมูกลิ้นกายสัมผัส
ทำการส่งรหัสคลื่นสัญญาณการสัมผัสสิ่งเร้านั้นๆ
เข้าไปสู่จิตหยาบที่อยู่ข้างในให้เกิด #การรับรู้ ขึ้น
กระบวนการ 5 ขั้นตอน หรือ “ขันธ์ 5” ที่เกิดขึ้น
มันคือการ “คน” ทั้งสองมิติให้เป็นหนึ่งเดียวกัน
ที่เรียกว่า “การหมุนธรรมจักรในตนเอง” โดยแท้
ผลลัพธ์ของการหมุนธรรมจักรในตนเองก็คือ
แรงสั่นสะเทือนจิตหยาบของคุณจะสูงขึ้นเรื่อยๆ
จากกลุ่มพลังงานระดับ 4D ตั้งแต่วันแรกเกิดนั้น
จะยกระดับถึงมิติที่
5D
เป็นรูปธรรม 5 เหลี่ยมมุม
ถ้าคุณมีชีวิตยืนยาวได้โดยไม่ต้องตายอย่างแน่นอน
ดังนั้น
การหมุนธรรมจักรในตนเอง
หรือการ “คนตนเอง” ให้เป็นมนุษย์ให้สำเร็จนั้น
จึงเป็นหน้าที่จะต้องทำของ “จิตหยาบ” พวกคุณ
ในฐานะตัวแทนจิตวิญญาณแก่นแท้ของคุณเอง
เพื่อเปลี่ยนจิตหยาบจากกลุ่มพลังงานในมิติที่ศูนย์
ซึ่งเป็นกลุ่มพลังงานที่ยังไม่มีรูปทรงของตนเอง
ให้เกิดเป็นรูปทรงเรขาคณิตที่มีเหลี่ยมมุมมากขึ้น
ด้วยการสั่นสะเทือนเป็นความรักบริสุทธิ์ให้จงได้
เพราะความรักที่บริสุทธิ์
เป็นคลื่นความถี่การสั่นสะเทือนด้านบวกชนิดเดียว
ที่จะช่วยยกระดับจิตหยาบคุณให้มีมิติที่สูงขึ้นได้
ถ้าทั้งวันคุณยังข้ามไม่พ้นกิเลสตัณหาอารมณ์ขยะ
จิตหยาบของคุณก็จะยกระดับให้สูงขึ้นไม่ได้เลย
เพราะอาการของจิตทั้งหมดนั้นเป็นคลื่นความถี่ต่ำ
และถ้ายิ่งคุณยังอยู่ในวังวนของการเกิดเพื่อตาย
ตายเพื่อกลับมาเกิดใหม่แล้วเริ่มต้นยกระดับใหม่
โดยเริ่มต้นจากมิติที่ศูนย์คือ Set Zero ทุกภพชาติ
คุณก็จะก้าวหน้าทางจิตวิญญาณไม่ได้เลย
อย่างที่เรียกกันว่าเกิดมาแล้ว #เสียชาติเกิด นั่นเอง
3.ต้องชวนคนรอบข้างมาร่วมหมุนธรรมจักรด้วย
ความหมายของประเด็นนี้หมายความว่า
เมื่อคุณสามารถใช้ความรักบริสุทธิ์หมุนธรรมจักร
ด้วยการสั่นสะเทือนขันธ์ห้าได้เป็นผลสำเร็จแล้ว
โดยใครทำตัวไม่น่ารักกับคุณแต่คุณก็รักคนนั้นได้
ใครทำตัวไม่น่าให้อภัยแต่คุณก็สามารถให้อภัยได้
เป็นการรักอย่างไม่มีเงื่อนไขหรือไม่มีข้อแม้ใดๆ
คุณจักต้องแสดงความรักนั้นออกมาภายนอกด้วย
มิใช่แค่รักหรือให้อภัยที่อยู่แต่ภายในจิตคุณเท่านั้น
โดยคุณต้องขับเคลื่อนความรักบริสุทธิ์นั้น
ออกมาเป็นวจีกรรมและกายกรรมที่ภายนอกด้วย
เพื่อใช้พฤติกรรมภายนอกที่คุณแสดงออกมา
เป็นเงื่อนไขด้านบวกให้คนรอบข้างคุณทุกคน
ใช้กระตุ้นจิตหยาบเพื่อหมุนธรรมจักรในตนเอง
ของพวกเขาทั้งหลายไปกับคุณด้วย
ที่ว่ามันง่ายขึ้นสำหรับคนรอบข้างตัวคุณ
เพราะพวกเขาไม่ต้องลำบากที่จะแสดงออก
เหมือนอย่างที่คุณแสดงออกตอบสนองพวกเขา
ที่เป็นคนใจร้ายใจดำหรือใจทรามกับคุณ
แบบช่างเขาเถอะไม่เป็นไรยังไงก็ได้แค่นี้ก็ดีแล้ว
ซึ่งเป็นพลังความรักในการอดทนอดกลั้นให้อภัย
ที่มันมิใช่เรื่องง่ายดายสำหรับคนจิตตกทั่วไปเลย
ในการปฏิบัติแบบ “ดีมาดีตอบชั่วมาก็จะดีตอบ”
คุณจะต้องรู้ว่า
บุญกุศลที่เกิดขึ้นนี้เป็นบุญใหญ่มากกว่า
บุญกุศลจากการสร้างโบสถ์สร้างวิหารเสียอีก
เพราะในโลกยุคนี้ยังไม่เคยมีใครทำสำเร็จสักคน
เพราะคนนำทางตาบอดไม่เคยบอกให้มนุษย์รู้
แถมยังบิดเบือนว่าพระศาสดาตรัสรู้เรื่องอริยสัจสี่
แทนที่จะเป็นเรื่อง #ธรรมจักรกัปวัตนสูตร
แต่คุณจะเป็นวิสุทธิชนยุคสุดท้ายกับเขาคนหนึ่ง
ที่ได้รู้ความจริงสูงสุดที่เรากล่าวมาทั้งหมดนี้
บุญกุศลสูงสุดที่เกิดขึ้นนี้
โดยคุณไม่ต้องลงทุนไม่ต้องบริจาคทรัพย์ปัจจัย
ไม่ต้องเป็นนักพรตนักบวชนักเทศน์นักอุปัฏฐาก
คุณแค่บำเพ็ญธรรมด้วยการปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ
เพื่อเป็นเงื่อนไขด้านบวกให้แก่คนรอบข้าง
แม้ว่าเขาจะสร้างเงื่อนไขด้านลบมาให้คุณก่อน
เพราะรู้เท่าทันแล้วว่าหน้าที่คุณกับเขาคืออะไร
นั่นคือพวกเขามีหน้าที่สร้างเงื่อนไขด้านลบให้
เพื่อให้คุณหาทางตอบสนองด้วยความรักให้ได้
ถ้าจะทำได้คุณก็ต้องใช้ความรักมหึมามหาศาล
#พลังรักมหึมามหาศาล นี่แหละคือตัวบุญกุศล
ที่คุณจะช่วยกระตุ้นจิตหยาบของคนรอบข้าง
ให้มันสั่นสะเทือนขึ้นมาทางด้านบวกได้ง่ายๆ
แม้คุณจะเห็นว่าเขาสันดานไม่ดีเลยสักนิดก็ตาม
นี่คือการ #เสียสละ อันยิ่งใหญ่จากจิตสามนึก
มากกว่าบุญใหญ่จากการสร้างวัตถุที่เรากล่าวมา
เป็นบุญกุศลที่คุณไม่ได้ทำเพื่อสร้างสวรรค์มายา
เอาไว้ให้จิตวิญญาณของคุณที่หลงมิติหลังตาย
ขึ้นไปลอยค้างเติ่งอยู่บนวิมานที่เป็นภาพลวงตา
โดยไม่ได้ผุดไม่ได้เกิดอย่างยาวนานนิรันดร
แต่เป็นบุญกุศลของคุณในการฉุดช่วยเวไนยจริงๆ
จากการชวนคนรอบข้างมาหมุนธรรมจักรร่วมกัน
ดังนั้น
นอกจากคุณจะยกระดับจิตหยาบของคุณได้แล้ว
คุณยังจะช่วยยกระดับจิตหยาบให้พวกเขาด้วย
ซึ่งเป็นความต้องการทางจิตวิญญาณที่แท้จริง
โดยไม่ต้องลงทุนแต่ต้องกระทำต่อกันเท่านั้นเอง
เรื่องนี้เป็นความจริงที่คนชอบธรรมทั้งโลกยังไม่รู้
นอกจากนั้นคนทั้งโลกก็ยังไม่รู้อีกว่า
พลังงานความรักจากการหมุนธรรมจักรร่วมกัน
ระหว่างคุณกับคนรอบข้างมากกว่าสามคนขึ้นไปนี้
จะทำให้เกิดสมการพลังงานร่วมจากจิตสามนึก
ในรูปของคลื่นไฟฟ้าแม่เหล็กที่โลกต้องการด้วย
โดยพลังงานรวมจากสมการนี้แค่ 1% ในทุกวินาที
ที่โลกจะเหนี่ยวรั้งนำเอาไปใช้งานภายในแกนโลก
เพื่อช่วยทำให้แกนโลกเกิดการบิดตัวอย่างต่อเนื่อง
จนดาวโลกเหวี่ยงหมุนรอบตัวเองได้ในที่สุด
ตามที่พระศาสดาตรัสว่า #เมตตาธรรมค้ำจุนโลก
กับอีกหนึ่งที่ตรัสว่า #เราคือโลก #โลกคือเรา
คำว่า “เรา” ทรงหมายถึงมนุษย์โลกทุกคนนั่นเอง
ดังนั้น
คำว่า “ธรรมจักรกัปวัตนสูตร”
จึงหมายถึงกระบวนการของ #ธรรมจักร
ที่เริ่มต้นจากพวกคุณแต่ละคนต้องทำหน้าที่กัน
เมื่อตนเองทำหน้าที่ได้สำเร็จแล้วไซร้
คุณแต่ละคนก็จะเป็นเงื่อนไขให้คนอื่นทำต่อ
ถ้าคนรอบข้างเข้าถึงธรรมจักรร่วมกับคุณได้
ทั้งคุณและพวกเขาแต่ละคนจะได้ประโยชน์ใหญ่
คือการช่วยกันยกระดับแรงสั่นสะเทือนจิตหยาบ
ให้เป็นหนึ่งเดียวกันกับจิตวิญญาณของตนเองได้
จากรูปธรรมในมิติที่ 4D สู่มิติที่ 6D
เพื่อเตรียมตัวหลุดพ้นกลับบ้านเกิดแดนสุญตา
ในสภาวะนิพพานที่แท้จริงในภพชาตินี้ได้เลย
โดยไม่ต้องเกิดตายหลายภพชาติกันต่อไปอีก
ในขณะที่คุณใช้ชีวิตเป็นมนุษย์เพราะยังไม่ตาย
คุณยังช่วยทำให้โลกสมดุลคือค้ำจุนโลกได้ด้วย
คุณจะไม่เสียทีที่ได้เกิดมาเป็นมนุษย์อีกตลอดไป
คุณยังต้องรู้ว่า
พระเจ้ายังทรงออกแบบให้ธรรมจักรของคุณ
ที่ผลิตผลกรรมทางพลังงานออกมาทุกวินาทีนั้น
ทำให้คุณและสิ่งมีชีวิตบนโลกมีออกซิเจนใช้
ทำให้มีโครงข่ายสนามแม่เหล็กปกป้องโลกไว้
ให้ปลอดภัยจากศัตรูและเทหวัตถุไม่พึงประสงค์
ทำให้สิ่งมีชีวิตผลิตไฟฟ้าในระดับเซลล์ใช้ได้เอง
ด้วยกระแสไฟฟ้าเหนี่ยวนำเมื่อโลกพาเหวี่ยงหมุน
เคลื่อนผ่านสนามแม่เหล็กโลกไปอย่างต่อเนื่อง
ทำให้โลกมีความอุ่นร้อนแผ่ออกมาจากข้างใน
ซึ่งเหมาะกับสัตว์เลือดอุ่นรวมทั้งมนุษย์เองด้วย
สื่อถ่ายทอดคลื่นความคิดในระบบจิตสู่จิต
จากองค์จิตจักรวาลดวงใหญ่
ปัญญาวิสุทธิ์
19/06/2566
พี่ๆน้องๆที่รักแห่งเราทั้งหลาย
เราจะกล่าวความจริงต่อท่านทั้งหลายว่า
สำหรับพี่น้องชาวดาวโลกเสรีดวงนี้นั้น
ภารกิจหลักที่ต้องทำเมื่อรับโอกาสให้เป็นมนุษย์
เฉพาะประเด็นที่สำคัญมีดังนี้ คือ
1.ต้องคนตนเองใน “สองมิติ” เพื่อเป็น “มนุษย์”
คำว่า “สองมิติ” ในที่นี้หมายถึง #มิติแห่งเนื้อหนัง
อันเป็นมิติโลกทางกายภาพที่เป็น “เปลือกนอก”
ซึ่งมี “จิตหยาบ” หรือจิตมนุษย์กำกับควบคุมดูแล
กับ #มิติจิตวิญญาณ ที่เป็น “ตัวตนแก่นแท้”
การคนตนเองในสองมิติจึงหมายถึง
คุณจะต้องใช้จิตหยาบหรือจิตมนุษย์ของคุณ
สั่นสะเทือนด้วยจิตสามนึกคือนึกออกนึกเอานึกเอง
เพื่อขับเคลื่อน “ขันธ์ 5” หรือสั่นสะเทือนเป็น 5 ขั้น
นั่นคือ รูป เวทนา สัญญา สังขาร และวิญญาณ
ซึ่งจิตสามนึกจะต้องเป็นด้านบวกอย่างเดียวเท่านั้น
ในอันที่จะเข้าถึง #รักเพื่อให้ หรือรักที่ไร้เงื่อนไข
เพื่อการนึกดี คิดดี พูดดีและทำดีต่อกันได้ในที่สุด
ส่วนคำว่า “มนุษย์” ในที่นี้เราหมายถึง
ผู้ที่มีจิตใจสูงเป็นผู้ที่มีคุณธรรมเป็นคนชอบธรรม
เพราะสามารถเข้าถึงความรักของจิตวิญญาณ
กับเข้าถึงความสามารถในการใช้ปัญญาของสมอง
อันเป็นอำนาจบริสุทธิ์สูงสุดที่มีอยู่ในตนเองได้
2.ต้องใช้ “อายตนะ” #หมุนธรรมจักรในตนเอง ได้
ค้ำว่า “อายตนะ” ในที่นี้เราหมายถึง
กลไกหรือเครื่องมือในการ “สัมผัส” สิ่งเร้าภายนอก
ที่เป็น “มายา” ของสรรพสิ่งซึ่งพระเจ้าทรงสร้างไว้
ประกอบด้วยรูปรสกลิ่นเสียงแสงสีเย็นร้อนอ่อนแข็ง
กับกลไกอายตนะภายในที่เรียกว่า “จิตหยาบ” เอง
ซึ่งมันสามารถที่จะนึกได้ นึกออก นึกเอา นึกเอง
แล้วใช้สิ่งที่ตนนึกสั่นสะเทือนขันธ์ห้าต่อไปได้ด้วย
กระบวนการ 5 ขั้นตอนของจิตหยาบที่ว่านี้
ที่คุณสั่นสะเทือนขับเคลื่อนด้วยรักบริสุทธิ์นี่แหละ
มันคือที่มาของการเกิดมโนกรรม วจีกรรม กายกรรม
รวมทั้ง “พลังงานกรรม” อันหมายถึง #วิญญาณ
ที่เป็นผลกรรมหรือผลผลิตจากกระบวนการขันธ์ห้า
เมื่ออายตนะภายนอกที่เป็นตาหูจมูกลิ้นกายสัมผัส
ทำการส่งรหัสคลื่นสัญญาณการสัมผัสสิ่งเร้านั้นๆ
เข้าไปสู่จิตหยาบที่อยู่ข้างในให้เกิด #การรับรู้ ขึ้น
กระบวนการ 5 ขั้นตอน หรือ “ขันธ์ 5” ที่เกิดขึ้น
มันคือการ “คน” ทั้งสองมิติให้เป็นหนึ่งเดียวกัน
ที่เรียกว่า “การหมุนธรรมจักรในตนเอง” โดยแท้
ผลลัพธ์ของการหมุนธรรมจักรในตนเองก็คือ
แรงสั่นสะเทือนจิตหยาบของคุณจะสูงขึ้นเรื่อยๆ
จากกลุ่มพลังงานระดับ 4D ตั้งแต่วันแรกเกิดนั้น
ดังนั้น
การหมุนธรรมจักรในตนเอง
หรือการ “คนตนเอง” ให้เป็นมนุษย์ให้สำเร็จนั้น
จึงเป็นหน้าที่จะต้องทำของ “จิตหยาบ” พวกคุณ
ในฐานะตัวแทนจิตวิญญาณแก่นแท้ของคุณเอง
เพื่อเปลี่ยนจิตหยาบจากกลุ่มพลังงานในมิติที่ศูนย์
ซึ่งเป็นกลุ่มพลังงานที่ยังไม่มีรูปทรงของตนเอง
ให้เกิดเป็นรูปทรงเรขาคณิตที่มีเหลี่ยมมุมมากขึ้น
ด้วยการสั่นสะเทือนเป็นความรักบริสุทธิ์ให้จงได้
เพราะความรักที่บริสุทธิ์
เป็นคลื่นความถี่การสั่นสะเทือนด้านบวกชนิดเดียว
ที่จะช่วยยกระดับจิตหยาบคุณให้มีมิติที่สูงขึ้นได้
ถ้าทั้งวันคุณยังข้ามไม่พ้นกิเลสตัณหาอารมณ์ขยะ
จิตหยาบของคุณก็จะยกระดับให้สูงขึ้นไม่ได้เลย
เพราะอาการของจิตทั้งหมดนั้นเป็นคลื่นความถี่ต่ำ
และถ้ายิ่งคุณยังอยู่ในวังวนของการเกิดเพื่อตาย
ตายเพื่อกลับมาเกิดใหม่แล้วเริ่มต้นยกระดับใหม่
โดยเริ่มต้นจากมิติที่ศูนย์คือ Set Zero ทุกภพชาติ
อย่างที่เรียกกันว่าเกิดมาแล้ว #เสียชาติเกิด นั่นเอง
3.ต้องชวนคนรอบข้างมาร่วมหมุนธรรมจักรด้วย
ความหมายของประเด็นนี้หมายความว่า
เมื่อคุณสามารถใช้ความรักบริสุทธิ์หมุนธรรมจักร
ด้วยการสั่นสะเทือนขันธ์ห้าได้เป็นผลสำเร็จแล้ว
โดยใครทำตัวไม่น่ารักกับคุณแต่คุณก็รักคนนั้นได้
ใครทำตัวไม่น่าให้อภัยแต่คุณก็สามารถให้อภัยได้
เป็นการรักอย่างไม่มีเงื่อนไขหรือไม่มีข้อแม้ใดๆ
คุณจักต้องแสดงความรักนั้นออกมาภายนอกด้วย
มิใช่แค่รักหรือให้อภัยที่อยู่แต่ภายในจิตคุณเท่านั้น
โดยคุณต้องขับเคลื่อนความรักบริสุทธิ์นั้น
ออกมาเป็นวจีกรรมและกายกรรมที่ภายนอกด้วย
เพื่อใช้พฤติกรรมภายนอกที่คุณแสดงออกมา
เป็นเงื่อนไขด้านบวกให้คนรอบข้างคุณทุกคน
ใช้กระตุ้นจิตหยาบเพื่อหมุนธรรมจักรในตนเอง
ของพวกเขาทั้งหลายไปกับคุณด้วย
ที่ว่ามันง่ายขึ้นสำหรับคนรอบข้างตัวคุณ
เพราะพวกเขาไม่ต้องลำบากที่จะแสดงออก
เหมือนอย่างที่คุณแสดงออกตอบสนองพวกเขา
ที่เป็นคนใจร้ายใจดำหรือใจทรามกับคุณ
แบบช่างเขาเถอะไม่เป็นไรยังไงก็ได้แค่นี้ก็ดีแล้ว
ซึ่งเป็นพลังความรักในการอดทนอดกลั้นให้อภัย
ที่มันมิใช่เรื่องง่ายดายสำหรับคนจิตตกทั่วไปเลย
ในการปฏิบัติแบบ “ดีมาดีตอบชั่วมาก็จะดีตอบ”
คุณจะต้องรู้ว่า
บุญกุศลที่เกิดขึ้นนี้เป็นบุญใหญ่มากกว่า
บุญกุศลจากการสร้างโบสถ์สร้างวิหารเสียอีก
เพราะในโลกยุคนี้ยังไม่เคยมีใครทำสำเร็จสักคน
เพราะคนนำทางตาบอดไม่เคยบอกให้มนุษย์รู้
แถมยังบิดเบือนว่าพระศาสดาตรัสรู้เรื่องอริยสัจสี่
แทนที่จะเป็นเรื่อง #ธรรมจักรกัปวัตนสูตร
แต่คุณจะเป็นวิสุทธิชนยุคสุดท้ายกับเขาคนหนึ่ง
ที่ได้รู้ความจริงสูงสุดที่เรากล่าวมาทั้งหมดนี้
บุญกุศลสูงสุดที่เกิดขึ้นนี้
โดยคุณไม่ต้องลงทุนไม่ต้องบริจาคทรัพย์ปัจจัย
ไม่ต้องเป็นนักพรตนักบวชนักเทศน์นักอุปัฏฐาก
คุณแค่บำเพ็ญธรรมด้วยการปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ
เพื่อเป็นเงื่อนไขด้านบวกให้แก่คนรอบข้าง
แม้ว่าเขาจะสร้างเงื่อนไขด้านลบมาให้คุณก่อน
เพราะรู้เท่าทันแล้วว่าหน้าที่คุณกับเขาคืออะไร
นั่นคือพวกเขามีหน้าที่สร้างเงื่อนไขด้านลบให้
เพื่อให้คุณหาทางตอบสนองด้วยความรักให้ได้
ถ้าจะทำได้คุณก็ต้องใช้ความรักมหึมามหาศาล
#พลังรักมหึมามหาศาล นี่แหละคือตัวบุญกุศล
ที่คุณจะช่วยกระตุ้นจิตหยาบของคนรอบข้าง
ให้มันสั่นสะเทือนขึ้นมาทางด้านบวกได้ง่ายๆ
แม้คุณจะเห็นว่าเขาสันดานไม่ดีเลยสักนิดก็ตาม
นี่คือการ #เสียสละ อันยิ่งใหญ่จากจิตสามนึก
มากกว่าบุญใหญ่จากการสร้างวัตถุที่เรากล่าวมา
เป็นบุญกุศลที่คุณไม่ได้ทำเพื่อสร้างสวรรค์มายา
เอาไว้ให้จิตวิญญาณของคุณที่หลงมิติหลังตาย
ขึ้นไปลอยค้างเติ่งอยู่บนวิมานที่เป็นภาพลวงตา
โดยไม่ได้ผุดไม่ได้เกิดอย่างยาวนานนิรันดร
แต่เป็นบุญกุศลของคุณในการฉุดช่วยเวไนยจริงๆ
จากการชวนคนรอบข้างมาหมุนธรรมจักรร่วมกัน
ดังนั้น
นอกจากคุณจะยกระดับจิตหยาบของคุณได้แล้ว
คุณยังจะช่วยยกระดับจิตหยาบให้พวกเขาด้วย
ซึ่งเป็นความต้องการทางจิตวิญญาณที่แท้จริง
โดยไม่ต้องลงทุนแต่ต้องกระทำต่อกันเท่านั้นเอง
เรื่องนี้เป็นความจริงที่คนชอบธรรมทั้งโลกยังไม่รู้
นอกจากนั้นคนทั้งโลกก็ยังไม่รู้อีกว่า
พลังงานความรักจากการหมุนธรรมจักรร่วมกัน
ระหว่างคุณกับคนรอบข้างมากกว่าสามคนขึ้นไปนี้
จะทำให้เกิดสมการพลังงานร่วมจากจิตสามนึก
ในรูปของคลื่นไฟฟ้าแม่เหล็กที่โลกต้องการด้วย
โดยพลังงานรวมจากสมการนี้แค่ 1% ในทุกวินาที
ที่โลกจะเหนี่ยวรั้งนำเอาไปใช้งานภายในแกนโลก
เพื่อช่วยทำให้แกนโลกเกิดการบิดตัวอย่างต่อเนื่อง
จนดาวโลกเหวี่ยงหมุนรอบตัวเองได้ในที่สุด
ตามที่พระศาสดาตรัสว่า #เมตตาธรรมค้ำจุนโลก
กับอีกหนึ่งที่ตรัสว่า #เราคือโลก #โลกคือเรา
คำว่า “เรา” ทรงหมายถึงมนุษย์โลกทุกคนนั่นเอง
ดังนั้น
คำว่า “ธรรมจักรกัปวัตนสูตร”
จึงหมายถึงกระบวนการของ #ธรรมจักร
ที่เริ่มต้นจากพวกคุณแต่ละคนต้องทำหน้าที่กัน
เมื่อตนเองทำหน้าที่ได้สำเร็จแล้วไซร้
คุณแต่ละคนก็จะเป็นเงื่อนไขให้คนอื่นทำต่อ
ถ้าคนรอบข้างเข้าถึงธรรมจักรร่วมกับคุณได้
ทั้งคุณและพวกเขาแต่ละคนจะได้ประโยชน์ใหญ่
คือการช่วยกันยกระดับแรงสั่นสะเทือนจิตหยาบ
ให้เป็นหนึ่งเดียวกันกับจิตวิญญาณของตนเองได้
จากรูปธรรมในมิติที่ 4D สู่มิติที่ 6D
ในสภาวะนิพพานที่แท้จริงในภพชาตินี้ได้เลย
โดยไม่ต้องเกิดตายหลายภพชาติกันต่อไปอีก
ในขณะที่คุณใช้ชีวิตเป็นมนุษย์เพราะยังไม่ตาย
คุณยังช่วยทำให้โลกสมดุลคือค้ำจุนโลกได้ด้วย
คุณจะไม่เสียทีที่ได้เกิดมาเป็นมนุษย์อีกตลอดไป
คุณยังต้องรู้ว่า
พระเจ้ายังทรงออกแบบให้ธรรมจักรของคุณ
ที่ผลิตผลกรรมทางพลังงานออกมาทุกวินาทีนั้น
ทำให้คุณและสิ่งมีชีวิตบนโลกมีออกซิเจนใช้
ทำให้มีโครงข่ายสนามแม่เหล็กปกป้องโลกไว้
ให้ปลอดภัยจากศัตรูและเทหวัตถุไม่พึงประสงค์
ทำให้สิ่งมีชีวิตผลิตไฟฟ้าในระดับเซลล์ใช้ได้เอง
ด้วยกระแสไฟฟ้าเหนี่ยวนำเมื่อโลกพาเหวี่ยงหมุน
เคลื่อนผ่านสนามแม่เหล็กโลกไปอย่างต่อเนื่อง
ทำให้โลกมีความอุ่นร้อนแผ่ออกมาจากข้างใน
ซึ่งเหมาะกับสัตว์เลือดอุ่นรวมทั้งมนุษย์เองด้วย
สื่อถ่ายทอดคลื่นความคิดในระบบจิตสู่จิต
จากองค์จิตจักรวาลดวงใหญ่
ปัญญาวิสุทธิ์
19/06/2566