#คัมภีร์อนุตรธรรมภาคจิตจักรวาล
(เพื่อยุวจิตจักรวาลยุคสุดท้าย)
พี่ๆน้องๆที่รักแห่งเราทั้งหลาย
เราจะกล่าวความจริงต่อท่านทั้งหลายว่า
วิธีที่มารพวกจิตวิญญาณผีโสโครกทำต่อมนุษย์
เป็นวิธีที่สี่ก็คือ #ดึงให้เขว ยังมีอีกตัวอย่างหนึ่ง
ซึ่งเราจะยกเอามาอ้างอิงไว้ให้รู้ในที่นี้คือ
หลอกให้มนุษย์ใช้จิตใต้สำนึกของจิตวิญญาณตนเอง
เนรมิตสวรรค์มายาขึ้นมาตามแบบที่เห็นกันบ่อยๆ
โดยไม่รู้ว่าจิตใต้สำนึกของตนนั้นสามารถเนรมิตได้
คนชอบธรรมที่จิตหยาบแฝงด้วยกิเลสนอนเนื่องอยู่
นอกจากจะถูกดึงให้เขวด้วยการหลงเชื่อว่า
การกลับมาเกิดเป็นมนุษย์โลกแล้วเป็นทุกข์อย่างยิ่ง
พวกหมู่มารที่กระทำผ่านคนนำทางตาบอดทุกสำนัก
ยังดึงให้มนุษย์เขวอยากไปเกิดเป็นเทพเทวดาแทน
โดยบอกว่าเป็นเทพเทวดาดีกว่าเป็นมนุษย์หลายเท่า
เพราะอยู่บนนั้นมีแต่การเสพสุขไม่ต้องทำอะไรมาก
จะลำบากก็มีแต่นั่งกรรมฐานเป็นเวลานานๆเท่านั้น
บนสวรรค์มายาจะมีวิมานแก้วหรือมีวิมานทิพย์ให้อยู่
ขณะที่อยู่บนโลกบ้านใหญ่หรูหราจะมีราคาแสนแพง
แค่หมั่นทำบุญบนโลกก็จะโยกบุญขึ้นไปสร้างสวรรค์
ตามแบบที่ว่า #ทำบุญเบื้องล่างเอาไปสร้างเบื้องบน
#ทำบุญหลายหนได้กุศลหลายครั้ง กันได้แล้ว
อยู่บนสวรรค์มายาที่เนรมิตขึ้นมาเองได้นั้น
จะเอาให้สวยหรูดูงามสักปานใดก็ขึ้นกับใจปรารถนา
ไม่ต้องจ้างสถาปนิกฝีมือดีช่วยออกแบบดีไซน์ให้ก็ได้
ไม่ต้องเสียเวลาซื้อหาวัสดุดีมีคุณภาพมาก่อสร้าง
ทุกอย่างเนรมิตคิดฝันเอาได้อย่างใจนึกเท่านั้นเอง
จิตวิญญาณที่ตายไปเกิดเป็นเทพเทวดาอยู่บนนั้น
จะมีหน้าตารูปทรงงดงามมีผิวพรรณสีทองผ่องอำไพ
แลดูดีกว่ารูปลักษณ์ขณะที่เป็นมนุษย์หลายเท่านัก
อยู่บนนั้นจะเป็นหนุ่มยาวเป็นสาวนานไม่มีการแก่ชรา
จะมีเสื้อผ้าอาภรณ์แพรพรรณกับสร้อยสังวาลสวมใส่
พร้อมมีชฎาสวมไว้บนศีรษะช่วยเพิ่มสง่าราศีให้อีกด้วย
เทวดาชั้นสูงกว่าก็จะแต่งกายแบบหนึ่งที่เนี้ยบนิ้งกว่า
โดยจะมีความสูงของยอดชฎาเป็นตัวบ่งชี้ระดับชั้นให้
เทพเทวดาระดับชั้นต้นๆที่อยู่บนนั้น
ยังมีลูกมีผัวมีเมียเพื่อเสพกามกันได้ตามกำหนัดนึก
ยังสามารถเสพกินอาหารทิพย์และดื่มกินสุราเมรัยได้
ยังสามารถเต้นระบำรำฟ้อนเล่นดนตรีที่ชอบก็ได้อยู่
สวรรค์ทุกชั้นทุกรูปธรรมทุกครอบครัวล้วนเสมอภาคกัน
ไม่มีงานการอะไรต้องทำเพราะทุกรูปธรรมไม่มีอาชีพ
จะมีอะไรต่างกันก็เมื่ออยู่บนสวรรค์ในชั้นต่างกันเท่านั้น
แต่ที่ต้องทำอยู่เหมือนกันนั่นคือการนั่งกรรมฐานสมาธิ
นั่งตามนิสัยเคยชินที่จิตวิญญาณถือติดตัวไปจากโลก
ถ้าใครอยากลอยไปอยู่ในชั้นที่สูงกว่าหรือสุขสบายกว่า
ก็ให้หมั่นเข้าฌานสมาบัติเพื่อกำจัดกามกิเลสให้น้อยลง
ถ้าทำได้มายาของรูปธรรมนั้นจะมีกายที่โปร่งใสมากขึ้น
พี่ๆน้องๆที่รักทั้งหลาย
แค่เราเล่ามาสู่กันฟังไปตามนี้แล้ว
จะแลเห็นได้ว่าทุกเรื่องราวมันอุดมไปด้วยกิเลสล้วน ๆ
ที่ฟังแล้วช่างชวนจูงใจกระตุ้นกิเลสให้เกิดความอยาก
ชนิดที่ใครเสพติดกิเลสกันอยู่จะลืมสติได้อย่างง่ายดาย
ในอดีตนั้นคนชอบธรรมที่ถูกมอมเมาให้เสพติดกิเลส
จึงพากันไขว้เขวหลงทางนิพพานกันมากจนมาถึงบัดนี้
เพราะตายแล้วไม่อยากกลับมาเกิดเป็นมนุษย์ให้ทุกข์อีก
โดยเชื่อว่าอยู่บนสวรรค์มายานั้นสุขสบายกว่าหลายเท่า
คุณพิจารณาเอาเองก็ได้ว่านี่เพราะถูกทำให้เขวใช่ไหม?
พวกคนชอบธรรมที่อยากไปเกิดบนสวรรค์มายา
ที่เชื่อว่าเป็นเทพเทวดาสุขสบายกว่าเป็นมนุษย์นั้น
ล้วนเชื่อตามอย่างว่าง่ายเพราะถูกกิเลสมารคอยบงการ
จนไม่สามารถเข้าถึงพลังอำนาจทางปัญญาที่มีอยู่ได้
จึงกลายเป็นคนไม่มีเหตุผลและใช้เหตุผลไม่เป็น
ได้แต่เชื่อตามคนนำทางตาบอดผู้เป็นกรรมกรของมาร
เมื่อเขาบอกว่ามันเป็น “ปัจจัตตัง” ต้องรู้ได้ด้วยตัวเอง
เมื่อเขาบอกว่าอย่าถามมากนักเลยมันเป็น “อจินไตย”
ก็เชื่อตามพวกเขาไปโดยไม่ฉุกคิดว่าตัวคนนำทางเอง
เชื่อเช่นนั้นได้อย่างไรและมีอะไรเป็นสิ่งพิสูจน์ได้บ้าง
คนนำทางตาบอดในอดีตที่คิดศึกษาเรื่องสวรรค์มายา
มีใครเสียสติหรือคิดจนเป็นบ้ากันสักกี่คนแล้วบ้าง
ในความจริงไม่มีหลักฐานอะไรที่จะยืนยันได้สักอย่าง
คงมีแต่เรื่องเล่ากับภาพเขียนที่ชวนให้เชื่อกันเท่านั้น
เราบอกพวกคุณแล้วไงว่า
พวกมารซึ่งเป็นจิตวิญญาณผีโสโครกรู้มากกว่ามนุษย์
จึงใช้จุดอ่อนของมนุษย์ที่ขี้กลัวทุกข์ยากอยากสุขสบาย
มาเป็นเครื่องมือในการจูงใจพวกคุณให้ไขว้เขว
จนไม่ฉุกคิดว่าจิตวิญญาณของตนเป็นใครมาจากไหน
มาเกิดเป็นมนุษย์โลกกันทำไมและมีหน้าที่ทำอะไรบ้าง
จนพากันหลงทางนิพพานตลอดมาตราบกระทั่งทุกวันนี้
ซึ่งพระเยซูทรงใช้คำว่าเป็นการ #ปีนรั้วกลับเข้าคอก
พระเจ้าจึงทรงอนุญาตให้เรารีบกลับมา
เพื่อทำการฉุดช่วยพวกคุณที่เป็นหนึ่งในเวไนย
มาบอกกล่าวความจริงที่เป็นโลกียะธรรมโลกุตรธรรม
รวมทั้งสื่ออนุตรธรรมจากพระองค์มาเป็นพระโอวาท
ประกาศให้ชาวดาวโลกได้รู้จักบาปบุญคุณโทษ
เพื่อการเป็นมนุษย์ให้เป็นด้วยการทำดีละเว้นทำชั่ว
ซึ่งพระเยซูทรงใช้คำว่า #กลับมาช่วยไถ่บาปให้มนุษย์
จนพวกมารนำความจริงมาทำให้เขวไปอีกว่า
ทรงกลับมาช่วยแบกบาปทั้งหมดของมนุษย์แทนให้
เหมือนกับการที่พระองค์ทรงแบกไม้กางแขนนั่น
พวกที่มีกิเลสครอบงำจิตอยู่จนเข้าถึงเหตุผลไม่ได้
จึงพากันเชื่อตามคนนำทางตาบอดอีกเรื่องหนึ่งแล้ว
เมื่อเตือนสติให้ใช้ปัญญาคิดตามบ้างก็ไม่ยอมรับฟัง
เอเมน สาธุ
ถ่ายทอดคลื่นความคิดจากองค์จิตจักรวาล
โดย #ปัญญาวิสุทธิ์
1/11/2566
(เพื่อยุวจิตจักรวาลยุคสุดท้าย)
เราจะกล่าวความจริงต่อท่านทั้งหลายว่า
เป็นวิธีที่สี่ก็คือ #ดึงให้เขว ยังมีอีกตัวอย่างหนึ่ง
ซึ่งเราจะยกเอามาอ้างอิงไว้ให้รู้ในที่นี้คือ
หลอกให้มนุษย์ใช้จิตใต้สำนึกของจิตวิญญาณตนเอง
เนรมิตสวรรค์มายาขึ้นมาตามแบบที่เห็นกันบ่อยๆ
โดยไม่รู้ว่าจิตใต้สำนึกของตนนั้นสามารถเนรมิตได้
นอกจากจะถูกดึงให้เขวด้วยการหลงเชื่อว่า
การกลับมาเกิดเป็นมนุษย์โลกแล้วเป็นทุกข์อย่างยิ่ง
พวกหมู่มารที่กระทำผ่านคนนำทางตาบอดทุกสำนัก
ยังดึงให้มนุษย์เขวอยากไปเกิดเป็นเทพเทวดาแทน
โดยบอกว่าเป็นเทพเทวดาดีกว่าเป็นมนุษย์หลายเท่า
เพราะอยู่บนนั้นมีแต่การเสพสุขไม่ต้องทำอะไรมาก
จะลำบากก็มีแต่นั่งกรรมฐานเป็นเวลานานๆเท่านั้น
ขณะที่อยู่บนโลกบ้านใหญ่หรูหราจะมีราคาแสนแพง
แค่หมั่นทำบุญบนโลกก็จะโยกบุญขึ้นไปสร้างสวรรค์
ตามแบบที่ว่า #ทำบุญเบื้องล่างเอาไปสร้างเบื้องบน
#ทำบุญหลายหนได้กุศลหลายครั้ง กันได้แล้ว
จะเอาให้สวยหรูดูงามสักปานใดก็ขึ้นกับใจปรารถนา
ไม่ต้องจ้างสถาปนิกฝีมือดีช่วยออกแบบดีไซน์ให้ก็ได้
ไม่ต้องเสียเวลาซื้อหาวัสดุดีมีคุณภาพมาก่อสร้าง
ทุกอย่างเนรมิตคิดฝันเอาได้อย่างใจนึกเท่านั้นเอง
จะมีหน้าตารูปทรงงดงามมีผิวพรรณสีทองผ่องอำไพ
แลดูดีกว่ารูปลักษณ์ขณะที่เป็นมนุษย์หลายเท่านัก
อยู่บนนั้นจะเป็นหนุ่มยาวเป็นสาวนานไม่มีการแก่ชรา
จะมีเสื้อผ้าอาภรณ์แพรพรรณกับสร้อยสังวาลสวมใส่
พร้อมมีชฎาสวมไว้บนศีรษะช่วยเพิ่มสง่าราศีให้อีกด้วย
เทวดาชั้นสูงกว่าก็จะแต่งกายแบบหนึ่งที่เนี้ยบนิ้งกว่า
โดยจะมีความสูงของยอดชฎาเป็นตัวบ่งชี้ระดับชั้นให้
ยังมีลูกมีผัวมีเมียเพื่อเสพกามกันได้ตามกำหนัดนึก
ยังสามารถเสพกินอาหารทิพย์และดื่มกินสุราเมรัยได้
ยังสามารถเต้นระบำรำฟ้อนเล่นดนตรีที่ชอบก็ได้อยู่
สวรรค์ทุกชั้นทุกรูปธรรมทุกครอบครัวล้วนเสมอภาคกัน
ไม่มีงานการอะไรต้องทำเพราะทุกรูปธรรมไม่มีอาชีพ
จะมีอะไรต่างกันก็เมื่ออยู่บนสวรรค์ในชั้นต่างกันเท่านั้น
แต่ที่ต้องทำอยู่เหมือนกันนั่นคือการนั่งกรรมฐานสมาธิ
นั่งตามนิสัยเคยชินที่จิตวิญญาณถือติดตัวไปจากโลก
ถ้าใครอยากลอยไปอยู่ในชั้นที่สูงกว่าหรือสุขสบายกว่า
ก็ให้หมั่นเข้าฌานสมาบัติเพื่อกำจัดกามกิเลสให้น้อยลง
ถ้าทำได้มายาของรูปธรรมนั้นจะมีกายที่โปร่งใสมากขึ้น
จะแลเห็นได้ว่าทุกเรื่องราวมันอุดมไปด้วยกิเลสล้วน ๆ
ที่ฟังแล้วช่างชวนจูงใจกระตุ้นกิเลสให้เกิดความอยาก
ชนิดที่ใครเสพติดกิเลสกันอยู่จะลืมสติได้อย่างง่ายดาย
ในอดีตนั้นคนชอบธรรมที่ถูกมอมเมาให้เสพติดกิเลส
จึงพากันไขว้เขวหลงทางนิพพานกันมากจนมาถึงบัดนี้
เพราะตายแล้วไม่อยากกลับมาเกิดเป็นมนุษย์ให้ทุกข์อีก
โดยเชื่อว่าอยู่บนสวรรค์มายานั้นสุขสบายกว่าหลายเท่า
คุณพิจารณาเอาเองก็ได้ว่านี่เพราะถูกทำให้เขวใช่ไหม?
ที่เชื่อว่าเป็นเทพเทวดาสุขสบายกว่าเป็นมนุษย์นั้น
ล้วนเชื่อตามอย่างว่าง่ายเพราะถูกกิเลสมารคอยบงการ
จนไม่สามารถเข้าถึงพลังอำนาจทางปัญญาที่มีอยู่ได้
จึงกลายเป็นคนไม่มีเหตุผลและใช้เหตุผลไม่เป็น
ได้แต่เชื่อตามคนนำทางตาบอดผู้เป็นกรรมกรของมาร
เมื่อเขาบอกว่ามันเป็น “ปัจจัตตัง” ต้องรู้ได้ด้วยตัวเอง
เมื่อเขาบอกว่าอย่าถามมากนักเลยมันเป็น “อจินไตย”
ก็เชื่อตามพวกเขาไปโดยไม่ฉุกคิดว่าตัวคนนำทางเอง
เชื่อเช่นนั้นได้อย่างไรและมีอะไรเป็นสิ่งพิสูจน์ได้บ้าง
คนนำทางตาบอดในอดีตที่คิดศึกษาเรื่องสวรรค์มายา
มีใครเสียสติหรือคิดจนเป็นบ้ากันสักกี่คนแล้วบ้าง
ในความจริงไม่มีหลักฐานอะไรที่จะยืนยันได้สักอย่าง
คงมีแต่เรื่องเล่ากับภาพเขียนที่ชวนให้เชื่อกันเท่านั้น
พวกมารซึ่งเป็นจิตวิญญาณผีโสโครกรู้มากกว่ามนุษย์
จึงใช้จุดอ่อนของมนุษย์ที่ขี้กลัวทุกข์ยากอยากสุขสบาย
มาเป็นเครื่องมือในการจูงใจพวกคุณให้ไขว้เขว
จนไม่ฉุกคิดว่าจิตวิญญาณของตนเป็นใครมาจากไหน
มาเกิดเป็นมนุษย์โลกกันทำไมและมีหน้าที่ทำอะไรบ้าง
จนพากันหลงทางนิพพานตลอดมาตราบกระทั่งทุกวันนี้
ซึ่งพระเยซูทรงใช้คำว่าเป็นการ #ปีนรั้วกลับเข้าคอก
เพื่อทำการฉุดช่วยพวกคุณที่เป็นหนึ่งในเวไนย
มาบอกกล่าวความจริงที่เป็นโลกียะธรรมโลกุตรธรรม
รวมทั้งสื่ออนุตรธรรมจากพระองค์มาเป็นพระโอวาท
ประกาศให้ชาวดาวโลกได้รู้จักบาปบุญคุณโทษ
เพื่อการเป็นมนุษย์ให้เป็นด้วยการทำดีละเว้นทำชั่ว
ซึ่งพระเยซูทรงใช้คำว่า #กลับมาช่วยไถ่บาปให้มนุษย์
จนพวกมารนำความจริงมาทำให้เขวไปอีกว่า
ทรงกลับมาช่วยแบกบาปทั้งหมดของมนุษย์แทนให้
เหมือนกับการที่พระองค์ทรงแบกไม้กางแขนนั่น
พวกที่มีกิเลสครอบงำจิตอยู่จนเข้าถึงเหตุผลไม่ได้
จึงพากันเชื่อตามคนนำทางตาบอดอีกเรื่องหนึ่งแล้ว
เมื่อเตือนสติให้ใช้ปัญญาคิดตามบ้างก็ไม่ยอมรับฟัง
ถ่ายทอดคลื่นความคิดจากองค์จิตจักรวาล
โดย #ปัญญาวิสุทธิ์
1/11/2566
