#คัมภีร์อนุตรธรรมภาคจิตจักรวาล
(เพื่อยุวจิตจักรวาลยุคสุดท้าย)
พี่ๆน้องๆที่รักแห่งเราทั้งหลาย
เราจะกล่าวความจริงต่อท่านทั้งหลายว่า
ทำไมคนสมัยโบราณจึงกล่าวถึงพระเยซูเจ้าว่า
พระองค์ท่านทรงเป็น #คนดูแลฝูงแกะของพระเจ้า
คำถามที่ว่า “คนดูแล” หมายถึงเป็นผู้ทำหน้าที่อะไร
ในบทที่ผ่านมาเราได้กล่าวไปแล้ว 2 ประการก็คือ
1.เป็นผู้เข้ามากล่าวพระโอวาทในพระนามของพระเจ้า
2.เป็นผู้มากล่าวอนุตรธรรมให้มนุษย์โลกได้เรียนรู้
บทต่อไปนี้เราจะกล่าวถึงหน้าที่ของ “คนดูแลฝูงแกะ”
ให้พวกคุณได้เรียนรู้เป็นประการที่ 3 กันต่อไป
3.พระบุตรเอกหรือพระศาสดาที่มาจากพระเจ้า
ซึ่งอาสาพระองค์เข้ามาจุติเพื่อทำหน้าที่ดูแลฝูงแกะ
จะคอยทำหน้าที่เปิดประตูคอกให้ฝูงแกะของพระเจ้า
ได้ก้าวย่างออกมาจากคอกคือพระนิเวศน์ของพระองค์
ที่เป็นถิ่นกำเนิดของพระบุตรซึ่งเป็นจิตจักรวาลดวงเล็ก
ตัวตนภาคแรกที่สูงส่งของจิตวิญญาณคุณก็คือพระจิต
โดยพระบุตรเอกจะถือม้วนหนังสือรายชื่อของฝูงแกะ
ที่บันทึกไว้ว่ามีแกะตัวใดได้รับอนุญาตให้ออกมาบ้าง
เพื่อใช้ตรวจสอบเมื่อถึงเวลาที่ฝูงแกะต้องกลับเข้าคอก
มิให้ขโมยหรือสัตว์อื่นเข้าไปในคอกแกะของพระองค์
ทั้งใช้ตรวจสอบว่ามีแกะตัวใดบ้างที่พลัดหลงไปจากฝูง
ตรวจว่าแกะตัวใดที่หายตัวหายหน้าออกไปจากทุ่งหญ้า
ไปหลงติดอยู่ในป่าคือสวรรค์มายาที่มิได้ทรงสร้างไว้ให้
จนไม่สามารถจะออกจากป่ากลับมาเข้าคอกทันเวลาได้
คือกลับมาทันก่อนที่ประตูคอกแกะนั้นจะถูกปิดนั่นเอง
ในที่นี้คำว่า “ประตูคอกแกะ” ก็คือ
ประตูมิติตรงปลายปีกทั้งสองข้างของธารสายน้ำนม
ซึ่งเป็นเส้นผ่านศูนย์กลางของเอกภพหรือ อนันตจักรวาล
อันเป็นห้องทดลองขนาดใหญ่ของพระเจ้าที่ทรงสร้างขึ้น
ประตูมิติตรงปลายปีกทั้งสองข้างนี้เรียกว่า #ด่านนภาลัย
ถ้ากล่าวด้วยการคิดแบบจิตมนุษย์ก็ว่าประตูมิตินี้มี 2 ประตู
แต่ถ้าจะกล่าวด้วยการคิดแบบจิตจักรวาลก็ว่ามีประตูเดียว
ที่กล่าวว่ามีประตูเดียวเพราะกาแล็กซี่เส้นผ่านศูนย์กลางนี้
เหวี่ยงหมุนรอบแกนกลางอย่างรวดเร็วและหมุนต่อเนื่อง
ทำให้ปลายปีกสองข้างคือสองประตูเสมือนเป็นหนึ่งเดียว
เพราะประตูทั้งสองบานนี้เป็นประตูที่สร้างด้วยพลังงาน
มิใช่สร้างด้วยบานไม้หรือวัตถุมวลสารต่างๆที่เป็นของแข็ง
เมื่อเหวี่ยงหมุนวนไปอย่างเร็วการเป็นหนึ่งเดียวจึงง่ายขึ้น
ดังนั้น
ประตูคอกแกะหรือประตูมิติดังกล่าวนี้มีไว้เพื่อ
เป็นทางออกจากคอกแกะที่เป็นพระนิเวศน์ของพระเจ้า
ของประดาฝูงแกะคือพระจิตหรือจิตวิญญาณของพวกคุณ
ที่จะข้ามมิติกันออกมาเกิดเป็น “คนสองมิติ” อยู่ในเอกภพ
เพื่อเข้าประจำการอยู่ในบทบาทของเพื่อนร่วมงานกับโลก
นานหนึ่งยุคคือ 60,000 ปีโดยไม่ต้องตายไม่ต้องไปไหน
มีหน้าที่เป็นมนุษย์โลกอย่างเดียวจึงไม่ต้องมีสังสารวัฏด้วย
เมื่อเกิดเป็นคนสองมิติแล้วขณะที่คนตนเองเพื่อเป็นมนุษย์
โดยคนร่วมกันกับคนผู้อื่นด้วยรักเพื่อให้อย่างไร้เงื่อนไขนั้น
พลังงานจิตที่ผลิตได้ด้วยขันธ์ห้าจะช่วยให้โลกเหวี่ยงหมุน
ถ้ารักกันอย่างต่อเนื่องได้โลกก็จะเหวี่ยงหมุนรอบตัวเองได้
ถ้าโลกหมุนรอบตัวเองอย่างต่อเนื่องด้วยอัตราเร็วคงที่ได้
โลกทั้งระบบก็จะบังเกิดความสมดุลขึ้นได้ตลอดกาลนาน
ความสมดุลของระบบโลกในยุคพลังงานเก่า
เราหมายถึงโลกนี้จะต้องเป็นอย่างไรบ้าง
1.ใน 1 วันจะมี 24 ชั่วโมง
2.ระบบโครงข่ายของสนามแม่เหล็กโลก
จะยกตัวสูงขึ้นจากพื้นระนาบ 6 หมื่นกิโลเมตร
3.ความเข้มสนามแม่เหล็กโลกมีค่าเฉลี่ย 14 เก๊าส์
4.ก๊าซออกซิเจนต้องมีปริมาณเหลือเฟือเหลือใช้
5.แกนหมุนของโลกต้องมีค่าคงที่เสมอ
คือจะต้องเอียงไม่เกิน 23.5 องศาไปจากแนวดิ่ง
6.มนุษย์จะระเบิดภูเขาทิ้ง
จะตัดโค่นต้นไม้ทำลายป่า
ฆ่าสัตว์ตัดชีวิตให้ตายหรือทำลายชีวิตจนสูญพันธุ์ไม่ได้
เพราะทั้งคนสัตว์และพืชต่างเป็นเพื่อนร่วมงานกับโลก
มีหน้าที่ผลิตพลังงานไฟฟ้าด้วยความรักช่วยค้ำจุนโลก
หนึ่งตัวหนึ่งต้นและหนึ่งคนคือเครื่องผลิตสร้างพลังงาน
ซึ่งพระเจ้าทรงสร้างไว้ให้ช่วยกันทำหน้าที่ประจำโลก
ต้นไม้ใหญ่ทุกต้นจึงต่างเติบโตมิใช่โตเพื่อตาย
สัตว์ใหญ่จะมีอายุขัยยืนยาวออกลูกได้คราวละหลายตัว
สัตว์ตัวเล็กตัวน้อยเกิดง่ายตายเร็วมีลูกดกขยันออกลูก
เหตุเพราะพวกเขาจะทิ้งโลกไปนานเกินกำหนดไม่ได้
สัตว์ส่วนใหญ่จะเกิดง่ายตายไวกว่าคนอย่างชัดเจน
เพราะว่าพวกเขาไม่มีนรกเนื่องจากไม่มีกฎแห่งกรรม
ซึ่งสัตว์แม้จะมีสมองก้อนโตก็จริงแต่เป็นสมองก้อนเดียว
พวกสิ่งมีชีวิตบนดาวดวงอื่นก็มีสมองก้อนเดียวเช่นกัน
พวกเขาจึงไม่ต้องมีกฎแห่งกรรมเหมือนกับสัตว์โลก
พวกต่างดาวบางเผ่าที่ไม่มีนรกจึงเยาะหยันมนุษย์ว่า
มนุษย์โลกเป็นพวกที่ถูกพระเจ้าหลอกให้ตกนรกเล่นๆ
พวกคุณจึงเป็นของเล่นจากอารมณ์ขันของพระเจ้า
คนโง่ง่ายแต่อวดฉลาดก็พากันหลงเชื่อคารมพวกมัน
จึงพากันทำชั่วและกล้าชั่วเพราะไม่กลัวว่าจะตกนรก
แดนนรกที่พระเยซูเจ้าทรงเรียกว่า #บึงไฟ นั่นแหละ
ปรากฏว่าจิตวิญญาณจำนวนมากที่ยังทำบาปชั่วกันอยู่
พากันตกลงสู่บึงไฟต้องไปตกนรกยาวนานกันยกใหญ่
ที่ตกนรกลึกลงไปเกินกว่าชั้นที่ 13 ก็ไม่ได้ผุดเกิดอีก
เพราะถูกมอดมารพวกนี้หลอกลวงให้หลงทางทั้งสิ้น
นอกจากนั้น
ประตูคอกแกะซึ่งเป็นประตูมิติหรือ “ด่านนภาลัย” นี้
ยังจะเป็นประตูทางเข้าสำหรับฝูงแกะที่จะกลับบ้านด้วย
โดยคนดูแลฝูงแกะจะคอยตรวจสอบเช็คชื่อแกะทุกตัว
ตามรายชื่อฝูงแกะที่ถูกบันทึกไว้ในม้วนหนังสือนั้น
4.คนดูแลฝูงแกะยังมีหน้าที่แจกขนมปังให้แกะกิน
คำว่า “แจกขนมปัง” หมายถึง การกล่าวพระโอวาท
ตามที่รับสื่อเป็นพระวจนะมาจากพระเจ้าให้มนุษย์ฟัง
ในยุคของเราก็กล่าวผ่านพระคัมภีร์นิพนธ์ปกอ่อนปกแข็ง
กล่าวผ่านเครือข่ายโซเชี่ยลเน็ตเวิร์คอีกหลายรูปแบบ
เช่น เฟสบุ๊ค ยูทูป เรดิโอการ์เด้น และสื่อพระโอวาทสด
ซึ่งคนไทยและคนทั้งโลกสามารถบริโภคกันตามสะดวก
คำว่า “ขนมปังพระบิดา” จึงหมายถึง
พระวจนะอันเป็นพระโอวาทสดๆจากพระเจ้า
ที่มีเราเป็นผู้รับสื่อจากพระองค์มากล่าวให้พวกคุณเรียนรู้
ขนมปังที่มีพระองค์ทรงเป็นผู้ปรุงโดยมีเราเป็นผู้รับเอามา
เพื่อแบ่งปันให้ทุกคนที่สนใจจะรับประทานจากพระองค์
ขนมปังของพระองค์ที่เรารับมาสามารถแบ่งได้ไม่อั้น
จะคนน้อยหรือคนมากเราก็สามารถแบ่งปันให้ได้ครบทุกคน
ไม่ต่างจากขนมปังหรือเหล้าองุ่นในงานเลี้ยงของพระเยซู
ที่ทรงแจกให้ทานให้ดื่มอย่างทั่วถึงทั้งอิ่มและรสเลิศล้ำ
เพราะขนมปังและไวน์แท้แล้วคือพระโอวาทจากพระเจ้า
ที่พระบุตรเอกนำเอามาแบ่งปันให้ลูกแกะคือมนุษย์ดื่มกิน
ที่วิเศษเป็นที่สุดก็คือใครได้กินแล้วจิตวิญญาณจะไม่ตาย
หมายถึงคนผู้นั้นจะมีอายุยืนเป็นหมื่นปีจนกว่าจะสิ้นยุค
พวกคุณเคยได้ยินข่าวว่าพวกต่างเผ่าดาวทั้งหลาย
เขามีอายุยืนยาวจนถึงปัจจุบันนั้นเผ่าหนึ่งตนหนึ่งนับพันปี
คุณอย่าไปคิดว่าพวกนั้น “คุยโม้” โอ้อวดหลอกเล่นนะ
เพราะแม้สิ่งที่พวกเขากล่าวไว้จำนวนมากนั้นจะเป็นเท็จ
แต่ที่ในเท็จนั้นมันก็มีความจริงเจือปนระคนกันอยู่ด้วย
เมื่อพวกเขาอายุยืนยาวนับพันๆปีแล้วไม่ต้องตายกันได้
ทำไมพวกคุณที่เป็นชนเผ่าดาวโลกถูกสร้างขึ้นท้ายสุด
จะมีอายุยืนยาวมากที่สุดคือ 6 หมื่นปีแล้วตายไม่ได้หรือ
(ยังมีตอนต่อไป)
เอเมน สาธุ
ถ่ายทอดคลื่นความคิดจากองค์จิตจักรวาล
โดย #ปัญญาวิสุทธิ์
15/11/2566