01 พฤศจิกายน 2566

คัมภีร์อนุตรธรรมภาคจิตจักรวาล 1/11/2023

#คัมภีร์อนุตรธรรมภาคจิตจักรวาล
(เพื่อยุวจิตจักรวาลยุคสุดท้าย)
 
พี่ๆน้องๆที่รักแห่งเราทั้งหลาย
เราจะกล่าวความจริงต่อท่านทั้งหลายว่า
 
ต่อไปนี้จะเป็นวิธีที่ผีโสโครกกระทำต่อมนุษย์
ผ่าน “คนนำทางตาบอด” วิธีสุดท้ายที่เราจะกล่าวถึงคือ
 
5.เฉไฉบิดเบือน
 
พวกมารซึ่งเป็นจิตวิญญาณผีโสโครก
ทำการบิดเบือนความจริงด้วยการหลอกคนชอบธรรม
ให้ปฏิบัติทำโดยทำเพื่อตนเองด้วยการมีโลกส่วนตัว
ที่ใช้คำกล่าวหรูหราน่าคล้อยตามว่าเป็นการ “ปลีกวิเวก”
ทั้งๆที่มนุษย์ส่วนใหญ่ที่มีการศึกษาและที่เรียนมาน้อย
ต่างรู้กันดีว่า #มนุษย์โลกทุกคนล้วนเป็นสัตว์สังคม
จะละทิ้งสังคมหรือหนีสังคมไปปฏิบัติธรรมคนเดียวไม่ได้
 
พวกคุณจักต้องรู้ว่า #ธรรมะคือธรรมชาติ
ต้นไม้ในป่าทุกป่ายังขึ้นยืนต้นอยู่ร่วมกันจนนับต้นไม่ถ้วน
สัตว์ป่าที่เป็นสัตว์ประจำโลกต้องหากินอยู่ร่วมกันเป็นฝูง
ไม่มีป่าในธรรมชาติที่ไหนมีต้นไม้ขึ้นอยู่แค่เพียงต้นเดียว
ไม่มีสัตว์ประจำโลกชนิดใดที่หาอยู่หากินอย่างโดดเดี่ยว
ทั้งต้นไม้และสัตว์ทั้งหลายล้วนเป็นสิ่งมีชีวิตในระบบโลก
มนุษย์เองก็เป็นสิ่งมีชีวิตเช่นเดียวกับต้นไม้และสัตว์โลก
จะทำตัวแปลกแยกแตกต่างไปจาก “ธรรมชาติ” ไม่ได้
 
ที่สำคัญคือพวกคุณต้องรู้เอาไว้ด้วยว่า
คนนำทางตาบอดกรรมกรของมารซึ่งเป็นผีโสโครกนั้น
ต้องการ “เฉไฉบิดเบือน” ให้มนุษย์พากันละทิ้งหน้าที่หลัก
ที่จิตวิญญาณอาสาพระเจ้ามาใช้ความรักเพื่อให้ค้ำจุนโลก
ซึ่งจะเป็นความจริงได้นั้นมนุษย์ต้องทำร่วมกันในครอบครัว
ต้องทำร่วมกันเป็นสังคมตั้งแต่สามคนขึ้นไปเท่านั้น
ความรักเพื่อให้ที่มนุษย์ทำต่อกันจึงจะมีพลังงานมากพอ
ที่จะช่วยค้ำจุนสมดุลโลกของตนได้ตามสมการ βₓ
ซึ่งเป็นสมการพลังงานทางช้างเผือกที่ทรงออกแบบไว้
 
ดังนั้น
การชักจูงให้ทิ้งสังคมไปเข้าถ้ำเข้าเถื่อนอยู่คนเดียว
จึงเป็นการเฉไฉบิดเบือนความจริงไปให้มนุษย์หลงผิด
จนจิตหยาบพวกคุณไม่อาจหมุนธรรมจักรร่วมกันเป็นหมู่ได้
พลังงานจิตในรูปของไฟฟ้าแม่เหล็กของคนมากกว่าสาม
จึงไม่อาจผลิตสร้างออกมาเพื่อช่วยให้โลกหมุนต่อเนื่อง
ด้วยความเร็วคงที่เฉลี่ยเป็นอัตรา 24 ชั่วโมงต่อรอบได้
ทำให้การเป็นเพื่อนร่วมงานกับโลกตามพันธะสัญญา 6
ที่จิตวิญญาณของคุณให้สัจจะต่อพระเจ้าไว้ต้องล้มเหลว
 
นอกจากนั้น
พวกมอดมารตัวร้ายยังหลอกให้มนุษย์เสพกิเลสจนติดอีก
กิเลสมารจึงครอบงำจิตหยาบมนุษย์ไว้จนดิ้นไม่หลุดเลย
ขนาดทำบุญสุนทานสร้างกุศลกันก็ยังทำโดยมีกิเลสแฝง
มนุษย์ส่วนใหญ่จึงใช้กิเลสมารทำการหมุนกรรมจักรแทน
ซึ่งพลังงานจิตด้านลบที่เหวี่ยงออกมาด้วยขันธ์ห้า
ก็กลายเป็น #พลังงานกรรม ซึ่งเป็นทรัพย์สมบัติส่วนตัว
ที่ทั้งโลกและสรรพสัตว์ทั้งหลายเอาไปใช้ประโยชน์ไม่ได้
 
การบิดเบือนเฉไฉประการถัดมา
ที่เป็นผลให้โลกเสียสมดุลเพิ่มมากขึ้นทุกวี่ทุกวัน
คือการสอนให้มนุษย์ #ทำบุญสุนทาน เพื่อสร้างตนเอง
แทนที่จะสร้างสังคมหรือสร้างโลกให้เกิดสันติสุข
ไม่ต่างจากการสอนให้มนุษย์โลกเห็นแก่ตัวนั่นแหละ
 
ตัวอย่างเช่น
สอนให้ทำบุญสุนทานแล้วอธิษฐานร้องขอสิ่งตอบแทน
ทั้งๆที่กฎธรรมชาติของพระเจ้าใครทำอะไรก็จะได้สิ่งนั้น
หมายถึงใครเป็นผู้เริ่มต้นไว้ใครคนนั้นต้องเป็นผู้สิ้นสุด
ใครปลูกต้นอะไรไว้ก็จะได้ผลจากต้นที่ปลูกไว้นั้นเสมอ
มันจะไม่มีวันเปลี่ยนแปลงไปเป็นอย่างอื่นได้เลย
 
แต่มนุษย์ถูกคนนำทางตาบอดที่เป็นกรรมกรของมาร
สอนให้บิดเบือนสัจธรรมซึ่งเป็น #กฎแห่งกรรม เรื่องนี้
โดยไม่สอนซ้ำย้ำเตือนให้ใส่ใจในพฤติกรรมที่ตัวทำ
ว่าสิ่งที่ทำอยู่นั้นเป็นบาปบุญคุณโทษถูกผิดดีชั่วหรือไม่
กลับชี้นำให้มุ่งสนใจแต่ผลที่ตนอยากได้นั้นแทน
ทั้งๆที่เพียงแค่รู้สำนึกได้ว่าสิ่งที่ตนกำลังทำอยู่นั้น
เป็นสิ่งที่ถูกต้องเหมาะสมดีงามอย่างแท้จริงก็พอแล้ว
ไม่ต่างจากการเอา 1+1 ยังไงก็ได้ 2 อยู่วันยันค่ำ
ถ้าทำความดีคุณก็ต้องได้ผลลัพธ์คือความดีงามเสมอ
มันจะเป็นความดีงามของคนอื่นไปไม่ได้อย่างแน่นอน
คุณจึงไม่จำเป็นจะต้องร้องขอหรือตั้งจิตอธิษฐานเลย
 
คุณไม่รู้หรือว่า
พวกที่ร้องขอส่วนบุญคือพวกผีโสโครกหรือผีเปรต
เพราะพวกนี้ไม่มีกายหยาบจึงต้องมาหลอกลวงมนุษย์
ให้ใช้กายสังขารผลิตพลังงานบวกให้พวกตนดักดูด
เพราะพวกเขามีความอดหยากหิวโหยมานานแล้ว
พวกนี้จะดักดูดพลังงานจิตด้านบวกของคนชอบธรรม
ที่ชอบปลีกวิเวกนั่งปฏิบัติสมาธิด้วยวิธีสมถะกรรมฐาน
แล้วถูกสอนให้แผ่เมตตาให้แก่เวไนยสัตว์ทั้งหลาย
โดยแผ่เมตตาอุทิศพลังงานจิตด้านบวกให้ใครก็ไม่รู้
จนคนชอบธรรมหลงผิดว่าการปลีกวิเวกนั่งกรรมฐาน
เป็นวิธีการปฏิบัติธรรมของคนชอบธรรมไปเลย
 
การปฏิบัติธรรมนั้นความจริงแล้วต้องปฏิบัติที่จิต
ไม่ใช่ปฏิบัติในป่าในถ้ำหรือที่สำนักปฏิบัติธรรมเท่านั้น
คุณจะปฏิบัติกันที่บ้านที่ทำงานหรือปฏิบัติที่ไหนก็ได้
เพราะการปฏิบัติธรรมมันเป็นหน้าที่ทางจิตวิญญาณ
ที่จะต้องร่วมมือกันทำเป็นทีมทำกันเป็นสังคม
โดยรักกันให้ได้ให้อภัยกันให้เป็นไม่เห็นแก่ตัว
ต้องอดทนอดกลั้นให้อภัยกันให้ได้อย่างไม่มีเงื่อนไข
ซึ่งหมายถึงต้องหมุนธรรมจักรร่วมกันให้ได้ในทุกเวลา
 
นอกจากนั้น
มนุษย์ยังถูกสอนให้ “อุทิศ” ส่วนบุญที่ตนทำ
ให้แก่พ่อแม่ญาติพี่น้องที่ล่วงลับไปแล้ว
แถมยังมีการอุทิศให้กับเจ้ากรรมนายเวรทั้งหลาย
ที่หน้าตาเป็นอย่างไรหรือชื่อเรียงเสียงไรก็ไม่อาจรู้
ผลบุญกุศลที่คุณทำนั้นแทนที่จะเป็นพลังงานสะอาด
ในแบบที่โลกและทุกสรรพสิ่งนำไปใช้ประโยชน์ได้
เหมือนก๊าซออกซิเจนที่มีอยู่ในระบบโลก
ซึ่งเป็นของสาธารณะเป็นสมบัติส่วนรวมไม่มีเจ้าของ
กลายเป็น #ผลกรรมทางพลังงาน ที่เป็นสมบัติส่วนตัว
จนต้องล่องลอยเป็นขยะพลังงานอยู่ในอวกาศ
เพื่อรอให้เจ้าของมันตายไปจากโลกในชาตินี้เสียก่อน
จะได้ย้อนกลับมาชำระขยะกรรมของตนนั้นทิ้งให้หมด
 
นี่คือการที่มนุษย์ถูกมารหลอก
โดยบิดเบือนเฉไฉไปจากความจริงอีกเรื่องหนึ่งแล้ว
 
เพราะมนุษย์ถูกมารหลอกเอาไว้ซับซ้อน
จนยากที่จะรู้เท่ารู้ทันพวกมารได้ง่ายๆ
ถ้ามนุษย์ไม่สามารถนิพพานกิเลสให้หมดสิ้นได้
มนุษย์ก็จะนำพาจิตวิญญาณหลงทางนิพพาน
ไม่อาจกลับบ้านแดนสุญตาไปกราบพระบิดาได้ทัน
ก่อนกาลสิ้นยุคพลังงานเก่าในเร็วๆนี้แน่นอน
เนื่องจากกิเลสมารไม่ต่างจากสนิมของจิตหยาบ
ยิ่งปล่อยทิ้งไว้นานๆสนิมจะกัดกินจนจิตนั้นผุกร่อน
 
สนิมร่วงออกไปมากเท่าไหร่เมื่อถูกเคาะ
จิตหยาบจะหลุดล่อนออกไปพร้อมกับสนิมมากเท่านั้น
คนที่จิตหยาบชำรุดจนต้องผุดเกิดมาหลายภพชาติ
จิตวิญญาณผู้นั้นจึงเป็นอนาคตของโลกไม่ได้อีกแล้ว
พวกนี้จะเป็นพวกที่ไม่ใช่วิสุทธิชนยุคสุดท้ายแน่นอน
 
เอเมน สาธุ
ถ่ายทอดคลื่นความคิดจากองค์จิตจักรวาล
โดย #ปัญญาวิสุทธิ์
1/11/2566