#คัมภีร์อนุตรธรรมภาคจิตจักรวาล
(เพื่อยุวจิตจักรวาลยุคสุดท้าย)
พี่ๆน้องๆที่รักแห่งเราทั้งหลาย
เราจะกล่าวความจริงต่อท่านทั้งหลายว่า
เพราะจิตวิญญาณต้องตายมีชีวิตไม่เป็นอมตะแล้ว
กับโลกนี้มีจิตวิญญาณขออาสาพระบิดาฯเข้ามาเกิด
เพื่อทำการฉุดช่วย “เวรไนยสัตว์” ทั้งหลายเพิ่มขึ้น
เนื่องจากทั้งผู้อยู่เดิมที่ต้องการความช่วยเหลือ
และผู้มาใหม่ซึ่งเป็นผู้อาสาเข้ามาทำการช่วยเหลือ
ต่างก็กลายเป็นสัตว์ #ผู้มีเวรมีกรรม ติดอยู่กับโลก
จนถูกเรียกว่า “ผู้มีเวรอยู่ข้างใน” ระบบโลกนี้ด้วยกัน
จึงต้องผลัดเปลี่ยนกันเกิดและตายตามที่เหมาะสม
โดยแบ่งปันเวลาที่จะเกิดและตายไปจากโลกเอาไว้
ดังนั้น
พวกคุณจึงจะฆ่าตัวเองตายเพราะอยากตายนั้นไม่ได้
พวกคุณจึงจะฆ่าผู้อื่นให้ตายไปจากโลกนี้ก็ไม่ได้ด้วย
เนื่องจากจำนวนรูปธรรมที่ตายหายไปแต่ละรูปธรรมนั้น
มันมีผลต่อพลังงานจิตที่เป็นพลังงานไฟฟ้าแม่เหล็ก
ซึ่งพวกคุณจะต้องผลิตสร้างเป็นเชื้อเพลิงให้กับโลกนี้
โดยหนึ่งรูปธรรมจะเป็นดั่งหนึ่งเครื่องยนต์ที่ต้องทำงาน
ถ้าตายหรือหายไปสักหนึ่งรูปธรรมโลกก็มีปัญหาแล้ว
พระเจ้าจึงต้องให้ช่างเท็คนิกคอยกำกับดูแลประจำโลก
ใครใคร่อยากตายก็ตายไม่ได้ใครใคร่จะเกิดก็เกิดไม่ได้
ถ้าถึงเวลาแค่ไม้จิ้มฟันดันเหงือกก็เสือกตายได้เสมอ
ด้วยเหตุนี้เอง
พระบิดาแห่งจิตวิญญาณหรือองค์จิตจักรวาลหรือพระเจ้า
จึงต้องทรงออกแบบให้ภายในเซลล์ทุกเซลล์ของคุณ
มีสิ่งที่เล็กที่สุดที่มนุษย์ส่องกล้องยังไงก็มองไม่เห็นมัน
โดยเจ้ากลไกที่เล็กที่สุดที่ว่านี้มีนามเรียกว่า Digitalis
แปลเป็นภาษาไทยได้ความว่า “เส้นใยเกลียวแม่เหล็ก”
ซึ่งกลไก “ดิจิตัลลิส” นี้จะซ่อนอยู่ในนิวคลิโอไทด์คู่ซ้าย
ที่อยู่ภายในเซลล์อวัยวะร่างกายของทุกๆเซลล์นั่นเอง
มนุษย์โลกรู้ว่า #นิวคลิโอไทด์ (nucleotide)
เป็นกลไกที่เล็กที่สุดภายในร่างกายของมนุษย์ทุกคน
แต่เจ้ากลไกเส้นใยเกลียวแม่เหล็กที่ว่านี้จะเล็กกว่าอีก
เพราะพระองค์ทรงติดตั้งเอาไว้ข้างในสิ่งที่เล็กสุดนั้น
เพื่อป้องกันมิให้พวกมอดใช้ความสามารถทางเท็คนิก
เข้าถึงกลไกพิเศษดังกล่าวนี้ของพระองค์ได้โดยง่าย
ในอันที่จะแปลงสารของพระเจ้าเพื่อทำร้ายมนุษย์อีก
ตามนิสัยสันดานที่เคยกระทำกันมาแทบทุกยุคทุกสมัย
จนทำให้จิตวิญญาณมนุษย์ต้องตายกันทุกคนมาแล้ว
ทั้งๆที่มนุษย์โลกไม่มีใครมีหน้าที่ต้องตายเลยสักคน
กลไกเส้นใยเกลียวแม่เหล็กที่ว่านี้
มันจะทำหน้าที่เป็นตัวกำกับอายุขัยของกายสังขารคุณ
โดยจิตวิญญาณจะถูกกำหนดวันตายมาตั้งแต่แรกเกิด
แปลว่าวันที่เกิดมาลืมตาดูโลกคุณก็ถือวันตายมาด้วย
งานฉลองวันเกิดจึงเป็นการฉลองวันตายไปด้วยกัน
กลไก Digitalis หรือเส้นใยเกลียวแม่เหล็กที่ว่านี้
ลักษณะเหมือนหัวแมลงสาบที่มีหนวดยาวอยู่สองเส้น
โดยตรงส่วนหัวแบนๆนั้นจะทำหน้าที่เป็น #สมองกล
หนวดสองเส้นยาวๆที่เชื่อมกับสมองกลคือเสาอากาศ
หนวดเส้นสั้นๆอีกสองเส้นจะเป็น #ขั้วต่างทางไฟฟ้า
ทั้งหมดถูกสร้างขึ้นด้วยโปรตีนชนิดที่เรียกว่า DNA
นอกจากนั้น
ตรงส่วนของเสาอากาศหรือหนวดยาวๆทั้งสองเส้น
จะมีเส้นใยโปรตีนที่ทำด้วย RNA พันเป็นขดเกลียวไว้
ซึ่งมีลักษณะการพันคล้ายเส้นลวดสปริงดีๆนี่เอง
โดยปลายข้างหนึ่งที่พันรอบหนวดแต่ละข้างนั้น
จะเชื่อมไว้กับสมองกลที่เป็นดั่งหัวของแมลงสาบ
ปลายอีกข้างของเส้นใย RNA จะทำหน้าที่เป็นขั้วลบ
ขณะที่ปลายอีกข้างหนึ่งของเส้นใยก็จะเป็นขั้วบวก
เพื่อใช้เชื่อมต่อกับชุดดิจิตัลลิสของเซลล์ที่ใกล้เคียง
พระเจ้าทรงกำหนดให้
จำนวนเกลียวที่พันรอบเสาอากาศทั้งสองเส้นรวมกัน
มีค่าเท่ากับอายุขัยที่จิตวิญญาณผู้มาเกิดนั้นต้องตาย
โดยหนึ่งขดเกลียวจะมีค่าเท่ากับอายุขัย 6 ปีโลก
ถ้าสมมติว่าใครคนนั้นมีขดเกลียวรวมกันเท่ากับ 12
แสดงว่าจิตวิญญาณนั้นได้รับโอกาสให้มาเกิด 72 ปี
ซึ่งขดเกลียวอาร์เอ็นเอที่ว่านี้สามารถคิดเป็นครึ่งรอบ
หรือคิดคำนวนเป็นเศษส่วนต่อรอบของ 6 ปีได้ด้วย
นี่จึงเป็นคำตอบว่า #มนุษย์ทุกคนหนีความตายไม่พ้น
หลักการทำงานของกลไก “ดิจิตัลลิส” ก็คือ
ขณะที่โลกเหวี่ยงหมุนไปรอบตัวเองอย่างต่อเนื่อง
โลกจะพาเครื่องยนต์แห่งกรรมคุณหมุนไปด้วยกัน
เพราะโลกมีสนามแม่เหล็กปกคลุมหุ้มห่อเอาไว้อยู่
ขณะที่เซลล์อวัยวะร่างกายมีกลไกดิจิตัลลิสติดตั้งไว้
เมื่อกลไกเส้นใยเกลียวแม่เหล็กมันเคลื่อนที่ตัดผ่าน
โครงข่ายสนามแม่เหล็กโลกอย่างต่อเนื่องไปเรื่อยๆ
ภายในเซลล์ทุกเซลล์จะมีกระแสไฟฟ้าเหนี่ยวนำขึ้น
กระแสไฟฟ้าเหนี่ยวนำนั้นจะไหลเวียนไปทั่วร่างกาย
เพราะพระองค์ทรงเชื่อมต่อกันในแบบอนุกรมไว้แล้ว
ตราบใดที่โลกไม่หยุดหมุนรอบตัวเองหรือหมุนช้าลง
ตราบใดที่ความเข้มสนามแม่เหล็กโลกไม่เสียสมดุล
กระแสไฟฟ้าในเซลล์อวัยวะร่างกายพวกคุณแต่ละคน
ก็จะเป็นไปตามที่ทรงกำหนดเอาไว้ให้อย่างดีแล้ว
นี่คือเหตุผลว่า
ทำไมพวกคุณต้องรักกันและทำไมต้องหมุนธรรมจักร
ทำไมต้องผลิตพลังงานสะอาดช่วยให้โลกเหวี่ยงหมุน
ทำไมโลกจึงต้องมีสนามแม่เหล็กห่อหุ้มอุ้มโอบไว้
ใยโลกต้องมีก๊าซออกซิเจนที่ใช้หายใจอย่างเพียงพอ
คุณคงจะไม่สงสัยกันต่อไปอีกแล้วใช่หรือไม่ว่า
ทำไมพระศาสดาตรัสว่ามนุษย์กับโลกเป็นหนึ่งเดียวกัน
ในแบบที่ทรงกล่าวว่า “เราคือโลก
โลกคือเรา”
เอเมน สาธุ
ถ่ายทอดคลื่นความคิดจากองค์จิตจักรวาล
โดย #ปัญญาวิสุทธิ์
8/11/2566