พี่ๆน้องๆที่รักแห่งเราทั้งหลาย
เราจะกล่าวความจริงต่อท่านทั้งหลายว่า
ในกาลอดีตนับพันปีที่ผ่านมา
สัจธรรมคำสอนของพระศาสดาทุกศาสนา
ถูก “มอด” ที่เป็นสิ่งมีชีวิตผู้รุกรานจากต่างดาว
ทำการบิดเบือนจนเป็นคำสอนที่วิปริตผิดเพี้ยน
ที่พระเจ้าทรงกล่าวว่ามอด “บิดเบือนพระวจนะ”
เพื่อชักพาชาวโลกในแต่ละยุคให้หลงทำตาม
จึงเกิดการ “หลงอธรรม” จนหลงทางนิพพาน
หาทางกลับบ้านที่จิตวิญญาณจากมาไม่พบเจอ
ผ่านมานาน 6 หมื่นปีโลกจนถึงกาลสิ้นยุคแล้ว
ยังได้แต่ลดเลี้ยวขึ้นๆลงๆเขาวงกต
แล้วคดเคี้ยวขึ้นเขาพระสุเมรุกันต่อไปอีก
ขึ้นๆลงๆอย่างวกวนกันอยู่แบบนี้ไม่มีวันสิ้นสุด
โดยไม่รู้ว่า “ปลายทาง” นิพพานนั้นอยู่ไหนแน่
จนต้องถามกันเองว่า “แดนนิพพานอยู่ที่ไหน”
ซึ่งคำถามนี้คงหาคำตอบที่ต้องการได้ยาก
หากคนที่ถามยังไม่รู้ว่า #นิพพานคืออย่างไร?
เพราะแค่รู้ว่า #นิพพานคืออะไร? มันยังไม่พอ
เนื่องจากคำถามที่ว่า “นิพพานคืออย่างไร” นั้น
เป็นคำถามที่จะนำไปสู่คำตอบที่คุณต้องการได้
เพราะคุณถามหา #วิธีเข้าถึงนิพพาน โดยตรง
ของ “คนชอบธรรม” ที่มิได้เป็นแค่ “คนชอบทำ”
เป็นคำถามที่ต้องการคำตอบในเชิงปฏิบัติการ
ซึ่งเมื่อรู้คำตอบก็จะสามารถนำไปปฏิบัติจริงได้
ส่วนคำถามที่ว่า “นิพพานคืออะไร” นั้น
เป็นแค่คำถามที่คนส่วนใหญ่ชอบใช้ไถ่ถาม
ตามการอยากรู้อยากเห็นของจิตหยาบเท่านั้น
ไม่ต่างจากเด็กไร้เดียงสาเมื่ออยากรู้เรื่องใด
ก็จะถามพ่อแม่ว่า “นั่นอะไร-นี่อะไร?” จนเคยปาก
พ่อแม่เมื่อถูกถามก็จะตอบลูกให้รู้ในทันทีที่ถาม
โดยทั้งพ่อแม่และลูกจะละวางคำถามคำตอบนั้น
มิได้ใส่ใจติดตามหรือหยิบเอามันมาเป็นสาระอีก
ดังนั้น
เฉพาะคำถามที่ว่า #นิพพานคืออะไร?
คำตอบที่ได้จึงไม่ใช่คำตอบสุดท้ายของคนที่ถาม
เหมือนเด็กที่ถามพ่อแม่ว่าดวงกลมๆที่อยู่บนฟ้า
ในยามราตรีกาลนั้นมันคือ “อะไร” เมื่อเด็กได้เห็น
คำตอบที่พ่อแม่จะให้ลูกของตนได้คือ “ดวงจันทร์”
แต่ถ้าพ่อแม่นั้นไม่รู้คำตอบหรือว่ารู้ผิดแล้วตอบลูก
เด็กคนนั้นก็จะจำคำตอบที่ตนได้รู้เอาไว้แบบผิดๆ
เพราะไร้เดียงสาขาดประสบการณ์และยังคิดไม่เป็น
ด้วยเหตุนี้เอง
คนที่จะให้คำตอบว่า “นิพพาน คือ อะไร”
นอกจากจะมีผู้รู้เป็นจำนวนมากแล้ว
ยังมีคำตอบที่แตกต่างกันอย่างหลากหลายด้วย
แต่คำตอบที่ถูกต้องนั้นจะมีเพียงหนึ่งเดียว
ถ้าหากคำตอบที่ถูกต้องนั้นถูกบิดเบือนไปจากเดิม
มันจึงยากสำหรับคนทั่วไปที่จะเข้าถึงความจริงได้
นอกจากจะเชื่อตามคนนำทางตาบอดชราเท่านั้น
เพราะชาวบ้านเชื่อว่าพวกเขารอบรู้ธรรมะมากกว่า
โดยมองที่ฐานานุรูปภายนอกว่าน่าศรัทธาเลื่อมใส
ทุกวันนี้ทั้งคนชอบ “ทำ” และคนชอบ “ธรรม”
เมื่อถูกถามว่า “นิพพาน คือ อะไร?”
ก็ยังไม่อาจรู้คำตอบเดียวสุดท้ายที่ว่านั้นได้เลย
ซึ่งคำตอบที่ถูกต้องตรงจริงเพียงหนึ่งเดียวนั้นก็คือ
“นิพพาน” คือ #การดับการเกิดดับได้ทุกสิ่ง
โดยคำตอบนี้ยังชวนให้หาคำตอบต่อไปได้อีกว่า
1.การดับการเกิดดับได้ คือ อย่างไร
2.ต้องดับการเกิดดับของสิ่งใดบ้าง
3.วิธีเข้าถึงการดับการเกิดดับของแต่ละสิ่ง
4.ทำไมนิพพานจึงต้องดับการเกิดดับของทุกสิ่ง
5.มรรคผลสูงสุดของนิพพานคืออะไร
นอกจากจะมีคำถามคำตอบอยู่ 5 ชุดที่ว่านี้แล้ว
พวกคุณยังต้องมีคำตอบที่ถูกต้องตรงจริงด้วยว่า
6.แดนนิพพานอยู่ที่ไหนกันแน่
7.จิตหยาบนิพพานจิตวิญญาณหลุดพ้นคืออะไร
8.คำว่า “หลุดพ้นนิพพาน” คือ อย่างไร
9.ผู้หลุดพ้นนิพพานแล้วต้องไปทางไหน
10.คุณสมบัติของผู้หลุดพ้น คือ อะไร
บัญญัติสิบประการที่เรายกมาเป็นตัวอย่างนี้
คนนำทางตาบอดที่เป็นกรรมกรแสงในยุคอดีต
จนมาถึงคนรุ่นใหม่ที่เป็นชาวแสงในยุคปัจจุบัน
ต่างล้วนถูก “ปั่นหัว” และ “ล้างสมอง”
ให้เข้าใจผิดจนหลงทางนิพพานกันมาทั้งสิ้น
เพราะคนนำทางตาบอดแม้จะปฏิบัติทำมานาน
แต่พวกเขาก็ยังไม่เคย “นิพพาน” มาก่อนเลย
เมื่อไม่เคยนิพพานการหลุดพ้นที่เป็นผลของมัน
พวกเขาก็ย่อมไม่มีประสบการณ์อีกเช่นเดียวกัน
คำอธิบายสอนในเรื่องนิพพานกับการหลุดพ้น
จากปากคำของพวกเขาจึงไม่น่าเชื่อถือใดๆเลย
เพราะพวกเขาบางคนได้ยินแค่เสียงจากในหัว
ด้วยการสื่อเสียงทางเดียวเป็นคำสอนจาก “มอด”
แล้วหลงผิดคิดว่าตน “สนทนากับพระเจ้า” ได้
ทั้งๆที่จิตหยาบและหน้าที่พิเศษที่ตนต้องทำ
ยังขาดพร้อมเพราะจิตหยาบยังรกด้วยกิเลสอยู่
จิตหยาบยังเข้าถึงอำนาจแห่งรักและปัญญาไม่ได้
นอกจากนั้น
ตนก็ไม่มีหน้าที่เป็น “พระโอวาทของพระเจ้า”
ที่จะกล่าวอนุตรธรรมจากพระเจ้าให้มนุษย์ฟัง
กรรมกรแสงพวกนี้จึงสนทนากับมอดมากกว่า
พระเจ้าทรงเป็นมหาสุญตาจะใช้แต่พระบุตรเอก
ที่ทรงส่งเข้ามาจุติในระบบโลกเท่านั้น
กราบพระบาทพระบิดาทรงเมตตา
เอเมน สาธุ
ปัญญาวิสุทธิ์
8/05/2566
เราจะกล่าวความจริงต่อท่านทั้งหลายว่า
ในกาลอดีตนับพันปีที่ผ่านมา
สัจธรรมคำสอนของพระศาสดาทุกศาสนา
ถูก “มอด” ที่เป็นสิ่งมีชีวิตผู้รุกรานจากต่างดาว
ทำการบิดเบือนจนเป็นคำสอนที่วิปริตผิดเพี้ยน
ที่พระเจ้าทรงกล่าวว่ามอด “บิดเบือนพระวจนะ”
เพื่อชักพาชาวโลกในแต่ละยุคให้หลงทำตาม
จึงเกิดการ “หลงอธรรม” จนหลงทางนิพพาน
หาทางกลับบ้านที่จิตวิญญาณจากมาไม่พบเจอ
ผ่านมานาน 6 หมื่นปีโลกจนถึงกาลสิ้นยุคแล้ว
ยังได้แต่ลดเลี้ยวขึ้นๆลงๆเขาวงกต
แล้วคดเคี้ยวขึ้นเขาพระสุเมรุกันต่อไปอีก
ขึ้นๆลงๆอย่างวกวนกันอยู่แบบนี้ไม่มีวันสิ้นสุด
โดยไม่รู้ว่า “ปลายทาง” นิพพานนั้นอยู่ไหนแน่
จนต้องถามกันเองว่า “แดนนิพพานอยู่ที่ไหน”
ซึ่งคำถามนี้คงหาคำตอบที่ต้องการได้ยาก
หากคนที่ถามยังไม่รู้ว่า #นิพพานคืออย่างไร?
เพราะแค่รู้ว่า #นิพพานคืออะไร? มันยังไม่พอ
เนื่องจากคำถามที่ว่า “นิพพานคืออย่างไร” นั้น
เป็นคำถามที่จะนำไปสู่คำตอบที่คุณต้องการได้
เพราะคุณถามหา #วิธีเข้าถึงนิพพาน โดยตรง
ของ “คนชอบธรรม” ที่มิได้เป็นแค่ “คนชอบทำ”
เป็นคำถามที่ต้องการคำตอบในเชิงปฏิบัติการ
ซึ่งเมื่อรู้คำตอบก็จะสามารถนำไปปฏิบัติจริงได้
ส่วนคำถามที่ว่า “นิพพานคืออะไร” นั้น
เป็นแค่คำถามที่คนส่วนใหญ่ชอบใช้ไถ่ถาม
ตามการอยากรู้อยากเห็นของจิตหยาบเท่านั้น
ไม่ต่างจากเด็กไร้เดียงสาเมื่ออยากรู้เรื่องใด
ก็จะถามพ่อแม่ว่า “นั่นอะไร-นี่อะไร?” จนเคยปาก
พ่อแม่เมื่อถูกถามก็จะตอบลูกให้รู้ในทันทีที่ถาม
โดยทั้งพ่อแม่และลูกจะละวางคำถามคำตอบนั้น
มิได้ใส่ใจติดตามหรือหยิบเอามันมาเป็นสาระอีก
ดังนั้น
เฉพาะคำถามที่ว่า #นิพพานคืออะไร?
คำตอบที่ได้จึงไม่ใช่คำตอบสุดท้ายของคนที่ถาม
เหมือนเด็กที่ถามพ่อแม่ว่าดวงกลมๆที่อยู่บนฟ้า
ในยามราตรีกาลนั้นมันคือ “อะไร” เมื่อเด็กได้เห็น
คำตอบที่พ่อแม่จะให้ลูกของตนได้คือ “ดวงจันทร์”
แต่ถ้าพ่อแม่นั้นไม่รู้คำตอบหรือว่ารู้ผิดแล้วตอบลูก
เด็กคนนั้นก็จะจำคำตอบที่ตนได้รู้เอาไว้แบบผิดๆ
เพราะไร้เดียงสาขาดประสบการณ์และยังคิดไม่เป็น
ด้วยเหตุนี้เอง
คนที่จะให้คำตอบว่า “นิพพาน คือ อะไร”
นอกจากจะมีผู้รู้เป็นจำนวนมากแล้ว
ยังมีคำตอบที่แตกต่างกันอย่างหลากหลายด้วย
แต่คำตอบที่ถูกต้องนั้นจะมีเพียงหนึ่งเดียว
ถ้าหากคำตอบที่ถูกต้องนั้นถูกบิดเบือนไปจากเดิม
มันจึงยากสำหรับคนทั่วไปที่จะเข้าถึงความจริงได้
นอกจากจะเชื่อตามคนนำทางตาบอดชราเท่านั้น
เพราะชาวบ้านเชื่อว่าพวกเขารอบรู้ธรรมะมากกว่า
โดยมองที่ฐานานุรูปภายนอกว่าน่าศรัทธาเลื่อมใส
ทุกวันนี้ทั้งคนชอบ “ทำ” และคนชอบ “ธรรม”
เมื่อถูกถามว่า “นิพพาน คือ อะไร?”
ก็ยังไม่อาจรู้คำตอบเดียวสุดท้ายที่ว่านั้นได้เลย
ซึ่งคำตอบที่ถูกต้องตรงจริงเพียงหนึ่งเดียวนั้นก็คือ
“นิพพาน” คือ #การดับการเกิดดับได้ทุกสิ่ง
โดยคำตอบนี้ยังชวนให้หาคำตอบต่อไปได้อีกว่า
1.การดับการเกิดดับได้ คือ อย่างไร
2.ต้องดับการเกิดดับของสิ่งใดบ้าง
3.วิธีเข้าถึงการดับการเกิดดับของแต่ละสิ่ง
4.ทำไมนิพพานจึงต้องดับการเกิดดับของทุกสิ่ง
5.มรรคผลสูงสุดของนิพพานคืออะไร
นอกจากจะมีคำถามคำตอบอยู่ 5 ชุดที่ว่านี้แล้ว
6.แดนนิพพานอยู่ที่ไหนกันแน่
7.จิตหยาบนิพพานจิตวิญญาณหลุดพ้นคืออะไร
8.คำว่า “หลุดพ้นนิพพาน” คือ อย่างไร
9.ผู้หลุดพ้นนิพพานแล้วต้องไปทางไหน
10.คุณสมบัติของผู้หลุดพ้น คือ อะไร
บัญญัติสิบประการที่เรายกมาเป็นตัวอย่างนี้
คนนำทางตาบอดที่เป็นกรรมกรแสงในยุคอดีต
จนมาถึงคนรุ่นใหม่ที่เป็นชาวแสงในยุคปัจจุบัน
ต่างล้วนถูก “ปั่นหัว” และ “ล้างสมอง”
ให้เข้าใจผิดจนหลงทางนิพพานกันมาทั้งสิ้น
เพราะคนนำทางตาบอดแม้จะปฏิบัติทำมานาน
แต่พวกเขาก็ยังไม่เคย “นิพพาน” มาก่อนเลย
เมื่อไม่เคยนิพพานการหลุดพ้นที่เป็นผลของมัน
พวกเขาก็ย่อมไม่มีประสบการณ์อีกเช่นเดียวกัน
คำอธิบายสอนในเรื่องนิพพานกับการหลุดพ้น
จากปากคำของพวกเขาจึงไม่น่าเชื่อถือใดๆเลย
เพราะพวกเขาบางคนได้ยินแค่เสียงจากในหัว
ด้วยการสื่อเสียงทางเดียวเป็นคำสอนจาก “มอด”
แล้วหลงผิดคิดว่าตน “สนทนากับพระเจ้า” ได้
ทั้งๆที่จิตหยาบและหน้าที่พิเศษที่ตนต้องทำ
ยังขาดพร้อมเพราะจิตหยาบยังรกด้วยกิเลสอยู่
จิตหยาบยังเข้าถึงอำนาจแห่งรักและปัญญาไม่ได้
นอกจากนั้น
ตนก็ไม่มีหน้าที่เป็น “พระโอวาทของพระเจ้า”
ที่จะกล่าวอนุตรธรรมจากพระเจ้าให้มนุษย์ฟัง
กรรมกรแสงพวกนี้จึงสนทนากับมอดมากกว่า
พระเจ้าทรงเป็นมหาสุญตาจะใช้แต่พระบุตรเอก
ที่ทรงส่งเข้ามาจุติในระบบโลกเท่านั้น
กราบพระบาทพระบิดาทรงเมตตา
เอเมน สาธุ
ปัญญาวิสุทธิ์
8/05/2566