03 พฤษภาคม 2566

คัมภีร์อนุตรธรรมภาคจิตจักรวาล 3/05/2023

พี่ๆน้องๆที่รักแห่งเราทั้งหลาย
เราจะกล่าวความจริงต่อท่านทั้งหลายว่า
 
ต่อนี้ไปเราจะเรียกพวก “มารตัวผู้”
ที่มีตัวตนรูปลักษณ์คล้ายว่าจะเป็นบุรุษ
แต่จิตปัญญานั้นไม่ใช่ว่า #ซาตาน
เราจะเรียก “มารตัวเมีย” ลักษณะคล้ายสตรี
ที่มีลูกตาคมกลมโตมีใบหน้าหวานมีผมยาว
สไตล์สวยทำด้วย “แอ้พแบ๊ว” ว่า #ลูซิเฟอร์
 
เราจะเล่าความจริงของมารตัวผู้หรือ “ซาตาน”
ที่ก้าวล่วงจ้วงจาบด้อยค่าตัวเราและพวกคุณว่า
เป็น “หนูน้อย” โดยยกอวยตัวเองว่าเป็นผู้เฒ่า
ที่หลงตนว่ามากด้วยภูมิรู้ภูมิทำและภูมิปัญญา
ทั้งๆที่แท้แล้วเป็นวิชามอดวิชามารล้วนๆ
 
ซาตานตนนี้มันเถียงแย้งว่า
ที่พระเจ้าทรงโปรดพวกคุณให้เรายกตัวอย่าง
ความรักที่บริสุทธิ์คือรักระหว่างพ่อแม่ลูก
ความรักแบบนี้ “บริสุทธิ์” เพราะไม่มีเงื่อนไข
ทั้งคนที่รักและคนที่ถูกรักจะมีเพียงความสุข
ที่เกิดขึ้นในจิตใจเป็นรางวัลตอบแทนเท่านั้น
 
ซึ่งแตกต่างจากความรักที่เป็นรักเพื่อจะเอา
หากไม่ได้เอาอะไรจากคุณบ้างฉันก็จะไม่รัก
หากไม่สมหวังคือรักเขาข้างเดียวตนก็จะทุกข์
ความรักประเภทนี้เราเรียกว่า #ความใคร่
อันหมายถึงความรักที่ยังต้องการสิ่งตอบแทน
ซึ่งเป็นความรักที่ยังมี “เงื่อนไข” อยู่นั่นเอง
 
ในกาลอดีตที่ผ่านมานับพันปี
องค์เยซูคริสต์เจ้าจึงตรัสย้ำต่อมนุษย์โลกว่า
ความรักในแบบที่ไร้เงื่อนไขอันเป็นรักบริสุทธิ์
หมายถึงคุณต้องรักลูกหลานของคนข้างบ้าน
ให้เหมือนกันกับที่คุณรักลูกหลานของคุณเอง
นี่คือรักแท้ที่บริสุทธิ์และรักจริง
 
แต่ซาตานตนนี้รู้ผิดแต่มาอวดรู้กับเราและพระเจ้า
จึงใช้ความรู้ของตนที่ถูกพ่อมอดหลอกลวงมา
โต้แย้งว่ารักของพ่อแม่ลูกเป็นรักที่ไม่บริสุทธิ์แท้
แสดงว่าซาตานตนนี้กำลังไม่เห็นคุณค่าน้ำนมแม่
จึงสรุปดื้อๆว่าพ่อแม่รักมันด้วยรักที่ไม่บริสุทธิ์
ที่ตัวมันเองรักพ่อแม่นั้นเป็นรักไม่บริสุทธิ์ด้วยรึไม่
 
ซาตานมารตัวผู้ตนนี้อ้างเหตุที่ไม่บริสุทธิ์ว่า
เพราะเป็นความรักในแบบ “อัตตารักอัตตา”
ฟังดูเหมือนเป็นศัพท์ชั้นสูงของคนภูมิธรรมสูง
คนที่ “โง่ง่าย” ฟังแล้วน้ำลายไหลเยิ้มคล้อยตาม
จนต้องแลบลิ้นเลียน้ำลายแผล็บๆๆๆๆเลยเชียว
ซึ่งพฤติกรรมเยี่ยงนี้กรรมกรแสงชอบแสดงกัน
 
เหตุเพราะซาตานหรือมารหน้าโง่ตนนี้ไม่รู้ว่า
ความรักของสามคนคือพ่อแม่ลูกที่พระเจ้าตรัสนั้น
ทุกคนรักกันเพราะ #รู้สามนึก ดีว่าใครเป็นใคร
ซึ่งคนนำทางตาบอดเคยถูกมอดหลอกจนสับสน
ระหว่างคำว่า #รู้สึก กับคำว่า “รู้สามนึก” นี่แหละ
 
ดังนั้น
การที่พ่อแม่ลูกรักกัน
ก็เพราะต่างคนต่างรู้สึกอยู่เสมอว่าใครเป็นใคร
นี่คือการโกหกตอแหลของพวกมอดที่บิดเบือน
พาให้มนุษย์ที่โง่ง่ายหลงทางหลงทำผิดกันมา
จนกลายเป็นพวกเสพติดกิเลสกันเกือบหมดโลก
เพราะแค่ใช้ความรู้สึกว่าเป็นพ่อแม่ลูกกันนั้น
มันเป็นการตื้นเขินทางจิตตปัญญาของมนุษย์
 
เนื่องจาก “ความรักบริสุทธิ์” มันคือสัญชาตญาณ
ไม่ว่าในสัตว์เดรัจฉานสัตว์ประจำโลกหรือมนุษย์
พระเจ้าทรงติดตั้งความรักบริสุทธิ์เอาไว้ให้ทั้งสิ้น
แค่เข้าถึงสัญชาตญาณได้ก็แสดงต่อกันได้แล้ว
 
การมีสำนึกว่าใครเป็นพ่อเป็นแม่เป็นลูก
มันเป็นสิ่งไม่บริสุทธิ์ที่ตรงไหนกัน
หากพวกคุณไม่มีสำนึกกันในแบบที่ว่านี้
มนุษย์จะมีความกตัญญูกตเวทีได้อย่างไร
ลูกจะฆ่าพ่อฆ่าแม่หรือทำตนเนรคุณพ่อแม่
พ่อแม่ก็จะฆ่ากันตายเองหรือไม่ก็ฆ่าลูกตาย
แบบที่พวกมอดต่างดาวเขาฆ่ากันตายเอง
เพราะไม่มีสำนึกในการเป็นพวกเดียวกัน
แบบที่พวกมอดสร้างเชื้อโรคและอาวุธร้าย
ให้พวกมารหรือซาตานใช้ฆ่ามนุษย์ด้วยกันเอง
เพื่อช่วงชิงโลกหวังประโยชน์เพราะไร้จิตสำนึก
อย่างใจดำอำมหิตและโหดร้ายเป็นอันมาก
 
พวกมอดบางเผ่า
ชอบกินเลือดเนื้อของมนุษย์เด็กผิวดำเป็นอาหาร
ก็เพราะมันไม่มีจิตสามนึกคุณธรรมแบบมนุษย์
มันใช้แต่กิเลสเสพสมทุกสิ่งที่มันชอบที่มันพอใจ
คำสอนต่างๆที่มอดถ่ายทอดมาถึงรุ่นมารยุคใหม่
มันจึงผิดเพี้ยนไปมากมายจนขนาดนี้ได้
 
เราจะกล่าวความจริงต่อพวกคุณว่า
การมีสำนึกรู้ว่าตนเองนั้นมีอยู่ เป็นอยู่ ทำอยู่
การมีสำนึกรู้ว่าตนเป็นใคร เขาเป็นใคร
การมีสำนึกรู้ว่าตนต้องรักและต้องทำในสิ่งดีงาม
มันเป็นเรื่องของจิตสามนึกของ #จิตหยาบ
ที่พระเจ้าทรงติดตั้งไว้ให้จิตหยาบได้ใช้งาน
ในขณะเกิดเป็นมนุษย์อยู่ในระบบโลกเสรีนี้
มันมิได้เกี่ยวข้องอะไรกับจิตวิญญาณเลยสักนิด
 
เพราะมารโง่จนหิวแสงแล้วยังไม่พอ
ยังเอาความไม่รู้หรือความรู้ผิดที่ถูกหลอกลวง
มาโชว์โง่โต้แย้งทำสามหาวกับเราอีกต่างหาก
เพราะกลัดกระดุมเม็ดแรกผิดคิดว่ามนุษย์โลกนั้น
เหมือนพ่อมอดของมันที่มีแต่จิตวิญญาณ
ไม่มีจิตหยาบทำหน้าที่แทนขณะเป็นมนุษย์
แล้วนำเอาเรื่องอัตตาอนัตตามาสร้างลัทธิใหม่
 
เพราะมอดเห็นแล้วว่าเป็นเรื่องที่เข้าใจยาก
พวกมารหรือซาตานจึงพยายามทำอวดเบ่งคุยโว
โดยหลงตัวเองว่าเชี่ยวชาญในเรื่องอัตตาอนัตตา
ทั้งๆที่ยังงูๆปลาๆกันอยู่เลยซาตานทั้งหลายเอ๋ย
 
พวกมอดจึงยืมมือมารที่เป็นซาตานรุ่นใหม่
สร้างความสับสนวุ่นวายในหมู่คนชอบธรรม
เพื่อต้องการสร้างลัทธิต่างดาวให้ผู้คนเข้ารีต
โดยเห็นว่าหลอกให้ชาวบ้านกลัวทุกข์สำเร็จแล้ว
หลอกให้ย้ายจิตวิญญาณไปเกิดบนสวรรค์แล้ว
มายุคนี้ก็หลอกให้ผู้คนสับสนเรื่องอัตตาอนัตตา
เพื่อปิดประตูนิพพานของจิตวิญญาณพวกคุณ
 
ทำอะไรนิดอะไรหน่อยก็มีอัตตาเป็นอัตตา
จนมนุษย์ขลาดกลัวลนลานไปหมด
โดยมีคำถามประหลาดๆเกิดขึ้นมามากมายในยุคนี้
ตัวอย่างเช่น
 
#นิพพานเป็นอัตตาหรืออนัตตา
#กรรมฐานสมาธิเป็นอัตตาหรืออนัตตา
#จิตวิญญาณเป็นอัตตาหรืออนัตตา
 
เป็นคำถามที่ชวนให้คนชอบธรรมสับสน
ชวนให้คนชอบธรรมขัดแย้งกันมากกว่าสร้างสรรค์
เพราะไม่ว่าสิ่งที่ถามนั้นจะเป็นอัตตาหรืออนัตตา
พวกคุณที่เป็นมนุษย์ก็ไม่ได้เกิดประโยชน์อะไร
เพียงรู้ว่า #อัตตาคืออย่างไร #อนัตตาคืออย่างไร
แค่เข้าใจความหมาย 2 สัจธรรมเหล่านี้ก็พอแล้ว
 
บทเรียนบทต่อไป
เราจะอธิบายคำว่า “อัตตา-อนัตตา” ให้รู้แจ้ง
 
กราบพระบาทพระบิดาทรงเมตตา
 
เอเมน สาธุ
ปัญญาวิสุทธิ์
3/05/2566