19 พฤษภาคม 2566

คัมภีร์อนุตรธรรมภาคจิตจักรวาล 19/05/2023


(เพื่อยุวจิตจักรวาลยุคสุดท้าย)
 
พี่ๆน้องๆที่รักแห่งเราทั้งหลาย
เราจะกล่าวความจริงต่อท่านทั้งหลายว่า
 
เพราะดาวโลกดวงนี้เป็น #ดาวแห่งทางเลือกเสรี
ที่พระเจ้าทรงประทานอนุญาตให้พวกคุณทุกคน
ซึ่งดำรงอยู่ในระบบโลกนี้มีอิสระในการคิดและทำ
สิ่งที่ตนประสงค์โดยไม่ต้องให้ใครสั่งหรือบงการ
ไม่ต้องให้ใคร #ครอบงำ ด้วยอำนาจเหนือนำคุณ
ให้จำใจทำหรือถูกจูงใจให้ทำตามที่เขาต้องการ
โดยที่คุณมิได้เห็นพ้องหรือเห็นชอบกับเขาด้วย
 
เพราะคุณมี #พลังอำนาจ อยู่ในตนเอง
ที่พระเจ้าทรงประทานเอาไว้ให้ตั้งแต่แรกแล้ว
ที่คุณสามารถใช้เป็นเครื่องมือในการปฏิบัติ “ทำ”
เพื่อให้บังเกิดผลสำเร็จใดๆได้ตามที่คุณต้องการ
โดย “พลังอำนาจในตนเอง” ที่คุณมีประกอบด้วย
 
1.อำนาจภายใน
ในที่นี้เราหมายถึง อำนาจทาง “จิตตปัญญา”
 
โดยอำนาจทางจิตตปัญญาคือพลังงานของจิต
ที่ได้จากการสั่นสะเทือนทางด้านบวกสูงสุด
กระตุ้นเซลล์สมองในการใช้ปัญญาเพื่อการคิดรู้
ทั้งเรื่องยากและเรื่องง่ายๆให้ได้รู้ด้วยตนเองได้
โดยไม่ต้องพึ่งสติปัญญาจากสมองของใครอื่น
 
นอกจากนั้น
อำนาจทาง “จิตตปัญญา” คือพลังงานของจิต
ที่ได้จากการสั่นสะเทือนทางด้านบวกสูงสุด
จนสามารถเข้าถึง #ความรักบริสุทธิ์ คือพระเจ้า
ในแบบของ “รักเพื่อให้” ที่ไร้เงื่อนไขได้ทุกสิ่ง
เป็นรักที่ไม่ต้องการสิ่งใดแลกเปลี่ยนตอบแทน
แต่เป็นรักบริสุทธิ์ที่ผุดขึ้นมาจาก #จิตสามนึก
ดุจดั่งตาน้ำใสขนาดเล็กที่ผุดขึ้นมาเป็นบ่อใหญ่
ที่ใครผ่านไปมาก็สามารถจะตักขึ้นมาดื่มกินได้
 
พลังอำนาจทางจิตตปัญญาของคุณ
มันจะมากน้อยสูงต่ำระดับใดแค่ไหนนั้น
ขึ้นอยู่กับว่าคุณสามารถเข้าถึงมันได้ดีแค่ไหน
โดยพวกคุณต้องเรียนรู้ว่าจะเข้าถึงมันได้ยังไง
 
ตัวอย่างเช่น
ถ้าคุณจะเข้าถึงความรักหรือพระเจ้าในตนเองได้
จิตหยาบคุณในปัจจุบันขณะจะต้องว่างจากกิเลส
โดยเมื่อรับรู้สิ่งใดเมื่อไหร่ก็ต้องไม่รับเอาสิ่งนั้น
มาปรุงแต่งจนทำให้แรงสั่นสะเทือนของจิตตกต่ำ
จนพลังอำนาจจิตไม่สูงพอที่จะเข้าถึงความรักแท้
ซึ่งเป็นคุณสมบัติทางจิตวิญญาณของคุณเองได้
ดั่งคนแขนสั้นจนเกินเอื้อมที่จะตักน้ำในโอ่งลึกนั่น
 
ถ้าจะกล่าวในทางกายภาพให้ชัดก็คือ
จิตหยาบคุณจะต้องสั่นสะเทือนต่อมไพเนี่ยลแล้ว
ส่งผลให้ต่อมพิทูอิทารี่อันเป็นที่ตั้งของความรัก
ซึ่งจิตวิญญาณผู้เป็นแก่นแท้ของคุณดำรงตนอยู่
ให้สั่นสะเทือนตามจนสั่นสะเทือนร่วมกันให้จงได้
แปลว่าจิตหยาบต้องสั่นสะเทือนด้านบวกสูงพอ
ในทางปฏิบัติจริงก็คือจิตหยาบคุณต้องใสพิสุทธิ์
ไม่มีสนิมกิเลสเกาะกินอย่างเกรอะกรังจนอ่อนแอ
จนเป็นที่มาของคำว่า #นิพพานกิเลส ให้หมดสิ้น
เพื่อเข้าถึงพลังอำนาจทางจิตตปัญญาสูงสุดได้
 
ถ้าคุณสามารถรักษาจิตหยาบให้สงบ
โดยว่างไปจากกิเลสที่คุณชอบเสพอยู่รายวันได้
ถ้าคุณสามารถที่จะกำหนดนึกเรื่องที่จะคิดให้ชัด
โดยคิดทีละเรื่องเรียงตามลำดับเรื่องที่ต้องคิดนั้น
คิดอย่างมีหลักการและเหตุผลและคิดไปตามจริง
ไม่คิดแบบ “การ์ตูน” หรือ คิดแบบเพ้อฝัน
คิดอย่างต่อเนื่องจนกว่าจะได้รับคำตอบที่ต้องการ
เงื่อนไขเหล่านี้คือประสิทธิภาพทางจิตตปัญญา
ที่คุณฝึกฝนเพื่อการเข้าถึงมันได้ในชีวิตประจำวัน
เพราะพระเจ้าทรงเตรียมการไว้ให้คุณแล้ว
 
ดังนั้น
พวกคุณแต่ละคนที่เกิดมาในชาตินี้
ไม่ว่าจะดีหรือเลว จะโง่หรือฉลาด
จะเป็นคนเป็นโคหรือเป็นควายในร่างมนุษย์
คุณจะติโทษพระบิดาแห่งจิตวิญญาณไม่ได้
คุณจะต้องติโทษตัวเองฐานที่ไม่เอาไหน
 
เขาหลอกให้เสพติดกิเลสก็เสพตามเขาไป
เขาบอกอะไรก็เชื่อตามเขาโดยไม่ยอมคิดตาม
เขายั่วยุเย้ายวนให้จิตตกก็ปล่อยให้จิตตกง่ายๆ
 
เขาสอนให้ปฏิบัติทำเพื่อตนเองก็เชื่อตาม
เช่น ทำบุญเบื้องล่างเอาไปสร้างวิมานเบื้องบน
ทำบุญหลายหนเพื่อให้ได้กุศลหลายครั้ง
ซึ่งเป็นการทำบุญที่จิตยังมีกิเลสแฝงกันอยู่เลย
บุญกุศลที่หมั่นก่อกรรมมุ่งทำมันจึงบริสุทธิ์ไม่ได้
เมื่อเป็นการทำดีที่ไม่บริสุทธิ์เช่นว่านี้แล้ว
พลังจิตที่เหวี่ยงออกมาโลกจึงใช้ประโยชน์มิได้
เพราะนำไปใช้บิดแกนแม่เหล็กในใจกลางโลก
เพื่อช่วยให้โลกเหวี่ยงหมุนรอบตัวเองมิได้เลย
โลกจึงเสียสมดุลรุนแรงมากขึ้นทุกวัน
 
เพราะเข้าถึงอำนาจในตนเองที่มีอยู่ไม่ได้
พวกคุณจึงต้องเป็นทาสกิเลสตัณหาอารมณ์ขยะ
จนไม่อาจใช้ความรักหมุนธรรมจักรกับใครได้
 
พวกคุณจึงต้องตกเป็นทาสของคนชั่วในสังคม
พวกคุณจึงต้องถูกคนชั่วที่ฉลาดกว่าหลอกลวง
พวกคุณส่วนใหญ่จึงฉลาดกันแต่เรื่องชั่วๆ
พวกคุณส่วนน้อยเท่านั้นที่จะฉลาดกันแต่เรื่องดีๆ
 
เมื่อพระเจ้าทรงอนุญาตให้โลกนี้มีเสรี
จึงประทานพลังอำนาจการคิดเห็นเป็นทำไว้ให้
พวกคุณจึงต้องเรียนรู้และฝึกฝนใช้มันให้ชำนาญ
โดยคุณจะต้องรู้ว่าแม้โลกนี้จะมีเสรีก็จริงอยู่
แต่พวกคุณจะต้องพร้อมรับผลกรรมที่ก่อไว้ด้วย
พระองค์จึงทรงมี #กฎแห่งกรรม บัญญัติเอาไว้
ให้ใช้เป็นบทเรียนและบททดสอบของพวกคุณ
เพื่อเป็นคำตอบสุดท้ายในเรื่องบาปบุญคุณโทษ
 
(ยังมีต่อในตอนต่อไป)
 
สื่อถ่ายทอดคลื่นความคิดในระบบจิตสู่จิต
จากองค์จิตจักรวาลดวงใหญ่
 
ปัญญาวิสุทธิ์
19/05/2566