13 พฤษภาคม 2566

คัมภีร์อนุตรธรรมภาคจิตจักรวาล 13/05/2023

พี่ๆน้องๆที่รักแห่งเราทั้งหลาย
เราจะกล่าวความจริงต่อท่านทั้งหลายว่า
 
พระบิดาแห่งจิตวิญญาณคือองค์จิตจักรวาล
ซึ่งรูปธรรมมีชีวิตทั่วอนันตจักรวาลที่ทรงสร้าง
ต่างน้อมเศียรเกล้าถวายพระนามแด่พระองค์ว่า
#พระเจ้า หรือ #องค์พระผู้เป็นเจ้า
ทรงออกแบบให้ชาวดาวโลกเป็น “คนสองมิติ”
โดยมีจิตหยาบกับกายหยาบทำงานร่วมกัน
 
ทรงกำหนดให้ “จิตหยาบ” เป็นดั่งไข่แมงมุม
ที่แม่แมงมุมก็คือจิตวิญญาณผู้ขันอาสามาเกิด
แบกขนจิตหยาบที่เป็นกลุ่มพลังงาน 189 กลุ่ม
ซึ่งยังไม่มีรูปทรงเรขาคณิตเป็นการเฉพาะตน
เพราะยังเป็นกลุ่มพลังงานที่ไม่สมดุลในตนเอง
เมื่อไม่สมดุลกลุ่มพลังงานนี้จึงอยู่ในมิติที่ศูนย์
 
หน้าที่ของจิตวิญญาณตัวจริงผู้อาสามาเกิดคือ
จะต้องคอยช่วยเหลือจิตหยาบให้ยกระดับ
จากมิติที่ศูนย์จนถึงมิติที่สี่ให้ได้ภายในเก้าเดือน
ขณะอยู่ในช่วงการปฏิสนธิภายในครรภ์มารดา
โดยพ่อแม่ของผู้มาเกิดจะร่วมกันสั่นสะเทือน
เป็น #ความรักบริสุทธิ์ แบบ “รักเพื่อให้”
อันเป็นความรักบริสุทธิ์เพราะไม่มีเงื่อนไขใดๆ
เหมือนแม่นกที่เฝ้ากกไข่จนลูกออกมาเป็นตัวได้
 
การกกไข่ของแม่นกก็จะมีนกตัวผู้คอยดูแลด้วย
ช่วยกันหมุนธรรมจักรด้วยความรักแบบพ่อแม่ลูก
เพียงไม่กี่วันไข่นกนั้นก็จะแตกออกมาเป็นลูกนก
แล้วค่อยๆเติบโตมีขนมีปีกมีพลังที่พ่อแม่นกดูแล
คอยป้อนหนอนป้อนแมลงให้เจ้าตัวน้อยกินจนอิ่ม
ที่ใช้เวลาฟักไข่จนเป็นลูกนกและโตเร็วในไม่กี่วัน
ก็เป็นเพราะลูกนกที่เกิดใหม่นั้นไม่มีจิตหยาบ
มีแต่จิตวิญญาณซึ่งอยู่ในมิติที่ 6D เท่านั้นเอง
จึงยังผลให้ลูกนกโตเร็วกว่าทารกของมนุษย์
 
ที่สำคัญก็คือ
พระเจ้าทรงออกแบบให้จิตวิญญาณของนก
เมื่ออาสามาเกิดเป็นนกแล้วไม่ต้องกลับบ้าน
จึงทรงกำหนดให้นกและสัตว์ทั้งหลายบนโลกนี้
ทำหน้าที่เป็น #สัตว์ประจำโลก ไม่ต้องไปไหน
พวกเขาต้องเวียนเกิดเวียนตายอยู่ในระบบโลก
เพื่อใช้ “ความรักบริสุทธิ์” สั่นสะเทือนจิตวิญญาณ
ด้วย “สัญชาติญาณ” ในการดำเนินชีวิตเท่านั้น
เพียงเท่านี้สัตว์ก็ใช้เมตตาธรรมคำจุนโลกได้แล้ว
 
แต่พิเศษสำหรับมนุษย์โลกนี้เท่านั้น
ทรงกำหนดให้จิตวิญญาณทุกคนต้องกลับบ้าน
จึงทรงออกแบบให้มนุษย์สั่นสะเทือนจิตสามนึก
เพื่อให้เกิดการกระทำใน #สองมิติ พร้อมกันไป
เพราะจิตสามนึกของจิตหยาบของพวกคุณนั้น
เมื่อมันสั่นสะเทือนเป็นการรับรู้เพื่อเรียนรู้เมื่อใด
กระบวนการของจิต 5 ขั้นตอนก็จะเกิดขึ้นมาได้
โดยขั้นตอนที่ห้าซึ่งเป็น “วิญญาณขันธ์” นั้น
จะเป็นเงื่อนไขให้ #จิตใต้สำนึก สั่นสะเทือนตาม
เพื่อให้เกิด “ผลกรรม” ในมิติของจิตวิญญาณ
ตามที่จิตสามนึกของจิตหยาบนั้นต้องการต่อไป
 
ถ้าจิตหยาบว่างไปจากกิเลสได้มากเท่าไหร่
จะสั่นสะเทือนเป็นคลื่นความถี่สูงได้มากเท่านั้น
ถ้าทุกวันเวลาในยามตื่นจิตหยาบไม่เหลวไหล
สามารถสั่นสะเทือนด้านบวกคือหมุนธรรมจักรได้
การยกระดับตนเองจากมิติที่ 4D หลังคลอดแล้ว
ให้สูงขึ้นเสมอจิตวิญญาณ คือ 5D และ 6D
ก็จะประสบความสำเร็จได้เร็วขึ้นได้เช่นเดียวกัน
 
พวกคุณต้องจำเอาไว้เสมอว่า
สมการ “ซัมเบต้า X” มิใช่จะเกิดจากพ่อแม่ลูก
โดยตัวเอ็กซ์นี้ต้องแทนค่าเท่ากับสามเท่านั้น
แต่จำนวน 2 ในสามจะเป็นคนรอบข้างใครก็ได้
ซึ่งหนึ่งในสามคนนั้นต้องเป็นตัวคุณใช่ใครอื่น
แปลว่าพลังงานรวมจากจิตสามนึกด้านบวก
ที่คนรอบข้างเขารักและพึงพอใจตัวคุณนั้น
มันจะต้องเริ่มต้นจากตัวคุณเองต้องรักเขาก่อน
ไม่ต่างจากคุณยิ้มให้ใครเขาก็จะยิ้มรับกลับมา
พระเจ้าหรือพระบิดาฯทรงออกแบบไว้อย่างนั้น
ถ้าคุณแจกยิ้มกับเขาก่อนได้อย่างไม่มีเงื่อนไข
นั้นคือการกำหนดให้เขาต้องยิ้มตอบคุณนั่นเอง
 
นอกจากนั้น
การสั่นสะเทือนจิตสามนึกด้านบวกด้วยขันธ์ห้า
โดยการนึกดีคิดดีทำดีกับคนรอบข้างทุกคน
เพื่อเป็นเงื่อนไขด้านบวกในการกระตุ้นจิตสามนึก
ให้พวกเขาหมุนธรรมจักรด้วยความรักต่อคุณแล้ว
ในมิติทางพลังงานด้านแก่นแท้คือจิตวิญญาณ
พวกคุณทุกคนก็จะผลิตพลังงานไฟฟ้าด้านบวก
ออกมาในรูปของ “พลังร่วมบริสุทธิ์” มอบให้โลก
เพื่อช่วยให้โลกหมุนรอบตัวเองอย่างต่อเนื่องด้วย
 
ถ้าดาวโลกสามารถหมุนรอบตัวเองต่อเนื่องได้
โลกทั้งระบบก็มีความสมดุลต่อเนื่องได้เช่นกัน
ความสงบจากภัยพิบัติทุกรูปแบบก็จะบังเกิดขึ้น
มนุษย์ทุกคนและสัตว์ทุกตัวก็จะไม่เสียชีวิต
อันมีเหตุจากภัยพิบัติทั้งหลายตราบนานเท่านาน
 
กราบพระบาทพระบิดาทรงเมตตา
 
เอเมน สาธุ
ปัญญาวิสุทธิ์
13/05/2566