(เพื่อยุวจิตจักรวาลยุคสุดท้าย)
พี่ๆน้องๆที่รักแห่งเราทั้งหลาย
เราจะกล่าวความจริงต่อท่านทั้งหลายว่า
ตามที่เรากล่าวเอาไว้เมื่อตอนต้นว่า
ผู้ที่จะได้รับประทานตราประทับจากพระเจ้า
ผู้ที่ทรงคัดไว้ให้ได้รับความรอดแน่นอนแล้วนั้น
มีจำนวนทั้งสิ้น 144,000 คนโดยแบ่งเป็นสองส่วน
ส่วนหนึ่งเป็นผู้ที่พระบุตรเอกทรงคัดเลือกเอาไว้เอง
ให้ช่วยกันสัญจร “แจกขนมปัง” ของพระเจ้าแทน
ในช่วงเวลาที่เสด็จกลับคืนพระนิเวศน์ของพระเจ้า
เพื่อไปจัดที่ทางรอเจ้าสาวของพระองค์ให้พร้อมไว้
สำหรับประดาเจ้าสาวที่พร้อมให้ทรงจูงเข้าห้องหอ
กับอีกจำนวนหนึ่งซึ่งเป็นผู้ที่พระเจ้าทรงเจิมแต่งเอง
เพื่อให้ทำงานบางสิ่งขณะพระบุตรเอกยังไม่กลับมา
ดังนั้น
จงอย่าเพิ่งเข้าใจผิดโดยคิดเหมาเอาเองว่า
จำนวนรายชื่อ “แสนสี่หมื่นสี่พันคน” ในม้วนหนังสือ
ที่พระเจ้าทรงประทานไว้ให้เราเป็นผู้เก็บรักษาไว้นี้
จะมีรายชื่อของคนส่วนใหญ่รวมทั้งตัวคุณอยู่ด้วย
ถ้าคุณมิใช่ผู้ที่พระเจ้าทรงเจิมแต่งให้ทำงานพิเศษ
และมิใช่ผู้ที่พระบุตรเอกทรงแต่งตั้งให้แจกขนมปัง
แก่ประดาชาวบ้านระหว่างที่พระองค์เสด็จกลับไป
คุณก็จะเป็นเช่นเดียวกันกับมนุษย์โลกส่วนใหญ่
คือมีหน้าที่จะต้อง #พิพากษาตนเอง เท่านั้น
การพิพากษาตนเองของพวกคุณ
อยู่ที่ว่าคุณยอมรับพระบิดาฯและศรัทธาเราหรือไม่
เพราะถ้าคุณไม่ยอมรับในองค์จิตจักรวาล
ซึ่งเป็นพระบิดาแห่งจิตวิญญาณของพวกคุณเอง
และคุณไม่ศรัทธาการกลับมาทำหน้าที่ของเรา
พระโอวาทของพระเจ้าที่ทรงกล่าวผ่านเรามายังโลก
ก็จะเป็นเพียงแค่ลมพัดผ่านหูซ้ายทะลุหูขวาเท่านั้น
ซึ่งไร้ค่าหาประโยชน์ไม่ได้ในความโชคดีที่คุณพบเรา
ดังนั้น
จงใส่ใจใน “คุณสมบัติ” ของผู้ที่จะได้รับความรอด
ใน 3 ประการที่เรากล่าวมาให้รับรู้รับทราบไปแล้ว
ซึ่งมันยังจะมีมากกว่าสามประการที่กล่าวนี้อีกนะ
เราจะค่อยๆทยอยบอกกล่าวเล่าขานให้รู้กันต่อไป
เพื่อให้คุณใช้เวลาช่วงสุดท้ายของชีวิตในชาตินี้
เป็นช่วงของ #นาทีทอง ที่คุณต้องเหลวไหลมิได้
เพราะเวลาของพวกคุณเหลือน้อยเต็มทีแล้ว
คำว่าใสใจในคุณสมบัติของผู้ปรารถนาการหลุดพ้น
ในที่นี้เราหมายถึงการขยันเข้าห้องเรียนหมั่นเรียนรู้
ทำตัวเป็นนักเรียนที่รักการเรียนรู้รักครูรักห้องเรียน
ไม่โดดร่มไม่โดดเรียนไม่เถลไถลเฉไฉไปทางอื่น
หากไม่รู้ไม่เข้าใจบทเรียนตอนไหนก็ให้กล้าไถ่ถาม
อย่าทำเป็นอมพะนำอมภูมิเอาไว้เอง
สัจธรรมที่ถูกเผยแพร่เอาไว้ในโลกที่ผ่านมา
คุณจักต้องรู้ว่าศัตรูของมนุษย์นั้นทำการบิดเบือนไว้
จนยังผลให้ #ในจริงมีเท็จ #ในเท็จมีจริง ปนอยู่
ทำให้ยากยิ่งแก่การทำความเข้าใจให้ถูกตรง
นอกจากพระเจ้ากับพระศาสดาเท่านั้นเอง
ที่จะสามารถเปิดเผยเฉลยความจริงให้พวกคุณรู้ได้
ว่าไหนเป็นสัจธรรมที่ตรงจริงไหนคือสิ่งบิดเบือน
เพราะมนุษย์ถูกหลอกให้เสพติดกิเลสกันมาตลอด
จึงยังผลให้กิเลสเกาะกุมจิตหยาบจนเป็นดั่งสนิม
“สนิมของจิต” คือกิเลสที่หนาขึ้นทุกวันในทุกภพชาติ
เป็นตัวการให้จิตหยาบผุพังเหมือนเหล็กที่ขึ้นสนิม
เมื่อผุพังจิตก็ชำรุดใช้ทำงานเพื่อจิตวิญญาณไม่ได้
เมื่อใช้การไม่ได้แล้วพวกคุณจึงต้องตายเพื่อเซ็ทซีโร่
คำว่า “เซ็ทซีโร่” คือการเริ่มต้นกันใหม่ในภพชาติใหม่
เพื่อใช้จิตหยาบกลุ่มใหม่ที่ยังใสบริสุทธิ์อยู่ทำแทน
นอกจากนั้น “สนิมของจิต” คือ #กิเลส
ยังเป็นตัวการให้พวกคุณเข้าถึงความรักบริสุทธิ์
ในแบบ “รักเพื่อให้” หรือ “รักที่ไร้เงื่อนไข” ไม่ได้
ยังเป็นตัวการให้ใช้ปัญญาของสมองไม่ได้อีกด้วย
เพราะจิตหยาบจะเข้าถึงความรักและปัญญาได้
ต้องเข้าถึงการสั่นสะเทือนด้านบวกสูงสุดได้เท่านั้น
เพื่อยกระดับแรงสั่นสะเทือนให้ถึงจิตวิญญาณนั่นเอง
เนื่องจากจิตวิญญาณตัวตนแก่นแท้ของคุณเท่านั้น
มีความรักบริสุทธิ์ซึ่งแบกขนมาจากพระเจ้าจนเต็มล้น
ถ้าจะนำเอาความรักออกมาให้แก่โลกและคนอื่นได้
เพื่อใช้หมุนธรรมจักรร่วมกันตาม “พันธสัญญา 6”
จิตหยาบจึงจะต้องยกระดับแรงสั่นสะเทือนให้สูงสุด
เพื่อน้อมนำเอาสิ่งล้ำค่าคือความรักจากพระเจ้า
ที่จิตวิญญาณแบกขนมาเกิดเป็นมนุษย์ให้จงได้
ความรักบริสุทธิ์คือ #พระเจ้าในตนเอง ของคุณ
ถ้าคุณเข้าถึงความรักในตนเองได้เมื่อไหร่ก็ตาม
พระเจ้าจะทรงรับรู้แรงสั่นสะเทือนของคุณโดยพลัน
คุณไม่ต้องเที่ยวถามหาเลยว่า “พระเจ้าอยู่ที่ไหน”
เพราะพระองค์ทรงประทับอยู่กับคุณ
ตั้งแต่คุณเดินทางข้ามมิติเข้ามาในเอกภพ
เพื่ออาสามาเกิดเป็นคนสองมิติอยู่ในระบบโลก
โดยเป้าหมายสำคัญคือ “คนตนเองเพื่อเป็นมนุษย์”
อันหมายถึงการร่วมกันหมุนธรรมจักรด้วยขันธ์ห้า
เพื่อผลิตพลังงานจิตในรูปของคลื่นไฟฟ้าแม่เหล็ก
มอบให้โลกใช้เป็นพลังงานในการบิดแกนแม่เหล็ก
จนทำให้โลกทั้งดวงเหวี่ยงหมุนรอบตัวเองต่อเนื่อง
โลกทั้งระบบก็จะสงบสมดุลได้อย่างยั่งยืน
โดยจิตวิญญาณแก่นแท้ของพวกคุณทุกคน
มีเวลาที่จะปฏิบัติภารกิจอันยิ่งใหญ่ที่ว่านี้ให้สำเร็จ
ภายในเวลาหกหมิ่นปีโลกโดยไม่มีหน้าที่ต้องตาย
เพราะการหมุนธรรมจักรรายวันของจิตหยาบนั้น
นอกจากพระเจ้าให้คุณช่วย “ค้ำจุนสมดุลโลก” แล้ว
ทรงออกแบบให้การหมุนธรรมจักรกับคนรอบข้าง
ช่วยยกระดับแรงสั่นสะเทือนจิตหยาบของทุกคน
สู่มิติที่สูงขึ้นให้เข้าถึงจิตวิญญาณของแต่ละคนด้วย
โดยจะยกระดับจากมิติปกติที่ 4D ขึ้นสู่ 6D นั่นเอง
หากใครประพฤติไม่ดีกับคุณหรือทำชั่วกับคุณ
แล้วคุณสามารถอดทนอดกลั้นให้อภัยต่อเขาได้
แปลว่าถ้าชั่วมาข้าก็จะดีตอบถ้าดีมาข้าก็ดีตอบ
โดยคุณทำตัวเป็นเงื่อนไขด้านบวกต่อเขาได้
แม้ว่าเขาจะเป็นเงื่อนไขด้านลบให้คุณก็ตาม
ทั้งเขาทั้งคุณและโลกก็จะได้ประโยชน์ไปเต็มๆ
(ยังมีต่อในตอนต่อไป)
สื่อถ่ายทอดคลื่นความคิดในระบบจิตสู่จิต
จากองค์จิตจักรวาลดวงใหญ่
ปัญญาวิสุทธิ์
18/05/2566