05 พฤษภาคม 2566

คัมภีร์อนุตรธรรมภาคจิตจักรวาล 5/05/2023

พี่ๆน้องๆที่รักแห่งเราทั้งหลาย
เราจะกล่าวความจริงต่อท่านทั้งหลายว่า
 
ซาตานที่จะยกตนเป็นคนนำทางตาบอดรุ่นใหม่
ซึ่งหน้าที่เป็นแผงโซล่าเซลล์ให้พวกมอดกันนั้น
ถูกมอดหลอกลวงด้วยการบิดเบือนคำสอนอีกว่า
 
#เสรีภาพแห่งศรัทธา
#คือการไม่มีกฎบัญญัติสักข้อ
#เพื่อให้เกิดความสัมพันธ์
#หรือมีเงื่อนไขเพื่อให้เกิดความรัก
 
ความในเครื่องหมายคำพูดที่เรายกมานั้น
มันเป็นความจริงสำหรับสิ่งมีชีวิตบนดาวอื่น
จะนำมาใช้เป็นบริบทของมนุษย์โลกไม่ได้
การสอนแบบนี้เราไม่แน่ใจว่าพวกมอดมาร
ต้องการบิดเบือนจริงๆหรือสอนเพราะความไม่รู้
หรือเพราะต้องการที่จะอวดว่าตนรู้ดีกว่า
หรือต้องการล้างสมองคนชอบทำรุ่นใหม่
พวกเยาวชนที่มีภูมิธรรมยังอ่อนด้อยกันแน่
 
ประโยคของมอดข้างต้นนั้นอ่านดูแล้วหรูเริด
โดยเริ่มจากประโยคที่ว่า #เสรีภาพแห่งศรัทธา
คุณคุ้นเคยกับคำว่า “เสรีภาพ” กันบ้างหรือไม่
และคุ้นเคยกับคำว่า #ศรัทธา กันหรือเปล่าล่ะ
 
ตัวอย่างเช่น “เทพีแห่งเสรีภาพ” ที่ตั้งเด่นสง่า
เป็นอนุสาวรีย์ที่น่า “ศรัทธา” ในมายารูปลักษณ์
อยู่บนแผ่นดินโลกตรงพิกัดที่มอดมารยึดครอง
แต่เจ้าของรูปปั้นทำให้เทพีนั้นศักดิ์สิทธิ์ไม่ได้
กลับทำตัวเป็นอันธพาลเพื่อต้องการครองโลก
จนทำให้โลกนี้ขาดสันติภาพสันติสุขมาทุกสมัย
อีกไม่ช้าอนุสาวรีย์นี้จะถูกฟ้าผ่าลงมาเป็นแม่นมั่น
แล้วแผ่นดินพิกัดนั้นจะสั่นไหวจนรูปปั้นพังทลาย
เพราะสัญลักษณ์ของซาตานจะให้ยืนค้ำฟ้ามิได้
พวกคุณจงติดตามผลโดยคอยดูกันเอาเองเถิด
 
เพราะพวกมอดมารมันคิดของมันแบบนี้
จึงดีแต่สอนคนอื่นๆให้ปฏิบัติทำตามที่ว่านี้
ขณะที่คนพูดเองไม่เคยทำให้เห็นเป็นตัวอย่าง
โดยเฉพาะ 2 ประโยคแรก ที่ว่า
 
1.เสรีภาพแห่งศรัทธา
2.คือการไม่มีกฎบัญญัติสักข้อ
 
เจ้าของอนุสาวรีย์เทพีปั้นลูกหลานมอด
ได้แต่ป่าวประกาศสัตว์จะทำคำว่าเสรีภาพ
ให้ชาวโลก “ศรัทธา” ในคำว่า “เสรีภาพ” นี้
แต่ตัวเองกลับปฏิบัติทำในทางตรงกันข้าม
ด้วยการทำตัวเป็นตำรวจโลก “เผือก” ไปทั่ว
ยุยงให้ชาวโลกทะเลาะกันขัดแย้งกันฆ่าฟันกัน
เพื่อตนเองจะได้ขายอาวุธสงครามของตนได้
 
ออกกฎระเบียบกีดกันทางการค้า
ประเทศที่ตนเห็นว่าจะเติบโตขึ้นมาเป็นคู่แข่ง
ออกกฎห้ามประเทศอื่นผลิตอาวุธนิวเคลียร์
ขณะที่พวกตนนั้นกลับผลิตปรมาณูได้ไม่อั้น
ไม่พอใจประเทศไหนก็จะใช้วิธีการข่มขู่บีบคั้น
ทำตัวเสรีอยู่คนเดียวโดยพิมพ์ธนบัตรใช้เองได้
โดยไม่ต้องมีทองคำค้ำตะกร้าเงินเลยสักแท่ง
 
ตัวอย่างทั้งหมดที่เรากล่าวมาข้างต้นนี้
เป็นความหมายของคำว่า “เสรีภาพ”
ที่มอดเพียรให้ชาวโลกเขาศรัทธากันใช่ไหม
รูปปั้นเทพีของมอดยังตั้งตระหง่านอยู่ได้
แต่มีหลายประเทศ “ซิปหาย” วอดวายไปแล้ว
เพราะบูชาคำว่า “เสรีภาพแห่งศรัทธา” นี่แหละ
 
แท้จริงแล้วคำว่า “เสรีภาพแห่งศรัทธา”
หมายถึงใครจะศรัทธาหรือไม่ศรัทธาก็ได้
โดยทุกคนทุกชนชาติสามารถที่จะคิดเห็นเป็นทำ
ในสิ่งที่ถูกต้องเหมาะสมดีงามตามวิถีแห่งตนได้
ไม่จำเป็นว่าจะต้องก้าวตามตูดคนอื่นในทุกเรื่อง
แต่บนโลกเสรีนี้ที่มีมหาอำนาจทำตัวเป็นผู้นำ
กลับขาย “เสรีภาพ” ด้วยการจำกัดสิทธิเสรีภาพ
ของชนชาติอื่นที่เขาอ่อนแอกว่า
ด้วยกฎเกณฑ์กติกากิจกรรมที่ผู้นำได้เปรียบ
 
คุณว่าเสรีภาพแบบมอดมารที่เป็นอยู่ทุกวันนี้
มันชวนให้ชาวโลกเขาศรัทธากันแน่หรือ
สมควรที่สัญลักษณ์ของมอดมารจะโดนฟ้าผ่า
จะพังถล่มทลายลงมาเพราะแผ่นดินไหวรุนแรง
ในปฏิบัติการชำระโลกก่อนฟ้ามืดค่ำหรือไม่ล่ะ
 
นอกจากนั้น
มอดมารยังสาธยายความต่อไว้อีกด้วยว่า
 
เสรีภาพแห่งศรัทธา
คือการไม่มีกฎบัญญัติสักข้อ
 
#เพื่อให้เกิดความสัมพันธ์
#หรือมีเงื่อนไขเพื่อให้เกิดความรัก
 
แปลภาษามอดถอดรหัสความหมายได้ว่า
 
1.ใครจะศรัทธา “กรู”
หรือไม่ศรัทธา “กรู” ก็ไม่แคร์ “มรึง”
 
2.ใครจะยอมตาม “กรู” หรือไม่ยอมตาม “กรู”
ใครจะยินดีมีสัมพันธ์กับ “กรู” หรือไม่ยินดี
กรู” ก็ไม่แคร์ “มรึง” เช่นเดียวกัน
 
3.เพราะ “กรู” มีวิธีที่จะทำให้ “มรึง”
ต้อง “จำนน” เพื่อก้มหัวให้อย่างราบคาบ
 
ตัวอย่างเช่น
ตัดการช่วยเหลือสนับสนุนด้านการเงิน
ตัดการช่วยเหลือสนับสนุนด้านการค้าขาย
ตัดการช่วยเหลือด้านวัตถุเท็คโนโลยีทันสมัย
ตัดการชวยเหลือด้านอาหารและยารักษาโรค
ฯลฯ
 
วิธีทำให้จำนน
ด้วยการ “ตัดความช่วยเหลือ” ตามตัวอย่างนี้
มันไม่ใช่กฎข้อบัญญัติเลยสักข้อใช่มั้ยล่ะ
คุณ “มรึง” เป็นฝ่ายยอมจำนน “กรู” เองไง
นี่คือเสรีภาพแห่งศรัทธาตามแบบมอดมารไง
พวกคุณคุ้นชินกับวิธีการของมอดกันแล้วรึยัง
 
นอกจากนั้น
คำสอนของมอดที่ซาตานชอบนำมาเอ่ยอ้าง
ยังมีต่อท้ายอยู่อีกประโยคหนึ่งความว่า
 
เสรีภาพแห่งศรัทธา
คือการไม่มีกฎบัญญัติสักข้อ
เพื่อให้เกิดความสัมพันธ์
#หรือมีเงื่อนไขเพื่อให้เกิดความรัก
 
แปลเป็นภาษามอดถอดรหัสได้ความว่า
พระโอวาทของพระเจ้าที่เรากล่าวนั้น
เป็นพระโอวาทที่ไม่ถูกต้องตรงธรรม
เพราะไม่ตรงกับความที่มอดอบรมสั่งสอนมา
หมายถึงซาตานตนนั้น “ชี้” หรือพิพากษาว่า
ที่เรากล่าวมานั้นมันไม่ถูกต้องเพราะเราสับสน
ซึ่งประโยคที่พระเจ้าทรงให้เรากล่าวต่อมนุษย์
มีใจความว่า
 
#ความรักบริสุทธิ์ต้องเป็นรักที่ไม่มีเงื่อนไข
คำว่า “ไม่มีเงื่อนไข” คือ #ไม่หวังสิ่งตอบแทน
หรือไม่ต้องการสิ่งใดแลกเปลี่ยนจากผู้ที่ถูกรัก
นอกจาก “ความสุข” ที่เกิดขึ้นในจิตใจเมื่อได้รัก
 
พระเจ้าตรัสว่าความรักที่ต้องการให้ตอบสนอง
มันคือ #ความใคร่ ที่มิใช่ความรักบริสุทธิ์แท้จริง
เพราะเป็นความรักที่ยังหวังบางสิ่งตอบแทนอยู่
จึงเป็นแค่ความใคร่แต่ไม่ใช่รักบริสุทธิ์เลย
 
ซาตานทาสมอดไม่เข้าใจสัจธรรมของพระเจ้า
เพราะมอดมารรุ่นใหม่ไม่รู้ว่าความรักแท้คืออะไร
จึงตะแบงคำพูดมาแย้งเราเป็นตุเป็นตะว่า
 
ความรักของพ่อแม่ลูกเป็นความรักที่ไม่บริสุทธิ์
เพราะยังมี “เงื่อนไข” ของความเป็นพ่อแม่ลูกอยู่
สมัยพระเยซูเจ้าก็ทรงกล่าวขยายความให้แล้วว่า
คุณยังต้องรักลูกหลานคนข้างบ้านทุกคน
ให้เหมือนกับที่คุณรักลูกหลานคุณเองด้วย
มิใช่รักเฉพาะลูกหลานในครอบครัวคุณเท่านั้น
นี่คือความหมายของรักที่ไม่มีเงื่อนไขแท้จริง
ตามนัยแห่งสัจธรรมของพระเจ้ามิใช่ของมอด
 
ดังนั้น
คำกล่าวของมอดที่สอนซาตานมากล่าวต่อว่า
เสรีภาพแห่งศรัทธานั้น
ต้องไม่มีเงื่อนไขเพื่อให้เกิดความรัก”
เป็นเครื่องบ่งชี้ว่าพวกมอดพวกซาตาน
ไม่ให้ค่าของความรักบริสุทธิ์แต่อย่างใด
แถมยังด้อยค่าความรักเพื่อให้ของพระเจ้าด้วย
 
มอดจึงไม่เคยสอนเรื่องการหมุนธรรมจักร
มอดจึงบิดเบือนความจริงที่พระพุทธองค์ตรัสรู้
จากธรรมจักรกัปวัตนสูตรเป็นอริยสัจสี่กันดื้อๆ
เพราะต้องการหลอกมนุษย์ให้หลงทำหลงทาง
 
คำว่า “หลงทำ” คือ ให้ทำตัวเป็นกรรมกรแสง
เพื่อผลิตพลังงานจิตด้านบวกให้พวกมอดดักดูด
คำว่า “หลงทำ” คือ ทำตัวเป็นเหมือนคนตาย
จนไม่อาจหมุนธรรมจักรร่วมกันเป็นสังคมได้
โดยหลอกให้ละทิ้งครอบครัวเข้าป่าเข้าถ้ำ
หลอกให้แสร้งทำเป็นอายตนะบอดหรือพิการ
ทำให้สมการพลังงานรวม ∑βx ไม่อาจเป็นจริงได้
เพื่อความอยู่รอดปลอดภัยในระบบโลกของตน
แต่ทำให้โลกขาดพลังงานจนค้ำจุนสมดุลไม่ได้
ภัยพิบัติมากมายและรุนแรงขึ้นเรื่อยๆจึงเกิดขึ้น
 
ส่วนคำว่า “หลงทาง” นั้นหมายถึง
การหลงทางนิพพานแบบ “ตาลยอดด้วน”
ถ้าจิตวิญญาณคือผลของต้นตาล
เมื่อมาเกิดเป็นมนุษย์ก็คือถูกนำมาปลูกไว้
พอต้นตาลนั้นเติบโตขึ้นมาเป็นต้นสูงใหญ่ได้ที่
จู่ๆก็เกิดเหตุการณ์ประหลาดมหัศจรรย์พันลึก
โดย “ยอดตาล” ต้นนั้นมันดันหายไปเสียเฉยๆ
ไม่รู้ว่าล่องหนหายไปไหนไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น
 
พระพุทธองค์ทรงเปรียบกับนิพพานแบบมอด
หมายถึงจิตวิญญาณเมื่อตายแล้วไม่มาเกิดอีก
เพราะลอยไปติดค้างติดคาอยู่บนสวรรค์มายา
ไปเป็นแผงโซล่าเซลล์ผลิตไฟฟ้าให้มอดดูด
โดยสุขสบายกับเมืองมายาที่ไม่มีอยู่จริงบนนั้น
ตราบนานเท่านานอย่างไม่มีวันหมดอายุขัย
จึงกลับลงมาเกิดเป็นมนุษย์โลกอีกไม่ได้
พวกซาตานผู้อ่อนเยาว์ทั้งอายุและปัญญา
จึงใช้เสรีภาพแห่งศรัทธาตามมอดกันจนโง่ง่าย
 
เพราะพวกคนรุ่นใหม่
ใช้ความศรัทธาที่เป็นกิเลสในเวทนาขันธ์
ในการตัดสินคนตัดสินความตัดสินใจในทุกสิ่ง
อันเป็นศรัทธาที่เกิดจาก #ความรู้สึกล้วนๆ
 
ศรัทธาเพราะถูกใจหรือถูกจริต
ศรัทธาเพราะชอบคำหรูๆที่มอดหยิบมาใช้
โดยกิเลสหรือความรู้สึกบดบังการใช้ปัญญาไว้
จึงขาดสติสัมปชัญญะจนเชื่อตามมอดกันง่ายๆ
ซึ่งเป็นศรัทธาที่ขาดปัญญานั่นเอง
 
กราบพระบาทพระบิดาทรงเมตตา
 
เอเมน สาธุ
ปัญญาวิสุทธิ์
5/05/2566