พี่ๆน้องๆที่รักแห่งเราทั้งหลาย
เราจะกล่าวความจริงต่อท่านทั้งหลายว่า
มารตัวผู้ที่เป็นซาตานตัวเดียวกันนั้น
ยังอวดรู้อธิบายความเป็นตัวอย่างที่ผิดไว้อีกว่า
ไม่ว่าจะเป็นรักของพ่อแม่ลูกหรือลูกกับพ่อแม่
จะรักแบบชายรักหญิงและรักแบบหญิงรักชาย
ล้วนเป็นความรักแบบมี #เงื่อนไข ด้วยกันทั้งสิ้น
เพราะมันเป็นรักในแบบของ #อัตตารักอัตตา
เราจะวิจารณ์ความรู้ของมอดที่ซาตานเอ่ยอ้าง
ซึ่งมีอยู่ด้วยกัน 4 บรรทัดข้างต้นเหล่านั้น
ให้พวกคุณที่ชอบทานขนมปังของพระเจ้ารู้ว่า
มอดโดยซาตานมันกำลังเพียรทำให้คุณสับสน
เมื่อทำให้คุณกลัวความทุกข์จนขึ้นสมองได้แล้ว
แผนขั้นต่อมาล่าสุดนี้คือทำให้สับสนเรื่องอัตตา
โดยจับเอาเรื่อง “อัตตา” มาเป็นตัวประกัน
มอดเคยวางแผนหลอกให้คนนำทางตาบอด
บิดเบือนความหมายเรื่องของอัตตากับอนัตตา
เพื่อทำเรื่องง่ายๆให้กลายเป็นเรื่องเข้าใจยาก
จนคนชอบธรรมจำนวนมากสับสนกันตลอดมาว่า
ความจริงของอัตตากับอนัตตาเป็นยังไงกันแน่
ถ้าไม่เข้าใจความหมายที่ถูกตรงแท้จริงแล้ว
ความหลงผิดคิดผิดเข้าใจผิดในสัจธรรมจะคงอยู่
การมุ่งจะหลุดพ้นนิพพานทางจิตวิญญาณให้ได้
จึงเป็นเรื่องที่จะเป็นความจริงไปไม่ได้เลย
นอกจากจะถูกมอดหลอกไปขังบนสวรรค์มายา
ให้ไปเกิดเป็นทวยเทพเทวดาอยู่ในวิมานทิพย์
เพื่อเสพติดกิเลสด้วยการเสวยสุขอยู่เป็นอาจิณ
เพราะจิตวิญญาณหลงมิติตั้งแต่ก่อนจะตาย
จึงพึงพอใจกับการเสวยสุขอยู่บนนั้นไม่รู้จักอิ่ม
ซึ่งเป็นการนิพพานเทียมเท็จแบบตาลยอดด้วน
คือจิตวิญญาณเมื่อตายแล้วไปติดอยู่บนนั้น
ก็จะไม่สามารถวนกลับลงมาเกิดบนโลกได้อีก
เพราะจิตวิญญาณเกิดอาการ “ติดสุข” นั่นล่ะ
จึงยังผลให้ “ความสุข” ที่ยึดติดมันนี่แหละ
จากเดิมที่เป็นอนัตตาก็กลายเป็นมี “อัตตา” ทันที
ความสุขที่แต่เดิมเป็นอนัตตาแท้ๆ
เพราะว่า “ความสุข” มันเป็นแค่นามรูปเท่านั้น
คำว่าความสุขเป็นคำที่มนุษย์สมมุติบัญญัติขึ้น
ซึ่งความสุขเป็นอาการหนึ่งของจิตเท่านั้นเอง
ความสุขที่เกิดขึ้นในจิตมนุษย์มันคือ “กิเลส”
โดยกิเลสจะเกิดขึ้นเมื่อจิตสัมผัสรู้ดูเห็นสรรพสิ่ง
ผ่านจากกลไกอายตนะภายนอกทั้งห้าเข้ามาสู่จิต
หรือสิ่งที่จิตหยาบนึกออกนึกเอาและนึกเอง
ซึ่งกิเลสที่เป็นความรู้สึกต่างๆจะเกิดขึ้นมาได้
เพราะจิตหยาบสร้างอัตตาตัวตนสิ่งนั้นขึ้นมาเอง
สาเหตุที่จิตหยาบต้องสร้างอัตตาของสิ่งนั้นขึ้น
เช่น “ความสุข” ที่มีแต่นามสมมติไม่มีรูปลักษณ์
จิตหยาบคุณจึงต้องสร้างอัตตาของสุขขึ้นมาเอง
เพื่อให้ตนสามารถที่จะยึดเกาะความสุขเอาไว้ได้
ทั้งๆที่ความสุขเป็นสิ่งสมมติไม่มีตัวตนแท้จริงเลย
พวกคุณจึงพากันงมงายลุ่มหลงในความสุขกัน
ก็เพราะเหตุที่เรากล่าวให้รู้เหล่านี้
ในเรื่องของ “ความทุกข์” ก็เช่นเดียวกัน
พวกมอดหลอกมนุษย์ผ่านคนนำทางตาบอดว่า
การเกิดแก่เจ็บตายเวียนว่ายวนลูปเพื่อมีภพชาติ
สำหรับมนุษย์โลกทั้งหลายนั้นเป็นทุกข์อย่างยิ่ง
ถ้าพวกคุณเชื่อตามที่มอดมารมันหลอกคุณ
ให้กลัวความทุกข์จนอุจจาระขึ้นสมองเมื่อไหร่
เมื่อนั้นความทุกข์ที่เดิมมันเป็นเพียงแค่นามสมมติ
ก็จะกลายเป็นมีอัตตาตัวตนขึ้นมาที่ในจิตคุณทันที
ถ้าคุณยิ่งเกลียดกลัวความทุกข์มากเท่าไหร่
ตัวทุกข์ในจิตหยาบของคุณมันก็จะยิ่งพองโต
จนเกิดอาการคับอกคับใจมากยิ่งขึ้นเท่านั้น
ทั้งหมดในเรื่องของสุขกับทุกข์ที่เป็นอนัตตา
เป็นอนัตตาเพราะว่าไม่มีตัวตนรูปลักษณ์
แต่มันก็เปลี่ยนเป็นมีอัตตาได้จากการ “ยึดติด”
โดยกิเลสคือ “ความรู้สึก” รักชอบเกลียดกลัว
เป็นตัวชี้วัดว่าจิตหยาบสร้างอัตตาของทุกข์สุข
จากการยึดติดทุกข์สุขนั้นเข้าให้แล้วนั่นแหละ
จนทำให้นามรูปที่เดิมทีนั้นเป็น “อนัตตา” อยู่
กลายเป็นมี “อัตตา” ตัวตนขึ้นมาแทนเฉยเลย
ดังนั้น
จิตหยาบของคุณที่หลงยึดติดทุกสิ่ง
ที่ตนสัมผัสรู้ดูเห็นได้ไม่ว่าจะมีตัวตนหรือไม่
มันจะสามารถสร้างอัตตาตัวตนของสิ่งนั้นขึ้นเอง
โดยมีความรู้สึกที่เป็นกิเลสเป็นตัวชี้วัด
ด้วยเหตุนี้เอง
สภาวะจิตหยาบของคุณจะไม่บริสุทธิ์
ถ้ารกรุงรังด้วยกิเลสหรือมีสนิมกิเลสเกาะอยู่
พวกมอดมารมันไม่หวังดีกับพวกคุณใช่ไหม
จึงพยายามใช้การจูงใจให้คุณเสพติดกิเลส
จนไม่อาจใช้ความรักบริสุทธิ์และปัญญาได้
มอดมารจึงพยายามทำให้คุณเห็นว่า
การนิพพานนั้นเป็นเรื่องยากและทำยาก
จึงจับเอาเรื่องความรักบริสุทธิ์ของพวกคุณ
มายัดไส้ไว้ด้วยอัตตาหาเงื่อนไขเข้าไปใส่ไว้
แล้วแปลงความรู้สำนึกที่เป็นสติทางวิญญาณ
ไปเป็น “ความรู้สึก” ที่เป็นกิเลสมารแทน
เพราะต้องการให้คนโง่ง่ายหลงคล้อยตามว่า
นิพพานแบบมอดนั้นมันง่ายกว่ากันเยอะเลย
ใครที่หลับตาเดินตามคนนำทางตาบอด
เท่ากับว่าทำตนเสียชาติเกิดโดยแท้
กราบกระบาทพระบิดาทรงเมตตา
เอเมน สาธุ
ปัญญาวิสุทธิ์
3/05/2566
เราจะกล่าวความจริงต่อท่านทั้งหลายว่า
มารตัวผู้ที่เป็นซาตานตัวเดียวกันนั้น
ยังอวดรู้อธิบายความเป็นตัวอย่างที่ผิดไว้อีกว่า
ไม่ว่าจะเป็นรักของพ่อแม่ลูกหรือลูกกับพ่อแม่
จะรักแบบชายรักหญิงและรักแบบหญิงรักชาย
ล้วนเป็นความรักแบบมี #เงื่อนไข ด้วยกันทั้งสิ้น
เพราะมันเป็นรักในแบบของ #อัตตารักอัตตา
เราจะวิจารณ์ความรู้ของมอดที่ซาตานเอ่ยอ้าง
ซึ่งมีอยู่ด้วยกัน 4 บรรทัดข้างต้นเหล่านั้น
ให้พวกคุณที่ชอบทานขนมปังของพระเจ้ารู้ว่า
มอดโดยซาตานมันกำลังเพียรทำให้คุณสับสน
เมื่อทำให้คุณกลัวความทุกข์จนขึ้นสมองได้แล้ว
แผนขั้นต่อมาล่าสุดนี้คือทำให้สับสนเรื่องอัตตา
โดยจับเอาเรื่อง “อัตตา” มาเป็นตัวประกัน
มอดเคยวางแผนหลอกให้คนนำทางตาบอด
บิดเบือนความหมายเรื่องของอัตตากับอนัตตา
เพื่อทำเรื่องง่ายๆให้กลายเป็นเรื่องเข้าใจยาก
จนคนชอบธรรมจำนวนมากสับสนกันตลอดมาว่า
ความจริงของอัตตากับอนัตตาเป็นยังไงกันแน่
ถ้าไม่เข้าใจความหมายที่ถูกตรงแท้จริงแล้ว
ความหลงผิดคิดผิดเข้าใจผิดในสัจธรรมจะคงอยู่
การมุ่งจะหลุดพ้นนิพพานทางจิตวิญญาณให้ได้
จึงเป็นเรื่องที่จะเป็นความจริงไปไม่ได้เลย
นอกจากจะถูกมอดหลอกไปขังบนสวรรค์มายา
ให้ไปเกิดเป็นทวยเทพเทวดาอยู่ในวิมานทิพย์
เพื่อเสพติดกิเลสด้วยการเสวยสุขอยู่เป็นอาจิณ
เพราะจิตวิญญาณหลงมิติตั้งแต่ก่อนจะตาย
จึงพึงพอใจกับการเสวยสุขอยู่บนนั้นไม่รู้จักอิ่ม
ซึ่งเป็นการนิพพานเทียมเท็จแบบตาลยอดด้วน
คือจิตวิญญาณเมื่อตายแล้วไปติดอยู่บนนั้น
ก็จะไม่สามารถวนกลับลงมาเกิดบนโลกได้อีก
เพราะจิตวิญญาณเกิดอาการ “ติดสุข” นั่นล่ะ
จึงยังผลให้ “ความสุข” ที่ยึดติดมันนี่แหละ
จากเดิมที่เป็นอนัตตาก็กลายเป็นมี “อัตตา” ทันที
ความสุขที่แต่เดิมเป็นอนัตตาแท้ๆ
เพราะว่า “ความสุข” มันเป็นแค่นามรูปเท่านั้น
คำว่าความสุขเป็นคำที่มนุษย์สมมุติบัญญัติขึ้น
ซึ่งความสุขเป็นอาการหนึ่งของจิตเท่านั้นเอง
ความสุขที่เกิดขึ้นในจิตมนุษย์มันคือ “กิเลส”
โดยกิเลสจะเกิดขึ้นเมื่อจิตสัมผัสรู้ดูเห็นสรรพสิ่ง
ผ่านจากกลไกอายตนะภายนอกทั้งห้าเข้ามาสู่จิต
หรือสิ่งที่จิตหยาบนึกออกนึกเอาและนึกเอง
ซึ่งกิเลสที่เป็นความรู้สึกต่างๆจะเกิดขึ้นมาได้
เพราะจิตหยาบสร้างอัตตาตัวตนสิ่งนั้นขึ้นมาเอง
สาเหตุที่จิตหยาบต้องสร้างอัตตาของสิ่งนั้นขึ้น
เช่น “ความสุข” ที่มีแต่นามสมมติไม่มีรูปลักษณ์
จิตหยาบคุณจึงต้องสร้างอัตตาของสุขขึ้นมาเอง
เพื่อให้ตนสามารถที่จะยึดเกาะความสุขเอาไว้ได้
ทั้งๆที่ความสุขเป็นสิ่งสมมติไม่มีตัวตนแท้จริงเลย
พวกคุณจึงพากันงมงายลุ่มหลงในความสุขกัน
ก็เพราะเหตุที่เรากล่าวให้รู้เหล่านี้
ในเรื่องของ “ความทุกข์” ก็เช่นเดียวกัน
พวกมอดหลอกมนุษย์ผ่านคนนำทางตาบอดว่า
การเกิดแก่เจ็บตายเวียนว่ายวนลูปเพื่อมีภพชาติ
สำหรับมนุษย์โลกทั้งหลายนั้นเป็นทุกข์อย่างยิ่ง
ถ้าพวกคุณเชื่อตามที่มอดมารมันหลอกคุณ
ให้กลัวความทุกข์จนอุจจาระขึ้นสมองเมื่อไหร่
เมื่อนั้นความทุกข์ที่เดิมมันเป็นเพียงแค่นามสมมติ
ก็จะกลายเป็นมีอัตตาตัวตนขึ้นมาที่ในจิตคุณทันที
ถ้าคุณยิ่งเกลียดกลัวความทุกข์มากเท่าไหร่
ตัวทุกข์ในจิตหยาบของคุณมันก็จะยิ่งพองโต
จนเกิดอาการคับอกคับใจมากยิ่งขึ้นเท่านั้น
ทั้งหมดในเรื่องของสุขกับทุกข์ที่เป็นอนัตตา
เป็นอนัตตาเพราะว่าไม่มีตัวตนรูปลักษณ์
แต่มันก็เปลี่ยนเป็นมีอัตตาได้จากการ “ยึดติด”
โดยกิเลสคือ “ความรู้สึก” รักชอบเกลียดกลัว
เป็นตัวชี้วัดว่าจิตหยาบสร้างอัตตาของทุกข์สุข
จากการยึดติดทุกข์สุขนั้นเข้าให้แล้วนั่นแหละ
จนทำให้นามรูปที่เดิมทีนั้นเป็น “อนัตตา” อยู่
กลายเป็นมี “อัตตา” ตัวตนขึ้นมาแทนเฉยเลย
ดังนั้น
จิตหยาบของคุณที่หลงยึดติดทุกสิ่ง
ที่ตนสัมผัสรู้ดูเห็นได้ไม่ว่าจะมีตัวตนหรือไม่
มันจะสามารถสร้างอัตตาตัวตนของสิ่งนั้นขึ้นเอง
โดยมีความรู้สึกที่เป็นกิเลสเป็นตัวชี้วัด
ด้วยเหตุนี้เอง
สภาวะจิตหยาบของคุณจะไม่บริสุทธิ์
ถ้ารกรุงรังด้วยกิเลสหรือมีสนิมกิเลสเกาะอยู่
พวกมอดมารมันไม่หวังดีกับพวกคุณใช่ไหม
จึงพยายามใช้การจูงใจให้คุณเสพติดกิเลส
จนไม่อาจใช้ความรักบริสุทธิ์และปัญญาได้
มอดมารจึงพยายามทำให้คุณเห็นว่า
การนิพพานนั้นเป็นเรื่องยากและทำยาก
จึงจับเอาเรื่องความรักบริสุทธิ์ของพวกคุณ
มายัดไส้ไว้ด้วยอัตตาหาเงื่อนไขเข้าไปใส่ไว้
แล้วแปลงความรู้สำนึกที่เป็นสติทางวิญญาณ
ไปเป็น “ความรู้สึก” ที่เป็นกิเลสมารแทน
เพราะต้องการให้คนโง่ง่ายหลงคล้อยตามว่า
นิพพานแบบมอดนั้นมันง่ายกว่ากันเยอะเลย
ใครที่หลับตาเดินตามคนนำทางตาบอด
เท่ากับว่าทำตนเสียชาติเกิดโดยแท้
กราบกระบาทพระบิดาทรงเมตตา
เอเมน สาธุ
ปัญญาวิสุทธิ์
3/05/2566