06 กุมภาพันธ์ 2567

คัมภีร์อนุตรธรรมภาคจิตจักรวาล 6/02/2567

 #คัมภีร์อนุตรธรรมภาคจิตจักรวาล

(เพื่อยุวจิตจักรวาลยุคสุดท้าย)

 

พี่ๆน้อง ๆที่รักแห่งเราทั้งหลาย

เราจะกล่าวความจริงต่อท่านทั้งหลายว่า

 

จิตวิญญาณผู้เป็นตัวตนแก่นแท้ของมนุษย์ทุกคน

ผู้ขันอาสามาเกิดเป็น “คนสองมิติ” อยู่ในระบบโลก

ซึ่งโลกทำหน้าที่เป็นดั่งจุดศูนย์กลางของ #เอกภพ

เพื่อทำการคนตนเองในสองมิติให้เป็นหนึ่งเดียวกัน

โดยใช้ “ความรักเพื่อให้” คือ อดทนอดกลั้นให้อภัย

หรือใช้ “เมตตาธรรม” ที่เป็นความรักในแบบพระเจ้า

ซึ่งจิตวิญญาณของพวกคุณถือติดตัวมาเกิดด้วย

ในรูปของความมีเมตตา กรุณา มุทิตาและอุเบกขา

ตอบสนองต่อกันและกันทางด้านบวกเอาไว้เสมอ

 

โดยที่พวกคุณจะต้องกระทำร่วมกันเพื่อทำให้

จิตหยาบกับจิตวิญญาณของคุณเป็นหนึ่งเดียวกัน

นั่นคือสั่นสะเทือนในมิติที่ 6D ให้สำเร็จให้จงได้

เริ่มจากจิตหยาบซึ่งอยู่ในมิติที่ 4D หลังคลอดออกมา

ก็ต้องทำหน้าที่ยกระดับด้วยตัวเองตั้งแต่ 3 ขวบ

เพื่อเข้าถึงมิติที่ 6D ซึ่งจิตวิญญาณรออยู่ก่อนแล้วนั้น

นั่นคือจิตหยาบกับจิตวิญญาณสั่นสะเทือนร่วมกันได้

 

ดังนั้น

คุณก็ต้องรู้ว่าจะยกระดับจิตหยาบให้สั่นสะเทือนสูงขึ้น

จะปฏิบัติทำกันอย่างไรจึงจะประสบความสำเร็จได้

โดยวิธีที่จะเข้าถึงมันนี่แหละก็คือ #วิธีการปฏิบัติธรรม

มิใช่การปฏิบัติ “ทำ” อย่างอื่นที่ไร้สาระตามที่ทำกันอยู่

นั่นคือ #การหมุนธรรมจักรร่วมกัน ให้ได้นั่นเอง

การหมุนธรรมจักรร่วมกันทำได้โดย

1.คุณต้องรักตนเองและรักผู้อื่นได้เสมอ

2.ต้องรู้ว่า #รักตามธรรมชาติ นั้นคืออะไรอย่างไร

3.คุณต้องรักทุกคนได้อย่างไม่มีเงื่อนไขใดๆทั้งสิ้น

4.คุณต้องรักเพื่อให้โดยไม่รักเพื่อเอาสิ่งตอบแทน

5.คุณต้องรักเพื่อให้โดยจิตต้องไม่แอบแฝงกิเลสไว้

 

คุณสมบัติของความรักทั้ง 5 ที่ว่านี้

มันคือลักษณะของความรักในแบบของพระเจ้า

เป็นความรักที่บริสุทธิ์ผุดผ่องซึ่งพวกคุณต้องทำกัน

เพราะมันจะทำให้จิตหยาบกับจิตวิญญาณของคุณ

สั่นสะเทือนจนเป็นหนึ่งเดียวกันได้ในที่สุด

 

การสั่นสะเทือนเป็นหนึ่งเดียวกันได้ที่ว่านี้

ไม่ต่างจากการสั่นสะเทือนของ “ส้อมเสียง” สองอัน

ที่มีลักษณะและคุณสมบัติทุกสิ่งอย่างเป็นแบบเดียวกัน

เพียงแค่คุณใช้ค้อนยาง “เคาะ” ส้อมเสียงอันหนึ่ง

แล้วนำส้อมเสียงอันที่คุณเคาะนั้นไปไว้ใกล้ๆอีกอันหนึ่ง

คุณจะตรวจพบได้ว่าแรงสั่นสะเทือนของอันที่ถูกเคาะ

จะส่งผลให้ส้อมเสียงอันที่คุณไม่ได้เคาะมันสั่นตามได้

ปรากฏการณ์นี้เรียกว่าเกิด #การกำธร ของส้อมเสียง

 

ดังนั้น

ถ้าพวกคุณเพียรยกระดับแรงสั่นสะเทือนของจิตหยาบ

ที่เริ่มต้นจากกลุ่มพลังงานหลากหลายย่านความถี่

ซึ่งเริ่มจากมิติที่ “ศูนย์” เมื่อแรกปฏิสนธิในครรภ์มารดา

แล้วค่อยๆยกระดับแรงสั่นสะเทือนเพิ่มขึ้นมาเรื่อยๆ

โดยมีจิตวิญญาณตัวคุณเองและพ่อแม่รวม 3 รูปธรรม

สั่นสะเทือนร่วมกันด้วย “ความรักเพื่อให้” ตลอดเวลา

ทำให้สมการพลังงานทางช้างเผือก Σβศักดิ์สิทธิ์ขึ้นได้

ซึ่ง X ในสมการนี้จะมีค่าเท่ากับจำนวน 3 รูปธรรมพอดี

พลังงานร่วมที่เกิดขึ้นนี้จะช่วยให้จิตหยาบที่มีแค่ศูนย์ D

สามารถยกระดับตนเองจาก 0D-3D จนเป็นตัวอ่อนได้

 

เมื่อคลอดออกมาลืมตาดูโลกได้แล้ว

ทารกน้อยจะยังอาศัยสมการพลังงานทางช้างเผือก Σβx

โดยสามคนคือพ่อแม่และจิตวิญญาณของผู้มาเกิดเอง

ร่วมกันสั่นสะเทือนทางด้านบวกด้วยความรักเพื่อให้ต่อไป

จนทารกน้อยนั้นสามารถยกระดับขึ้นมาเป็นกุมารน้อยได้

ซึ่งพฤติกรรมของกุมารน้อยนั้นจะเป็นแบบคนที่มี 4D แล้ว

นั่นคือกว้าง x ยาว x หนา x สูง หมายถึงมี 4 มิตินั่นเอง

ในขั้นตอนนี้คนรอบข้างของทารกน้อยนั้นไม่ว่าจะเป็นใคร

ที่เห็นความน่ารักน่าอุ้มน่าหอมน่าจับน่าสัมผัสของทารก

นั่นคือการหยิบยื่นความรักเพื่อให้อันเป็นรักในธรรมชาติ

เพราะเป็นความรักที่มิได้เกิดจากการปรุงแต่งใดๆทั้งสิ้น

มอบให้แก่เจ้าทารกน้อยคนนั้นในทุกครั้งที่สัมผัสรู้ดูเห็น

มันจะยังผลให้ตัว “เอ็กซ์” ถูกแทนค่ามากกว่า 3 เสมอ

ทำให้จิตหยาบของทารกน้อยยกระดับสู่มิติที่ 4D เร็วขึ้น

ทารกน้อยก็จะมีพัฒนาการทางกายหยาบให้คุณเห็นว่า

เขาสามารถยืนนั่งลุกวิ่งกลิ้งนอนใช้มือใช้เท้าใช้ปากได้

ทารกนั้นจึงพัฒนาการเป็น #กุมารน้อย ในไม่กี่เดือนเอง

 

หน้าที่ของกุมารน้อยแต่ละคนคือการพัฒนาตนเอง

ทั้งด้านกายภาพและจิตวิญญาณควบคู่กันไปทั้งสองมิติ

เพื่อนำพาตนเองเข้าถึงมิติเดียวกันคือมิติที่ 6D ให้จงได้

6D ก็คือจิตหยาบนั้นต้องสั่นสะเทือนเป็น 6 เหลี่ยมมุม

ตามสัญลักษณ์ของจิตวิญญาณที่เราเขียนแบบไว้ให้แล้ว

นั่นคือเป็น 3 เหลี่ยมด้านเท่าสองรูปอยู่ในวงกลมเดียวกัน

หรืออาจเรียกว่าเป็นรูปธรรมของ #ดาวหกแฉก ก็ได้

 

จำนวน 6 เหลี่ยมมุมในภาพเรขาคณิตนี้

ได้จาก “จิตหยาบ” ของคุณเมื่อมีการสั่นสะเทือนขึ้น

ในขณะที่ต้องวิ่งวนไปทั่วทุกเซลล์ของกายหยาบ

ด้วยความเร็วเป็นจำนวนรอบต่อวินาทีหรือเม็กกะเฮิร์ท

พระเจ้าทรงกำหนดให้คุณมี 6 “จักระ” เรียงตัวในแนวดิ่ง

ซึ่งจิตหยาบของคุณมันจะวิ่งขึ้นวิ่งลงผ่านทั้ง 6 จุดนี้

โดยอาศัยแรงสั่นสะเทือนของธรรมจักรด้วยรักเพื่อให้

ทั้งจากตนเองและคนรอบข้างผ่านสมการ Σβx นี่แหละ

 

คำว่า “รอบ” ในการเหวี่ยงหมุนหมายถึง

จิตหยาบของคุณสั่นสะเทือนด้วยการวิ่งขึ้นวิ่งลง

จากจักระที่ก้นกบขึ้นไปถึงจักระยอดเพชรที่อยู่บนศีรษะ

แล้ววิ่งวนกลับลงมาสู่จุดเริ่มต้นคือตรงก้นกบได้อีกครั้ง

นี่จึงหมายถึงการสั่นสะเทือนของจิตหยาบครบรอบแล้ว

ถ้าคุณสามารถยกระดับแรงสั่นสะเทือนด้านบวกได้มาก

จำนวนรอบต่อวินาทีก็จะมากแปรตามไปด้วยเสมอ

อาจจะสูงถึง 400-500 รอบต่อวินาทีเลยก็เป็นจริงได้

 

เราจึงสอนพวกคุณตลอดมาว่า

คุณต้องรักคนที่ไม่น่ารักให้ได้

คุณต้องให้อภัยแก่คนที่ทำตนไม่น่าให้อภัยให้เป็น

เพราะจิตคุณมันจะสั่นสะเทือนเป็นความรักเพื่อให้

ซึ่งมันจะช่วยยกระดับแรงสั่นสะเทือนให้จิตหยาบคุณ

อันเป็นการปฏิบัติทำเพื่อตนเองอย่างแนบเนียนที่สุด

โดยที่คุณไม่ต้องทำโดยแฝงไว้ด้วยกิเลสอะไรเลย

เป็นการกระทำเพื่อตนเองอย่างแท้จริงไม่มีใครเสียหาย

อีกทั้งคุณยังต้องหมั่นหมุนธรรมจักรเรื่อยไปไม่ละเลย

เพราะจิตหยาบมันจะค่อยๆยกระดับโดยไม่พรวดพราด

 

นอกจากตอนที่คุณเผชิญเงื่อนไขด้านลบจากคนชั่ว

หรือเผชิญเงื่อนไขจากคนใกล้ชิดที่เขาทำตัวไม่น่ารัก

แรกๆที่คุณเผชิญก็อาจจะช็อคเพราะจิตตกกระทันหัน

แต่ถ้าคุณ “ยกจิต” ขึ้นมาให้ทันภายใน 3 นาทีได้

แรงสั่นสะเทือนแบบกระชากหรือกระตุกเพื่อการยกจิต

ก็จะสั่นสะเทือนมากกว่าปกติเป็นเท่าตัวเลยทีเดียว

 

เพราะเหตุนี้เอง

จิตวิญญาณแก่นแท้ของพวกคุณจึงวางแผนกันมา

โดยเขียนบทละครที่เป็น #ชะตาชีวิต มาแสดงร่วมกัน

ด้วยบทร้ายๆหรือเงื่อนไขด้านลบมาแสดงต่อกันด้วย

เพื่อให้พวกคุณอดทนอดกลั้นให้อภัยต่อกันในการยกจิต

ด้วยการกระตุกกระชากจิตสามนึกให้สั่นสะเทือนสูงขึ้น

จนยังผลให้จิตหยาบของตนเข้าถึงมิติที่ 6D ได้ในเร็ววัน

 

การที่จิตหยาบหรือจิตมนุษย์เข้าถึง 6D ได้นี่แหละ

เป็นการปฏิบัติธรรมของคนชอบธรรมที่ถูกตรงที่สุด

ในการอาสามาเกิดเป็นมนุษย์บนโลกเสรีนี้แล้ว

เพราะตนเองและเพื่อนร่วมโลกทุกคนในสังคมเดียวกัน

ต่างจะได้ประโยชน์จากการหมุนธรรมจักรด้วยรักเพื่อให้

โลกทั้งระบบก็จะได้ประโยชน์ไปกับมวลมนุษย์เช่นกัน

ทุกสรรพสิ่งจะสั่นสะเทือนร่วมกันจะหมุนไปด้วยกัน

จนทำให้เอกภพทั้งระบบสมดุลตามโลกไปด้วยในที่สุด

เพราะมนุษย์มีหน้าที่ “ค้ำจุน” สมดุลโลก

โลกมีหน้าที่ค้ำจุนสมดุลของเอกภพที่เป็นระบบใหญ่

 

กราบพระบาทขอบพระทัยพระบิดาที่ทรงเมตตา

 

เอเมน สาธุ

ปัญญาวิสุทธิ์

6/02/2567