19 กุมภาพันธ์ 2567

คัมภีร์อนุตรธรรมภาคจิตจักรวาล 19/02/2567

 #คัมภีร์อนุตรธรรมภาคจิตจักรวาล

 

พี่ๆน้อง ๆที่รักแห่งเราทั้งหลาย

เราจะกล่าวความจริงต่อท่านทั้งหลายว่า

 

#มนุษย์ทุกคนต้องมีจิตที่ใสสะอาดบริสุทธิ์

อันคำว่า “จิตใสสะอาดบริสุทธิ์” นี้

มีความหมายเดียวกันกับการมี #จิตใสใจสวย

โดยคุณสมบัติสำคัญของจิตที่ใสสะอาดบริสุทธิ์นั้น

คือจิตต้องว่างจาก “กิเลส” และบริวารกิเลสทั้งปวง

รวมทั้ง “สนิมกิเลส” ที่เป็นสันดานอยู่ในสัญญาขันธ์

มันจะต้องไม่มีหลงเหลือตกตะกอนนอนนิ่งอยู่ในนั้น

ซึ่งมันพร้อมทุกเวลาที่จะออกมาแสดงตนให้คนเห็น

เมื่อจิตหยาบถูกกระตุ้นให้รับรู้แล้วรับเอาเกิดขึ้น

 

คำว่า “จิตใสสะอาดบริสุทธิ์” หมายความว่า

จิตหยาบของคุณนั้นจักต้องสั่นสะเทือน

เป็นคลื่นความถี่ทางด้านบวกได้ตลอดเวลา

ไม่ว่าจะถูกสิ่งเร้าทั้งภายนอกและภายในปลุกกระตุ้น

ด้วยเงื่อนไขที่ดีคือด้านบวกหรือเงื่อนไขไม่ดีคือด้านลบ

ก็สามารถรักษาคุณสมบัติเดิมคือ #นิ่งสงบ ไว้ได้ตลอด

โดยไม่โอนเอนไม่สั่นไหวไปตามสิ่งเร้าเหล่านั้น

แม้จะถูกเย้ายวนหรือถูกยั่วยุแค่ไหนก็ตาม

จิตหยาบของคุณก็ยังสงบนิ่งอยู่ได้เป็นปกติดั่งภูผา

 

เรากล่าวต่อพวกคุณในพระนามของพระเจ้า

โดยกล่าวเอาไว้เมื่อวานนี้ให้รู้โดยทั่วกันแล้วว่า

จิตที่นิ่งสงบนั้นเป็นการสั่นสะเทือนด้วยคลื่นความถี่สูง

เป็นอาการของสภาวะจิตที่ปราศจากสิ่งปนเปื้อน

ซึ่งมันจะตรงข้ามกันกับสภาวะจิตเมื่อถูกยั่วยุเย้ายวน

ด้วยเงื่อนไขบวกบ้างลบบ้างจากจิตตนและคนรอบข้าง

สิ่งปนเปื้อนที่ในจิตในปัจจุบันขณะดังกล่าวนี่แหละ

จะทำให้แรงสั่นสะเทือนของจิตหยาบคุณตกต่ำลง

 

เมื่อจิตหยาบสั่นสะเทือนด้วยคลื่นความถี่ต่ำ

เพราะถูกครอบงำด้วยกิเลสตัณหาราคะอารมณ์ขยะ

แรงสั่นสะเทือนระดับต่ำทำให้จิตเข้าถึงความรักมิได้

แถมเข้าถึงการใช้ปัญญาของสมองสองซีกไม่ได้ด้วย

เนื่องจากความรักที่บริสุทธิ์สะอาดเป็นคลื่นความถี่สูง

อีกทั้งสมองจะไม่สั่นสะเทือนตามจิตเพื่อการคิดรู้ให้

ถ้าจิตคุณมีแรงสั่นสะเทือนไม่สูงมากพอที่จะปลุกได้

 

สมองของคุณพระเจ้าทรงติดตั้งไว้ให้ใช้สองซีก

สำหรับสติปัญญาของสมองซีกซ้ายนั้นยังพอทำเนา

เพียงแค่คุณนึกลบด้วยพลังจิตในย่านความถี่ต่ำ

ก็ใช้พลังจิตที่เป็นลบนั้นคิดลบด้วยสมองซีกซ้ายได้

แต่ถ้าคุณจะใช้ความฉลาดของสมองซีกขวาให้ได้นั้น

แรงสั่นสะเทือนของจิตคุณจะต้องสูงกว่าหรือมากกว่า

แปลว่าจิตคุณต้องสั่นสะเทือนด้านบวกให้ได้เท่านั้น

นั่นคือจิตหยาบนั้นต้องมีเมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา

ต้องอดทน อดกลั้น ให้อภัย เพื่อทำให้จิตว่างให้จงได้

การคิดด้วยสมองซีกขวาซึ่งเป็น #ระบบกดปุ่ม ใช้งาน

จึงจะสามารถใช้การได้อย่างมีประสิทธิผล

 

ถ้าจิตหยาบคุณไม่ใสสะอาดหรือไม่บริสุทธิ์

ยังมีกิเลสตัณหาราคะอารมณ์ขยะปนเปื้อนอยู่ในนั้น

แม้มันจะมีพลังมากพอที่จะสั่นสะเทือนสมองซีกซ้าย

ให้ตื่นตัวขึ้นมาทำการคิดวิเคราะห์ตามที่จิตนึกได้

แต่ผลจากการคิดวิเคราะห์ด้วยจิตใจไม่ใสบริสุทธิ์นั้น

คุณจะได้รับคำตอบที่ไม่ถูกต้องไม่ตรงจริงเสมอ

เพราะคุณจะเกิดอาการเหมือนคนอับเฉาเบาปัญญา

จะยังผลให้คิดเห็นเป็นทำอะไรๆแบบโง่ๆได้เสมอ

 

นอกจากนั้น

เรายังมีความจริงอีกสิ่งหนึ่งที่จะบอกให้พวกคุณรู้ไว้

ในเรื่องของ “จิตที่ใสสะอาดบริสุทธิ์” ก็คือ #จิตว่าง

โดยจิตต้องว่างจากการนึกคิดในเรื่องอื่นใดให้ได้ด้วย

เพราะจิตหยาบของคุณมันสั่นสะเทือนได้ทีละอย่าง

มันสร้างกระบวนการคิดด้วยขันธ์ห้าได้ทีละเรื่องเท่านั้น

จงอย่านึกมั่วแบบ “ลูกอีช่างนึก” เดี๋ยวนึกนั่นโน่นนี่

มันจะทำให้จิตหยาบนั้นไม่สงบจนขาดพลังอำนาจ

แถมทำให้จิตสับสนไม่รู้ว่าคุณสนใจจะคิดเรื่องไหนแน่

คุณก็จะเกิดอาการ “ป.ส.ด.” จนโรคเครียดลงกระเพาะ

 

ที่เรากล่าวมาทั้งหมดนี้

เพื่อชี้แนวทางสร้างแนวทำให้กับพวกคุณ

ในการเข้าถึงอำนาจทางจิตตปัญญาแห่งตน

ที่พระบิดาแห่งจิตวิญญาณทรงติดตั้งเอาไว้ให้

ตั้งแต่รับโอกาสมาเกิดเป็นมนุษย์ในภพชาติแรกแล้ว

ด้วยการใช้มันให้ได้ใช้มันให้เป็นและใช้ให้ถูกต้อง

จะได้ไม่เสียชาติเกิดหรือเสียทีที่มาเกิดเป็นมนุษย์อีก

 

คุณจะต้องรู้เอาไว้ด้วยว่า

จิตหยาบของคุณที่มันขยันสั่นสะเทือนขับเคลื่อนกิเลส

ขณะเกิดเป็น “คนสองมิติ” อยู่ตลอดวันเวลานั้น

เจ้าตัวกิเลสและบริวารทั้งหลายของมันจะหล่นลงไป

บันทึกไว้ใน “สัญญาขันธ์” ด้วยการจำได้หมายรู้เอาไว้

ซึ่งมันจะกลายเป็นเสบียงขยะของจิตวิญญาณของคุณ

ที่จะถูกแบกขนข้ามภพชาติต่อไปอีกเมื่อคุณตายแล้ว

จะยังผลให้การชำระจิตของคุณด้วยตนเองยิ่งยากขึ้น

นอกจากได้เข้าร่วมปฏิบัติการไซโคโชว์ของเราเท่านั้น

หรือรอวันตกนรกเพื่อชำระกับท่านยมบาลก่อนกลับมา

สู่การเกิดใหม่ในชาติใหม่ต่อไปได้

 

กราบพระบาทพระบิดาที่ทรงเมตตา

 

เอเมน สาธุ

ปัญญาวิสุทธิ์

19/02/2567