09 กุมภาพันธ์ 2567

คัมภีร์อนุตรธรรมภาคจิตจักรวาล 9/02/2567

 #คัมภีร์อนุตรธรรมภาคจิตจักรวาล

(เพื่อยุวจิตจักรวาลยุคสุดท้าย)

 

พี่ๆน้อง ๆที่รักแห่งเราทั้งหลาย

เราจะกล่าวความจริงต่อท่านทั้งหลายว่า

 

ทุกสรรพสิ่งที่พระเจ้าทรงสร้างขึ้นไว้ในเอกภพ

รวมทั้งที่มีอยู่ในระบบโลกล้วนมี “อัตตา” ทั้งสิ้น

ไม่ว่าจะเป็นของแข็ง ของเหลว ก๊าซ และพลังงาน

ไม่มีสรรพสิ่งใดที่ปราศจาก “อัตตา” ตัวตน

ซึ่งคุณจะสัมผัสรู้ดูเห็นอัตตาตัวตนของทุกสิ่งได้

ด้วยอายตนะภายนอกคือตาหูจมูกลิ้นและกายสัมผัส

โดยอัตตาของแต่ละสรรพสิ่งจะเป็นรูปรสกลิ่นเสียง

รวมทั้งเย็นร้อนอ่อนแข็ง เป็นต้น

 

สรรพสิ่งที่ทรงสร้างซึ่งอยู่ในรูปของคลื่นพลังงาน

เช่น คลื่นแสง คลื่นเสียง คลื่นไฟฟ้าแม่เหล็ก

คลื่นความร้อน คลื่นความหนาวเย็นที่เป็น #อนัตตา

สิ่งเหล่านี้ก็ล้วนมี #อัตตา ตัวตนเช่นเดียวกัน

 

กล่าวง่ายๆก็คือ

ทุกสรรพสิ่งที่พระองค์ทรงกำหนดสร้างขึ้น

ไม่ว่าสิ่งนั้นจะเป็นรูปธรรมลักษณะใดแบบไหน

สิ่งนั้นก็ล้วนมี “อัตตา” หรือมีตัวตนอยู่ด้วยกันทั้งสิ้น

เช่น “สวรรค์นิรันดร” ซึ่งเป็นพระนิเวศน์ของพระเจ้า

คืออาณาบริเวณพื้นที่ ๆอยู่ภายนอกระบบเอกภพ

ก็มีคุณสมบัติเป็นอนัตตาแต่มีอัตตาอยู่จริงเช่นกัน

 

ขณะที่ “สวรรค์มายา” เป็นภพภูมิที่พระเจ้ามิได้สร้าง

แต่เป็นมายาที่เกิดจากการปรุงแต่งของจิตมนุษย์

ที่มีความเชื่อความศรัทธาและอำนาจของกิเลสตัณหา

เนรมิตมายาสวรรค์ขึ้นมาตามภาพที่เห็นกันอยู่ทุกวัด

สวรรค์มายาที่ไม่เคยมีอยู่จริงก็ปรากฏเกิดขึ้นมาได้

คนชอบธรรมที่จิตยังติดกิเลสอยู่ไปหลงยึดติดมันเข้า

สวรรค์มายาที่เนรมิตกันขึ้นมาเองจึงมีอัตตาเกิดขึ้น

โดยอัตตาที่เกิดขึ้นนั้นมันเกิดที่ในจิตของพวกคุณเอง

 

ดังนั้น

สวรรค์มายาที่เป็นภพภูมิของเทพเทวดา

ซึ่งเกิดขึ้นมาจาก “ความว่างเปล่า” ไม่มีอยู่จริง

เพราะพระเจ้ามิได้ทรงกำหนดสร้างขึ้นไว้ตั้งแต่แรก

ถ้าในความว่างนั้นไม่มีตัวตนอะไรให้สัมผัสรู้ดูเห็นได้

นอกจากสนามพลังงานของพระองค์ซึ่งมีอยู่จริงแล้ว

ความว่างนั้นก็มีคุณสมบัติเป็น “อนัตตา” นั่นเอง

 

แต่สวรรค์มายาที่มีอัตตาตัวตนขึ้นมาได้

เพราะความเชื่อความชอบจากความงมงายของคุณ

โดยที่อัตตาตัวตนของสวรรค์มายามันเกิดที่ในจิตคุณ

เนื่องจากตัวคุณไปหลงยึดติดมันเข้าเพราะคุณชอบ

ทั้งๆที่แดนสวรรค์มายาซึ่งเป็นวิมานเมืองแก้ว

เป็นแค่เมืองมายาเท่านั้นไม่ได้มีอยู่จริงแต่อย่างใด

ถ้าทวยเทพเทวดาพร้อมใจกันเลิกยึดติดมันเมื่อใด

วิมานเมืองสวรรค์จะพลันสลายหายวับไปในบัดดล

 

พวกคุณจักต้องรู้ว่า

ทุกสรรพสิ่งที่ทรงสร้างขึ้นไว้ในเอกภพและระบบโลก

มีมายารูปลักษณ์จำเพาะตนด้วยกันทั้งสิ้น

ทุกสรรพสิ่งล้วนมีความแปลกแยกแตกต่างกันไป

ขณะตัวตนที่แท้จริงคือแก่นแท้ของสรรพสิ่งทั้งหลาย

จะเป็น #รูปธรรมทางพลังงาน ด้วยกันทั้งสิ้น

 

ที่แต่ละสรรพสิ่งมีตัวตนรูปลักษณ์แตกต่างกันออกไป

เพราะแก่นแท้คือพลังงานของสรรพสิ่งทั้งหลายนั้น

มีคุณสมบัติจำเพาะตนแตกต่างกันหรือไม่เหมือนกัน

เช่น ลักษณะของน้ำที่คุณมองเห็นว่าเป็นของเหลว

ก็เพราะโมเลกุลของน้ำมีแรงยึดรั้งระหว่างกันไม่มาก

ซึ่งต่างจากก้อนหินที่คุณมองเห็นว่าเป็นของแข็ง

ก็เพราะโมเลกุลของก้อนหินมีแรงยึดรั้งกันสูงมากกว่า

 

แรงยึดรั้งก็คือคุณสมบัติของพลังงานที่เป็นแก่นแท้

รวมทั้งสีสันกลิ่นและรสชาติของแต่ละสรรพสิ่งด้วย

พวกคุณจะต้องไม่ยึดติดกับมายารูปลักษณ์เหล่านี้

เพราะจิตคุณจะสร้างอัตตาตัวตนของสิ่งนั้นขึ้นมายึด

โดยมายาที่เกิดขึ้นภายในจิตเพราะจิตคุณยึดติดสิ่งนั้น

มันน่ากลัวยิ่งกว่ามายาของสรรพสิ่งที่พระเจ้าสร้างไว้

กล่าวคือ “อัตตาภายในจิตคุณ” ที่เกิดจากกิเลสมาร

ทำการปั้นแต่งเป็นชอบไม่ชอบ เป็นอยากไม่อยากนั้น

เมื่อปล่อยให้มันเกิดแล้วคุณจะปล่อยวางมันยากมาก

 

ที่พวกคุณพากันสอบตกจากการยึดติดนั้น

ส่วนใหญ่แล้วเกิดจากการละวางอัตตาที่ในจิตไม่ได้

 

หอมเย้ายวนชวนให้อยากดม

หอมเย้ายวนชวนให้อยากกิน

เหม็นคละคลุ้งชวนให้รังเกียจ

สวยจนอยากจับอยากลูบอยากคลำ

ไพเราะชวนให้อยากฟังซ้ำ

ฯลฯ

 

ละวางไม่ได้ก็เพราะอัตตาที่ในจิตตนเองทั้งนั้น

 

กราบพระบาทขอบพระทัยพระบิดาที่่ทรงเมตตา

 

เอเมน สาธุ

ปัญญาวิสุทธิ์

9/02/2567