14 กุมภาพันธ์ 2567

คัมภีร์อนุตรธรรมภาคจิตจักรวาล 14/02/2567

#คัมภีร์อนุตรธรรมภาคจิตจักรวาล
 
พี่ๆน้องๆที่รักแห่งเราทั้งหลาย
เราจะกล่าวความจริงต่อท่านทั้งหลายว่า
 
ตาหูจมูกปากและกายสัมผัสที่เป็นอายตนะทั้ง 5
พระบิดาแห่งจิตวิญญาณทรงประทานให้คุณมา
เพื่อให้จิตหยาบใช้ทำประโยชน์แห่งตน 3 อย่าง คือ
 
1.เอาไว้ "รับรู้" สิ่งเร้าภายนอก
สำหรับ "การเรียนรู้" ของ "จิต" กับ "สมอง"
เพื่อรู้ว่าอะไรเป็นอะไรอย่างไร
 
2.เอาไว้เป็นช่องทางสร้างเงื่อนไขจากการรับรู้
สิ่งเร้าทั้งหลายจำพวกรูป รส กลิ่น เสียง
เย็น ร้อน อ่อนแข็ง เหตุการณ์ เรื่องราว เป็นต้น
 
3.เพื่อให้จิตหยาบเมื่อรับรู้สิ่งเร้านั้นๆแล้ว
จะถูกกระตุ้นให้เกิดการสั่นสะเทือนของขันธ์ 5
ให้แก่จิตหยาบซึ่งทำหน้าที่แทนจิตวิญญาณ
โดยเกิดการสั่นสะเทือนขึ้นเป็น 5 ขั้นตอนต่อเนื่อง
เพื่อให้เกิดกระบวนการใน 2 มิติ คือมิติแห่งเนื้อหนัง
กับมิติแห่งจิตวิญญาณทางด้านพลังงานควบคู่กัน
ซึ่งพระพุทธองค์ทรงเรียกว่า #ขันธ์ห้า ประกอบด้วย
รูป เวทนา สัญญา สังขาร และวิญญาณ (พลังงาน)
 
โดยในมิติของเนื้อหนังจะเกิดพฤติกรรมภายนอก
เป็นกายกรรมกับวจีกรรมแบบต่างๆกันไป
ส่วนในมิติของจิตวิญญาณนั้นจะเป็นมโนกรรม
ที่เมื่อสั่นสะเทือนแล้วก็จะผลิตสร้างพลังงานจิต
เหวี่ยงออกมาภายนอกร่างกาย
 
ถ้าคุณสั่นสะเทือนจิตสามนึกด้านบวกสนองตอบ
เมื่อจิตถูกกระตุ้นด้วยสิ่งเร้าที่รับรู้ผ่านอายตนะ
มันคือการ #หมุนธรรมจักร ในแบบที่ถูกต้อง
เพราะคุณจะเหวี่ยงพลังงานสะอาดออกมาให้โลก
ในแบบที่โลกต้องการเพื่อช่วยค้ำจุนสมดุลโลก
 
ถ้าคุณสั่นสะเทือนจิตสามนึกเป็นด้านลบ
เมื่อจิตถูกกระตุ้นด้วยสิ่งเร้าที่รับรู้ผ่านอายตนะนั้น
มันคือ #การหมุนกรรมจักร ซึ่งผิดต่อจิตวิญญาณ
ที่ขันอาสามาเกิดเป็นเพื่อนร่วมงานกับโลก
ทำให้คุณตกเป็นทาสกฎแห่งกรรมต้องมีอายุขัย
ต้องเวียนตายเวียนเกิดมาจนกระทั่งทุกวันนี้
เพราะคุณทำผิดหน้าที่ของจิตวิญญาณตนเอง
ทำผิดสัจจะต่อพระบิดาแห่งจิตวิญญาณที่ให้ไว้
 
ดังนั้น
เราจะขอกล่าวความจริงให้พวกคุณรู้ว่า
การมีอายตนะภายนอกทั้งห้าทั้งๆที่ยังดีอยู่
แต่กลับแกล้งทำเป็นคนพิการคือมีแต่ไม่ใช้งาน
กับมีดีอยู่อย่างครบถ้วนแต่ใช้งานไม่ถูกต้อง
คือใช้ผิดวัตถุประสงค์ เช่น ใช้เพื่อก้าวล่วงผู้อื่น
ทั้งสองอย่างนี้คือปัญหาของชาวโลก
ที่ล้มเหลวทางจิตวิญญาณตลอดมาจนทุกวันนี้
 
สิ่งสุดท้ายก็คือ
ยิ่งถ้าไม่รู้จักรักคนข้างบ้านให้เหมือนกับรักคนในบ้าน
ยิ่งถ้ารักเพื่อให้ เช่น เมตตา กรุณาไม่ได้ อภัยไม่เป็น
ยิ่งถ้าเป็นคนเห็นแก่ตัวและพวกตัวเท่านั้น
ยิ่งถ้าจะรักจะให้อะไรใครต้องมีเงื่อนไขแลกเปลี่ยน
ยิ่งถ้าทำบุญแล้วอธิษฐานร้องขอสิ่งตอบแทน
ยิ่งดำเนินชีวิตประจำวันด้วยกิเลสตัณหาด้วยแล้ว
 
สมองของคุณจะเสื่อมลง 10% ทุก 9 ปี
ยังผลให้มี "ญาณ" ต่ำลงไปเรื่อยๆ
ในทุกภพชาติที่กลับมาเกิดใหม่ก็จะโง่ลงเรื่อยไป
จิตคุณก็จะมีพลังอำนาจต่ำลงหรือมี "ฌาน" ต่ำ
จนในที่สุดจิตหยาบคุณก็ไม่อาจนำพาจิตวิญญาณ
ซึ่งเป็นตัวตนแท้จริงของคุณกลับบ้านแดนสุญตาได้
เพราะหลุดพ้นจากกฏแห่งกรรมไม่ได้
หลุดพ้นจากการเกี่ยวกรรมกับคู่เวรคู่กรรมไม่ได้
หลุดพ้นจากแรงดึงดูดของโลกและเอกภพไม่ได้
 
จงจำไว้ว่า 2 เรื่องใหญ่ที่เรากล่าวไว้ข้างต้นนั้น
ถ้าหากคุณเป็นคนชอบธรรมที่แท้จริงแล้ว
ไม่ว่าคุณจะเป็นใครหรือเป็นผู้นับถือศาสนาใด
คุณต้องนำมาขบคิดพิจารณาให้ถี่ถ้วน
 
เรานำแสงสว่างนี้มาสู่โลกมาให้พวกคุณ
เพราะเรารักพวกคุณทุกคนเท่าเทียมกัน
คุณต้องรีบเร่งแก้ไขเปลี่ยนแปลงตนเองเสียใหม่
ก่อนที่มันจะสายไปมากกว่านี้
 
พวกคุณคือเจ้าสาวของเราที่เรากลับมารับ
พวกคุณเป็นฝูงแกะของพระเจ้า
ที่ทรงมีพระบัญชาให้เรากลับมาช่วยพวกคุณ
ในช่วงสุดท้ายปลายยุคพลังงานเก่าในเร็วๆนี้
ก่อนที่โลกจะมืดพร้อมกันทุกทิศนาน 8 ราตรี
ช่วงเวลาที่ปฏิบัติการเปลี่ยนยุคด้วยมหันตภัยพิบัติ!
ความรอดกับการหลุดพ้นขึ้นกับตัวคุณเองเท่านั้น
 
กราบพระบาทพระบิดาที่ทรงพระเมตตา
เอเมน สาธุ
 
ปัญญาวิสุทธิ์
14/02/2567