#คัมภีร์อนุตรธรรมภาคจิตจักรวาล
พี่ๆน้อง
ๆที่รักแห่งเราทั้งหลาย
เราจะกล่าวความจริงต่อท่านทั้งหลายว่า
คำว่า
#จิตตกต้องยกจิต นี้เป็นคำกล่าวที่ถูกต้อง
ซึ่งมักจะเกิดขึ้นในชีวิตประจำวันของคุณได้เสมอ
เพราะ
“จิตตก” เป็นอาการเสียสมดุลของจิตหยาบ
ที่เป็นตัวแทนของจิตวิญญาณผู้เป็นแก่นแท้ของคุณ
ในขณะมีภพชาติเป็น
#คนสองมิติ หรือมีชีวิตอยู่
สภาวะจิตในยามปกติของพวกคุณแต่ละคนนั้น
จิตหยาบที่มีความสงบสมดุลอยู่ในตนเอง
จะอยู่ในอาการที่เรียกว่า
“สงบอยู่” หรือนิ่งอยู่เสมอ
คำว่า
“จิตสงบ” ในมิติของจิตวิญญาณด้านพลังงาน
คืออาการของจิตหยาบที่สั่นสะเทือนด้านบวกสูงสุด
หรือในขณะนั้นกำลังสั่นสะเทือนเป็นความถี่สูงนั่นเอง
เนื่องจากจิตหยาบนั้นกำลังสั่นสะเทือนไปตามปกติ
เพราะจิตว่างจากกิเลสตัณหาราคะอารมณ์ขยะทั้งปวง
โดยมิได้สั่นสะเทือนตอบสนองเพื่อการรับรู้แล้วรับเอา
ข้อมูลที่เป็นสิ่งเร้าผ่านอายตนะภายนอกเข้ามาภายใน
คำว่า
“รับรู้แล้วรับเอา” อันเป็นเหตุให้ “จิตตก” นี้
มันจะเกิดขึ้นไม่ได้ถ้าคุณระวังป้องกันจิตของตนไว้
ด้วยเครื่องมือชิ้นสำคัญของพระเจ้าที่เรียกว่า
#มหาสติ
ซึ่งทรงประทานผ่านเรามามอบให้พวกคุณไว้นานแล้ว
เพราะการรับรู้แล้วรับเอานั้นมันมิใช่หน้าที่ของจิตหยาบ
ซึ่ง
#การรับเอา หมายถึงเมื่อจิตรับรู้ข้อมูลที่ส่งมาให้
จากกลไกอายตนะภายนอกทั้งห้าเรียบร้อยแล้วเมื่อไหร่
จิตหยาบจะสั่นสะเทือน
“ตอบสนอง” เป็น #กิเลส เสมอ
มันคือการ
“รับเอาสิ่งนั้น” มาปรุงแต่งต่อทันที
ผลลัพธ์จากการปรุงแต่งในเบื้องต้น
ที่ยังผลให้เกิดเป็นอาการของจิตตกก็คือ
“กิเลส” นี่เอง
กิเลสที่เกิดขึ้นก็คือ
#การชอบหรือไม่ชอบ หรือ
#ลังเล
ล้วนเป็นสภาวะจิตของคนที่เกิดอาการ
“จิตตก” โดยแท้
แต่เนื่องจากความรู้สึกของจิตที่เป็นกิเลสนี้ไม่มีตัวตนอยู่
จึงทำให้จิตหยาบไม่อาจสามารถ
“ยึดติด” มันเอาไว้ได้
จิตหยาบพวกคุณจึงลดระดับการสั่นสะเทือนให้ต่ำลงอีก
จนเกิดเป็นสิ่งที่พวกคุณเรียกว่า
#ตัณหา ตามมาในที่สุด
นั่นคือ
#อยากหรือไม่อยาก หรือการลังเลไม่แน่ใจต่อไป
ดังนั้น
เราจะกล่าวให้พวกคุณได้รับรู้กันเอาไว้ว่า
กิเลสหรือความรู้สึกนี่แหละเป็นบ่อเกิดแห่งตัณหา
ถ้าคุณไม่ใช้
“มหาสติตามมรรควิถีจิตจักรวาล” แล้ว
คุณก็จะเป็นมนุษย์คนหนึ่งที่ถูก
#วางยา โดยผีโสโครก
เกิดตายกี่ภพกี่ชาติก็มิอาจนิพพานกิเลสให้หมดสิ้นได้
เพราะว่าจิตคุณมันจะถูก
“ตัณหา” ครอบงำจนไร้อิสระ
เนื่องจาก
“ตัณหา” ที่ในจิตหยาบของคุณนี่แหละ
มันจะชักพาให้
“จิตตก” ลงต่ำดำดิ่งสู่ก้นบึ้งของบึงไฟ
เนื่องจากตัณหาเป็นที่มาของ
#ราคะจริต
ทำให้จิตหยาบยึดติดความพึงพอใจในรูปรสกลิ่นเสียง
รวมทั้งจะทำให้จิตหยาบถูก
#อารมณ์ขยะ ครอบงำ
จนต้องทำอะไรไปตามอารมณ์ขยะที่มันจะบงการคุณ
ทำให้เข้าถึงการใช้จิตตปัญญาของจิตกับสมองไม่ได้
เมื่อใดที่จิตคุณตกเป็นทาสของกิเลส
คุณก็จะไม่อาจใช้จิตหยาบที่มีขันธ์ห้าเป็นคุณสมบัติ
เพื่อทำหน้าที่ทางจิตวิญญาณที่อาสามาเกิดบนโลก
ทำการ
#หมุนธรรมจักรในตนเอง และหมุนร่วมกันได้
จึงเป็นปัญหาของคุณที่ไม่ก้าวหน้าทางจิตวิญญาณ
แม้จะผ่านการเกิดการตายจนนับภพชาติไม่ถ้วนแล้ว
เพราะไม่อาจใช้ความรักช่วยค้ำจุนจิตหยาบของตนเอง
ให้ยกระดับสู่มิติที่
5D
และ 6D เมื่อครบสามขวบแล้วได้
อีกทั้งในขณะเดียวกัน
พวกคุณที่เป็นชาวโลกเสรีทั้งหลาย
เมื่อหมุนธรรมจักรร่วมกันอย่างต่อเนื่องไม่ได้
ในแบบ
#ธรรมจักรกัปปวัตนสูตร ที่พระพุทธองค์ค้นพบ
พวกคุณก็มิอาจใช้
#เมตตาธรรมค้ำจุนสมดุลโลกได้
เพราะพวกคุณถูกคนนำทางตาบอดกรรมกรของมาร
ปิดบังความจริงเอาไว้โดยไม่ให้ล่วงรู้ว่า
1.ทำไมพระศาสดาทุกพระองค์จึงสอนให้มนุษย์รักกัน
ด้วยความรักในแบบของจิตวิญญาณซึ่งเป็นรักเพื่อให้
มิใช่
#รักเพื่อเอา อันเกิดจาก
“กิเลส” เป็นต้นทาง
2.ทำไมพระศาสดาจึงสอนว่า “เมตตาธรรม” ค้ำจุนโลก
คำว่า
“ค้ำจุนโลก” แปลว่าความรักช่วยทำให้โลกสมดุล
เพราะความรักของพวกคุณทำให้โลกเหวี่ยงหมุนได้
3.ทำไมพวกคุณต้องมีภพชาติทำไมต้องมีสังสารวัฏ
ทำไมบวชนานแล้วใยนิพพานกิเลสกันไม่ได้
ทำไมบวชมาตั้งนานแต่จิตวิญญาณยังหลุดพ้นกันไม่ได้
คำตอบเดียวก็คือ
#พวกคุณหลงทางนิพพาน
หลงไปตามพวกมารหรือผีโสโครกที่หลอกลวงไว้
ทำเรื่องง่ายให้กลายเป็นเรื่องยากจนเกินจริงตลอดมา
จากต้นทางที่ผิดพลาดก็คือเรื่อง
“จิตตก” เพราะกิเลส
ก่อให้เกิดบริวารกิเลสขึ้นมาเป็นจริตสันดานที่ซับซ้อน
ยังผลให้บวชมานานแล้วหาทางนิพพานไม่ได้
จนทำให้พระพุทธองค์ต้องทรงออกมาเตือนสติว่า
#ถ้าเหตุดับทุกสิ่งอย่างนั้นก็จะดับตามไปด้วย
แปลความว่า
ตัณหาอารมณ์ขยะราคะจริตทั้งหลายเกิดจากกิเลส
เพียงแค่จัดการกับกิเลสที่เป็นต้นทางซึ่งทำให้จิตตกได้
พวกคุณก็จะไม่ต้องตายไม่ต้องมีภพชาติ
ไม่ต้องมีสังสารวัฏให้มันวุ่นวายแต่อย่างใดเลย
เพียงแค่ทำหน้าที่หมุนธรรมจักรในตนเองให้จงได้
และชวนคนรอบข้างมาหมุนธรรมจักรร่วมกันให้ได้ด้วย
เพื่อช่วยกันค้ำจุนโลกและยกระดับจิตหยาบสู่
6D
ให้ได้
หน้าที่พวกคุณที่แท้จริงนั้นมันก็มีเท่านี้เอง
จากภาพประกอบที่
“ชายน้อย” สร้างให้
มันจะช่วยทำให้คุณเข้าใจคำที่ว่า
“จิตตก” ได้ชัดขึ้น
ถ้าตัวการ์ตูนที่กำลังเดินบนเส้นเชือกที่ขึงจนตึงอยู่นั้น
เจ้าหล่อนก็คือ
“ตัวตนของคุณเอง” ในสภาวะปัจจุบัน
ถ้าสามารถหยัดยืนก้าวเดินบนเส้นเชือกได้ไม่สั่นไหว
โดยเชือกเส้นนั้นแทนค่าด้วย
“สภาวะจิต” ของคุณแล้ว
ถ้าเชือกเส้นนั้นไม่สั่นไม่แกว่งไกวโดยมันยังตึงอยู่ได้
ตัวคุณก็จะไม่พลาดพลัดตกจากเส้นเชือกโดยเด็ดขาด
ตรงกันข้ามกับการที่เชือกนั้นหย่อนยาน
เพราะทำการยึดรั้งมันไว้ไม่ตึงเท่าที่ควร
เชือกที่หย่อนยานมันคือการสั่นสะเทือนย่านความถี่ต่ำ
ในมิติของจิตหยาบก็คือความถี่ของกิเลสและบริวาร
ถ้าจะทำให้เชือกนั้นตึงมากขึ้นให้จงได้แล้ว
ก็ต้องยกระดับแรงสั่นสะเทือนให้สูงขึ้นคือดึงให้ตึงขึ้น
อันหมายถึงคุณต้อง
#นิพพานกิเลส
เหตุแห่งจิตตกให้สำเร็จให้ได้กันเสียก่อน
กราบพระบาทพระบิดาทรงเมตตา
เอเมน
สาธุ
18/02/2567