#คัมภีร์อนุตรธรรมภาคจิตจักรวาล
พี่ๆน้อง
ๆที่รักแห่งเราทั้งหลาย
เราจะกล่าวความจริงต่อท่านทั้งหลายว่า
นอกจากหินก้อนหนึ่ง
ซึ่งคุณเดินไปสดุดมันเข้าจนนิ้วเท้าเจ็บเลือดซิบ
มิใช่ตัวตนที่แท้จริงของหินก้อนนั้นแต่อย่างใด
ก้อนที่คุณสดุดมันนั้นเป็นแค่ตัวแทนของแก่นแท้
ที่บ่งบอกถึงคุณสมบัติของแก่นแท้ที่เป็นพลังงาน
ซึ่งเร้นตนเองอยู่ข้างในที่ตาคุณมองไม่เห็นแล้ว
เพื่อนร่วมโลกของคุณจำพวกหมูหมากาไก่
รวมทั้งเพื่อนมนุษย์หญิงชายทั้งหลายก็มิได้ต่างกัน
พวกคุณจะต้องไม่ใช้จิตหยาบไปสมสู่กับเงามายา
ที่เป็นอัตตารูปลักษณ์ของพวกเขาด้วยเช่นเดียวกัน
คำว่า
“สมสู่” ในที่นี้เราหมายถึงการได้เสียบางสิ่ง
ซึ่งเกิดขึ้นระหว่างจิตหยาบกับเงามายาของแก่นแท้
ที่คุณสัมผัสรู้ดูเห็นมันอยู่นั้นแล้วเกิดผลเป็นตัวอ่อน
คือได้ความรู้สึกเพราะพออกพอใจในมายาของเขา
กับเสียความรู้สึกเพราะไม่พึงพอใจในมายาของเขา
จนทำให้เกิดลูกเกิดผลเป็น
“ตัวอ่อน” เรียกว่ากิเลส
จาก
“กิเลส” ที่เป็นตัวอ่อนก็จะพัฒนาเป็น “ตัวแก่”
โดยตัวแก่ก็คือ
#ตัณหา ที่เป็นอยากไม่อยากนั่นเอง
ที่ผ่านมาในอดีตกี่ภพชาติแล้วล่ะ
พวกคุณไม่สามารถหมุนธรรมจักรร่วมกันได้
โดยรักคนที่ทำตนไม่น่ารักก็ไม่ได้
ให้อภัยคนที่ทำตัวไม่น่าให้อภัยก็ไม่เป็น
มีแต่การเห็นแก่ตัวกับพวกของตัวเองเท่านั้น
นี่มิใช่เพราะไปหลงใหลในเงามายา
ที่เป็นคุณสมบัติของแก่นแท้คือจิตของเขาดอกหรือ
อาการแสดงออกของคนรอบข้างที่คุณเห็นอยู่นั้น
ไม่ว่าจะเป็นลักษณะนิสัยที่ดีแบบที่คุณชอบใจ
หรือเป็นสันดานที่ไม่ดีแบบที่คุณไม่ชอบใจก็ตาม
มันล้วนแล้วแต่เป็น
“เงามายา” ที่เกิดจากแก่นแท้
คือจิตหยาบซึ่งเป็นตัวแทนของจิตวิญญาณ
ที่เร้นอยู่ในเครื่องยนต์แห่งกรรมรูปธรรมมนุษย์ทั้งสิ้น
ไม่ต่างจากสีกลิ่นรสที่เป็นคุณสมบัติของสรรพสิ่ง
ที่คุณสัมผัสรู้ดูเห็นแล้วคุณมีหน้าที่เรียนรู้มันว่า
นี่เป็นส้มโอนี่ส้มเขียวหวานนั่นแตงโมโน่นเป็นมะระ
จิตคุณไม่มีหน้าที่สมสู่กับมายาของผักผลไม้เหล่านี้
ให้เกิดความรู้สึกเป็นว่าชอบหรือเป็นไม่ชอบ
เพราะคุณไม่มีหน้าที่เปลี่ยนมะระจากขมให้เป็นหวาน
หรือแม้จะมีหน้าที่แต่คุณก็เปลี่ยนคุณสมบัติมันไม่ได้
เพราะธรรมชาติของมะระต้องขมถ้าไม่ขมก็มิใช่มะระ
สันดานไม่ดีหรือนิสัยดีๆของคนอื่นก็ตาม
คุณจะบังอาจเปลี่ยนแปลงแก้ไขคุณสมบัติเขาได้หรือ
ถ้าคุณคบใครที่สันดานไม่ดีแล้วคุณโกรธเกลียดเขา
รู้หรือไม่ว่าจิตหยาบคุณได้สมสู่กับมายาของเขาแล้ว
ความโกรธเกลียดที่ในจิตคือลูกหลานของกิเลสทั้งสิ้น
ลูกหลานกิเลสพวกนี้สันดานซุกซนจะไม่อยู่ในโอวาท
มันคือตัวการที่ทำให้จิตหยาบไม่สงบคือเกิดทุกข์เสมอ
ความโกรธเกลียดหรือรังเกียจที่เกิดขึ้น
มันเป็นตัวบ่งชี้ว่าคุณกำลังต้องการ
#ดัดสันดาน
เพื่อจะเปลี่ยนแปลงแก้ไขคุณสมบัติของแก่นแท้ให้
ซึ่งคุณก็รู้ว่ามันเป็นเรื่องส่วนตัวจะก้าวก่ายกันไม่ได้
สันดานใครสันดานมันคนนั้นจะต้องรับผิดชอบเอง
บางคนที่สันดานไม่ดีบางทีเขาก็อาจจะพอรู้ตัวอยู่
แต่ทว่าตัวเขาก็ยังไม่สามารถจะแก้ไขสันดานนั้นได้
เนื่องจากจิตวิญญาณแบกขนกลับมาจากอดีตชาติ
เพื่อจะนำมาชำระแก้ไขกันต่อในภพชาติปัจจุบันก็มี
เนื่องจากพวกคุณหลงใหลในเงามายา
จึงสอบตกในเรื่องนี้กันมาตลอดหลายภพชาติแล้ว
พอเวียนตายเวียนเกิดผ่านมาหลายภพชาติเข้า
กิเลสก็จะยิ่งหนาปัญญาก็จะนิ่มอ่อนมากยิ่งขึ้น
ทำให้จิตวิญญาณพวกคุณล้มเหลวในการเป็นมนุษย์
ในแบบที่กล่าวสั้นๆว่า
“เสียชาติเกิด” กันตลอดมา
แม้จะหมั่นถือศีลกินเจปฏิบัติธรรมนั่งกรรมฐานแค่ไหน
แต่ไม่อาจเยียวยาความโง่ง่ายงมงายของตนได้
ความล้มเหลวของการเป็นคนสองมิติก็คือ
การที่พวกคุณใช้กิเลสตัณหาพากันหมุนกรรมจักร
เพราะเข้าถึงความรักเพื่อให้หรือมีจิตเมตตาต่อกัน
เพื่อหมุนธรรมจักรร่วมกันตามพันธสัญญาไม่ได้
จึงใช้ความรักทำให้โลกหมุนเพื่อสร้างสมดุลไม่ได้
ช่วยยกระดับจิตหยาบแบบหมู่คณะร่วมกันก็ไม่ได้
จิตหยาบอยู่ในมิติที่
4D
มาตั้งแต่แรกเกิดจนบัดนี้
มันก็ยังอยู่ที่มิติเดิมไม่ได้เพิ่มเป็น
5-6D
อีกเลย
ปัญหาสำคัญของชาวโลกก็คือ
1.มองข้ามผ่านเงามายาของสรรพสิ่งไม่ได้
2.นำเอาเงามายาที่สัมผัสได้มาสร้างอัตตาในจิตตน
เพื่อยึดมั่นถือมั่นมันเอาไว้อย่างแนบแน่น
ทั้งๆที่เงามายานั้นมันมิใช่อัตตาตัวตนที่แท้จริง
3.เมื่อไปหลงยึดติดมันไว้แน่น
พวกคุณจึงยากต่อการที่จะปล่อยวางมันลง
เมื่อยึดมั่นจนไม่ยอมปล่อยวางจิตคุณจึงไม่ว่าง
เมื่อจิตไม่ว่างพลังจิตจึงตกต่ำความรักจึงถดถอย
จนกลายเป็นคนปัญญาน้อยไปในที่สุด
ยิ่งใครเป็นผู้ใช้กิเลสนำหน้าไม่เคยฝึกใช้ปัญญาเลย
ใครคนนั้น...ก็จะยิ่งมีอาการน่าเป็นห่วง!
กราบพระบาทพระบิดาทรงเมตตา
เอเมน
สาธุ
23/02/2567