เราจะปฏิบัติตนเองอยากไรเมื่อสามีทำนิสัยไม่ถูกใจค่ะ
Sunisa Mata คำถาม
ท่านจักต้องตั้งสติและมีสำนึกให้ได้ว่า
พฤติกรรมหรือพฤตินิสัยที่สามีภรรยา
แสดงออกหรือกระทำต่อกันนั้น
ไม่ว่ามันจะเป็นพฤติกรรมที่ดีหรือไม่ดี
มันคือ #บทละคร ที่สามีภรรยาเขียนบทมาด้วยกัน
ซึ่งมีอยู่ 2 บทก็คือ
1.#ชะตาชีวิต
เป็นบทละครที่จิตวิญญาณของทั้งสองท่าน
ออกแบบวางแผนกันมาตั้งแต่ก่อนมาเกิด
เป็นมนุษย์ในภพชาติแรกแล้ว
ซึ่งมันจะมีทั้งบทดีและบทร้าย
โดยนิสัยหรือพฤติกรรมทั้งดีและไม่ดี
ที่สามีแสดงออกหรือกระทำต่อภรรยานั้น
มันคือ "บทละคร" ที่ภรรยาเป็นผู้ออกแบบเอง
แล้วมอบให้ฝ่ายสามีช่วยแสดงเป็นเงื่อนไขให้
ส่วนนิสัยหรือพฤติกรรมทั้งดีและไม่ดี
ที่ภรรยาแสดงออกหรือกระทำต่อสามี
มันคือ "บทละคร" ที่สามีเป็นผู้ออกแบบเอง
แล้วมอบให้ฝ่ายภรรยาช่วยแสดงเป็นเงื่อนไขให้
อันหมายถึงการ #แลกเปลี่ยน บทละครกัน
เพื่อช่วยกระตุ้นจิตหยาบให้สั่นสะเทือนขันธ์ 5
ให้ "หมุนธรรมจักร" มอบความรักให้แก่กัน
และแบ่งปันให้โลกเพื่อช่วยให้โลกเหวี่ยงหมุน
ในลักษณะของการใช้ #เมตตาธรรมค้ำจุนโลก นั่นเอง
บางครั้งบทละคร
ที่เป็นเงื่อนไขทดสอบจิตสำนึกแห่งรักนั้น
คนทั้งสองต้องการจะมอบความรักให้โลกมากกว่าปกติ
ก็จะออกแบบ "เงื่อนไข" ให้มันต้องใช้ความรักมากๆ
เช่น ต้องอดทน อดกลั้น ให้อภัยหรืออโหสิกรรม
ด้วยการทำตนเป็นคนนิสัยไม่ดีจนยากที่จะรับได้นั่นแหละ
ส่วนบทละครที่ใช้แค่ความเมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา
มักจะเป็นเงื่อนไขการกระทำด้านบวกตามปกติ
สามีภรรยาก็จะไม่มีปัญหาทางจิตต่อกัน
ซึ่งจะให้พลังงานความรักช่วยค้ำจุนโลกได้น้อยกว่า
ในทางปฏิบัติสามีภรรยาจึงไม่มีปัญหาข้องคับใจอะไร
ดังนั้น
ท่านต้องสังเกตว่า พฤตินิสัยของอีกฝ่ายหนึ่ง
ที่ท่านเองแทบจะรับไม่ได้นั้นมันมีน้อยกว่าพฤติกรรมดีๆ
ของเขามิใช่หรอกหรือ ท่านจักต้องระลึกว่า
1.พฤตินิสัยที่เขาแสดงต่อท่าน
ไม่ว่าจะดีหรือไม่ดีนั้นมันคือบทละครที่ท่านออกแบบ
และขอให้เขาช่วยแสดงเป็นเงื่อนไขให้ท่าน
พฤตินิสัยของท่านก็เช่นกัน
ตัวท่านเป็นคนออกแบบและขอร้องให้เขาช่วย
แสดงเป็นเงื่อนไขให้ท่าน "รักกันให้ได้"
2.การแลกเปลี่ยนบทละครกันเช่นนี้
มันคือการออกแบบวางแผนเพื่อร่วมกันพ่อแม่ลูก
สร้างสมการ "ซัมเบต้าเอ็กซ์" ของคนสามฝ่าย
เพื่อสร้างพลังงานไฟฟ้าแม่เหล็กด้านบวก
จากจิตสำนึกแห่งรักบริสุทธิ์มอบให้โลก
ตามที่จิตวิญญาณพวกท่านอาสาพระบิดามาปฏิบัติ
ซึ่งพระพุทธองค์ทรงตรัสไว้ว่า "เมตตาธรรมค้ำจุนโลก"
มันคือเรื่องเดียวกันกับที่เรากล่าวนี้
2.#ชะตากรรม
บางทีพฤตินิสัยที่ไม่ดีของเขาที่ท่านไม่พึงใจ
ตามที่ท่านกล่าวมาข้างต้นในคำถามนั้น
มันอาจเกิดจาก #กฎแห่งกรรม ที่สามีภรรยา
#สอบตกบททดสอบ ของกันและกันทั้งสองฝ่าย
เมื่อได้รับโอกาสให้เข้ามาเกิดเป็นสามีภรรยาแล้ว
หรืออาจเป็นฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งสอบตกก็ได้นะ
เช่น รักไม่ได้เมื่อเขาทำตัวไม่น่ารัก
ให้อภัยหรืออโหสิไม่ได้เมื่อเขาทำตัวไม่น่าให้อภัย
กฎแห่งกรรมก็คือจักต้องเกิดใหม่ในชาตินี้
เพื่อยื่นเงื่อนไขบทละครจากชะตาชีวิตแต่เดิม
แสดงออกหรือกระทำต่อกันอีกในภพชาติใหม่นี้
เพื่อเป็นการ "แก้ไข" หรือ "แก้ตัวใหม่" นั่นเอง
แต่ในบางกรณีถ้ามีการสอบตกมาก
คือ ฝ่ายใดหรือทั้งสองฝ่ายเกิดความโกรธแค้น
มีความอาฆาตพยาบาทเกิดขึ้น
ภพชาตินี้ที่สามีภรรยาทั้งสองจักต้องเจอคือ
ฝ่ายหนึ่งยังทำนิสัยไม่ดีเหมือนเดิม
เพราะมันเป็นบทละครที่รับปากไว้ว่าจะช่วยแสดง
มันคือ "สัจจะ" ที่เขาจะแก้ไขฝ่ายเดียวไม่ได้
ขณะที่อีกฝ่ายหนึ่งมาเกิดเพื่อแก้แค้นเอาคืน
ท่านลองตรองดูเถิดว่าครอบครัวนี้จะเกิดอะไรขึ้น
ต่างฝ่ายต่างต่อสู้ ตอบโต้ ต่อต้านกัน
จนไม่อาจมีเวลาพักผ่อนจิตใจใช่หรือไม่
ทุกสิ่งจะยุติได้ก็คือ
สามีภรรยาจักต้องรักกันให้ได้ อภัยให้เป็นเท่านั้น
ไม่มีวิธีการอื่น ต้องยอมรับให้ได้ว่า
มันคือบทละครดังกล่าวแล้ว
จงอย่าหลงมายาว่าเป็นเรื่องจริง
นี่คือคำตอบที่เป็น #อนุตรธรรม ซึ่งพระบิดา
ทรงเมตตาพวกท่านให้เรากลับมาเฉลยให้รู้
ถ้าไม่รู้จะกลับบ้านผ่านทางแคบๆคือประตูมิติ
ที่เรียกว่า #ด่านนภาลัย ไม่ได้
เอเมน สาธุ
ป.วิสุทธิปัญญา
8/05/2022
Sunisa Mata คำถาม
ท่านจักต้องตั้งสติและมีสำนึกให้ได้ว่า
พฤติกรรมหรือพฤตินิสัยที่สามีภรรยา
แสดงออกหรือกระทำต่อกันนั้น
ไม่ว่ามันจะเป็นพฤติกรรมที่ดีหรือไม่ดี
มันคือ #บทละคร ที่สามีภรรยาเขียนบทมาด้วยกัน
ซึ่งมีอยู่ 2 บทก็คือ
1.#ชะตาชีวิต
เป็นบทละครที่จิตวิญญาณของทั้งสองท่าน
ออกแบบวางแผนกันมาตั้งแต่ก่อนมาเกิด
เป็นมนุษย์ในภพชาติแรกแล้ว
ซึ่งมันจะมีทั้งบทดีและบทร้าย
โดยนิสัยหรือพฤติกรรมทั้งดีและไม่ดี
ที่สามีแสดงออกหรือกระทำต่อภรรยานั้น
มันคือ "บทละคร" ที่ภรรยาเป็นผู้ออกแบบเอง
แล้วมอบให้ฝ่ายสามีช่วยแสดงเป็นเงื่อนไขให้
ส่วนนิสัยหรือพฤติกรรมทั้งดีและไม่ดี
ที่ภรรยาแสดงออกหรือกระทำต่อสามี
มันคือ "บทละคร" ที่สามีเป็นผู้ออกแบบเอง
แล้วมอบให้ฝ่ายภรรยาช่วยแสดงเป็นเงื่อนไขให้
อันหมายถึงการ #แลกเปลี่ยน บทละครกัน
เพื่อช่วยกระตุ้นจิตหยาบให้สั่นสะเทือนขันธ์ 5
ให้ "หมุนธรรมจักร" มอบความรักให้แก่กัน
และแบ่งปันให้โลกเพื่อช่วยให้โลกเหวี่ยงหมุน
ในลักษณะของการใช้ #เมตตาธรรมค้ำจุนโลก นั่นเอง
บางครั้งบทละคร
ที่เป็นเงื่อนไขทดสอบจิตสำนึกแห่งรักนั้น
คนทั้งสองต้องการจะมอบความรักให้โลกมากกว่าปกติ
ก็จะออกแบบ "เงื่อนไข" ให้มันต้องใช้ความรักมากๆ
เช่น ต้องอดทน อดกลั้น ให้อภัยหรืออโหสิกรรม
ด้วยการทำตนเป็นคนนิสัยไม่ดีจนยากที่จะรับได้นั่นแหละ
ส่วนบทละครที่ใช้แค่ความเมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา
มักจะเป็นเงื่อนไขการกระทำด้านบวกตามปกติ
สามีภรรยาก็จะไม่มีปัญหาทางจิตต่อกัน
ซึ่งจะให้พลังงานความรักช่วยค้ำจุนโลกได้น้อยกว่า
ในทางปฏิบัติสามีภรรยาจึงไม่มีปัญหาข้องคับใจอะไร
ดังนั้น
ท่านต้องสังเกตว่า พฤตินิสัยของอีกฝ่ายหนึ่ง
ที่ท่านเองแทบจะรับไม่ได้นั้นมันมีน้อยกว่าพฤติกรรมดีๆ
ของเขามิใช่หรอกหรือ ท่านจักต้องระลึกว่า
1.พฤตินิสัยที่เขาแสดงต่อท่าน
ไม่ว่าจะดีหรือไม่ดีนั้นมันคือบทละครที่ท่านออกแบบ
และขอให้เขาช่วยแสดงเป็นเงื่อนไขให้ท่าน
พฤตินิสัยของท่านก็เช่นกัน
ตัวท่านเป็นคนออกแบบและขอร้องให้เขาช่วย
แสดงเป็นเงื่อนไขให้ท่าน "รักกันให้ได้"
2.การแลกเปลี่ยนบทละครกันเช่นนี้
มันคือการออกแบบวางแผนเพื่อร่วมกันพ่อแม่ลูก
สร้างสมการ "ซัมเบต้าเอ็กซ์" ของคนสามฝ่าย
เพื่อสร้างพลังงานไฟฟ้าแม่เหล็กด้านบวก
จากจิตสำนึกแห่งรักบริสุทธิ์มอบให้โลก
ตามที่จิตวิญญาณพวกท่านอาสาพระบิดามาปฏิบัติ
ซึ่งพระพุทธองค์ทรงตรัสไว้ว่า "เมตตาธรรมค้ำจุนโลก"
มันคือเรื่องเดียวกันกับที่เรากล่าวนี้
2.#ชะตากรรม
บางทีพฤตินิสัยที่ไม่ดีของเขาที่ท่านไม่พึงใจ
ตามที่ท่านกล่าวมาข้างต้นในคำถามนั้น
มันอาจเกิดจาก #กฎแห่งกรรม ที่สามีภรรยา
#สอบตกบททดสอบ ของกันและกันทั้งสองฝ่าย
เมื่อได้รับโอกาสให้เข้ามาเกิดเป็นสามีภรรยาแล้ว
หรืออาจเป็นฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งสอบตกก็ได้นะ
เช่น รักไม่ได้เมื่อเขาทำตัวไม่น่ารัก
ให้อภัยหรืออโหสิไม่ได้เมื่อเขาทำตัวไม่น่าให้อภัย
กฎแห่งกรรมก็คือจักต้องเกิดใหม่ในชาตินี้
เพื่อยื่นเงื่อนไขบทละครจากชะตาชีวิตแต่เดิม
แสดงออกหรือกระทำต่อกันอีกในภพชาติใหม่นี้
เพื่อเป็นการ "แก้ไข" หรือ "แก้ตัวใหม่" นั่นเอง
แต่ในบางกรณีถ้ามีการสอบตกมาก
คือ ฝ่ายใดหรือทั้งสองฝ่ายเกิดความโกรธแค้น
มีความอาฆาตพยาบาทเกิดขึ้น
ภพชาตินี้ที่สามีภรรยาทั้งสองจักต้องเจอคือ
ฝ่ายหนึ่งยังทำนิสัยไม่ดีเหมือนเดิม
เพราะมันเป็นบทละครที่รับปากไว้ว่าจะช่วยแสดง
มันคือ "สัจจะ" ที่เขาจะแก้ไขฝ่ายเดียวไม่ได้
ขณะที่อีกฝ่ายหนึ่งมาเกิดเพื่อแก้แค้นเอาคืน
ท่านลองตรองดูเถิดว่าครอบครัวนี้จะเกิดอะไรขึ้น
ต่างฝ่ายต่างต่อสู้ ตอบโต้ ต่อต้านกัน
จนไม่อาจมีเวลาพักผ่อนจิตใจใช่หรือไม่
ทุกสิ่งจะยุติได้ก็คือ
สามีภรรยาจักต้องรักกันให้ได้ อภัยให้เป็นเท่านั้น
ไม่มีวิธีการอื่น ต้องยอมรับให้ได้ว่า
มันคือบทละครดังกล่าวแล้ว
จงอย่าหลงมายาว่าเป็นเรื่องจริง
นี่คือคำตอบที่เป็น #อนุตรธรรม ซึ่งพระบิดา
ทรงเมตตาพวกท่านให้เรากลับมาเฉลยให้รู้
ถ้าไม่รู้จะกลับบ้านผ่านทางแคบๆคือประตูมิติ
ที่เรียกว่า #ด่านนภาลัย ไม่ได้
เอเมน สาธุ
ป.วิสุทธิปัญญา
8/05/2022
