03 พฤษภาคม 2565

คำสอน 3/05/2022

พี่ๆน้องๆที่รักแห่งเราทั้งหลาย
 
เราจะกล่าว #อนุตรธรรม ความจริงที่มนุษย์โลกไม่รู้
ให้ผู้ปฏิบัติธรรมที่ปรารถนาการ #หลุดพ้นนิพพาน
ในภพชาติปัจจุบันซึ่งเป็นช่วงปลายยุคพลังงานเก่านี้
ได้รับรู้รับทราบสิ่งที่ถูกปิดลับมายาวนานนับหมื่นปี
จนจิตวิญญาณของมนุษย์มิอาจหลุดพ้นนิพพานได้
ยังความเสียหายต่อโลกจักรวาลและแผนการทดลอง
อันยิ่งใหญ่ของพระบิดาแห่งจิตวิญญาณตลอดมา
 
โดย “อนุตรธรรม” ซึ่งเป็นความจริงอันยิ่งใหญ่
ที่เราจะเปิดเผยให้มนุษย์โลกทุกคนได้รู้ไว้ในบทนี้
คือเรื่องของ #จิตวิญญาณมนุษย์ เป็นใครมาจากไหน
มาเกิดเป็นมนุษย์กันทำไมตั้งเยอะแยะมากมาย
 
เราจึงขอกล่าวความจริงระดับอนุตรธรรมให้รู้ว่า
จิตวิญญาณของมนุษย์เป็นรูปธรรมทางพลังงาน
ซึ่งมีรูปทรงเรขาคณิตเป็น 6 เหลี่ยมมุมเมื่อหยุดนิ่ง
โดยหกเหลี่ยมมุมนี้เกิดจากแรงสั่นสะเทือนภายใน
ของอนุภาคทางพลังงานที่สะท้อนกลับไปกลับมา
ภายในที่ว่างของทรงกลมที่เหวี่ยงหมุนรอบตัวเอง
 
จิตวิญญาณเป็นรูปธรรมทางพลังงาน
ผู้ขันอาสาพระบิดาหรือ “พระเจ้า” หรือ “องค์จิตจักรวาล”
เดินทางข้ามมิติเข้ามาสู่การเกิดเป็นมนุษย์ในระบบโลก
ซึ่งทรงกำหนดให้โลกทำหน้าที่ค้ำจุนสมดุลของเอกภพ
หรือ #อนันตจักรวาล ซึ่งเป็นห้องทดลองของพระองค์
 
ภารกิจของจิตวิญญาณในบทบาทแห่งการเป็นมนุษย์
คือการทำหน้าที่เป็น #เพื่อนร่วมงาน(colleague)กับโลก
โดยร่วมกับมนุษย์คนอื่นๆใช้ความรักที่มีต่อกัน
ในรูปของคลื่นไฟฟ้าแม่เหล็กด้านบวกมอบให้แกนโลก
เพื่อช่วยให้แกนโลกเกิดการระเบิดแล้วบิดตัวต่อเนื่อง
ซึ่งรายละเอียดทางเท็คนิกของพระบิดาจะเป็นอย่างไร
เราขอยกเอาไว้กล่าวให้พวกท่านรู้ในโอกาสต่อไป
 
ในบทเรียนนี้เราจะขอเปิดเผยให้รู้ไว้เพียงแค่ว่า
จิตวิญญาณมนุษย์มิใช่ “ธาตุรู้อมตะ” ในจักรวาลอนันต์
ที่มารวมตัวกันจนเป็นกล่องพลังงานนามว่าจิตวิญญาณ
ซึ่งพเนจรเข้ามาในระบบโลกโดยไม่มีพ่อแม่บังเกิดเกล้า
แล้วก็โชคร้ายที่มาเกิดกายสังขารเป็นมนุษย์อยู่ในโลกนี้
โลกที่เต็มไปด้วยความทุกข์ยากทั้งเกิดแก่เจ็บตาย
เมื่อตายแล้วก็ยังต้องเวียนวนกลับมาเกิดให้ทุกข์ซ้ำอีก
 
ความคิดเข้าใจผิดดังกล่าวนี้แหละ
ที่เป็นเหตุผลหนึ่งซึ่งทำให้มนุษย์โลกหลงทางนิพพาน
จนพยายามหาทาง “ตายแล้วไม่เกิดอีก” เพราะกลัวทุกข์
ซึ่งมนุษย์พวกคนนำทางตาบอดถูกหลอกลวงให้เชื่อเช่นนี้
โดยผู้หลอกลวงที่บิดเบือนสัจธรรมระดับอนุตรธรรมที่ว่านี้
ก็คือพวกมอดมารศัตรูตัวร้ายของมนุษย์ผู้มาจากต่างดาว
ผู้เข้ามาแทรกแซงหลังจากพระศาสดาทรงดับขันธ์ไปแล้ว
 
พี่ๆน้องๆที่รักแห่งเราทั้งหลาย
 
จิตวิญญาณผู้เป็นตัวตนแก่นแท้ของมนุษย์ทุกคน
เป็นรูปธรรมทางพลังงานที่มี 6 เหลี่ยมมุมนั้น
แบ่งภาคออกมาจากตัวตนภาคแรกที่สูงส่งอีกทอดหนึ่ง
ซึ่งพระบิดาเรียกว่า #พระบุตร คือ #จิตจักรวาลดวงเล็ก
ที่มีรูปทรงเรขาคณิตเป็น 11 เหลี่ยมมุม
น้อยกว่ารูปทรงของพระบิดาหรือพระเจ้าอยู่ 1 เหลี่ยมมุม
 
แก่นแท้ของท่านทั้งหลายได้รับอนุญาตให้มาเกิด
เพราะพวกท่านได้ให้สัจจะต่อพระองค์เอาไว้ว่า
จะยินดีปฏิบัติตามเงื่อนไขในพันธะสัญญา 6 ประการ
ที่เราเรียกว่า #พันธะสัญญา_6 อย่างครบถ้วนสมบูรณ์
โดยมีเวลาในการทำหน้าที่ตามพันธะสัญญาคือ 1 ยุค
อันหมายถึงมีเวลาให้ทำหน้าที่นาน 60,000 ปี/ยุค
สถานที่ปฏิบัติงานก็คือ “โลก” ที่ท่านเหยียบยืนอยู่นี้
 
เพื่อให้พวกท่านสามารถปฏิบัติภารกิจได้ต่อเนื่อง
พระองค์จึงออกแบบให้จิตวิญญาณที่มาเกิดเป็นมนุษย์
มีชีวิตเป็นอมตะ คือ ไม่ต้องมีอายุขัยไม่ต้องมีการตาย
เพื่อจะได้ยกระดับจิตพัฒนาสติปัญญาได้อย่างต่อเนื่อง
แทนที่จะต้องสิ้นอายุขัยตายแล้วต้องกลับมาเริ่มต้นใหม่
เหมือนดั่งการปีนขึ้นต้นมะพร้าวเพื่อจะเก็บลูกมะพร้าว
แต่ยังปีนขึ้นไปไม่ถึงไหนก็หมดแรงรูดลงมากองที่โคน
พอหายเหนื่อยก็ปีนกลับขึ้นไปใหม่แล้วก็รูดลงมาอีก
ความสำเร็จในการเก็บลูกมะพร้าวจะไม่มีวันเป็นจริงได้
 
พวกท่านที่มีจิตวิญญาณเป็นแก่นแท้
จึงไม่ต่างจาก “คนเก็บมะพร้าว” ตามตัวอย่างข้างต้นนั้น
เพราะไม่สามารถรักษาความมีชีวิตอมตะเอาไว้ได้
จึงต้องเวียนว่ายตายเกิดต้องมีอายุสั้นต้องมีสังสารวัฏ
เพื่อให้ได้รับโอกาสที่จะปีนขึ้นต้นมะพร้าวกันใหม่
อันหมายถึงการมีภพชาติใหม่ต่อไปเรื่อยๆไม่รู้สิ้นสุด
จนกว่าจะประสบความสำเร็จในการทำหน้าที่ซึ่งอาสามา
หรือจนกว่าโลกจะสิ้นยุคซึ่งพวกท่านหมดเวลาทำหน้าที่
ตามที่ได้ให้สัจจะต่อพระบิดาหรือองค์จิตจักรวาลไว้
ซึ่งบัดนี้โลกก็ได้สิ้นยุคพลังงานเก่าตามเงื่อนไขแล้วด้วย
พระบิดาจึงให้เรากลับมา “นำพา” พวกท่านกลับคืนบ้าน
 
บ้านเกิดของพวกท่านมิใช่อนันตจักรวาลอันไพศาลนี้
บ้านเกิดของพวกท่านก็มิใช่ดาวโลกเสรีดวงนี้ด้วย
แต่บ้านเกิดของจิตวิญญาณของท่านที่แท้จริงนั้น
อยู่นอกห้องทดลองที่เป็นพระนิเวศของพระเจ้า
ซึ่งที่นั่นคือแดนสุญตาที่พวกท่านจากมานานแล้ว
ขณะนี้พระบิดาผู้อนุญาตให้พวกท่านมาก็ทรงรออยู่
ซึ่งมี “ตัวตนภาคแรก” ของจิตวิญญาณของท่านเอง
คือ “จิตจักรวาลดวงเล็ก” ก็กำลังรอคอยพวกท่าน
ให้เดินทางกลับออกไปรวมตัวกันเป็นหนึ่งเดียวดังเดิม
 
ถ้าพวกท่านทำสำเร็จจึงจะเรียกว่าเป็นผู้บรรลุธรรม
การบรรลุธรรมคือหลุดพ้นกลับบ้านของจิตวิญญาณ
โดยสามารถหลุดออกไปจากอนันตจักรวาลนี้ได้
เพราะมีพลังอำนาจเหนือแรงดึงดูดของเอกภพ
มิใช่หายตัวไปแบบนิพพานยอดด้วนโดยไม่รู้ไปไหน
ดังที่หลงเชื่อผิดตามคนนำทางตาบอดกันจนทุกวันนี้
 
ดังนั้น
เราจึงขอย้ำต่อท่านเพื่อสรุปความจริงในบทนี้ว่า
จิตวิญญาณของท่านน่ะคือตัวแทนของพระเจ้า
ซึ่งขันอาสาเข้ามาทำหน้าที่อยู่ในห้องทดลองนี้
เพื่อทำการทดลองว่าสิ่งที่ทรงออกแบบเอาไว้นั้น
จะเป็นจริงได้ในสองมิติแค่ไหนอย่างไร
โดยใช้เครื่องยนต์แห่งกรรมรูปธรรมมนุษย์
ที่ทรงติดตั้งพลังอำนาจและเครื่องมือไว้ให้พร้อม
เป็นเครื่องมือในการปฏิบัติภารกิจให้ลุล่วง
 
พวกท่านจึงมิใช่ทายาทของพระเจ้าตัวปลอม
มิใช่จิตวิญญาณโง่ๆที่พลัดหลงเข้ามาเกิดเป็นมนุษย์
แต่พวกท่านคือ “ผู้สูงส่ง” หมายถึงมาสูงและถูกส่งมา
โดยพระบิดาผู้เป็นเจ้าเหนือทุกสรรพสิ่งในจักรวาล
พวกท่านจึงเป็นมนุษย์ที่มีหน้าที่สำคัญจะต้องทำ
ทั้งเพื่อเพื่อนมนุษย์เพื่อโลกเพื่อจักรวาลและพระบิดา
มิใช่มาเกิดเพื่อสนองกิเลสตัณหาของตนเองไปวันๆ
จนนำไปสู่ความขัดแย้งแย่งชิงกันทะเลาะกันฆ่ากัน
เพราะขาดจิตสามนึกแห่งการเป็นมนุษย์
 
เพราะปัญหาที่เกิดจากมนุษย์ไม่รู้อนุตรธรรม
ปัญหาจากมอดมารหลอกคนนำทางของศาสนา
ให้บิดเบือนคำสอนพระศาสดามาหลอกชาวบ้านต่อ
เพื่อให้มนุษย์ “หลงทางมาร” ตกเป็นทาสของพวกมัน
ทำประโยชน์ให้แก่พวกมันแทนโดยมนุษย์ไม่รู้ตัว
เพราะพวกมันใช้กิเลสตัณหาเป็นเครื่องยั่วยุตลอดมา
 
มนุษย์จึงตกหลุมพรางมารหันไปเสพกิเลสกัน
แล้วใช้กิเลสตัณหานั้นดำเนินชีวิตประจำวันกันไปทั่ว
ทำตัวเป็นพวกเผ่าเดียวกันกับมอดมารอย่างกลมกลืน
มนุษย์จึงละทิ้งจิตวิญญาณของตนให้ถูกขังอยู่ข้างใน
เอาตัวเอาใจไปทำประโยชน์ให้ศัตรูจากต่างดาวแทน
มนุษย์จึงจำผู้ให้กำเนิดจิตวิญญาณของตนเองมิได้
หลายรายยังแถมก้าวร้าวล่วงเกินพระองค์อีกต่างหาก
มันน่าละอายและอนาถใจในความอกตัญญูเสียจริงๆ
 
กราบพระบาทพระบิดาทรงเมตตา
 
เอเมน สาธุ
ป.วิสุทธิปัญญา
3/05/2022