16 พฤษภาคม 2565

สนทนาประสาจิตจักรวาล 16/05/2022

พี่ๆน้องๆที่รักแห่งเราทั้งหลาย
เราจะกล่าวความจริงให้ท่านทั้งหลายรู้ว่า
 
พระโอวาทและพระวจนะจากองค์จิตจักรวาล
พระผู้เป็นเจ้าเหนือสิ่งทั้งปวงที่ทรงสร้าง
ซึ่งเรารับสื่อถ่ายทอดมาจากพระองค์นั้น
ล้วนเป็นสัจธรรมระดับอนุตรธรรม
ที่ยังไม่มีพระศาสดาและพระบุตรเอกองค์ใด
เคยกล่าวไว้ในโลกเสรีนี้มาก่อนทั้งสิ้น
เป็นเวลากว่าหกหมื่นปีที่ผ่านมาตราบจนปัจจุบันนี้
 
แน่นอนว่าสัจธรรมความจริงระดับอนุตรธรรม
จึงเป็นองค์ความรู้ใหม่สำหรับมนุษย์โลกทุกคน
ไม่ว่าจิตวิญญาณจะผ่านการมีภพชาติมามากแค่ไหน
สัจธรรมที่เรานำมากล่าวจะเป็น #ความรู้ใหม่ เสมอ
 
ดังนั้น
ถ้าใครยึดติดกับองค์ความรู้ของศาสดาที่เกิดจากโลก
ยึดติดพระคัมภีร์ที่จดบันทึกกันมาโดยลูกศิษย์
ซึ่งพระศาสดาของตนมิได้ลงพระหัตถ์บันทึกเอง
โดยไม่ยอมเปิดใจเรียนรู้ด้วยการรับฟังแล้วขบคิด
เพราะเข้าใจว่าสัจธรรมความรู้เดิมที่ตนเรียนมารู้อยู่
เป็นสัจธรรมชั้นเลิศและเป็นที่สุดเหนือสัจธรรมใดแล้ว
ท่านผู้นั้นจะเป็นผู้พลาดโอกาสอันยิ่งใหญ่ไปทันที
 
พลาดโอกาสที่พระบิดาทรงบัญชาให้เรามา
ทำการฉุดช่วยจิตวิญญาณของท่านทั้งหลาย
ให้พ้นขึ้นมาจากหุบเหวที่มอดมารขุดล่อพวกท่านไว้
โดยทรงให้เรานำสายทองเส้นใหญ่จากพ่อมาให้ลูก
ยึดถือไว้ให้มั่นเพื่อการปีนป่ายขึ้นสู่ปากเหวในเร็ววัน
 
เพราะมอดมารไม่ต้องการให้พวกท่านหลุดพ้นกลับบ้าน
จึงบิดเบือนพระธรรมคำสอนของศาสดาทุกศาสนา
สร้างความสับสนจนหลายคนหลงทางนิพพานถึงป่านนี้
เช่น หลอกให้เกลียดกลัวความทุกข์ที่มาเกิดเป็นมนุษย์
แล้วสอนให้ดับทุกข์ด้วยการดับขันธ์ห้าเพื่อเป็นอนัตตา
โดยแปลความคำว่า #อนัตตา แบบผิดๆว่าคือไร้ตัวตน
อีกทั้งยังสอนคนนำทางตาบอดให้แสดงฤทธิ์อวดอุตริ
เพื่อล่อหลอกชาวบ้านให้เสพติดกิเลสและใฝ่อุตริอวิชา
แทนที่จะศึกษาสัจธรรม เป็นต้น
 
เพราะมอดมารไม่ต้องการให้ท่านมีชีวิตเป็นอมตะ
นอกจากจะยั่วยุให้มนุษย์เสพติดกิเลสตัณหาราคะ
เพื่อให้อาหารขยะแก่ดีเอ็นเอของสัตว์ร้าย
ซึ่งมอดมารแอบตัดต่อเอาไว้กับดีเอ็นเอของพระเจ้า
เมื่อนานหลายหมื่นปีที่ผ่านมาและถ่ายทอดพันธุกรรม
มาถึงเครื่องยนต์แห่งกรรมรูปธรรมมนุษย์ปัจจุบันแล้ว
ศัตรูของมนุษย์ยังหลอกให้ช่วยกันผลิตพลังงานขยะ
ห่อหุ้มพวกเขาที่แอบแฝงตัวกันอยู่ในระบบโลก
จะได้อยู่รอดปลอดภัยจากอำนาจแม่เหล็กโลกอีกด้วย
 
ด้วยเหตุนี้เอง
ระยะหลังมานี้การสร้างแรงจูงใจมนุษย์
ให้เคลิบเคลิ้มกับคำว่า #กรรมกรชาวแสง จึงดังกระหึ่ม
เพราะพวกท่านเท่านั้นที่จะช่วยศัตรูให้อายุยืนยาวได้
และมีความปลอดภัยในสนามแม่เหล็กโลกที่อ่อนแอ
ขณะที่กรรมกรอย่างพวกท่านได้รับผลตอบแทนเท่าเดิม
คือมีอายุสั้นมีวันต้องตายไม่สามารถจะมีชีวิตอมตะได้
เพราะเซลล์อวัยวะร่างกายของมนุษย์โลกอย่างท่าน
ต้องการสนามแม่เหล็กไฟฟ้าจากโลกที่เป็นบวกเท่านั้น
ถ้าสนามแม่เหล็กโลกเปลี่ยนเป็นด้านลบเมื่อไหร่
นอกจากโลกจะเสียสมดุลจนเกิดภัยพิบัติรุนแรงแล้ว
มนุษย์ทั้งโลกจะมีอายุขัยสั้นลงคือจะต้องตายเร็วขึ้น
ขณะที่ในทางกลับกันพวกมอดมารก็จะร่าเริงไม่มีวันตาย
 
แผนการหลอกลวงมนุษย์จึงมีหลายซับหลายซ้อน
เพราะมนุษย์ขาดสติขาดปัญญาขาดประสบการณ์
จึงมีนิสัยเชื่อง่ายแม้ในสิ่งที่ตนยังไม่เข้าใจ
หรือเชื่อในสิ่งที่ตนอธิบายไม่ได้เลยด้วยซ้ำ
แม้คำลวงของศัตรูเหล่านี้ก็เชื่อทั้งๆที่เขาอยู่ในมุมมืด
 
แต่ก็นับว่าน่าแปลกใจมั้ยมีหลายคน
ที่ฟังพระโอวาทจากพระบิดาให้เราสื่อความรู้ใหม่ว่า
พระองค์มิได้ทรงออกแบบให้มนุษย์ทุกคนต้องตาย
แท้แล้วกายสังขารที่ทรงออกแบบไว้นั้นมันไม่ต้องตาย
มันสามารถใช้งานได้จนกว่าเสร็จสิ้นภารกิจหรือสิ้นยุค
โดยหนึ่งยุคพลังงานเก่าก็คือ "หกหมื่นปีโลก" นั่นเอง
กลับแสดงอาการเยาะหยันว่าเป็นความรู้ที่งี่เง่าไม่เชื่อถือ
 
พอถามว่าทำไมจึงไม่เชื่อเราและปฏิเสธความรู้ใหม่นี้
ทั้งๆที่ความรู้ใหม่นี้เป็น #ข่าวประเสริฐ ด้วยซ้ำไป
คำตอบก็คือเพราะตนไม่เคยเห็นใครในโลกนี้ที่ไม่ตาย
ทุกคนเกิดมาก็ต้องตายกันทั้งนั้นพระพุทธเจ้าก็ไม่เว้น
แล้วก็ท่องให้เราฟังว่า "เกิดแก่เจ็บตาย" เป็นของธรรมดา
ก่อนจะสบัดก้นเดินจากเรากับพระบิดาไปตามทางมาร
โดยไม่ฟังว่าสาเหตุที่มนุษย์ต้องตายให้ท่านเห็นจนชินนั้น
มันเป็นเพราะสาเหตุใดกันแน่
 
คำตอบที่เราจะบอกก็คือ
1.เพราะมอดมารหลอกให้ท่านกินเนื้อสัตว์
ซึ่งไม่ใช่อาหารของเซลล์อวัยวะร่างกายมนุษย์
เมื่อขาดสารอาหารโปรตีนบริสุทธิ์ที่ต้องได้จากพืช
มันก็เสื่อมโทรมลงจนต้องตายในที่สุด
 
จิตวิญญาณของท่านก็ต้องกลับมาเกิดใหม่
เพื่อเปลี่ยนกายสังขารใหม่ที่มีอนาคตกว่า
แต่ถ้ายังกินเนื้อสัตว์ต่อไปอีกพวกท่านก็ต้องตาย
เพื่อกลับมาใช้ร่างใหม่อีกเป็นแบบนี้มาเรื่อยๆ
แถมยังหลอกให้ดื่มนมทั้งๆที่เลยวัยแล้ว
เพื่อให้ท่านช่วยเลี้ยงเซลล์มะเร็งให้เจริญเติบโต
เพราะมันเป็นดีเอ็นเอของสัตว์ร้ายคือพวกเขานั่นล่ะ
มนุษย์ก็จะตายเพราะมะเร็งอันเป็นแผนซ้อนแผน
กล่าวคือเป็นกลวิธีสกัดดาวรุ่งพุ่งแรงคือมนุษย์
ไม่ให้มีอายุขัยยืนยาวจนพัฒนาสมองต่อเนื่องได้
เมื่อกลับมาเกิดใหม่จะต้องเริ่มฝึกใหม่เรียนรู้กันใหม่
ในทุกภพชาติก็เป็นกันมาอย่างนี้
 
พวกมอดมารที่ฉลาดกว่ามนุษย์
เก่งทางด้านเท็คโนโลยีเก่งทางด้านการแพทย์
โดยเฉพาะการผ่าตัดระดับนาโนหรือในแนวนี้นั้น
มนุษย์เทียบกับพวกเขาอย่างไม่ติดฝุ่นเลย
สมองก้อนเดียวของพวกเขาเอาชนะสมองสองซีก
ที่พระบิดาออกแบบไว้ให้มนุษย์โลกได้ก็เพราะว่า
สิ่งมีชีวิตซึ่งเป็นสิ่งทดลองของพระบิดาเหล่านี้
ไม่เคยตายเพราะมีชีวิตอมตะด้วยการเสพกิเลส
ที่ดีเอ็นเอสัตว์ร้ายของพวกเขาต้องการ
 
ถ้ามนุษย์โลกไม่กินเนื้อสัตว์
สามารถหมุนธรรมจักรด้วยความรักเป็นผลสำเร็จ
โดยไม่หมุนกรรมจักรไปตามที่มอดมารหลอกล่อ
ด้วยกิเลสตัณหาราคะดังกล่าวไว้ข้างต้นแล้ว
จนสามารถยกระดับจิตวิญญาณสู่มิติที่สี่หรือห้าได้
มนุษย์โลกทุกคนก็จะไม่ต้องตายคือเป็นอมตะแล้ว
เพราะมิติที่สี่หรือห้านั้นเวลาจะมีค่าเท่ากับหนึ่ง
ไม่ว่ามันจะผ่านไปกี่เดือนกี่ปีเวลาของท่านก็คือหนึ่ง
หมายความว่าความเสื่อมไม่มีความแก่ชราจะไม่มี
รวมทั้งความตายก็จะไม่มีสำหรับท่านเช่นเดียวกัน
 
การที่พระพุทธองค์ตรัสรู้แล้วก็ยังปรินิพพาน
ก็เพราะเหตุว่าพระองค์ทรงต้องการมีอายุขัยเพียงนั้น
เพราะทรงผ่านการมีภพชาติมานับไม่ถ้วนแล้ว
อีกทั้งทรงได้คำตอบในคืนตรัสรู้เรียบร้อยแล้วว่า
จิตวิญญาณมนุษย์ทั้งหลายมาเกิดเป็นมนุษย์กัน
ก็เพื่อมาช่วยกันใช้เมตตาธรรมคือความรักค้ำจุนโลก
ค้ำจุนแปลว่าช่วยให้โลกหมุนรอบตัวเองต่อเนื่อง
ด้วยอัตราเร็วคงที่โดยไม่แกว่งไม่ส่ายนั่นเอง
 
ด้วยเหตุนี้เอง
พระองค์จึงทรงใช้คำว่า #ปริ นำหน้าคำว่านิพพาน
หมายถึงก่อนพระองค์จะสิ้นพระชนม์ทรงตั้งสัจจะว่า
พระวิญญาณของพระองค์จะไม่ขอกลับมาจุติอีก
ซึ่งต่างกับคำว่า "นิพพาน" คือตายแล้วอาจกลับมาอีก
หากยังมีภารกิจพิเศษที่จะต้องกระทำก็ได้
 
ส่วนก่อนดับขันธ์นั้นพระพุทธองค์ทรงสอนสาวกไว้ว่า
ท่านทั้งหลายจงอย่าตั้งตนอยู่ในความประมาทเถิด
กายสังขารนั้นเป็นของไม่เที่ยงแท้คืออนิจจังไม่เที่ยง
เพราะเหตุว่าทรงไม่มีเวลาจะอธิบายความจริงนี้แล้ว
เนื่องจากมนุษย์ในยุคนั้นก็ไม่ต่างจากยุคนี้
ถ้าทรงกล่าวความจริงให้รู้ว่าแท้แล้วมนุษย์เป็นอมตะ
จะสร้างความสับสนสงสัยที่ต้องอธิบายกันยืดยาวแน่ๆ
เหมือนอย่างยุคนี้ที่หลายคนฟังเราแล้วก็ไม่เชื่อทันที
เพราะเห็นแต่ว่ามนุษย์ทุกคนต้องตายกันทั้งนั้น
จนเราต้องอธิบายความเสียยืดยาวแต่ก็ไม่ยอมรับฟัง
พระองค์จึงทำได้แค่เตือนว่าอย่าประมาท
เพราะแต่ละคนก็ตกหลุมพรางมอดมารมาจนโคม่า
แล้วถูกหลอกว่าเกิดแก่เจ็บตายเป็นของธรรมดาด้วย
 
การฉุกคิดเพื่อการเปลี่ยนแปลงตนเองใหม่
เพื่อจะมีอายุยืนยาวโดยไม่ต้องตายนั้นมันยังไม่สาย
ขึ้นอยู่กับว่าจะใช้ปัญญาเป็นหรือไม่เมื่อได้อ่านคำสอนนี้
 
กราบกระบาทพระบิดาทรงเมตตา
 
เอเมน สาธุ
ป.วิสุทธิปัญญา
16/05/2022