กราบขอบพระคุณท่านอาจารย์ที่เมตตาค่ะ
ขออนุญาตเรียนถามท่านอาจารย์ว่า .
1 .คำกล่าวที่ได้ยินกันมานานว่า ที่ใดมีรักที่นั่นมีทุกข์ คำกล่าวนี้ถูกต้องหรือไม่คะ
2.สภาวะจิตที่เป็นอุเบกขากับสภาวะจิตสุญญตาเหมือนหรือแตกต่างกันอย่างไรคะ
กราบขอบพระคุณค่ะ
เอเมน สาธุค่ะ
Natnapak Virothai คำตอบ
Q1.
คำกล่าวที่ได้ยินกันมานานว่า
ที่ใดมีรักที่นั่นมีทุกข์
คำกล่าวนี้ถูกต้องหรือไม่คะ
A.1
1.คำกล่าวนี้ไม่ถูกต้องอย่างสิ้นเชิงนะ
ในครอบครัวของท่านที่รักกันอย่างมั่นคง
มันคือความทุกข์เช่นนั้นหรือ
2.แล้วกรณีที่ "ที่ใดไม่มีรัก" ที่นั่นจะมีสุขมั้ย
อย่างเช่น ในครอบครัวของท่านน่ะ
ถ้าลูกผัวตัวเมียไม่รักกันเลย
ครอบครัวจะมีความสุขมีความอบอุ่นได้หรือ
3.ความจริงแล้ว "ความรัก" มี 2 แบบนะ
แบบแรก คือ รักเพื่อเอา (ความใคร่)
รักแบบนี้นี่แหละที่จะทุกข์
เพราะจะรักได้ถ้าได้เอา ถ้าไม่ได้เอาก็จะทุกข์
เป็นรักแบบต้องการสิ่งตอบแทนนั่นเอง
แบบสอง คือ รักเพื่อให้
เป็นรักแบบไม่มีเงื่อนไข
รักโดยไม่หวังสิ่งใดตอบแทนทั้งนั้น
มีแค่เพียงความสุขใจเล็กๆที่ได้ให้ที่ได้รักเขา
ถ้าที่ใดมีรักแบบที่สองนี้
มันจะทำให้ที่นั่นเกิดทุกข์ได้อย่างไร
4.คนนำทางตาบอดที่ก้าวตามมอดมารหลอกไว้
ทำให้พระวจนะพระศาสดาวิบัติแบบนี้แล...
Q2.
สภาวะจิตที่เป็นอุเบกขากับสภาวะจิตสุญญตา
เหมือนหรือแตกต่างกันอย่างไรคะ
A2.
1.ทั้งสองสภาวะไม่เหมือนกันนะ
2.สภาวะจิตที่เป็นอุเบกขาหมายถึง
จิตหยาบหรือจิตมนุษย์ของท่านทั้งหลาย
ไม่ลื่นไหลใฝ่ต่ำไปกับ "เงื่อนไข" สิ่งเร้า
จากคนรอบข้างที่อายตนะของท่านรับสัมผัสมา
ไม่ว่าจะเป็นเงื่อนไขบวกหรือลบ ดีหรือชั่ว
ไม่ว่าเงื่อนไขนั้นท่านจะชอบหรือไม่ชอบก็ตาม
จิตของท่านจะสงบระงับอยู่ได้ตลอดเวลา
แปลความว่าท่านจะไม่เป็นทาสสิ่งเร้านั่นเอง
มันจะยังผลให้ท่านสามารถมองทุกสิ่งไปตามจริง
ฟังทุกสิ่งไปตามจริง นึกคิดทุกสิ่งไปตามจริง
โดยไม่มีการปรุงแต่งด้วยอารมณ์รู้สึกจนผิดเพี้ยน
3.สภาวะจิตสุญญตาหมายถึง
คุณสมบัติของจิตวิญญาณนะมิใช่จิตมนุษย์
ซึ่งเป็นคุณสมบัติของจิตวิญญาณ
ที่ "จิตหยาบ" นิพพานหรือดับการเกิดดับ
ของทุกสิ่งแล้ว เช่น กรรม กิเลส ตัณหา เป็นต้น
สภาวะสุญตาของจิตวิญญาณ
จะเริ่มเกิดขึ้นเมื่อจิตหยาบยกระดับเป็นหนึ่งเดียว
กับจิตวิญญาณได้แล้วในมิติที่ 6 แล้วยกต่อสู่มิติที่ 9
ซึ่งมิตินี้จิตวิญญาณนั้นพร้อมต่อการยกระดับ
จากระดับที่ 9 ไปสู่ระดับ 10-11 เพื่อ "หลุดพ้น"
จิตวิญญาณนั้นใช้พลังอำนาจของจิตอย่างเดียว
ไม่ต้องมีกลไกอายตนะเพื่อการรับรู้อีกแล้ว
สภาวะที่จิตวิญญาณไม่ต้องใช้อายตนะแล้ว
นี่แหละคือ สภาวะสุญตา โดย "มีอายตนะอยู่"
แต่เหมือนว่าไม่มีเพราะใช้จิตสัมผัสเอาเองได้
เอเมน สาธุ
ป.วิสุทธิปัญญา
9/05/2022
ขออนุญาตเรียนถามท่านอาจารย์ว่า .
1 .คำกล่าวที่ได้ยินกันมานานว่า ที่ใดมีรักที่นั่นมีทุกข์ คำกล่าวนี้ถูกต้องหรือไม่คะ
2.สภาวะจิตที่เป็นอุเบกขากับสภาวะจิตสุญญตาเหมือนหรือแตกต่างกันอย่างไรคะ
กราบขอบพระคุณค่ะ
เอเมน สาธุค่ะ
Natnapak Virothai คำตอบ
Q1.
คำกล่าวที่ได้ยินกันมานานว่า
ที่ใดมีรักที่นั่นมีทุกข์
คำกล่าวนี้ถูกต้องหรือไม่คะ
A.1
1.คำกล่าวนี้ไม่ถูกต้องอย่างสิ้นเชิงนะ
ในครอบครัวของท่านที่รักกันอย่างมั่นคง
มันคือความทุกข์เช่นนั้นหรือ
2.แล้วกรณีที่ "ที่ใดไม่มีรัก" ที่นั่นจะมีสุขมั้ย
อย่างเช่น ในครอบครัวของท่านน่ะ
ถ้าลูกผัวตัวเมียไม่รักกันเลย
ครอบครัวจะมีความสุขมีความอบอุ่นได้หรือ
3.ความจริงแล้ว "ความรัก" มี 2 แบบนะ
แบบแรก คือ รักเพื่อเอา (ความใคร่)
รักแบบนี้นี่แหละที่จะทุกข์
เพราะจะรักได้ถ้าได้เอา ถ้าไม่ได้เอาก็จะทุกข์
เป็นรักแบบต้องการสิ่งตอบแทนนั่นเอง
แบบสอง คือ รักเพื่อให้
เป็นรักแบบไม่มีเงื่อนไข
รักโดยไม่หวังสิ่งใดตอบแทนทั้งนั้น
มีแค่เพียงความสุขใจเล็กๆที่ได้ให้ที่ได้รักเขา
ถ้าที่ใดมีรักแบบที่สองนี้
มันจะทำให้ที่นั่นเกิดทุกข์ได้อย่างไร
4.คนนำทางตาบอดที่ก้าวตามมอดมารหลอกไว้
ทำให้พระวจนะพระศาสดาวิบัติแบบนี้แล...
Q2.
สภาวะจิตที่เป็นอุเบกขากับสภาวะจิตสุญญตา
เหมือนหรือแตกต่างกันอย่างไรคะ
A2.
1.ทั้งสองสภาวะไม่เหมือนกันนะ
2.สภาวะจิตที่เป็นอุเบกขาหมายถึง
จิตหยาบหรือจิตมนุษย์ของท่านทั้งหลาย
ไม่ลื่นไหลใฝ่ต่ำไปกับ "เงื่อนไข" สิ่งเร้า
จากคนรอบข้างที่อายตนะของท่านรับสัมผัสมา
ไม่ว่าจะเป็นเงื่อนไขบวกหรือลบ ดีหรือชั่ว
ไม่ว่าเงื่อนไขนั้นท่านจะชอบหรือไม่ชอบก็ตาม
จิตของท่านจะสงบระงับอยู่ได้ตลอดเวลา
แปลความว่าท่านจะไม่เป็นทาสสิ่งเร้านั่นเอง
มันจะยังผลให้ท่านสามารถมองทุกสิ่งไปตามจริง
ฟังทุกสิ่งไปตามจริง นึกคิดทุกสิ่งไปตามจริง
โดยไม่มีการปรุงแต่งด้วยอารมณ์รู้สึกจนผิดเพี้ยน
3.สภาวะจิตสุญญตาหมายถึง
คุณสมบัติของจิตวิญญาณนะมิใช่จิตมนุษย์
ซึ่งเป็นคุณสมบัติของจิตวิญญาณ
ที่ "จิตหยาบ" นิพพานหรือดับการเกิดดับ
ของทุกสิ่งแล้ว เช่น กรรม กิเลส ตัณหา เป็นต้น
สภาวะสุญตาของจิตวิญญาณ
จะเริ่มเกิดขึ้นเมื่อจิตหยาบยกระดับเป็นหนึ่งเดียว
กับจิตวิญญาณได้แล้วในมิติที่ 6 แล้วยกต่อสู่มิติที่ 9
ซึ่งมิตินี้จิตวิญญาณนั้นพร้อมต่อการยกระดับ
จากระดับที่ 9 ไปสู่ระดับ 10-11 เพื่อ "หลุดพ้น"
จิตวิญญาณนั้นใช้พลังอำนาจของจิตอย่างเดียว
ไม่ต้องมีกลไกอายตนะเพื่อการรับรู้อีกแล้ว
สภาวะที่จิตวิญญาณไม่ต้องใช้อายตนะแล้ว
นี่แหละคือ สภาวะสุญตา โดย "มีอายตนะอยู่"
แต่เหมือนว่าไม่มีเพราะใช้จิตสัมผัสเอาเองได้
เอเมน สาธุ
ป.วิสุทธิปัญญา
9/05/2022
