พี่ๆน้องๆที่รักแห่งเราทั้งหลาย
เราจะกล่าวความจริงต่อท่านทั้งหลายว่า
จิตวิญญาณของท่านนั้นมิได้เกิดมาจากธาตุรู้
ที่ฟุ้งกระจายอยู่ในอนันตจักรวาลอันไพศาลนี้
มารวมตัวกันจนเกิดเป็นรูปธรรมทางพลังงานขึ้น
แล้วถูกส่งเข้ามาอยู่ในกายหยาบบนดาวโลกดวงนี้
โดยพวกต่างดาวที่เรียกตนเองว่า “พระผู้สร้าง”
เพื่อทำการทดลองอะไรไปเรื่อยเปื่อย
เมื่อครบแสนปีก็จะทำการชำระล้างโลกครั้งหนึ่ง
เราขอยืนยันต่อท่านทั้งหลายว่าความรู้เหล่านี้เป็นเท็จ
โดยเรายืนยันในพระนามของพระบิดาแห่งจิตวิญญาณ
ซึ่งพระนามพระองค์ก็คือ #จิตจักรวาล ผู้ทรงใช้เรามา
ด้วยความจริงที่เป็น #อนุตรธรรม ดังต่อไปนี้
1.รูปธรรมจิตวิญญาณผู้เป็นแก่นแท้ของมนุษย์โลก
มิได้ถูกสร้างขึ้นด้วยขยะพลังงานที่เป็นธาตุรู้อมตะใดๆ
ที่ล่องลอยเลื่อนไหลอยู่ในสนามพลังงานแห่งเอกภพ
หรือนามทางศาสนาเรียกขานกันว่า #อนันตจักรวาล
2.ไม่มีพวกสิ่งมีชีวิตในต่างดาวเผ่าไหน
ต่อให้พวกเขาเจริญก้าวหน้าทางวัตถุเท็คโนโลยี
ต่อให้มีองค์ความรู้และเชี่ยวชาญด้านจิตวิญญาณ
จะไม่สามารถนำขยะพลังงานที่เรียกว่า #ธาตุรู้อมตะ
มาสร้างเป็นรูปธรรมทางพลังงานของจิตวิญญาณ
ให้เป็นแก่นแท้ในร่างมนุษย์หรือในร่างของพวกตนได้
ท่านลองไตร่ตรองกันดูก็ได้ว่า
ถ้ากายหยาบและจิตวิญญาณของพวกเขากันเอง
พวกเขายังสร้างขึ้นใหม่เพื่อเพิ่มประชากรกันไม่ได้เลย
จะมาเป็นผู้ให้กำเนิด “มนุษย์โลก” ทั้งสองมิติได้อย่างไร
3.พวกเขามักบอกมนุษย์ว่าพวกเขาเกิดจากแสง
เพราะไม่เคยรู้จักพระผู้ให้กำเนิดพวกเขาว่าเป็นใคร
เนื่องจากพวกเขาเป็น “สิ่งทดลอง” ขององค์จิตจักรวาล
เมื่อถูกส่งเข้าไปทำหน้าที่อยู่ในระบบดาวนั้นๆแล้ว
พวกเขาก็ถูกปิดมิติไว้มิให้ล่วงรู้ความเป็นมาของตัวเอง
อันเป็นความจริงระดับอนุตรธรรมเหมือนมนุษย์เช่นกัน
แต่ที่พวกท่านรู้ว่าตนเองเป็นจิตวิญญาณ
ผู้เดินทางข้ามมิติมาจากพระนิเวศน์พระบิดา
เข้ามาเกิดในอนันตจักรวาล
เพื่อเป็นคนสองมิติที่เรียกว่ามนุษย์โลก
โดยถือเอาภารกิจติดตัวมาด้วย
นั่นคือมาช่วยกันกับเพื่อนมนุษย์ใช้ความรักบริสุทธิ์
สร้างพลังงานไฟฟ้าแม่เหล็กด้านบวกค้ำจุนสมดุลโลก
ก็เพราะว่าองค์จิตจักรวาลทรงมีพระบัญชาให้เรา
เข้ามากล่าวความจริงที่เป็นอนุตรธรรมนี้ให้โลกรู้
ขณะที่พวกต่างเผ่าดาวแม้จะเกิดก่อนมนุษย์
และมีสภาวะจิตลดระดับลงจาก 6 สู่ระดับ 5
สมองก้อนเดียวกับจิตวิญญาณที่มีอภิญญาสูงกว่ามนุษย์
จนสามารถหยั่งรู้ล่วงรู้คิดรู้เรียนรู้สัจธรรมความจริงได้
ก็สามารถเข้าถึงได้แค่ความจริงด้านโลกิยธรรม
กับความจริงด้านโลกุตรธรรมที่พอสอนธรรมะได้เท่านั้น
เพราะพวกเขาไม่เคยตายจึงไม่มีอดีตชาติให้เรียนรู้
มีแต่อดีตย้อนหลังตั้งแต่จำความได้จากวัยเยาว์เท่านั้น
ที่สำคัญคือพวกเขาทั้งหมดไม่มีศาสดาที่มาจากพระเจ้า
จึงไม่มีใครกล่าวอนุตรธรรมความจริงให้พวกเขาได้รู้
จึงได้แต่เดาเอาว่าพวกตนเกิดมาจากแสงดังกล่าวแล้ว
เมื่อมาได้ยินพระเยซูพระนบีตรัสว่ามนุษย์มาจากพระเจ้า
ก็เลยเอาคำว่าพระเจ้ามาอธิบายต่อยอดว่าคือพวกตน
4.เพราะว่ามีวัตถุประสงค์ไม่ดีแอบแฝง
นั่นคือต้องการยึดครองมนุษย์และโลกเป็นของตน
โดยไม่กล้าก่อศึกสงครามเพราะเข็ดขยาดมาจากอดีต
จึงใช้สงครามจิตวิทยา สงครามอำนาจ สงครามเชื้อโรค
ผ่านมนุษย์ที่โง่ง่ายหิวกิเลสเป็นเครื่องมือก่อสงคราม
โดยมีมอดที่เป็นพวกไฮบริดและมารมนุษย์ที่ถูกควบคุมจิต
เป็นตัวแทนในบทบาทผู้นำปฏิบัติการสงครามดังกล่าวนี้
สงครามจิตวิทยาคือการหลอกลวงให้หลงเชื่อ
โดยใช้แผน #ในจริงมีเท็จ ในเท็จมีจริง
เช่นหลอกมนุษย์ว่าพวกตนคือพระผู้สร้างหรือพระเจ้า
ขณะมนุษย์โลกเองที่เชื่อและยอมรับพระเจ้ากันอยู่นั้น
ยังไม่รู้ว่าพระเจ้าเป็นใครยังเชื่อโดยอธิบายไม่ได้กันอยู่
จึงถูกพวกเขาใช้พระเจ้าเทียมเท็จเข้าสวมรอยแทน
และรู้สึกว่าแผนการนี้ชักจะได้ผลแล้วด้วยสิท่าน
ซึ่งแผนการลวงโลกเช่นว่านี้ยังจะมีตามมาอีกมาก
5.กรณีที่พวกเขาบอกมนุษย์ว่า
พวกเขาเป็นผู้ส่งมนุษย์เข้ามาเกิดในระบบโลก
เพื่อทดลองตามแผนการของพระผู้สร้างตัวปลอม
โดยทุกแสนปีจะมีการล้างโลกครั้งหนึ่งนั้น
นี่ก็เป็นความเท็จข้อใหญ่อีกสองข้อแล้วล่ะท่าน
ข้อแรก “มนุษย์” ทุกคนมิใช่สิ่งทดลองของพระบิดา
แต่มนุษย์อาสามาเป็น #เพื่อนร่วมงานกับโลก ต่างหาก
โลกกับมนุษย์จะขาดซึ่งกันและกันไม่ได้
องค์จิตจักรวาลสร้างโลกขึ้นมาเพื่อให้ค้ำจุนเอกภพ
โดยมนุษย์และสิ่งมีชีวิตต่างๆต้องช่วยกันค้ำจุนโลก
ด้วยการใช้ความรักหมุนธรรมจักรด้วยขันธ์ 5 ให้ได้
ซึ่งพวกต่างเผ่าดาวตัวร้ายยังไม่รู้ด้วยซ้ำไปว่า
ถ้าพวกเขาเป็นอุปสรรคทำให้มนุษย์ทำหน้าที่นี้ไม่ได้
ทั้งโลกทั้งจักรวาลห้องทดลองพระบิดาและพวกเขา
จักต้องถึงกาลตายหายนะมลายสิ้นไปในไม่ช้า
ข้อสอง “มนุษย์” โดยจิตวิญญาณ
ถูกส่งเข้ามาประจำการที่โลกโดยมีหน้าที่ชัดเจน
ไม่ใช่เข้ามาเป็นดั่งสัตว์ทดลองที่ไร้เกียรติยศ
และจิตวิญญาณเมื่อครบกำหนดก็จะได้กลับบ้าน
โดยจิตหยาบซึ่งเป็นตัวแทนของจิตวิญญาณ
จักต้องยกระดับจากมิติศูนย์ในวันแรกที่ปฏิสนธิ
คือวันแรกที่มารดาตั้งครรภ์ขึ้นสู่มิติที่สูงกว่า
นั่นคือยกระดับจากศูนย์จนถึงสามแล้วคลอด
โดยทารกในครรภ์จะใช้ความรักจากมารดาบิดา
ทำการสั่นสะเทือนจิตหยาบเพื่อก่อร้างสร้างกาย
ทันทีที่คลอดแล้วทารกจะค่อยๆเรียนรู้ความรัก
จากบิดามารดาและคนรอบข้างเพื่อยกระดับจิตหยาบ
ขึ้นสู่มิติที่สูงกว่าไปเรื่อยๆจนครบสามขวบปีบริบูรณ์
กุมารน้อยคนนั้นจักต้องฝึกหมุนธรรมจักรด้วยขันธ์ 5
โดยมีคนรอบข้างช่วยสร้างเงื่อนไขให้ต่อไป
เป้าหมายเบื้องต้นคือต้องยกระดับให้ถึง 6 ให้จงได้
เพื่อจะเป็นหนึ่งเดียวกันกับจิตวิญญาณของตนในที่สุด
ส่วนการยกระดับให้สูงกว่านี้ขั้นตอนต่อไปก็ง่ายแล้ว
โดยจิตหยาบต้องพาจิตวิญญาณยกระดับให้ถึง 10
เพื่อนำพาจิตวิญญาณกลับบ้านนอกเอกภพที่จากมา
ไปกราบพระบาทพระบิดาที่มิใช่พระผู้สร้างตัวปลอม
ให้ทันก่อนวันสิ้นยุค คือ 6 หมื่นปีมิใช่แสนปีหลอก
เราหยิบความจริงบางส่วนมากล่าวให้พวกท่านรู้
เพื่อจะได้ไม่ฟังความข้างเดียวกันอีกต่อไป
เมื่อได้รู้ความจริงจากองค์จิตจักรวาลทั้งหมดแล้ว
ท่านจะตัดสินใจเลือกข้างพระองค์หรือข้างผู้ไม่หวังดี
นั่นเป็นสิทธิ์ของท่านแล้วเพราะโลกนี้เป็นโลกเสรี
ถ้าตัดสินใจเลือกผิดข้างนั่นคือท่านพิพากษาตัวเองแล้ว
กราบพระบาทพระบิดาทรงเมตตา
เอเมน สาธุ
ป.วิสุทธิปัญญา
14/05/2022
เราจะกล่าวความจริงต่อท่านทั้งหลายว่า
จิตวิญญาณของท่านนั้นมิได้เกิดมาจากธาตุรู้
ที่ฟุ้งกระจายอยู่ในอนันตจักรวาลอันไพศาลนี้
มารวมตัวกันจนเกิดเป็นรูปธรรมทางพลังงานขึ้น
แล้วถูกส่งเข้ามาอยู่ในกายหยาบบนดาวโลกดวงนี้
โดยพวกต่างดาวที่เรียกตนเองว่า “พระผู้สร้าง”
เพื่อทำการทดลองอะไรไปเรื่อยเปื่อย
เมื่อครบแสนปีก็จะทำการชำระล้างโลกครั้งหนึ่ง
เราขอยืนยันต่อท่านทั้งหลายว่าความรู้เหล่านี้เป็นเท็จ
โดยเรายืนยันในพระนามของพระบิดาแห่งจิตวิญญาณ
ซึ่งพระนามพระองค์ก็คือ #จิตจักรวาล ผู้ทรงใช้เรามา
ด้วยความจริงที่เป็น #อนุตรธรรม ดังต่อไปนี้
1.รูปธรรมจิตวิญญาณผู้เป็นแก่นแท้ของมนุษย์โลก
มิได้ถูกสร้างขึ้นด้วยขยะพลังงานที่เป็นธาตุรู้อมตะใดๆ
ที่ล่องลอยเลื่อนไหลอยู่ในสนามพลังงานแห่งเอกภพ
หรือนามทางศาสนาเรียกขานกันว่า #อนันตจักรวาล
2.ไม่มีพวกสิ่งมีชีวิตในต่างดาวเผ่าไหน
ต่อให้พวกเขาเจริญก้าวหน้าทางวัตถุเท็คโนโลยี
ต่อให้มีองค์ความรู้และเชี่ยวชาญด้านจิตวิญญาณ
จะไม่สามารถนำขยะพลังงานที่เรียกว่า #ธาตุรู้อมตะ
มาสร้างเป็นรูปธรรมทางพลังงานของจิตวิญญาณ
ให้เป็นแก่นแท้ในร่างมนุษย์หรือในร่างของพวกตนได้
ท่านลองไตร่ตรองกันดูก็ได้ว่า
ถ้ากายหยาบและจิตวิญญาณของพวกเขากันเอง
พวกเขายังสร้างขึ้นใหม่เพื่อเพิ่มประชากรกันไม่ได้เลย
จะมาเป็นผู้ให้กำเนิด “มนุษย์โลก” ทั้งสองมิติได้อย่างไร
3.พวกเขามักบอกมนุษย์ว่าพวกเขาเกิดจากแสง
เพราะไม่เคยรู้จักพระผู้ให้กำเนิดพวกเขาว่าเป็นใคร
เนื่องจากพวกเขาเป็น “สิ่งทดลอง” ขององค์จิตจักรวาล
เมื่อถูกส่งเข้าไปทำหน้าที่อยู่ในระบบดาวนั้นๆแล้ว
พวกเขาก็ถูกปิดมิติไว้มิให้ล่วงรู้ความเป็นมาของตัวเอง
อันเป็นความจริงระดับอนุตรธรรมเหมือนมนุษย์เช่นกัน
แต่ที่พวกท่านรู้ว่าตนเองเป็นจิตวิญญาณ
ผู้เดินทางข้ามมิติมาจากพระนิเวศน์พระบิดา
เข้ามาเกิดในอนันตจักรวาล
เพื่อเป็นคนสองมิติที่เรียกว่ามนุษย์โลก
โดยถือเอาภารกิจติดตัวมาด้วย
นั่นคือมาช่วยกันกับเพื่อนมนุษย์ใช้ความรักบริสุทธิ์
สร้างพลังงานไฟฟ้าแม่เหล็กด้านบวกค้ำจุนสมดุลโลก
ก็เพราะว่าองค์จิตจักรวาลทรงมีพระบัญชาให้เรา
เข้ามากล่าวความจริงที่เป็นอนุตรธรรมนี้ให้โลกรู้
ขณะที่พวกต่างเผ่าดาวแม้จะเกิดก่อนมนุษย์
และมีสภาวะจิตลดระดับลงจาก 6 สู่ระดับ 5
สมองก้อนเดียวกับจิตวิญญาณที่มีอภิญญาสูงกว่ามนุษย์
จนสามารถหยั่งรู้ล่วงรู้คิดรู้เรียนรู้สัจธรรมความจริงได้
ก็สามารถเข้าถึงได้แค่ความจริงด้านโลกิยธรรม
กับความจริงด้านโลกุตรธรรมที่พอสอนธรรมะได้เท่านั้น
เพราะพวกเขาไม่เคยตายจึงไม่มีอดีตชาติให้เรียนรู้
มีแต่อดีตย้อนหลังตั้งแต่จำความได้จากวัยเยาว์เท่านั้น
ที่สำคัญคือพวกเขาทั้งหมดไม่มีศาสดาที่มาจากพระเจ้า
จึงไม่มีใครกล่าวอนุตรธรรมความจริงให้พวกเขาได้รู้
จึงได้แต่เดาเอาว่าพวกตนเกิดมาจากแสงดังกล่าวแล้ว
เมื่อมาได้ยินพระเยซูพระนบีตรัสว่ามนุษย์มาจากพระเจ้า
ก็เลยเอาคำว่าพระเจ้ามาอธิบายต่อยอดว่าคือพวกตน
4.เพราะว่ามีวัตถุประสงค์ไม่ดีแอบแฝง
นั่นคือต้องการยึดครองมนุษย์และโลกเป็นของตน
โดยไม่กล้าก่อศึกสงครามเพราะเข็ดขยาดมาจากอดีต
จึงใช้สงครามจิตวิทยา สงครามอำนาจ สงครามเชื้อโรค
ผ่านมนุษย์ที่โง่ง่ายหิวกิเลสเป็นเครื่องมือก่อสงคราม
โดยมีมอดที่เป็นพวกไฮบริดและมารมนุษย์ที่ถูกควบคุมจิต
เป็นตัวแทนในบทบาทผู้นำปฏิบัติการสงครามดังกล่าวนี้
สงครามจิตวิทยาคือการหลอกลวงให้หลงเชื่อ
โดยใช้แผน #ในจริงมีเท็จ ในเท็จมีจริง
เช่นหลอกมนุษย์ว่าพวกตนคือพระผู้สร้างหรือพระเจ้า
ขณะมนุษย์โลกเองที่เชื่อและยอมรับพระเจ้ากันอยู่นั้น
ยังไม่รู้ว่าพระเจ้าเป็นใครยังเชื่อโดยอธิบายไม่ได้กันอยู่
จึงถูกพวกเขาใช้พระเจ้าเทียมเท็จเข้าสวมรอยแทน
และรู้สึกว่าแผนการนี้ชักจะได้ผลแล้วด้วยสิท่าน
ซึ่งแผนการลวงโลกเช่นว่านี้ยังจะมีตามมาอีกมาก
5.กรณีที่พวกเขาบอกมนุษย์ว่า
พวกเขาเป็นผู้ส่งมนุษย์เข้ามาเกิดในระบบโลก
เพื่อทดลองตามแผนการของพระผู้สร้างตัวปลอม
โดยทุกแสนปีจะมีการล้างโลกครั้งหนึ่งนั้น
นี่ก็เป็นความเท็จข้อใหญ่อีกสองข้อแล้วล่ะท่าน
ข้อแรก “มนุษย์” ทุกคนมิใช่สิ่งทดลองของพระบิดา
แต่มนุษย์อาสามาเป็น #เพื่อนร่วมงานกับโลก ต่างหาก
โลกกับมนุษย์จะขาดซึ่งกันและกันไม่ได้
องค์จิตจักรวาลสร้างโลกขึ้นมาเพื่อให้ค้ำจุนเอกภพ
โดยมนุษย์และสิ่งมีชีวิตต่างๆต้องช่วยกันค้ำจุนโลก
ด้วยการใช้ความรักหมุนธรรมจักรด้วยขันธ์ 5 ให้ได้
ซึ่งพวกต่างเผ่าดาวตัวร้ายยังไม่รู้ด้วยซ้ำไปว่า
ถ้าพวกเขาเป็นอุปสรรคทำให้มนุษย์ทำหน้าที่นี้ไม่ได้
ทั้งโลกทั้งจักรวาลห้องทดลองพระบิดาและพวกเขา
จักต้องถึงกาลตายหายนะมลายสิ้นไปในไม่ช้า
ข้อสอง “มนุษย์” โดยจิตวิญญาณ
ถูกส่งเข้ามาประจำการที่โลกโดยมีหน้าที่ชัดเจน
ไม่ใช่เข้ามาเป็นดั่งสัตว์ทดลองที่ไร้เกียรติยศ
และจิตวิญญาณเมื่อครบกำหนดก็จะได้กลับบ้าน
โดยจิตหยาบซึ่งเป็นตัวแทนของจิตวิญญาณ
จักต้องยกระดับจากมิติศูนย์ในวันแรกที่ปฏิสนธิ
คือวันแรกที่มารดาตั้งครรภ์ขึ้นสู่มิติที่สูงกว่า
นั่นคือยกระดับจากศูนย์จนถึงสามแล้วคลอด
โดยทารกในครรภ์จะใช้ความรักจากมารดาบิดา
ทำการสั่นสะเทือนจิตหยาบเพื่อก่อร้างสร้างกาย
ทันทีที่คลอดแล้วทารกจะค่อยๆเรียนรู้ความรัก
จากบิดามารดาและคนรอบข้างเพื่อยกระดับจิตหยาบ
ขึ้นสู่มิติที่สูงกว่าไปเรื่อยๆจนครบสามขวบปีบริบูรณ์
กุมารน้อยคนนั้นจักต้องฝึกหมุนธรรมจักรด้วยขันธ์ 5
โดยมีคนรอบข้างช่วยสร้างเงื่อนไขให้ต่อไป
เป้าหมายเบื้องต้นคือต้องยกระดับให้ถึง 6 ให้จงได้
เพื่อจะเป็นหนึ่งเดียวกันกับจิตวิญญาณของตนในที่สุด
ส่วนการยกระดับให้สูงกว่านี้ขั้นตอนต่อไปก็ง่ายแล้ว
โดยจิตหยาบต้องพาจิตวิญญาณยกระดับให้ถึง 10
เพื่อนำพาจิตวิญญาณกลับบ้านนอกเอกภพที่จากมา
ไปกราบพระบาทพระบิดาที่มิใช่พระผู้สร้างตัวปลอม
ให้ทันก่อนวันสิ้นยุค คือ 6 หมื่นปีมิใช่แสนปีหลอก
เราหยิบความจริงบางส่วนมากล่าวให้พวกท่านรู้
เพื่อจะได้ไม่ฟังความข้างเดียวกันอีกต่อไป
เมื่อได้รู้ความจริงจากองค์จิตจักรวาลทั้งหมดแล้ว
ท่านจะตัดสินใจเลือกข้างพระองค์หรือข้างผู้ไม่หวังดี
นั่นเป็นสิทธิ์ของท่านแล้วเพราะโลกนี้เป็นโลกเสรี
ถ้าตัดสินใจเลือกผิดข้างนั่นคือท่านพิพากษาตัวเองแล้ว
กราบพระบาทพระบิดาทรงเมตตา
เอเมน สาธุ
ป.วิสุทธิปัญญา
14/05/2022
