02 พฤษภาคม 2565

สนทนาประสาจิตจักรวาล 2/05/2022

พี่ๆน้องๆที่รักแห่งเราทั้งหลาย
เราจะกล่าวความจริงต่อท่านทั้งหลายว่า
 
ภารกิจของเราในการกลับมายังโลกนี้อีกครั้ง
ในช่วงสุดท้ายปลายยุคพลังงานเก่า (Old Age) นี้
ก็คือการเปิดเผยความจริงสูงสุดระดับ "อนุตรธรรม"
ที่มนุษย์ทั้งโลกนับหมื่นปีมาแล้วยังไม่มีใครรู้มาก่อน
แม้องค์สัพพัญญูก็มิอาจเข้าถึงความจริงระดับนี้ได้
เพราะมนุษย์มีขีดจำกัดจากการมีสมองแค่สองซีก
ซึ่งความจริงสูงสุดนี้ “มนุษย์” ทุกคนต้องรู้ไม่รู้ไม่ได้
ถ้าไม่รู้ทุกคนก็จะล้มเหลวในการเป็นมนุษย์นั่นเอง
 
โดยปกติแล้วผู้นำทางจิตวิญญาณของโลก
อันหมายถึงพระศาสดาของศาสนาต่างๆนั้น
ส่วนใหญ่จะเป็นพระศาสดาที่มาจากโลกเอง
ซึ่งเป็นผู้ทรงมีพระปรีชาญาณและประสบการณ์ชีวิต
ในการเป็น “คนสองมิติ” มากกว่ามนุษย์คนอื่นๆ
 
จึงยังผลให้พี่น้องผองเพื่อนร่วมโลกในยุคนั้น
ยอมรับและก้าวตามในการดำเนินชีวิตประจำวัน
ทั้งในมิติโลกทางกายภาพและมิติทางจิตวิญญาณ
เช่นพระศาสดาของศาสนาพุทธคือพระพุทธเจ้า
ก็เป็นพระศาสดาที่เกิดจากโลกเองดังกล่าวแล้ว
ซึ่งทรงเป็น #สัพพัญญู ผู้รอบรู้ทุกสิ่งในจักรวาล
 
พี่ๆน้องๆที่รักแห่งเราทั้งหลาย
 
คำว่า “จักรวาล” ในที่นี้เราหมายถึง #เอกภพ
หรือที่เรียกว่า #อนันตจักรวาล ซึ่งมีจักรวาลเป็นอนันต์
ดำรงอยู่ร่วมกันใน “ห้องทดลองขนาดใหญ่” ไพศาลนี้
เป็นจำนวนมากมายจนมนุษย์นับกันไม่ถ้วนนั่นเอง
ซึ่งเราได้เฉลยความจริงให้พวกท่านรู้กันมาก่อนแล้วว่า
พระบิดาสร้างไว้ 12,500 ล้านกาแล็กซี่กับ 7 ระบบสุริยะ
ซึ่งองค์ “สัพพัญญู” สามารถรอบรู้ความจริงทั่วทั้งเอกภพ
จนเป็นที่ประจักษ์ของชาวโลกเสรีโดยทั่วกันอยู่แล้ว
 
ส่วนคำว่า “สัพพัญญู” นั้นหมายถึง
มนุษย์ผู้ประเสริฐและเป็นเลิศด้านปัญญาญาณ
ผู้รอบรู้ทุกสิ่งที่เป็นความจริงทั้งปัจจุบันอดีตและอนาคต
เป็นผู้รอบรู้ทุกสิ่งที่ดำรงอยู่จริงทั่วทั้งอนันตจักรวาล
ขณะที่ตนเองนั้นมีชีวิตอยู่ในปัจจุบันและอยู่ในระบบโลก
ซึ่งมีอยู่เพียงพระองค์เดียวเท่านั้น คือ #พระพุทธองค์
 
เนื่องจากพระพุทธองค์ก็คือมนุษย์รูปธรรมหนึ่ง
ซึ่งมีโครงสร้างทางกายภาพและโครงสร้างทางชีววิทยา
รวมเรียกว่า #เครื่องยนต์แห่งกรรม มิได้ต่างจากผู้อื่น
โดยเฉพาะ #สมอง ก็ทรงมีสองซีกซ้ายขวาเช่นเดียวกัน
 
#พระผู้สร้าง หรือ #องค์จิตจักรวาล ทรงออกแบบ
ติดตั้ง “สมองซีกซ้าย” ไว้ให้มนุษย์ใช้คิดรู้เพื่อเรียนรู้
สิ่งแวดล้อมที่กลไกอายตนะสัมผัสตัวตนรูปลักษณ์ได้
ด้วยกระบวนการ #คิดวิเคระห์ ให้รู้ว่าอะไรเป็นอะไร
ส่วน “สมองซีกขวา” นั้นทรงติดตั้งเอาไว้ให้มนุษย์ทุกคน
นำเอาองค์ความรู้ที่คิดรู้เรียนรู้ได้จากสมองซีกซ้ายแล้ว
มา #สังเคราะห์ เพื่อค้นหาสารสาระที่น่าจะเป็นประโยชน์
เมื่อนำมาใช้ปฏิบัติในการดำเนินชีวิตประจำวันของตน
 
นอกจากนั้นถ้าใครก็ตาม
ที่สามารถ #ยกระดับ แรงสั่นสะเทือนจิตหยาบให้สูงขึ้น
จนเข้าถึงรูปทรงเรขาคณิตที่เป็น #ดาวห้าแฉก ได้
ก็จะสามารถเข้าถึงญาณหยั่งรู้บางสิ่งที่เคยเป็นอดีต
รวมทั้งล่วงรู้บางสิ่งที่จะเป็นอนาคตของตนหรือผู้อื่นได้
แต่ถ้ายกระดับแรงสั่นสะเทือนจิตหยาบให้สูงขึ้นจนเข้าถึง
ความสมดุลที่เป็นรูปทรงเรขาคณิต #หกเหลี่ยมมุม ได้
จิตมนุษย์ผู้นั้นก็จะสามารถท่องทัวร์ได้ทั่วทั้งจักรวาล
 
เพราะคุณสมบัติพิเศษเหล่านี้นี่เอง
องค์ “สัพพัญญู” ของชาวโลกจึงทรงเป็นผู้รอบรู้ทุกสิ่ง
ภายในสนามพลังงานจักรวาลที่เรียกว่า “อนันตจักรวาล”
ซึ่งไม่มีใครจะสามารถเข้าถึงจิตปัญญาอันสูงส่งเช่นนี้ได้
โดยการยกระดับแรงสั่นสะเทือนของจิตหยาบดังกล่าวนี้
คนที่ยังหมุนธรรมจักรไม่เป็นหรือทำได้บ้างไม่ได้บ้าง
ก็ต้องอาศัยการปฏิบัติบำเพ็ญต่อเนื่องข้ามภพชาติ
จากการเวียนว่ายตายเกิดของจิตวิญญาณจนนับไม่ถ้วน
ซึ่งต้องมุ่งปฏิบัติบำเพ็ญทาน ศีล สมาธิ ภาวนา
ดังเช่นพระพุทธองค์ที่พวกท่านก้าวตามก็ทรงทำเช่นนี้เอง
 
พี่ๆน้องๆที่รักทั้งหลาย
 
อนันตจักรวาลหรือเอกภพก็ไม่ต่างไปจากสระใหญ่
มนุษย์โลกทุกคนก็ไม่ต่างไปจากปลาปูกุ้งหอยในสระนั้น
พวกปลาและกบที่ใช้ชีวิตอยู่ในสระทั้งหลายจนคุ้นชิน
มันไม่เคยรู้ว่าบนบกซึ่งเป็นพื้นที่นอกสระนั้นมีอะไรอยู่
บนบกนั้นมีสภาพภูมิประเทศภูมิทัศน์ภูมิอากาศเป็นเช่นไร
พวกมันไม่รู้ด้วยซ้ำไปว่านอกจากสระแล้วยังมีแผ่นดิน
ซึ่งมีอะไรอะไรที่พวกมันไม่รู้ว่าตัวเองไม่รู้อยู่อีกมากนัก
 
สาเหตุที่สัตว์น้ำในสระใหญ่ไม่รู้เรื่องบนบกก็เพราะเหตุว่า
ตั้งแต่รุ่นบรรพบุรุษของมันเป็นต้นมาล้วนเกิดตายก็ในสระ
เพราะพวกมันคือ #สัตว์น้ำ ที่ถูกออกแบบให้หายใจในน้ำ
ไม่สามารถจะขึ้นจากสระไปใช้ชีวิตในแบบของสัตว์บกได้
ขณะเดียวกัน “สัตว์บก” จะรู้เรื่องก็จำเพาะแต่บนบกเท่านั้น
เพราะลงไปใช้ชีวิตเยี่ยงกุ้งหอยปูปลาในสระใหญ่ไม่ได้
 
ถ้าจะให้สัตว์น้ำรู้เรื่องบนบกก็ต้องให้ #เต่า ช่วยบอกให้รู้
ถ้าจะให้สัตว์บกรู้เรื่องในสระน้ำก็ต้องให้ “เต่า” ช่วยบอก
เพราะว่าเต่ามีความสามารถพิเศษกว่าสัตว์บกและสัตว์น้ำ
เพราะเต่ามีคุณสมบัติสำคัญคือเป็น #สัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำ
สามารถหายใจใช้ชีวิตอยู่ได้ทั้งบนบกและในน้ำนั่นเอง
 
มนุษย์โลกก็เหมือนกันนั่นแหละท่าน
ต่อให้เก่งกาจอย่างไรฉลาดแค่ไหนก็ตาม
จะสามารถเรียนรู้ “สัจธรรม” ความจริงได้
ทั้ง #โลกียะธรรม และ #โลกุตรธรรม ด้วยสมองสองซีก
ก็เพียงแค่ภายในอนันตจักรวาลอันไพศาลนี้เท่านั้น
มนุษย์จะมีข้อจำกัดในการเข้าถึงความจริงนอกจักรวาล
เพราะกลไกสมองมนุษย์มีจำกัดตามที่เรากล่าวมาแต่ต้น
 
พระบิดาทรงทราบดีในเรื่องนี้จึงทรงมีพระบัญชา
อนุญาตให้จิตวิญญาณบริสุทธิ์ของเรากลับมาอีกครั้ง
เพื่อบอกความจริงนอกอนันตจักรวาลให้พวกท่านรู้
เพราะมนุษย์ทุกคนเรียนรู้หยั่งรู้ล่วงรู้ด้วยตนเองไม่ได้
ความจริงนอกอนันตจักรวาลก็คือ #อนุตรธรรม นั่นเอง
โดย "เต่า" ตัวที่อ้างถึงก็คือ #เรา ที่พวกท่านเฝ้ารอ
 
ดังนั้น
ถ้าใครไม่ก้าวตามเรามาและไม่เปิดตาไม่เปิดใจ
ก็จะไม่สามารถรู้ความจริงที่ตนเองจะต้องรู้แน่นอน
เพราะมีเราเพียงรูปธรรมเดียวเท่านั้นที่รู้และบอกได้
อีกทั้งผู้ไม่รู้ก็จะมิอาจหลุดพ้นนิพพานได้อีกด้วย
เวลาโลกก็เหลือน้อยสำหรับการชำระเพื่อเปลี่ยนยุคแล้ว
 
จงเร่งพาตนเองเข้ามายังห้องเรียนของเรา
เพื่อรับรู้รับเอา “อนุตรธรรม” จากเราทุกวันและทั้งวัน
ในวันเวลาที่พวกท่านเพียรทำให้มันว่างเถิด
เพราะเราเท่านั้นที่รู้ว่าเส้นทางนิพพานไปทางใด
เนื่องจากเราเคยไปและได้กลับมายังโลกนี้แล้ว
เพราะเราเท่านั้นที่รู้ว่าจะเปิดประตูคอกแกะได้อย่างไร
เนื่องจากเราคือผู้ดูแลฝูงแกะของพระบิดาตลอดมา
 
เรากลับมาตามสัญญา
เรากลับมาวางศีรษะอยู่บนโลกเสรีนี้ตั้งนานแล้ว
 
กราบพระบาทพระบิดาทรงเมตตา
 
เอเมน สาธุ
ป.วิสุทธิปัญญา
2/05/2022