11 มกราคม 2559

ทุกสิ่งขึ้นกับจิตสำนึกปัจจุบัน


ATTN: Surapa Ruangpanyapot
Question:
การที่คน/มนุษย์จะฉุกคิด/
จะตระหนักรู้ จะมีโอกาสมาฟังคำสอนของท่านอาจารย์
และได้ปฏิบัติธรรมตามคำสอนนั้น
ถูกกำหนดมาด้วยหรือเปล่าค่ะ...???...

Answer:
1.ใครจะฉุกคิดได้หรือไม่ได้
เมื่อรับฟังพระโอวาทแล้วนั้น
เป็นความฉลาดทางจิตปัญญา
ของคนผู้นั้นเอง
มิได้มีการกำหนดแผนมาล่วงหน้าหรอกว่า
ใครจะฉุกคิดได้หรือไม่ได้

2.ใครจะตระหนักรู้ได้หรือไม่
จะตระหนักรู้ได้มากน้อยแค่ไหน
ก็ขึ้นอยู่กับจิตสำนึกในปัจจุบัน
ของแต่ละคนกันอีกนั่นแหละ

ใครสามารถที่จะสำนึกได้ช้าเร็วกว่าใคร
เมื่อได้รับฟังคำสื่อสอนจากพระบิดาแล้วนั้น
มันก็ขึ้นอยู่กับความเอาไหนไม่เอาไหน
ของใครแต่ละคนนั้่นด้วย

3.ใครจะมีโอกาสมาฟังพระโอวาทพระบิดา
ที่ทรงสื่อผ่านมาทางเราหรือไม่นั้น
มันขึ้นอยู่กับการที่แต่ละคนจะใช้โอกาสนี้หรือไม่
เพราะการที่พระบิดาให้เรามาสื่อสอนพวกท่าน
ก็นับว่าเป็นการเปิดโอกาสให้แก่ทุกๆคน
บนดาวเคราะห์โลกดวงนี้
อย่างทัดเทียมกันอยู่แล้ว

คนที่บอกว่าไม่ว่างมาฟังพระโอวาท
ทั้งๆที่รู้กำหนดวันเวลาสื่ออยู่อย่างแม่นยำ
อ้างว่าต้องไปทำโน่นนั่นนี่หรือทำนองนั้น
โดยเห็นว่าเรื่องอื่นสำคัญกว่า
จึงทิ้งโอกาสรับฟังพระโอวาท
ไปทำอย่างอื่นแทน
แล้วมาอ้างว่าอยากมาฟังเหมือนกันแต่ไม่ว่างนั้น

เราจึงใคร่ถามท่านทั้งหลายว่า

ทีหิวข้าว....ทำไมจึงว่างไปกิน?
ทีปวดท้องอึ๊...ทำไมจึงว่างเข้าส้วม?
ทีเจ็บไข้ได้ป่วย....ทำไมจึงว่างไปหาหมอ?

4.ดังนั้น เราจึงขอยืนยันต่อท่านทั้งหลายว่า
ไม่มีใครหรือผู้ใดจะสามารถกำหนดมาล่วงหน้า
ตามที่กล่าวมาทั้ง 3 ประการข้างต้นนั้นได้
เพราะการที่พระบิดาทรงใช้ให้เรามา
ทำหน้าที่สื่อพระโอวาทต่อท่านทั้งหลาย
และแจ้งข่าวสารการชำระโลก

จนแม้กระทั่งจะพิพากษาว่า
ใครเป็นผู้รอดหรือใครเป็นปลาที่จะถูกคัดทิ้ง
ก็คนผู้นั้นเองแหละ
ที่จะเป็นผู้เลือกทางดำเนินของตนเอง

5.ผู้ที่เชื่อฟังเราแล้วเฝ้าติดตามฟังพระโอวาท
จะปฏิบัติตนจนหลุดพ้นได้หรือไม่ได้
จะเป็นสัดส่วนเท่าใดกับผู้ไม่รอด

ก็ล้วนขึ้นอยู่กับคนๆนั้นในภพชาตินี้เช่นกันว่า
จะใส่ใจในคำสอนแค่ไหน 
จะมุ่งมั่นหมั่นปฏิบัติกันสักเพียงใด
จะฉลาดเรียนรู้กันหรือไม่ เป็นต้น

เอเมน สาธุ
ป.วิสุทธิปัญญา
11-1-2016