13 มกราคม 2559

พี่ๆน้องๆชาวจิตจักรวาล และศาสนิกชนคนประพฤติธรรมทั้งหลาย

พี่ๆน้องๆชาวจิตจักรวาล
และศาสนิกชนคนประพฤติธรรมทั้งหลาย
เราจะกล่าวความจริงต่อท่านว่า

ถ้าท่านจะก้าวหน้าในชีวิต ในงาน 
ก้าวหน้าในทางจิตวิญญาณด้านแก่นแท้
แต่คิดเองยังไม่เป็น เห็นเองยังไม่ได้นั้น
ท่านก็ต้องฉลาดเรียนรู้
โดยจะเรียนรู้ด้วยตนเองโดยตรง
หรือผ่านประสบการณ์ของคนอื่น
สุดแท้แต่กาลโอกาส

การฉลาดเรียนรู้ที่ดี คือ เปิดกว้าง
เปิดหู เปิดตา เปิดใจ ให้กว้างไว้เสมอ
แต่ปิดปากไว้ก่อน เอาไว้ใช้ทีหลัง
คือ ใช้ตอนคิดตามเขาแล้วเราไม่เข้าใจ
คือ ใช้ตอนเข้าใจแล้วใคร่รู้เพิ่มอีก
เพื่อการต่อยอดของตนเอง
โดยไม่เลือกคนที่ตนจะยอมเรียนรู้ด้วย

การเรียนรู้ที่โง่ที่สุดและจะโง่ไปตลอดชีวิต
คือ เลือกคนที่จะเรียนรู้ด้วยและ
เลือกเฉพาะเรื่องที่ตนสนใจคืออยากรู้เท่านั้น

คือ ปฏิเสธการเรียนรู้ทันทีเมื่อพบว่า
เป็นความรู้ที่ต่างจากความเชื่อที่ตนเชื่ออยู่
เพราะยึดติดในครูและความรู้นั้น
เช่นบางคนที่เพิ่งเข้ามาอ่านพระโอวาท
แค่บรรทัดสองบรรทัด
แล้วแสดงคุณสมบัติจริตออกมาให้เห็น
ว่าบกพร่องด้านการไม่ฉลาดเรียนรู้

ด้วยการกล่าวแย้งพระโอวาท
เพื่ออวดฉลาดอวดรู้
โดยไม่รู้ว่าตนนั่นล่ะที่งมงายอยู่ต่างหาก
โดยไม่รู้ว่าตนนั่นล่ะฟังไม่ได้ศัพท์
แล้วจับมากระเดียด
เพราะเกลียดกลัวที่จะเปลี่ยนแปลง

เช่น แย้งว่าต้องทำสมาธิให้แข็งแรงก่อน
จึงจะเข้าถึง "มหาสติ" ได้
ทั้งๆที่สภาวะมหาสติในมรรควิถีจิตจักรวาลนี้
มันคนละเรื่องกับ "มหาสติปัฏฐาน 4"
ที่ตนเองรู้อยู่ ยึดติดอยู่อย่างสิ้นเชิง
เราจึงไม่มีคำกล่าวใดจะชี้แนะให้ท่านนี้
กับการเรียนรู้ที่ไม่ฉลาดเยี่ยงนี้
เพราะกล่าวไปก็ไม่รู้ความอยู่ดีนั่นแหละนะ

เราจึงขอฝากความจริงต่อท่านทั้งหลายว่า
เพราะ....พวกเขา

1.ไม่ปฏิเสธความรู้ใหม่
2.เต็มใจรับฟัง
3.ตั้งใจใช้ปัญญาคิดตาม
4.ฉลาดถามเมื่อไม่เข้าใจ
5.ไม่มีนิสสัยโต้แย้ง
6.พร้อมเปลี่ยนแปลงตนเองเสมอ

ปัญจวัคคีย์จึงบรรลุธรรมชั้นสูง
คือ ฉลาดจนทะลุแจ้งในสัจธรรม
จากปฐมเทศนาเรื่อง "ธรรมจักรฯ" ได้
อย่างน่าอัศจรรย์ยิ่ง

ถ้าฟังปุ้ป เถียงปั้ป
ถ้าเข้ามาอ่านปุ้ป แย้งปั้ป ประหนึ่งอวดรู้
แทนที่จะถามเราให้เข้าใจว่าทำไม ยังไง
ตนเองก็จะฉลาดแบบพอฉลาด
หรือฉลาดแบบพอโง่ๆอยู่ร่ำไป

นี่แหละ...พวกอัตตาสูง
จนหลุดพ้นไม่ได้มาทุกชาติล่ะนะ

เอเมน
ป.วิสุทธิปัญญา