27 ธันวาคม 2566

คัมภีร์อนุตรธรรมภาคจิตจักรวาล 27/12/2566

 #คัมภีร์อนุตรธรรมภาคจิตจักรวาล

(เพื่อยุวจิตจักรวาลยุคสุดท้าย)

 

พี่ๆน้อง ๆที่รักแห่งเราทั้งหลาย

เราจะกล่าวความจริงต่อท่านทั้งหลายว่า

 

สำหรับมนุษย์โลกซึ่งโลกเป็นดาวแห่งทางเลือกเสรีนี้

มีหน้าที่จะต้องคนสองมิติให้เข้ากันเป็นหนึ่งเดียวให้ได้

ด้วยวิธีการ #หมุนธรรมจักรในตนเอง ให้เป็นผลสำเร็จ

โดยใช้ความรักเพื่อให้ที่เป็นความรักอันบริสุทธิ์สะอาด

ทำการสั่นสะเทือนจิตหยาบเป็นกระบวนการ 5 ขั้นตอน

ที่พระศาสดาทรงเรียกว่า “ขันธ์ 5” อันประกอบด้วย

รูป เวทนา สัญญา สังขาร และวิญญาณขันธ์ตามลำดับ

 

โดยจิตหยาบหรือจิตปัจจุบันของคุณจะต้องสั่นสะเทือน

เพื่อการทำงานร่วมกันกับกลไกอายตนะภายนอกทั้งห้า

ทันทีที่จิตมีการ #รับรู้ ข้อมูลการสัมผัสสิ่งเร้าภายนอก

ที่เป็นรูปรสกลิ่นเสียงเย็นร้อนอ่อนแข็งเพื่อ #การเรียนรู้

ให้รู้ว่าที่ตนสัมผัสรู้ดูเห็นอยู่นั้นมันคืออะไรอย่างไรทำไม

เพื่อทำความไม่รู้แต่เดิมนั้นให้ได้รู้กระจ่างสว่างกมล

 

แน่นอนว่า

ถ้าต้องการเรียนรู้โลกหรือทุกสิ่งในมิติทางกายภาพนั้น

ความสามารถในการเป็นคนช่างสังเกตด้วยอายตนะทั้ง 5

กับความสามารถในการใช้ #จิตตปัญญา ทั้งสองเรื่องนี้

พวกคุณจักต้องฝึกทักษะในการใช้งานกันให้ชำนาญด้วย

 

ตัวอย่างเช่น

ต้องฝึกตาให้ไวต่อสิ่งที่เป็นพิรุธ

ต้องฝึกหูให้ไวต่อสิ่งที่ได้ยิน

ต้องฝึกทักษะในการควบคุมจิตให้เข้าถึงความว่าง

ต้องฝึกทักษะในการกำหนดนึกเพื่อให้สมองคิด

ต้องฝึกทักษะในการรับรู้เพื่อการคิดรู้

ต้องฝึกทักษะในการคิดรู้อย่างมีหลักการและเหตุผล

 

ถ้าคุณสามารถเข้าถึงคุณสมบัติทั้ง 6 ที่ว่านี้ได้

จึงจะถูกเรียกว่าเป็น #อัจฉริยะบุคคล ได้อย่างเต็มคำ

เพราะคุณจะเป็นพหูสูตเป็นปราชญ์เมธีหรือบัณฑิต

ซึ่งมากด้วยภูมิรู้และภูมิปัญญาอย่างเต็มล้นกับเขาได้

โดยจะไม่รู้สึกว่าตนเสียชาติเกิดแต่อย่างใดทั้งสิ้น

 

ยิ่งถ้าคุณเป็น “อัจฉริยะบุคคล” ได้แล้ว

ยังสามารถนำเอาภูมิรู้กับภูมิปัญญาของตนที่มีอยู่

ไปปรับใช้ในชีวิตประจำวันเพื่องานและเพื่อสังคมได้

คุณก็จะมี #ภูมิทำ เป็นคุณสมบัติที่เพิ่มขึ้นมาได้ด้วย

มันยิ่งจะทำให้คุณเป็นผู้มีพลังอำนาจในมิติโลกสูงสุด

คือมีภูมิรู้ภูมิปัญญาและภูมิทำที่จะทำให้มั่งคั่งมั่นคง

ตราบชั่วชีวิตนี้กันเลยทีเดียว

 

ภารกิจของจิตหยาบหรือจิตปัจจุบันของคุณ

ซึ่งรับบทบาทหน้าที่เป็นคนสองมิติแทนจิตวิญญาณ

มิได้มีแค่การพัฒนาจิตตปัญญาให้เป็นอัจฉริยะเท่านั้น

พวกคุณยังต้องยกระดับสู่การเป็น #อริยะบุคคล ด้วย

โดยคุณสมบัติของอริยะบุคคลนั้นจะต้องประกอบด้วย

ทั้ง 4 ภูมิดังต่อไปนี้ คือ

1.มีภูมิรู้ที่ได้จาก การเป็นคนชอบเรียนรู้

2.มีภูมิปัญญาที่ได้จาก การเป็นคนชอบคิดช่างคิด

3.มีภูมิทำที่ได้จาก การเป็นคนชอบปฏิบัติชอบทำ

4.มีภูมิธรรมที่ได้จาก การเป็นคนชอบปฏิบัติธรรม

 

ถ้าคุณต้องการสร้างคุณสมบัติของคนชอบธรรม

คุณก็จะต้องเพิ่ม “ภูมิธรรม” ในตนเองให้ได้ด้วย

โดยการเพิ่มภูมิธรรมนี้จะทำได้ด้วย 3 วิธีคือ

 

1.#ด้วยการอ่านพระคัมภีร์หรือพระไตรปิฎก

ที่มีผู้หยิบยกเอาพระวจนธรรมคำสอนของศาสดา

มาจดจารบันทึกไว้เป็นหลักธรรมคำสอนสืบเนื่องมา

ซึ่งผู้อ่านจักต้องรอบครอบระมัดระวังในการอ่านด้วย

เพราะพระศาสดามิได้ทรงบันทึกคำสอนนั้นด้วยตนเอง

จึงมีความผิดพลาดคลาดเคลื่อนหรือบิดเบือนแฝงอยู่

คุณจึงต้องอ่านแล้วคิดตามให้เข้าใจควบคู่กันไปด้วย

 

จงอย่าเชื่อตามทันทีที่ได้อ่านเพราะว่าคุณรู้สึกชอบ

จงอย่าปฏิเสธทันทีที่ได้อ่านเพราะคุณรู้สึกว่าไม่ชอบ

โดยที่คุณยังไม่เข้าใจในคำสอนนั้นๆเลยว่าคืออะไร

โดยที่คุณยังไม่เข้าใจในคำสอนนั้นๆเลยว่าคืออย่างไร

ซึ่งเป็นลักษณะของคนโง่ง่ายจนงมงายทั้งสิ้น

 

จงอย่าเชื่อในทันทีที่คุณได้อ่าน

เพราะเห็นว่าคนส่วนใหญ่เขาเชื่อกันมาแต่โบราณแล้ว

ตนจึงตัดสินใจแห่ตามหรือเชื่อตามคนโบราณไป

โดยมิได้ใช้สติปัญญาพิจารณาก่อนตัดสินใจเชื่อตาม

จงอย่าปฏิเสธในทันทีที่คุณได้อ่าน

เพราะเห็นว่ามีหลายคนที่ไม่เชื่อเรื่องนั้นมานานแล้ว

ตนจึงตัดสินใจแห่ตามหรือไม่เชื่อตามคนพวกนั้นไป

โดยมิได้ใช้สติปัญญาก่อนตัดสินใจว่าไม่เชื่อตาม

คนประเภทดังกล่าวนี้เป็นคนที่เรียกว่า

#เห็นช้างขี้แล้วขี้ตามช้าง นั่นเอง

 

2.#ด้วยการฟังเทศน์ฟังธรรมจากท่านผู้รู้จริง

เนื่องจาก “ผู้รู้จริง” ในสัจธรรมทั้งหลายนั้นหายากมาก

เพราะต้องเป็นทั้งนักบวชนักเรียนและนักปฏิบัติแท้จริง

ซึ่งพวกคุณไม่อาจพิจารณาจากมายาภายนอกที่เห็นได้

นอกจากฉลาดฟังฉลาดรับรู้และฉลาดเรียนรู้กันเท่านั้น

เนื่องจาก “มายาภายนอก” สามารถหลอกลวงกันได้

แต่สาระธรรมที่เขาบอกไม่สามารถจะหลอกคนฉลาดได้

ถ้าคุณใช้ปัญญาของสมองสองซีกซ้ายและขวาเป็น

 

3.#ด้วยวิธีฝึกทักษะการใช้สมองซีกขวาของตนเอง

โดยนำเอาสาระธรรมที่คุณฟังอยู่อ่านอยู่และเห็นอยู่

มา #สังเคราะห์ ด้วย #ปัญญาญาณของสมองซีกขวา

เพื่อทำความเข้าใจความจริงของสิ่งนั้นก่อนนำไปปฏิบัติ

ให้เห็นจริงและเห็นแจ้งในชีวิตจริงของตนต่อไป

 

ทั้งสามประการนี้คือการเพิ่มภูมิธรรมให้ตนเอง

บนเส้นทางแห่งการเป็น #อริยะบุคคล โดยแท้

โปรดติดตามตอนต่อไป

 

กราบพระบาทขอบพระทัยพระบิดาที่ทรงเมตตา

เอเมน สาธุ

#ปัญญาวิสุทธิ์

27/12/2566