16 ธันวาคม 2566

คัมภีร์อนุตรธรรมภาคจิตจักรวาล 16/12/2566

 #คัมภีร์อนุตรธรรมภาคจิตจักรวาล

(เพื่อยุวจิตจักรวาลยุคสุดท้าย)

 

พี่ๆน้อง ๆที่รักแห่งเราทั้งหลาย

เราจะกล่าวความจริงต่อท่านทั้งหลายว่า

 

มนุษย์ถูกคนนำทางตาบอดทำให้หลงเชื่อว่า

วิธีปฏิบัติธรรมจะต้องนั่งกรรมฐานสมาธิเป็นสำคัญ

ซึ่งเป็นปฏิบัติการทางเท็คนิกเพื่ออบรมบ่มจิตพิสัยตน

โดยอ้างว่าทำเพื่อให้เกิดพลังจิตและพลังปัญญา

จากการฝึกให้มีสติจนรู้เท่าทันสภาวะจิตของตนเอง

ช่วยให้กำจัดกิเลสมารที่แฝงอยู่ในจิตหยาบของตนได้

จนเชื่อต่อไปว่าจิตวิญญาณจะหลุดพ้นนิพพานได้ด้วย

 

เราใคร่จะขอถามพวกคุณว่า

มีนักกีฬาคนไหนบ้างที่เก่งได้เอาชนะในสนามแข่งได้

ด้วยการได้แต่นั่งดูกีฬาชนิดนั้นๆจากภาพในวิดีโอ

โดยไม่ได้ฝึกซ้อมในสนามจริงไม่ได้ปฏิบัติจริงมาก่อน

 

การนั่งสมาธินี่ก็เช่นกัน

พวกคุณถูกคนนำทางตาบอดสอนให้ปลีกวิเวก

แยกตนเองออกไปจากหมู่ผู้คนหรือหนีไปจากสังคม

เพื่อทำให้ไม่มีคนรอบข้างไม่มีแม้กระทั่งคนใกล้ตัว

ทำให้ตนเองมีโลกส่วนตัวครองสันโดษอยู่คนเดียว

 

การปิดหูปิดตาปิดวาจาและถือสันโดษเยี่ยงนี้นั้น

มันคือการปิดกั้นอายตนะภายนอกทั้งห้าเอาไว้

มิให้มีการ “สัมผัส” หรือมิให้เกิดผัสสะสิ่งเร้าภายนอก

ที่จะยังผลให้จิตหยาบสั่นสะเทือนจนเกิดการรับรู้ได้

เพราะพวกมารคือผีโสโครกต้องการหลอกมนุษย์ว่า

การแกล้งทำตนเป็นคนอายตนะพิการชั่วคราวดังกล่าว

มันสามารถ “จัดการกิเลส” ได้แบบเบ็ดเสร็จเด็ดขาด

ซึ่งทำให้จิตสงบจนเกิดสติเพราะว่างจากกิเลสนั่นเอง

 

พอจิตหยาบสงบและว่างไปจากกิเลสได้

ต่อมพิทูอิทารีใต้สมองก็จะทำการหลั่งฮอร์โมนออกมา

ฮอร์โมนนี้เมื่อหลั่งออกมามันจะทำให้คุณรู้สึกมีความสุข

ซึ่งองค์จิตจักรวาลที่เป็นพระผู้สร้างทรงออกแบบเอาไว้

เพื่อเป็นการให้รางวัลแก่คนที่จิตสงบว่างจากกิเลสมารได้

ทั้งเป็นตัวชี้วัดสภาวะจิตในปัจจุบันขณะได้เป็นอย่างดีว่า

สภาวะจิตตนเป็นสุญตาคือว่างจากกิเลสได้ระดับหนึ่งแล้ว

โดยที่พวกคุณไม่จำเป็นต้องนั่งกดข่มจิตไว้แต่อย่างใด

สภาวะจิตที่ว่างจากกิเลสที่ว่านี้ต้องเป็นธรรมชาติเท่านั้น

จะใช้วิธีปฏิบัติการทางเท็คนิกกันแบบชั่วครั้งชั่วคราว

แล้วเรียกว่า #ธรรมชาติ ซึ่งถือเป็นการปฏิบัติธรรมไม่ได้

 

ดังนั้น

ใครผู้ใดที่สามารถเข้าถึงสภาวะจิตที่ว่างจากกิเลสมารได้

คนผู้นั้นจะเป็นคนที่มีจิตใจอิ่มเอิบเบิกบานสงบเย็นเป็นสุข

เพราะมนุษย์ทุกคนมีจิตเป็นนายกายเป็นบ่าวเหมือนกัน

จึงยังผลให้คนผู้นั้นมีสุขภาวะที่ดีทั้งจิตและกายตามไปด้วย

ผลลัพธ์ก็คือจะทำให้คุณคนนั้นมีอายุขัยยืนยาวไม่แก่ชรา

จะเป็นผู้ที่จิตวิญญาณเป็นอมตะตามที่พระเจ้ากำหนดได้

เพราะมีฮอร์โมนแห่งความสุขหล่อเลี้ยงกายสังขารเอาไว้

อีกทั้งยังอยู่เหนือกฎแห่งกรรมได้อย่างสิ้นเชิงด้วย

 

เราจึงกล่าวต่อพี่ๆน้องๆทั้งหลายตลอดมาว่า

ปฏิบัติการทางเท็คนิกสมาธิของนักพรตนักบวชนั้น

ไม่เหมาะสมกับแนวทางของฆราวาสหรือชาวบ้านเลย

 

เนื่องจากนักบวชสามารถปลีกวิเวกปฏิบัติตนทางเท็คนิก

ตามแบบที่เรากล่าวมาข้างต้นนั้นได้อย่างเต็มที่เต็มเวลา

ขณะที่ชาวบ้านยังมีครอบครัวมีสังคมยังต้องทำมาหากิน

ต้องใช้กลไกอายตนะภายนอกอยู่จะทำเป็นพิการไม่ได้

จะเลียนแบบวิธีปฏิบัติของนักบวชย่อมไม่ได้ผลแน่นอน

เพราะยังมีลูกกวนตัวมีเมียหรือผัวยั่วยุเย้ายวนกวนใจอยู่

เมื่อมีปัญหาจะเที่ยว “ขอเวลานอก” เพื่อปลีกวิเวกไม่ได้

 

พระบิดาแห่งจิตวิญญาณคือองค์จิตจักรวาล

จึงทรงแนะนำพวกคุณถึงแนวทางปฏิบัติผ่านเรามาว่า

ให้พวกคุณใช้วิธีปฏิบัติธรรมในแบบ #ธรรมชาติสมาธิ

ขณะใช้ชีวิตประจำวันในแบบ “สัตว์สังคม” ไปตามปกติ

โดยไม่ต้องทิ้งลูกทิ้งเมียทิ้งครอบครัวหรือละทิ้งสังคม

อ้างว่าไปปฏิบัติธรรมแบบเห็นแก่ตัวกันอยู่ตามเถื่อนถ้ำ

โดยไม่ปฏิบัติธรรมที่เป็นธรรมชาติอันควรจะเป็น

เหมือนนักกีฬาที่ฝึกซ้อมให้ชำนาญการแต่ดันฝึกผิดวิธี

 

การฝึกฝนตนเองในชีวิตจริงนั้น

คนรอบข้างกับคนใกล้ตัวจะช่วยยื่นเงื่อนไขบททดสอบ

สภาวะจิตของคุณด้วยสถานการณ์จริงเรื่องจริงมาให้

แทนที่คุณจะได้แต่นั่งมองส่องดูจิตตนเองอยู่ตามลำพัง

ซึ่งอาการของจิตที่คุณพบว่ามันบกพร่องหรือไม่ดีนั้น

มันผุดโผล่ขึ้นมาจากสันดานที่บันทึกไว้ในสัญญาขันธ์

มิใช่อาการของจิตที่เป็นปัจจุบันขณะเมื่อถูกยั่วยุจริงเลย

 

ดังนั้น

การพยายามปฏิบัติกรรมฐานสมาธิเพื่อดัดจริตของคุณ

ด้วยวิธีกดข่มสันดานนั้นๆในสัญญาขันธ์เอาไว้ชั่วคราว

สำหรับนักบวชก็ดูเหมือนว่าจะได้ผลมากกว่าชาวบ้าน

เพราะวันๆท่านทั้งหลายนั่งกรรมฐานเป็นอาชีพอยู่แล้ว

แต่ชาวบ้านต่อให้ฝึกฝนกันมาแบบนักบวชแม้จะฝึกบ่อย

เมื่อต้องเผชิญกับการถูกยั่วยุเย้ายวนจากคนรอบข้าง

ก็จะเกิดอาการ #จิตตกสติแตก แหลกสลายไปทันที

เพราะเป็นนักกีฬาที่ไม่เคยลงฝึกในสนามจริงมาก่อนเลย

 

คุณเคยรู้เห็นกันมาบ้างหรือไม่ว่า

นักมวยระดับแช้มป์คนไหนที่สามารถเป็นแช้มป์ได้

โดยไม่เคยฝึกชกมวยอย่างหนักกับคู่ซ้อมจริงๆมาก่อน

ไม่เคยมีใช่หรือไม่ล่ะ?

 

คุณเคยรู้เห็นกันมาบ้างหรือไม่ว่า

นักกีฬาไม่ว่าประเภทใดก็ตามจะประสบความสำเร็จได้

โดยไม่ต้องฝึกซ้อมหนักในสนามจริงก่อนลงสนามแข่ง

ไม่เคยมีใช่หรือไม่ล่ะ?

 

คุณเคยรู้เห็นกันมาบ้างหรือไม่ว่า

ลูกคุณหรือลูกคนข้างบ้านที่สามารถพูดจาได้คล่อง

โดยไม่ต้องหัดพูดกับพี่เลี้ยงพ่อแม่แบบอ้อๆแอ้ๆมาก่อน

ไม่เคยมีใช่หรือไม่ล่ะ?

 

คุณเคยรู้เห็นกันมาบ้างหรือไม่ว่า

มีเด็กคนไหนที่สามารถอ่านออกเขียนได้คล่อง

โดยไม่ต้องฝึกอ่านออกเสียงและฝึกเขียนกันมาก่อน

ไม่เคยมีใช่หรือไม่ล่ะ?

 

เราจึงกล่าวต่อท่านทั้งหลายว่า

วิธีปฏิบัติเท็คนิกสมาธิด้วยการปลีกวิเวกนั่งกรรมฐาน

โดยละทิ้งสังคมหลบไปปฏิบัติทำกันอยู่ตามลำพังนั้น

คุณจะไม่มีใครเป็นครูผู้ช่วยยื่นเงื่อนไขบททดสอบให้

คุณจึงจะขาดทักษะขาดความชำนาญในการใช้ขันธ์ห้า

จะได้ #รับรู้เพื่อเรียนรู้ว่าอะไรเป็นอะไร เพียงเท่านั้น

แต่จิตปัจจุบันมันจะ #รับรู้แล้วรับเอา มาปรุงแต่งเสมอ

เพราะพวกมารหลอกให้พวกคุณเสพติดกิเลสมาตลอด

ที่คุณขาดทักษะเพราะมัวแต่นั่งส่องจิตด้วยการกดข่ม

พอถูกยั่วยุเมื่อไหร่ก็จะเกิดการ #จิตตกสติแตก เมื่อนั้น

นี่จึงเป็นปัญหาใหญ่ของมนุษย์โลกโดยแท้

 

พระบิดาหรือพระเจ้าทรงบัญชาให้เราบอกพวกคุณว่า

พระพุทธองค์มิได้ทรงแนะเน้นให้นักบวชที่เป็นสาวก

ปฏิบัติธรรมด้วยการนั่งกรรมฐานสมาธิเป็นอาชีพนะ

จะทรงประทับบนบัลลังก์สมาธิเฉพาะตอนที่ทรงฝึกจิต

ด้วยวิธี #สมถะกรรมฐาน เพื่อสร้างพลังฌานของจิต

แล้วทรงปฏิบัติต่อยอดด้วยวิธี #วิปัสสนากรรมฐาน

เพื่อยกระดับความฉลาดทางปัญญาของสมองสองซีก

ด้วยพลังฌานที่ทรงเข้าถึงได้แล้วนั้นเท่านั้น

 

นี่จึงเป็นที่มาของ #กรรมฐานสมาธิ ที่แท้จริง

โดยว่างเมื่อไหร่ก็จะทรงปฏิบัติ “สมถะกรรมฐาน”

เพื่อเข้าให้ถึงฌานที่สูงขึ้นเรื่อย ๆเข้าไว้

เพราะทรงทราบว่า “ฌานสูง” จะทำให้ “ญาณสูง”

ยิ่งควบคุมจิตให้สงบว่างไปจากกิเลสได้มากเท่าไหร่

ยิ่งกำหนดให้จิตนึกคิดทีละเรื่องได้เมื่อไหร่

จะทรงมีพลังอำนาจจิตคือ “ฌาน” สูงมากขึ้นเท่านั้น

ทำให้ทรงใช้สมองทั้งสองซีกได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ

 

สำหรับชาวบ้านที่เป็นฆราวาส

พระองค์ทรงแนะเน้นให้ปฏิบัติ #ธรรมชาติสมาธิ แทน

พวกคุณสามารถปฏิบัติทำกันได้อย่างไม่ยากเย็น

โดยไม่ต้องหลบเข้าห้องนอนหรือห้องพระชั่วขณะ

ไม่ต้องทิ้งครอบครัวไปอยู่ป่าอยู่วัดซึ่งมิใช่งานถนัดคุณ

แถมยังสามารถช่วยให้ลูกผัวตัวเมียของคุณและทุกคน

ไปสวรรค์นิรันดรคือกลับบ้านแดนสุญตากับคุณได้ด้วย

เพราะช่วยกันหมุนธรรมจักรยกระดับจิตหยาบให้สูงขึ้น

จนเป็นหนึ่งเดียวกันกับจิตวิญญาณของแต่ละคนได้

โดยเข้าถึงจิตหยาบที่สมดุล 100% คือถึงมิติที่ 6D ได้

ด้วยสมการพลังงานรวมของจิตสามนึกด้านบวก คือ ∑βx

โดยตัว “เอ็กซ์” ที่เป็นตัวแปรมีค่าตั้งแต่ 3 คนขึ้นไป

 

ขณะที่คุณหนีเข้าป่าเข้าถ้ำปฏิบัติธรรมอยู่คนเดียวนั้น

เอ็กซ์ในสมการทางช้างเผือกนี้แทนค่าด้วยหนึ่งเท่านั้น

แปลว่าการปลีกวิเวกเพื่อปฏิบัติทำอยู่คนเดียว

ยังผลให้การหมุนธรรมจักรร่วมกันมันเกิดขึ้นไม่ได้เลย

การรู้ธรรมะท่วมหัวแต่เอาตัวไม่รอดของพวกคุณในอดีต

จึงมีปรากฏเกิดขึ้นมากมายที่บวชนานแต่นิพพานไม่ได้

โดย “นิพพาน” ที่ว่านี้อย่างแรกหมายถึง #นิพพานกิเลส

อย่างที่สอง “นิพพานหมายถึงหลุดพ้น” คือกลับบ้านได้

 

เนื่องจากจิตวิญญาณพวกคุณจะกลับบ้านได้

ด้วยการหลุดพ้นออกไปจากเอกภพหรืออนันตจักรวาล

ที่เป็นห้องทดลองขนาดใหญ่ของพระเจ้านั้น

จิตหยาบพวกคุณแต่ละคนจะต้องเข้าถึงมิติที่ 6D ให้ได้

เพื่อช่วยนำพาจิตวิญญาณแก่นแท้ของตัวคุณเอง

หนีแรงดึงดูดเหนี่ยวรั้งของโลกและเอกภพระบบใหญ่

ออกไปภายนอกที่เป็นแดนสุญตาได้ในสภาวะหลุดพ้น

โดยแดนสุญตาก็คือบ้านเกิดของจิตวิญญาณพวกคุณ

ซึ่งเป็นพระนิเวศน์หรือเป็นที่ประทับของพระเจ้า

 

พวกคุณจึงต้องฝึกปฏิบัติธรรมชาติสมาธิกันให้ชำนาญ

พระองค์ทรงเรียกว่า #มหาสติ เพื่อการรู้ตัวทั่วพร้อม

ไม่ต้องกดข่มบังคับจิตและไม่ต้องทิ้งสังคมถือสันโดษ

อยู่กับคนในครอบครัวที่บ้านหรือคบกับคนข้างบ้านก็ได้

โดยไม่ต้องเสแสร้งแกล้งทำเป็นผู้ที่มีอายตนะมืดบอด

คุณก็สามารถเปิดอายตนะและมีจิตตั้งรับได้ทุกช่องทาง

 

มหาสติ” ก็คือ รู้สติ มีสติ และ ใช้สติ

ขณะใช้ชีวิตอยู่คนเดียวตามลำพังก็ได้

ขณะอยู่กับคนรอบข้างที่เป็นคนอื่นๆก็ได้

มหาสติจะช่วยให้คุณเข้าถึงอำนาจของจิตคือ “ฌาน”

เข้าถึงพลังอำนาจทางปัญญาของสมองคือ “ญาณ”

โดยคุณจะเข้าถึงทั้งสองอย่างนี้ได้โดยไม่ต้องตาบอด

ไม่ต้องหนีสังคมไม่ต้องทิ้งครอบครัวให้ผิดบาปอีกเลย

เท่ากับว่าคุณได้ฝึกยกจิตตปัญญาได้ทั้งวันในยามตื่น

อันเป็นการ #พึ่งพาตนเอง ตามที่พระพุทธเจ้าสอนไว้

โดยไม่ถูกหลอกให้ทำอุตริหรือนอกรีตกันอีกต่อไป

 

กราบพระบาทขอบพระทัยพระบิดาที่ทรงเมตตา

เอเมน สาธุ

#ปัญญาวิสุทธิ์


16/12/2566