ตอบคำถาม:
คุณ Chance Tee
ขออนุญาติเรียนถามคำถาม
Question 1.
ผู้ที่ขันอาสามาเกิดกันเป็นกลุ่ม...
ร่วมวางแผนเขียนบทละครกันมา
แสดงเงื่อนไขซึ่งกันและกัน
ต้องรอกลับคืนนิพพานแดนสุญญตา
พร้อมกันทุกคนเหมือนตอนที่เข้ามา
หรือไม่ค่ะ
หรือในช่วงปิดยุคชำระโลก
แต่ละคนสามารถกลับแดนนิพพานได้เลย
มนุษย์ในยุคพลังงานเก่า
ที่รอดผ่านเข้าสู่ยุคพลังงานใหม่
ต้องมีการเขียนบทละครใหม่
ในการดำเนินชีวิตหรือไม่ค่ะ
Answer:
1. จิตวิญญาณที่ขันอาสา
มาเล่นละครร่วมกันในบทบาทของมนุษย์นั้น
ชะตาชีวิตที่ต่างออกแบบร่วมกันมา
เป็นเพียงเครื่องมือที่จะช่วยให้กันและกัน
ประสบความสำเร็จในการเป็นมนุษย์เท่านั้น
มิได้มีพันธะผูกพันใดอื่น
ที่จะทำให้จิตวิญญาณของท่านทั้งหลาย
ต้องไร้อิสรภาพในการหลุดพ้นกลับบ้าน
ดังนั้น
บทละคร
หรือ #ชะตาชีวิต
จึงเป็นเครื่องมือปฏิบัติการทางจิตวิญญาณ
มิใช่เครื่องยึดเหนี่ยวเกี่ยวรั้งพวกท่านไว้
หากผู้ใดเข้าคุณสมบัติเป็นผู้
"หลุดพ้น" ได้
ท่านผู้นั้นก็สามารถข้ามผ่านประตูมิติ
ออกไปทางด่านนภาลัย
ที่จิตวิญญาณผ่านเข้ามาตั้งแต่ชาติแรกได้เลย
2. ที่ต้องรอคอยอยู่ตรงด่านนภาลัยก่อน
แม้ว่าจิตวิญญาณของท่านผู้นั้น
จะเข้าคุณสมบัติแห่งการ
"หลุดพ้น" ได้แล้ว
ก็เฉพาะกรณีที่รูปธรรมนั้นๆ
ได้รับการแบ่งภาคเป็นจิตวิญญาณลงมาจุติ
จากตัวตนภาคแรกที่สูงส่งรูปธรรมเดียวกัน
หรือมาจาก
"พระบุตร" ในแดนสุญตา
พระองค์เดียวกันเท่านั้น
รูปธรรมของตัวตนภาคแรกของมนุษย์
หรือ #จิตจักรวาลดวงเล็ก
จะมี
11 เหลี่ยมมุม
ซึ่งองค์เยซูคริสต์เจ้าทรงเรียกว่า
#พระบุตร นี้
จะแบ่งภาคออกมาเป็น
#พระจิต
ซึ่งท่านทั้งหลายรู้จักกันในนาม
#จิตวิญญาณ นั้น
พระบิดาทรงอนุญาตให้
แบ่งภาคลงมาได้เป็นจำนวนถึง
35 รูปธรรม
เพื่อให้เข้ามาฉุดช่วยจิตวิญญาณที่ลงมาก่อนหน้า
แล้วพลาดท่าตกนรก
ติดสวรรค์มายา หรือติดโลก
จนแทบหมดอนาคตที่จะหลุดพ้นกลับบ้าน
ถ้าพวกท่านที่ลงมาจากการเป็นหนึ่งเดียวกัน
ไม่ว่าจะมีจำนวนสักกี่รูปธรรมก็ตาม
หากจะหลุดพ้นกลับบ้านแดนสุญตาได้
ทุกรูปธรรมจักต้องหลุดพ้นกลับไปพร้อมกันด้วย
ถ้าหากรูปธรรมใดเข้าคุณสมบัติก่อน
รูปธรรมนั้นก็จะต้องไปรอคอยพี่น้องของตน
อยู่ตรงด่านนภาลัยนั่นแหละนะ
โดยต้องรอจนกว่าจะครบทุกรูปธรรมแล้วเท่านั้น
พวกท่านจึงจะได้รับอนุญาตให้กลับออกไป
ในสภาวะ
"หลุดพ้น" ได้อย่างพร้อมหน้า
3. มนุษย์ในยุคพลังงานเก่า
ที่รอดผ่านเข้าสู่ยุคพลังงานใหม่ได้
ไม่ต้องมีการเขียนบทละครใหม่อะไรอีกแล้ว
เพียงแต่ใช้ชีวิตประจำวันไปตามปกติ
ก็สามารถเป็นเพื่อนร่วมงานกับโลกได้
เพราะสภาวะจิตของทุกคนที่รอด
เข้าถึงสภาวะ
"สุญตา" กันหมดแล้ว
มนุษย์ที่รอดตายในวันสิ้นยุคนี้
จะสามารถดำเนินชีวิตประจำวัน
ไปตามปกติได้
โดยไม่ก่อกรรมใหม่
ขณะแก้ไขกรรมเก่าจากอดีตชาติจนหมดสิ้น
ตั้งแต่ก่อนวันสิ้นยุคพลังงานเก่า
ในช่วง 56 วัน 8 ราตรีแล้วล่ะท่าน
Question 2
หากใครที่เป็นผู้รอด(
แต่เสียสละให้ผู้อื่น )
ผู้ที่เสียสละจะได้รับโอกาส
กลับแดนสุญญตาหรือไม่ค่ะ
#ผู้ที่ถูกคัดทิ้ง
ถูกนำไปถ่วงที่แกนโลก ...
จะต้องอยู่ที่จุดนั้นนานแค่ไหนค่ะ
Answer:
1. คนที่จะเสียสละให้ผู้อื่นอยู่ต่อได้
โดยที่ตนยอมสละชีพไปกับภัยพิบัตินั้น
คนที่จะทำแบบนี้ได้
ต้องมีคุณสมบัติเป็นผู้หลุดพ้นแล้วเท่านั้น
2. ถ้าความจริงเป็นเช่นนี้แล้ว
ผู้สละชีวิตคือคนที่ยอมตาย
เพื่อให้คนอื่นรอดและอยู่ต่อไปได้นั้น
พระองค์จะมิทรงอนุญาตให้เขาคนนั้น
คืนกลับสู่บ้านเกิดแดนสุญตาได้อย่างไรกัน
3. ผู้ที่ถูกส่งลงไปถ่วงยังแกนโลก
คือจิตวิญญาณของพวกที่หาคุณค่าอะไรไม่ได้
เพราะเป็นจิตวิญญาณที่มีรูพรุนหมดแล้ว
จนยากที่จะแก้ไขเยียวยาให้สมดุลได้อีก
จิตวิญญาณพวกนี้
ต้องรับผลกรรมชั่วๆที่จิตหยาบตนเองก่อไว้
ซ้ำแล้วซ้ำอีกติดต่อกันหลายภพชาติ
ส่วนใหญ่จะเป็นการทำร้ายตนเองมากกว่า
เช่น
กระทำทุศีล อกตัญญู เนรคุณผู้มีพระคุณ
รักไม่เป็น
โทสะจริตรุนแรง เล่นคุณไสยมนต์ดำ
ก้าวล่วงผู้สมดุลทางจิตวิญญาณ
และเจาะจิตใต้สำนึกเอาพลังออกมาใช้
สนองกิเลสตัณหาของตน
เป็นต้น
เอเมน
สาธุ
ป.วิสุทธิปัญญา
25-10-2019
