21 ตุลาคม 2562

สนทนาประสาจิตจักรวาล 21/10/2019

 #สนทนาประสาจิตจักรวาล

 

น้อมกราบพระบาทพระบิดาแห่งจิตวิญญาณ

พระผู้เป็นเจ้าเหนือสิ่งทั้งปวงที่ทรงสร้าง

พระผู้มีพระบัญชาให้ลูกกลับมาทำหน้าที่

สาดส่องแสงสว่างให้ #คนนำทางตาบอด

ไม่พาคนอื่นๆหลงทางกลับบ้านอีกต่อไป

 

ทรงอนุญาตให้ลูกกลับมาทำหน้าที่

สร้างสติทางวิญญาณให้คนนำทางตาบอด

และประดาผู้หลับหูหลับตาก้าวตามกันอยู่

มิให้พากันหลุดลอยไปค้างอยู่บนสวรรค์มายา

โดยละทิ้งภารกิจทางจิตวิญญาณบนโลกนี้ไป

 

เพราะกลัวความทุกข์จึงพยายามจะหนีทุกข์

แล้วปฏิเสธการมาเกิดเป็นมนุษย์จนสุดโต่ง

จนกระทั่งหลงผิดคิดไปว่าถ้าดับสังสารวัฏได้

แสดงว่าตนนั้นเข้าถึง #นิพพาน กันได้แล้ว

โดยไม่ใส่ใจว่าจิตวิญญาณตนจะไปอยู่ที่ไหน

ไม่ใส่ใจว่าจิตวิญญาณตนนั้นมาจากไหน

ไม่ใส่ใจว่าจิตวิญญาณมาเกิดเป็นมนุษย์ทำไม

 

เพราะเกลียดกลัวความทุกข์กันจนขึ้นสมอง

จึงเห็นความทุกข์เป็นเรื่องใหญ่มาก

ทั้งๆที่ทุกข์หรือสุขและไม่ทุกข์ไม่สุขมันอยู่ที่ใจ

ทั้งๆที่ความทุกข์นั้นพระศาสดามีสูตรสำเร็จ

ที่จะจัดการความทุกข์และช่วยป้องทุกข์ไว้แล้ว

ด้วยอริยสัจสามประการกับมรรคมีองค์แปด

ซึ่งตนเองก็เพียรท่องเพียรสวดกันทุกวันอยู่แล้ว

 

หากมีมหาสติสักนิดก็น่าจะฉุกคิดกันได้เองว่า

การมาเกิดเป็นมนุษย์นั้นแท้ที่จริงแล้ว

มันมิใช่สาเหตุแห่งทุกข์แต่อย่างใด

ความโง่ความไม่ฉลาดในการใช้ปัญญา

เมื่อได้เผชิญกับปัญหาใดๆในชีวิตต่างหาก

คือที่มาแห่งความทุกข์ทั้งปวง

 

ตัวอย่างเช่น

 

1. เมื่อเจอปัญหาแต่ไม่รู้ว่าปัญหานั้นคืออะไร

2. เมื่อเจอปัญหาไม่รู้ว่าจะแก้ปัญหานั้นอย่างไร

3. เมื่อเจอปัญหาก็พยายามที่จะหลีกหนีปัญหา

4. เมื่อเจอปัญหาก็จะเกลียดจะกลัวปัญหา

5. เมื่อเจอปัญหาก็พาให้วิตกจริตว่าจะแก้ไม่ได้

จึงเกิดอาการตีตนไปก่อนไข้ เป็นต้น

 

สถานการณ์เหล่านี้เป็นประสบการณ์ชีวิต

ที่มนุษย์บุตรรักของพระองค์ผู้ด้อยปัญญา

มักจะพากันมองข้ามกันไปหมด

จึงไม่เคยคิดรู้ได้ว่าความทุกข์ในชีวิตตนนั้น

ส่วนใหญ่สาเหตุหลักๆก็มาจากประเด็นเหล่านี้

 

ดังนั้น

เมื่อคนนำทางตาบอด

ทุ่มความสำคัญไปให้กับ "ความทุกข์"

ในการมาเกิดเป็นมนุษย์

ความทุกข์อันเกิดจากการต้องมีสังสารวัฏ

อันหมายถึงการเวียนว่ายเกิดแก่เจ็บตาย

จึงทำให้พวกเขาทั้งหลาย

มิได้เห็นคุณค่าขององค์อนุตรธรรม

ที่ตรัสรู้ได้ด้วยอนุตรสัมมาสัมโพธิญาณ

นั่นคือ "ธรรมจักรกัปปวัตนสูตร"

ที่พระศาสดาตรัสรู้ไว้หมดแล้วแต่อย่างใด

 

พวกเขาจึงไม่เคยมีใครได้บอกกล่าว

ต่อผู้หลับหูหลับตาก้าวตามให้รู้ว่า

 

จิตวิญญาณทุกคนมีหน้าที่เกิดเป็นมนุษย์

เพื่อช่วยกันใช้ความรักบริสุทธิ์ที่มีต่อกัน

ในรูปของคลื่นความถี่ทางไฟฟ้าแม่เหล็ก

มอบให้โลกนำไปใช้จุดระเบิดที่แกนโลก

เพื่อทำให้แกนแม่เหล็กโลกบิดตัวแรงๆ

ในซีกโลกด้านที่เป็นภาคกลางวันเท่านั้น

โดยมนุษย์บนโลกจะผลัดกันทำหน้าที่

เพื่อช่วยให้โลกเหวี่ยงหมุนรอบตัวเองได้

อย่างต่อเนื่องสม่ำเสมอด้วยอัตราเร็วคงที่

 

ซึ่งพระบิดาก็ทรงเมตตาเปิดเผยความลับนี้

ต่อพระศาสดาที่สามารถยกระดับจิตตปัญญา

จนเข้าถึง "อนุตรสัมมาสัมโพธิญาณ" ได้ว่า

 

จิตวิญญาณแก่นแท้ผู้มาเกิดเป็นมนุษย์นั้น

มาเพื่อร่วมกัน "หมุนธรรมจักร" ด้วยความรัก

ขณะเป็นสัตว์สังคมโดยมิได้มาเที่ยวเฉยๆ

มันเป็น #หน้าที่ ที่มนุษย์ต้องรับผิดชอบร่วมกัน

จะสร้างทางเบี่ยงเลี่ยงไปเกิดบนสวรรค์มายา

โดยแปลงร่างเป็นเทพเทวดาหรืออินทร์พรหม

จนพากันหลุดลอยไปติดค้างอยู่บนนั้นไม่ได้

เพราะมันมิใช่หน้าที่ของท่าน

เนื่องจากสวรรค์มายาไม่ใช่ภพภูมิที่มีอยู่จริง

เพราะพระผู้เป็นเจ้ามิได้ทรงสร้างขึ้นไว้

จิตมนุษย์ผู้ทรงฤทธิ์แต่งมงายสร้างมันขึ้นมาเอง

 

กราบพระบาทพระบิดาทรงทราบ

 

ลูกเห็นควรแล้วว่าชอบแล้ว

ที่พระองค์จะให้มีการชำระสวรรค์มายาทิ้งไป

ในแผนปฏิบัติการชำระโลก ครั้งที่ 4 นี้

 

เพื่อปิดเส้นทางแห่งความโง่งมงาย

ของพี่ๆน้องๆทั้งหลายที่ยังสับสนตนเอง

จนไม่รู้ว่าตนเองเป็นใคร

ไม่รู้ว่าตนมีหน้าที่ต้องทำสิ่งใด

จนหลงตนเองว่ายิ่งใหญ่เหนือใครในจักรวาล

จนไม่รู้ว่าเหนือฟ้ายังมีฟ้า

เหนือพระศาสดา

ยังมีพระบิดาแห่งจิตวิญญาณอยู่อีกด้วย

 

บัดนี้

 

ลูกได้สาดส่องแสงสว่างจากพระบิดา

ไปยังคนนำทางตาบอดทั้งหลายแล้ว

 

ทั้งคนที่หลับตาก้าวตามกันอยู่นานนับพันปี

ทั้งคนที่ยังคงดำรงชีพอยู่จนทั่วแผ่นดินโลก

จากทิศตะวันออกไปจนจรดทิศตะวันตก

ให้พวกเขาได้เกิดแสงสว่างทางจิตตปัญญา

จนสำนึกรู้ได้ในความผิดพลาดของตนเอง

ที่มีต่อสัจธรรมคำสอนของพระศาสดา

ติดต่อกันมายาวนานนับพันปีโลก

จนบวชกันมานานแต่ก็นิพพานแท้จริงไม่ได้

 

โดยคนนำทางตาบอดยังไม่รู้ด้วยว่า

ตนไม่ต้องพยายามที่จะดับการเกิดดับ

ในการมีสังสารวัฏของจิตวิญญาณก็ได้

 

เมื่อทำหน้าที่ทางจิตวิญญาณได้ผลสำเร็จ

โดยปฏิบัติตามพันธะสัญญาทั้ง 6 ข้อ

ที่ได้ให้สัจจะต่อพระบิดาก่อนมาจุติบนโลก

และสอบผ่านทุกบททดสอบจิตสามนึก

ที่คนรอบข้างช่วยกันหยิบยื่นมาให้ได้

พวกเขาทุกคนก็จะสามารถนำพาจิตวิญญาณ

หลุดพ้นออกไปจากอนันตจักรวาล

ผ่านประตูมิติบานใหญ่ที่เรียกว่า "ด่านนภาลัย"

ในสภาวะแห่ง "นิพพานแท้" ได้ทันทีที่ต้องการ

โดยไม่ต้องตั้งความปรารถนาว่าอยาก

จนยังผลให้จิตขาดความบริสุทธิ์เสียด้วยซ้ำ

 

กราบพระบาทพระบิดาทรงทราบ

 

เนื่องเพราะลูกแกะส่วนใหญ่ของพระองค์

ในปลายยุคพลังงานเก่านี้

เป็นแกะสตรีเพศมากกว่าแกะผู้บุรุษเพศ

การกลับมาทำหน้าที่ "แกะแซะแงะ" พวกเขา

จึงเป็นภารกิจที่แสนยากเข็ญยิ่งนัก

 

พวกเขามีอัตตาสูงจึงหลงตัวเองโดยไม่รู้ตัว

พวกเขาหลงยึดติดในศาสดาองค์เดียว

ว่ายิ่งใหญ่สูงสุดเหนือใครในจักรวาล

 

พวกเขาหลงยึดติดในคัมภีร์เล่มเดียว

ด้วยเชื่อว่าคัมภีร์นั้นบันทึกสัจธรรมทุกสิ่ง

เอาไว้อย่างถูกต้องและครบถ้วนหมดแล้ว

 

พวกเขาหลงตัวเองว่า

ได้ศึกษามามากท่องจำร่ำเรียนมามาก

ได้ฝึกจิตตนเองมาก็มาก

จนสำแดงอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์หลายอย่างได้

แต่ไม่ปรากฏว่ามีปัญญาปาฏิหาริย์เลย

 

พวกเขาจึงเป็นคนนำทางตาบอด

และคนถูกหลอกให้ตาบอดก้าวตาม

เป็นผู้มีมิจฉาทิฐิซึ่งมากด้วยอุปาทานผิดๆ

จนใช้หลักคิดแบบอิทัปปัจยตาไม่ได้

 

พวกเขาอาศัยความเชื่อและความชอบ

ที่เป็นความรู้สึกในการยอมรับและเรียนรู้

โดยมิได้ใช้ "ความคิด" พิจารณา

ในสิ่งที่ลูกได้ช่วยเปิดมิติการใช้ปัญญาให้

เพียงแค่พวกเขา "รับฟังแล้วคิดตาม" เท่านั้น

 

แต่พวกเขาส่วนใหญ่มักจะพากันปฏิเสธ

เพราะขาดคุณสมบัติที่ลูกกล่าวมานี้

และที่สำคัญคือพี่ๆน้องๆที่เป็นสตรีเพศ

มีพื้นฐานด้านองค์ธรรมกับองค์ปัญญาน้อย

เพราะถูกสอนให้เป็นคนเลี้ยงลูกดูแลบ้าน

เพราะถูกสอนให้เชื่อกันว่า "นิพพาน" ไม่ได้

ต้องกลับมาเกิดเป็นเพศชายจึงจะบวชได้

ใครไม่ได้บวชก็จะนิพพานไม่ได้

จนยังผลให้ดินแดนสวรรค์มายา

จึงมักพบพานแต่เทพเทวดาที่เป็นชาย

มากกว่าจะได้เห็นนางฟ้าเทวดาสตรีเสียอีก

 

ลูกจึงขอกราบพระบาทพระบิดา

ถวายรายงานผ่านกลไกแห่งอักษรเหล่านี้

เพื่อสะท้อนการคิดด้วยจิตตปัญญา

และแสดงภารกิจทางจิตวิญญาณที่ได้กระทำ

ตามที่ลูกขันอาสาพระองค์กลับมา

เพื่อทำหน้าที่ให้ลุล่วงอีกสักครั้ง

 

โดยขอกราบกล่าว

ผ่านห้องเรียนศักดิ์สิทธิ์นามว่า "ป.วิสุทธิปัญญา" นี้

ขณะที่ในมิติคู่ขนานกำลังทวีการชำระโลก

ทั้งความรุนแรง ความถี่และขยายพื้นที่เกิดภัยพิบัติ

ควบคู่กันไปกับปฏิบัติการให้อิสรภาพทางวิญญาณ

แก่ประดาลูกแกะของพระองค์

ที่ลูกได้มุ่งมั่นกระทำมาอย่างต่อเนื่องทั้งคืนวัน

 

กราบพระบาทพระบิดาทรงทราบ

 

เอเมน สาธุ

ป.วิสุทธิปัญญา

21-10-2019