29 ตุลาคม 2562

ตอบคำถาม : ผู้ที่รอดตายได้จากผู้อื่น จะยังคงมีกรรมที่ต้องชดใช้หรือไม่ 29/10/2019

 ตอบคำถาม:

คุณ ‎Nui Diamond

กราบเรียนถามท่านอาจารย์ว่า

 

Question1.

หากใครที่มีคุณสมบัติเป็นผู้รอด

แต่เสียสละให้ผู้อื่นรอดตาย

ผู้ที่รอดตายได้จากผู้อื่น

จะยังคงมีกรรมที่ต้องชดใช้

หรือไม่ อย่างไรคะ

 

Answer:

1.ในกรณีผู้ที่สามารถรอดตายจากภัยพิบัติ

ในปฏิบัติการชำระโลก ครั้งที่ 4 นี้ได้

จากการที่มีผู้เสียสละชีวิตแทนตนนั้น

คงมีกรรมที่ตนต้องรับผิดชอบเองอยู่ดังเดิม

ตามหลัก "กรรมใครกรรมมัน"

 

2. ท่านทั้งหลายจักต้องรู้ว่า

จำนวนรูปธรรมที่ดำรงอยู่บนพื้นผิวโลก

กับน้ำหนักมวลทั้งหมดบนพื้นผิวโลก

และน้ำหนักมวลที่อยู่ภายในแกนโลก

 

ทั้งสามประการนี้จะเป็นค่าคงที่

ตามที่พระผู้สร้างคือองค์จิตจักรวาล

ได้ทรงกำหนดไว้เท่านั้น

จะเพิ่มขึ้นหรือว่าจะลดลง

จากที่ทรงกำหนดเอาไว้ไม่ได้

เพราะมันจะยังผลให้ดาวโลกเสียสมดุลทันที

 

กรณีของจำนวนรูปธรรมก็เช่นกัน

ถ้ามีคนหนึ่งตายไป

จักต้องมีผู้เกิดใหม่แทนหนึ่งคน

 

ในกรณีชำระโลกก็เช่นกัน

พระองค์จะกำหนดจำนวนคนที่รอด

หรือกำหนดจำนวนคนที่จะถูกคัดไว้แล้ว

ว่าจะมีผู้รอดเป็นจำนวนเท่าใด

 

ดังนั้น

ถ้าหนึ่งในจำนวนผู้ที่ถูกคัดไว้ให้เป็น "ผู้รอด"

ต้องการเสียสละชีวิตตนเอง

เพื่อหลุดพ้นกลับบ้านเกิดเมืองนอนเลย

โดยไม่พึงปรารถนาที่จะอยู่ต่ออีกแล้ว

พระองค์ก็จะทรงประทานอนุญาตให้ตามนั้น

 

คนอื่นๆที่เดิมอยู่ในข่าย

ต้องถูก "คัดทิ้ง" ในลำดับต้นๆ

ก็จะถูกยกระดับขึ้นมาแทน

เพื่อให้ได้รับสิทธิแห่งการรอดชีวิต

ในนามของผู้ที่ถูกคัดไว้ทันที

 

3. เนื่องจากการแลกสิทธิ์ที่จะเป็นผู้รอด

ตามหลักการที่เรากล่าวมาข้างต้นนั้น

พระองค์ทรงเน้นแต่ "จำนวน" รูปธรรม

ที่จะทรงคัดไว้เท่านั้น

จะมากกว่าหรือว่าน้อยกว่าที่กำหนดไว้มิได้

 

ดังนั้น

เมื่อท่านใดรับสิทธิ์ที่จะเป็นผู้รอดชีวิต

ผู้นั้นก็จักต้องรับผิดชอบกรรมที่ติดตัวอยู่

เพราะมันเป็นคุณสมบัติเฉพาะรูปธรรม

ที่ตัวเองเท่านั้นจักต้องรับผิดชอบ

 

มันจะต่างกันกับผู้ที่ได้รับความรอด

ในขั้นที่สามารถจะหลุดพ้นได้แล้ว

แต่ร้องขอต่อพระบิดาว่าจะอยู่ต่อ

คนๆนั้นเมื่อทรงประทานความรอดให้แล้ว

คุณสมบัติกรรมที่เป็นศูนย์หรือสูญญ์

ก็จะเป็นต้นทุนของรูปธรรมนี้

ที่จะใช้ชีวิตอยู่บนโลกเสรีนี้ต่อไปเช่นกัน

 

Question 2.

ถ้ายังหลุดพ้นไม่ได้

ผู้รอดตาย

เขาจะมีชะตาชีวิตเป็นเช่นไรคะ

 

Answer:

1. ถ้าใครยังไม่สามารถชำระกรรมของตน

ให้เหลือไม่เกิน 30% ได้ด้วยตนเอง

จักต้องเดินทางสู่ประตูมิติแห่งการหลุดพ้น

ที่สร้างไว้บนดาวเคราะห์โลกเสรีนี้แล้ว

ไปเข้าร่วมพิธีทำ "โมฆะกรรม"

กับ #องค์จิตจักรวาล พระบิดาแห่งจิตวิญญาณ

เพื่อชำระกรรมที่เหลืออยู่นั้นให้เป็น "สูญญ์"

ให้ทันเวลาก่อนการชำระโลกคาบสุดท้าย

คือ 56 วัน 8 ราตรีตามที่ทรงกำหนดไว้แล้ว

 

2. ความจริงในข้อ 1. ที่กล่าวมา

เป็นหน้าที่สำคัญของมนุษย์จักต้องทำ

เพราะจิตหยาบต้องนำพาจิตวิญญาณ

หลุดพ้นไปจากโลกและอนันตจักรวาลให้ได้

เพราะจิตวิญญาณทุกคนในยุคพลังงานเก่า

หมดหน้าที่เป็นเพื่อนร่วมงานกับโลกแล้ว

 

หมายความว่า "สิ้นยุค" แล้ว

ยังไงๆแก่นแท้ของทุกท่านก็ต้องกลับบ้าน

หลุดพ้นออกจากโลกและอนันตจักรวาล

กลับไปกราบพระบาทพระบิดาที่รออยู่ให้จงได้

ใครที่ไม่สามารถหลุดพ้นได้

ก็จะหมดโอกาสเป็นคน

บนดาวเคราะห์โลกเสรีนี้อีกแล้ว

 

3. ดังนั้น

คำถามที่ 2 ของท่านที่ว่า

 

"ถ้ายังหลุดพ้นไม่ได้

ผู้รอดตาย

เขาจะมีชะตาชีวิตเป็นเช่นไรคะ"

 

เรามีคำตอบให้ดังนี้ คือ

 

1. จิตวิญญาณของคนๆนั้น

จักถูกช่างเท็คนิกระเบิดทิ้งจนแตกสลาย

เป็นคลื่นพลังงานที่ไม่สมดุลตลอดกาล

ถ้าจิตวิญญาณรูปธรรมนั้นเสียสมดุล

จนมิอาจแก้ไขเยียวยาอะไรได้อีกแล้ว

 

2. จิตวิญญาณของคนๆนั้น

จักถูกส่งลงไปยังนรกโลกันตร์

 

อันหมายถึงถูกส่งลงไปอยู่ที่แกนโลก

เพื่อทำหน้าที่เป็นน้ำหนักมวล #ถ่วงโลก

ให้สมดุลกันกับน้ำหนักมวลบนพื้นผิวโลก

ซึ่งจักต้องทุกข์ทรมานเพราะความร้อนแรง

ไปจนตราบอนันตกาลนั่นเอง

 

3. จิตวิญญาณของคนๆนั้น

จักถูกลดชั้นให้ลงไปเกิดเป็นสัตว์ประจำโลก

ชนิดที่มีอายุขัยยืนยาว นาน 7 ภพชาติ

ซึ่งคนจำพวกนี้เกือบทั้งหมด

จะเป็นพวกผิดสัจจะกระทำทุศีลอยู่เป็นนิจ

 

ตัวอย่างเช่น

นักบวชนักพรตที่ไม่มีสัจจะ

นักบวชนักพรตที่กระทำทุศีล

นักบวชนักพรตครองศีลแต่ยังกินเนื้อสัตว์

นักบวชนักพรตที่สอนผู้คนให้หลงผิด

นักบวชนักพรตที่พาคนหลงทางนิพพาน

 

นักบวชนักพรตที่อ้างคำสอนของตน

ว่าเป็นพระวจนะพระศาสดา

หรือ ผู้ที่บิดเบือนคำสอนพระศาสดา

จนพาให้ผู้คนหลงเชื่อตาม

 

นักบวชนักพรตที่นำคำสอนพระศาสดา

มากล่าวให้ผู้คนเข้าใจผิดว่าเป็นของตน

ฯลฯ

 

สัตว์ประจำโลกที่จิตวิญญาณมนุษย์

จะตกชั้นลงไปเกิดนั้นมีเพียงไม่กี่ชนิด

เช่น เต่า งู หรือ กบ เป็นต้น

สัตว์จำพวกนี้จะเป็นสัตว์จำศีล

กินอาหารมังสะวิรัติล้วนๆ

จำพวกผัก หญ้า ตะไคร่น้ำ เป็นต้น

 

4. สำหรับมนุษย์ผู้หลุดพ้นได้

ก็จะได้รับโอกาสให้เป็นมนุษย์อยู่ต่อไป

เพื่อเป็นคนส่วนน้อยที่รอดชีวิต

เพื่อการใช้เมตตาค้ำจุนสมดุลโลก

ให้สงบสมดุลและสะอาด

ในบทบาทของคนข้ามผ่าน

สู่ยุคพลังงานใหม่ต่อไปได้

 

ดังนั้น

คนที่รอดตายจากมหันตภัยพิบัติใหญ่

มีชีวิตข้ามผ่านสู่ยุคพลังงานใหม่ได้

ทุกคนจะมีคุณสมบัติกรรมเป็นศูนย์

จะเหลือเพียงพันธะสัญญา 6

และใช้ความรักหมุนธรรมจักรเท่านั้น

 

Question 3.

ในยุคพลังงานใหม่

เขาสามารถแก้ไขจิตสำนึกผิดๆ

ให้ถูกต้องได้ง่ายกว่ายุคพลังงานเก่า

เนื่องจากในยุคพลังงานใหม่

สนามแม่เหล็กโลกสูงขึ้น

มนุษย์จะเข้าสู่ภาวะจิตเป็นสุญญตาง่ายขึ้น

และเป็นยุคสมัยแผ่นดินธรรม

ของพระศาสดาพระองค์ใหม่

พระศรีอริยะเมตไตรยจะเสด็จมาโปรด

เพื่อช่วยมนุษย์ที่เหลืออยู่

เป็นยุคที่มีแต่คนดี ไม่มีคนชั่ว

ความเข้าใจเช่นนี้ถูกต้องหรือไม่คะ

 

Answer:

มนุษย์ในยุคพลังงานใหม่

จะมีอยู่ด้วยกันสองจำพวก คือ

 

พวกแรก:

เป็นพวกที่ข้ามผ่านสู่ยุคพลังงานใหม่มาได้

ด้วยสภาวะจิตที่เป็นสุญตาแล้ว

ด้วยจิตวิญญาณที่เหนือกฎแห่งกรรมได้แล้ว

 

พวกที่สอง:

เป็นพวกเด็กๆที่ข้ามมิติมาจากฟ้าสีคราม

เพิ่งเข้ามาจุติเป็นมนุษย์ในภพชาติแรก

หลังการเปลี่ยนผ่านสู่ยุคพลังงานใหม่แล้ว

เพื่อทำหน้าที่แทนมนุษย์ยุคพลังงานเก่า

ที่สิ้นสุดเวลาในการทำภารกิจแล้ว

 

ดังนั้น

เรื่องราวที่ท่านคิดจินตนาการ

จึงมิได้เป็นเช่นที่คิดนั้นหรอก

 

พระศาสดาพระองค์ใหม่

ก็มิได้มาจุติเพื่อช่วยเหลือใคร

แต่ทรงเข้ามาจุติเพื่อช่วยซับน้ำตา

และเป็นที่พึ่งทางจิตใจของคนดีๆ

ที่ยังบอบช้ำและต้องการกำลังใจเท่านั้น

 

เพราะคนทุกคนในห้วงเวลานั้น

ต่างเป็นคนจิตใสใจสวยกันหมดแล้ว

เลิกเหลวไหลเพราะได้สติทางวิญญาณแล้ว

 

จงอย่ากังวลถึงวันอนาคต

จนลืมเร่งรัดชำระตนเองในปัจจุบัน

ให้ทันกำหนดเวลา

ตามที่ปรารถนาไว้ว่าจะเลือกเป็นแบบใด

ในองค์อนุตรธรรมที่เรากล่าวมาทั้งหมดนั้น

 

เราขออวยพรให้ทุกท่าน

ข้ามผ่านมันไปได้อย่างสวยงามนะ

 

เอเมน สาธุ

ป.วิสุทธิปัญญา

29-10-2019