21 ธันวาคม 2562

สนทนาประสาจิตจักรวาล 21/12/2019

 #สนทนาประสาจิตจักรวาล

 

พี่ๆน้องๆที่รักแห่งเราทั้งหลาย

เราจะขอกล่าวความจริงต่อท่านทั้งหลายว่า

 

คำว่า "โกหก" กับ คำว่า "ตอแหล"

มีความหมายแตกต่างกัน

แต่ก็เป็นการประพฤติชั่วเหมือนกันอยู่นั่นเอง

 

คนที่พูดจาโกหก

หมายถึง คนที่มีพฤติกรรมดังต่อไปนี้

 

1. พูดในเรื่องที่ไม่ตรงกับความจริง

2. พูดในสิ่งที่ตนไม่รู้หรือรู้ไม่จริง

3. พูดไม่ตรงกับสิ่งที่ตนรู้อยู่

4. พูดเพื่อจูงให้คนอื่นเข้าใจผิด คิดผิด หลงเชื่อ

5. พูดเพื่อเอาดีใส่ตัว เอาชั่วใส่คนอื่น

6. พูดเพื่อใส่ร้ายป้ายสีผู้อื่นให้เสื่อมเสีย

 

คนที่เคยพูดโกหกแล้ว

มีคนเชื่อมีคนคล้อยตาม

และทำให้ตนเองพ้นผิดหรือได้ประโยชน์

ถ้าหากเคยทำสำเร็จได้ครั้งหนี่งแล้ว

การประพฤติผิดบาปในครั้งต่อไป

มันก็จะเกิดซ้ำได้ง่ายขึ้น

ยิ่งประพฤติโกหกบ่อยขึ้นๆเรื่อยๆ

เขาคนนั้นก็จะกลายเป็นคน

มี "สันดานโกหก" ไปในที่สุด

 

แต่ท่านทั้งหลายจะรู้หรือไม่ว่า

ถ้าท่านปล่อยให้ตนเอง

มีสันดานโกหกเสียจนเคยตัว

โดยเฉพาะในเรื่องที่ "ใหญ่ขึ้น" กว่าปกติ

อย่างเช่นกรณี "เด็กเลี้ยงแกะ"

หากมีคนจับโกหกได้ก็หายนะตลอดชีวิต

เพราะจะไม่มีคนเชื่อถือคำพูดอีกเลย

แม้ครั้งหน้าท่านจะกล่าวความจริงก็ตาม

 

นอกจากนั้น

ถ้าเป็นการพยายามจะทำให้คนอื่นเชื่อ

ในเรื่องไม่จริงที่เป็นเรื่องใหญ่ๆ

อันเป็นการพูดโกหกเพื่อประโยชน์ของตัวเอง

ซึ่งมันจะต้อง "แนบเนียน" มากกว่าปกติแล้ว

สิ่งหนึ่งที่จิตมนุษย์ของท่านจะเลยเถิด

นั่นคือการสร้างเรื่องเพื่อ "โกหกตัวเอง" ก่อน

 

ถ้าท่านสร้างเรื่องโกหกตัวเองได้

จนทำให้ตนเชื่อว่าเรื่องโกหกนั้นเป็นเรื่องจริง

ในทางจิตวิทยาของคนโกหกเอง

จะมั่นใจและกล้าหาญในการกล่าวคำโกหกนั้น

เหมือนคนที่พูดความจริงทุกประการ

 

นักการเมือง พ่อค้าแม่ค้า นักธุรกิจ

ที่ไร้สัจจะและขาดคุณธรรม

เพราะเห็นแก่อำนาจและผลประโยชน์ส่วนตน

จะสำแดงพฤตินิสัยแบบนี้ให้เห็นเสมอ

 

คนที่จิตวิญญาณป่วยเพราะหลงมิติ

จากการชอบพูดโกหกให้ผู้อื่นเสียหาย

แต่ตนเองได้ประโยชน์นั้น

จะถูกส่งตัวลงนรกเพื่อดัดสันดาน

ด้วยการลงโทษที่ปากและลิ้นให้เจ็บปวดสุดๆ

ให้ทุกข์ทรมานสุดๆเพื่อสร้างสำนึกให้ได้ว่า

ปากเป็นอายตนะสำคัญเอาไว้กินสิ่งดีๆ

และเอาไว้พูดความจริงอย่างสร้างสรรค์เท่านั้น

จะใช้ปากโกหกโป้ปดมดเท็จใครไม่ได้

 

ความเจ็บปวดทุกข์ทรมานของปากกับลิ้น

เป็นอาการทางจิต

การปากเจ็บลิ้นเจ็บเพราะถูกลงโทษ

เป็นการสร้างสำนึกใหม่ทางกาย

เพื่อช่วยเยียวยาจิตวิญญาณที่หลงมิตินั้น

 

ถ้าใครตกนรกเพราะสาเหตุหนักหนานี้

จะต้องใช้เวลาตกนรกกันค่อนข้างนาน

กว่าจะได้กลับขึ้นมาผุดเกิดบนโลกได้อีก

 

พี่ๆน้องๆที่รักทั้งหลาย

 

อันคนที่มีนิสัย "ตอแหล" นั้น

ถ้าคบกับใครแล้วเขามิได้คาดหวังอะไรมาก

จากคนชอบตอแหลนั้นก็ไม่ค่อยมีปัญหาอะไร

อย่างเก่งแค่คนรอบข้างจะจางหายไป

เพราะไม่อยากฟังเรื่องโกหกตอแหลนั่นเอง

 

ลักษณะของคน "ตอแหล" คือ

 

1. ชอบพูดจาสร้างเรื่องไม่เป็นเรื่องขึ้นมาเอง

หรือกุเรื่องบางเรื่องขึ้นมา

 

2. เรื่องที่สร้างขึ้นหรือกุขึ้นเป็นเรื่องไม่จริง

หรือมีจริงเพียงบางส่วน

 

3. กุเรื่องขึ้นมาเพื่อทำให้คนอื่นมองว่า

ตนนั้นเป็นคนสำคัญ

 

4. กุเรื่องขึ้นมาเพื่อจูงคนอื่น

ให้หันมาสนใจตัวเองหรือเรียกร้องความสนใจ

 

5. พูดคุยในสิ่งที่ตนไม่รู้หรือรู้ไม่จริง

เพียงเพื่ออวดว่าตนเองรู้มากกว่าคนอื่น

 

6. พูดเรื่องไม่จริง พูดเรื่อยเปื่อย

เสมือนว่าตนเป็นผู้รอบรู้

แม้ไม่ทำร้ายใคร ไม่ก้าวล่วงใคร

แต่ก็ผิดบาปเพราะพูดไร้สาระ

 

พี่ๆน้องๆที่รักทั้งหลาย

 

ทั้งคนโกหกและคนตอแหล

เป็นคนที่อยู่ในโลกของการหลอกลวงทั้งคู่

เป็นคนที่ทำตนไม่กลมกลืนกับธรรมชาติ

เพราะขาดสัจจะไม่จริงใจ

จึงอยู่ในระบบเดียวกัน

ใช้ชีวิตอยู่ในสังคมเดียวกันกับผู้อื่นมิได้

เพราะเหมือนเป็นของปลอม

คือจิตอย่างหนึ่งแต่กายที่สำแดงอีกอย่างหนึ่ง

แปลว่า #คนหน้าซื่อแต่ใจคด นั่นแหละ

 

อนึ่ง

กรณีพระเยซูทรงมีสัจจะ

โดยทรงตอบรับแก่ผู้ปองร้ายพระองค์ว่า

พระองค์นี่แหละ คือ "เยซู" ที่เขากำลังถามหาอยู่

พระองค์จึงถูกทำร้ายบนไม้ประหารนั้น

 

พระบิดาจึงทรงอนุญาตให้

บุตรมนุษย์ทุกคนสามารถกล่าวเท็จได้

หากเป็นการโกหกเพื่อ "เอาชีวิตรอด"

พระองค์จะมิทรงถือโทษและละเว้นโทษให้

โดยอาศัยกรณีพระเยซูเป็นบทเรียน

 

แต่ท่านทั้งหลายจงอย่าตะแบงนะ

การโกหกเพื่อ "เอาชีวิตรอด"

กับการโกหกเพื่อ "เอาตัวรอด" มันไม่เหมือนกัน

 

เอเมน สาธุ

ป.วิสุทธิปัญญา

21-12-2019