19 ธันวาคม 2562

สนทนาประสาจิตจักรวาล 19/12/2019

 #สนทนาประสาจิตจักรวาล

 

พี่ๆน้องๆที่รักแห่งเราทั้งหลาย

เราขอกล่าวความจริงต่อท่านทั้งหลายว่า

 

ทุกศาสนาล้วนเป็นสากล

ผู้ใดจะแบ่งแยกศาสนาออกจากกันมิได้

ใครบังอาจทำเช่นนั้นถือเป็นผิดบาปร้ายแรง

เพราะกระทำผิดต่อกฎหลักของจักรวาล

คือ #กฎแห่งการเป็นหนึ่งเดียวกันของทุกสิ่ง

 

คำว่า #ศาสนา หมายถึง คำสั่งสอน

 

คำว่า "ศาสนาคริสต์" จึงหมายถึง

คำสั่งสอนของพระคริสต์

ที่ทรงรับสื่อถ่ายทอดลงมาจากพระผู้เป็นเจ้า

ทั้งอนุตรธรรม โลกุตรธรรม และโลกิยธรรม

 

คำว่า "ศาสนาพุทธ" จึงหมายถึง

คำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า

ที่ทรงเข้าถึงสัจธรรมนั้นๆด้วยพระองค์เอง

ทั้งโลกิยธรรมและโลกุตรธรรม

 

คำว่า "ศาสนาอิสลาม" จึงหมายถึง

คำสั่งสอนของชนอิสลาม

ที่พระศาสดารับสื่อถ่ายทอดมาจากพระเจ้า

ทั้งอนุตรธรรม โลกุตรธรรม และโลกิยธรรม

 

โดยสัจธรรมทุกระดับ

ไม่ว่าศาสดาองค์ใดจะเป็นผู้กล่าว

ล้วนมาจากต้นธารหรือสายธรรม

ที่เป็นหนึ่งเดียวกันทั้งสิ้น

นั่นคือมีต้นกำเนิดสัจธรรมนั้นมาจากพระบิดา

พระผู้ให้กำเนิดจิตวิญญาณของท่านทั้งหลาย

พระผู้สร้างทุกสรรพสิ่งไว้ในอนันตจักรวาล

ซึ่งมีเพียงพระองค์เดียวเท่านั้น

 

ท่านทั้งหลายจงอย่าสับสน

จากการที่โลกเสรีมีพระศาสดาหลายพระองค์

 

เนื่องจากมนุษย์โลกเสรีนี้

ใช้ชีวิตกันมายาวนานนับหมื่นปีแล้ว

ศาสดาแต่ละพระองค์จึงต้องผลัดเปลี่ยนกัน

เข้ามาจุติเป็นมนุษย์เพื่อ "ฉุดช่วย"

ท่านทั้งหลายที่หลงมายาโลก

จนลืมหน้าที่ทางจิตวิญญาณที่ขันอาสามา

ทำให้ล้มเหลวต่อการเกิดมาเป็นมนุษย์

จนยังผลให้ดาวเคราะห์โลกเสียสมดุล

 

เมื่อโลกเสียสมดุลจนเกิดภัยพิบัติรุนแรง

หรือเมื่อสังคมมนุษย์โลกเกิดการแตกแยก

ขาดความเป็นหนึ่งเดียวกัน

พระบิดาก็จะส่งพระบุตรเอก

ลงมาจุติเป็นมนุษย์เพื่อฉุดช่วยครั้งหนึ่ง

โดยยุคหนึ่งก็จะส่งพระบุตรเอกมาพระองค์หนึ่ง

ไม่เคยส่งพระศาสดาหรือพระบุตรเอกลงมา

มากกว่าหนึ่งพระองค์ในหนึ่งยุค

 

เหตุที่ไม่ส่งลงมาจุติมากกว่าหนึ่งพระองค์

ในแต่ละยุคสมัยก็เพราะเหตุว่า

พระองค์ไม่ทรงมีพระประสงค์ให้ "เลือก"

เช่นเดียวกับกษัตริย์หรือผู้นำแห่งชาติ

จะมีเพียงสมัยละพระองค์เดียวคนเดียวเท่านั้น

 

ดังนั้น

เมื่อโลกเสรีนี้มีอายุขัยผ่านมายาวนาน

พวกท่านได้ใช้ชีวิตกันมาหลายยุคสมัยแล้ว

ประวัติศาสตร์แห่งการเป็นมนุษยชาติ

จึงทำให้เห็นว่าพวกท่านนั้น

มีศาสดามาหลายพระองค์แล้ว

 

การมีหลายพระองค์

มิได้หมายถึงมีพร้อมกันในยุคเดียว

ทุกๆพระองค์พระเจ้าเป็นผู้เลือกแล้ว

มนุษย์โลกจึงมีหน้าที่ "รับเอา" หรือรับไว้

มิใช่มีหน้าที่เป็นผู้ "เลือก" พระองค์ใดไว้

แล้วปฏิเสธพระองค์อื่นๆไปอย่างไร้เกียรติ

 

จงระลึกเสมอว่า

ผู้มีหน้าที่เลือกพระศาสดา

ให้ลงมาจุติเพื่อฉุดช่วยมนุษย์คือ #พระเจ้า

เพราะทรงรู้ดีว่าใครคือผู้เหมาะสม

ที่จะลงมาทำหน้าที่ในยุคสมัยนั้นๆ

 

ดังนั้น

ไม่ว่าจะเป็นคำสอนในเรื่องใดของศาสดาใด

จึงล้วนมาจากพระบิดาแห่งจิตวิญญาณ

ที่เป็นพระองค์เดียวกันทั้งสิ้น

เราจึงกล่าวต่อท่านทั้งหลายว่า

พระศาสดาทุกพระองค์เป็นหนึ่งเดียวกัน

สัจธรรมคำสอนล้วนมาจากที่เดียวกัน

ทุกศาสนาจึงเป็นสากลก็เพราะเหตุนี้

 

พวกท่านกลับมาเกิดในปลายยุคพลังงานเก่า

ซึ่งผ่านมาหลายยุคหลายสมัยแล้ว

จึงย่อมพบว่าโลกมีศาสดาหลายพระองค์

จงยอมรับความจริงที่เรากล่าวมา

แล้วเลิกแยกศาสนาและศาสดาออกจากกัน

จงเรียนรู้ไปด้วยกันแล้วจะพบว่า

แก่นคำสอนทุกศาสนาล้วนเป็นเรื่องเดียวกัน

คือ สอนให้ "รักกัน" และรักโลก

 

ที่หาเรื่องทะเลาะกันตีกันอยู่ทุกวันนี้

โดยพยายามที่จะก่อสงครามศาสนา

นอกจากเพราะความไม่รู้เพราะความงมงายแล้ว

ยังเกิดจากการมุ่งใช้ศาสนามาเป็นเครื่องมือ

แสวงหาอำนาจทางการเมืองส่วนตนเท่านั้น

 

จงอย่าตกเป็นเครื่องมือของคนชั่วเหล่านี้

ที่พยายามนำศาสนามาเป็นลัทธิ

นำพระศาสดามาเป็นเจ้าลัทธิ

มันเป็นการก้าวล่วงเบื้องสูง

และทำให้จิตวิญญาณของท่านต่ำต้อย

 

เอเมน สาธุ

ป.วิสุทธิปัญญา

19-12-2019