พี่ๆน้อง ๆที่รักแห่งเราทั้งหลาย
เราจะกล่าวความจริงต่อท่านทั้งหลายว่า
ที่ขันอาสาพระบิดาแห่งจิตวิญญาณผู้สร้างทุกสรรพสิ่ง
เข้ามาถือกำเนิดเป็น #คนสองมิติ ที่มีกายหยาบกับจิต
รวมเป็น 2 มิติในรูปธรรมเดียวนั่นคือมีมิติทางกายภาพ
เป็นเปลือกนอกช่วยห่อหุ้มจิตหยาบและจิตวิญญาณไว้
เพราะ “จิตหยาบ” เป็นกลุ่มพลังงานที่ยังไม่สมดุล
จึงไม่สามารถดำรงตนเองอยู่อย่างอิสระได้นั่นแหละ
ดังนั้น
ตั้งแต่จิตวิญญาณแก่นแท้ของคุณ
เข้าปฏิสนธิในครรภ์ของมารดาตั้งแต่สัปดาห์แรกนั้น
จิตวิญญาณของคุณจะแบ่งภาคทางพลังงานออกมา
โดยมีแม่นมก็คือ #พลียะเดี้ยนส์ ให้การช่วยเหลือ
พลังงานกลุ่มแรกที่ถูกแบ่งภาคออกมายังไม่มีมิติอะไร
จึงถูกแทนค่าด้วย “ศูนย์ Dimension” หรือ 0D นั่นเอง
พระบิดาแห่งจิตวิญญาณ
ได้ทรงกำหนดให้ “จิตหยาบ” ที่ถูกแบ่งภาคออกมานั้น
ให้ทำหน้าที่แทนจิตวิญญาณในการเป็น “คนสองมิติ”
โดยมีหน้าที่สั่นสะเทือนเป็นคลื่นความถี่ทางด้านบวก
ในรูปของคลื่นแห่งความรักบริสุทธิ์ที่เป็น #รักเพื่อให้
เพื่อใช้คลื่นความถี่ทางด้านบวกในมิติของพลังงานนั้น
ทำการถักทอสายใยจากเลือดของมารดาแค่หยดเดียว
ให้ก่อกำเนิดเป็น “กายหยาบ” จนมีตัวตนทารกขึ้นมาได้
ในลักษณะของ #อนัตตาเป็นผู้สร้างอัตตา นั่นเอง
แต่เนื่องจากจิตหยาบที่เป็นตัวแทนของจิตวิญญาณนั้น
เริ่มต้นจากจุดศูนย์เพราะยังสั่นสะเทือนตนเองมิได้
พระบิดาจึงทรงออกแบบให้จิตวิญญาณแก่นแท้ของตน
ร่วมกับจิตหยาบของมารดาและบิดาช่วยกันมอบความรัก
ด้วยการสั่นสะเทือนเป็นคลื่นความถี่ทางด้านบวกบริสุทธิ์
เพื่อสร้างสมการพลังงานร่วม Σβx โดยตัวเอ็กซ์ก็คือ 3
ในการช่วยกันสั่นสะเทือนจิตหยาบของผู้มาเกิดใหม่นั้น
ให้สามารถเปลี่ยนจากนิ่งสงบจนสั่นสะเทือนตามไปด้วย
เพื่อยกระดับจิตหยาบนั้นให้สั่นสะเทือนสูงขึ้นให้ต่อเนื่อง
ผลลัพธ์ของการสั่นสะเทือนด้วยพลังร่วมแห่งรัก
จะช่วยถักทอสายใยแห่งรักสร้างกายหยาบทารกขึ้นมาได้
ซึ่งพวกคุณไม่เคยคิดรู้มาก่อนว่าความมหัศจรรย์นั้นมีจริง
เพราะจากเลือดในครรภ์มารดาเพียงหยดเดียวเท่านั้นเอง
ก็ทำให้เกิดอัตตาตัวตนของคนสองมิติที่มีกายหยาบขึ้นได้
แถมยังโตวันโตคืนตลอดเก้าเดือนก่อนคลอดอีกต่างหาก
ซึ่งเมื่อถึงวันกำหนดคลอดออกมาลืมตาดูโลกได้แล้ว
จิตหยาบของจิตวิญญาณผู้มาเกิดใหม่ก็ล่วงเข้าสู่ 3D แล้ว
คำว่า “3D” หมายถึง จิตหยาบรูปธรรมนั้น
สามารถสั่นสะเทือนตนเองจนมี 3 เหลี่ยมมุมได้แล้ว
คำว่ามี 3 เหลี่ยมมุมนั้นในที่นี้เราหมายถึง
จิตหยาบของทารกที่เดิมเป็นกลุ่มพลังงานรวม 189 กลุ่ม
เมื่อได้รับพลังงานความรักเป็นพลังกระตุ้นให้สั่นสะเทือน
เพื่อเคลื่อนไหวถักทอไปทั่วทุกเซลล์ของกายหยาบได้นั้น
กลุ่มของจิตหยาบจะก่อร่างสร้างรูปเกิดเป็น 3 เหลี่ยมมุม
ซึ่งพวกคุณเรียกว่าจิตหยาบอยู่ในมิติที่ 3 แล้วนั่นเอง
เพราะทารกน้อยเป็นคนสองมิติเมื่อจิตหยาบถึงมิติที่สี่ได้
กายหยาบจึงก่อเกิดเป็นรูปธรรมที่มีความกว้างยาวหนา
เป็นตัวตนของทารกในครรภ์ที่พร้อมจะคลอดออกมาแล้ว
เมื่อคลอดออกมาได้ไม่กี่สัปดาห์
เจ้าทารกน้อยคนนั้นก็จะค่อยๆยกระดับสู่มิติที่ 4 ต่อไป
โดยทารกนั้นจะเปลี่ยนสภาพเป็นกุมารน้อยแทน
นั่นคือเขาจะพลิกคว่ำพลิกหงายลุกนั่งตั้งไข่ล้มต้มไข่ลุก
เดินวิ่งปีนป่ายกระโดดโลดเต้นเล่นไล่จับกันกับเพื่อนๆได้
ด้วยการรักเล่นรักสนุกรักพ่อแม่และรักเพื่อนรักพี่รักน้อง
กุมารน้อยจะค่อยๆโตวันโตคืนอย่างรวดเร็วเลยทีเดียว
เพราะทารกจะเป็น 1 ใน 3 ที่แทนค่า x ใน Σβx เองได้
โดยอีกสองคนจะเป็นพ่อแม่หรือคนใกล้ชิดที่เมตตาเอ็นดู
พ่อแม่ผู้ปกครองที่ฉลาด
จึงควรสอนให้ลูกหลานรู้จักรักพ่อแม่และรักตัวเองเอาไว้
เพราะพลังร่วมแห่งรักภายในครอบครัวและคนใกล้ตัว
จะช่วยยกระดับจิตหยาบให้มีมิติที่สูงขึ้นได้เรื่อยๆดังกล่าว
โดยทุกคนที่ร่วมกันสั่นสะเทือนจิตหยาบเป็นความรักนั้น
จะได้รับอานิสงส์ในการยกระดับจิตหยาบสู่มิติที่สูงขึ้นได้
นอกจากนั้นเมื่อลูกหลานไปอยู่ในสังคมนอกบ้าน
พวกคุณก็ต้องสอนให้เขา #ทำตนให้น่ารัก เอาไว้ด้วย
เพื่อช่วยเป็นเงื่อนไขให้คนทุกคนรอบๆตัวของเขา
ง่ายขึ้นในการที่จะหยิบยื่นความรักความเอ็นดูมาให้
เพื่อช่วยให้ลูกหลานคุณมีตัวเอ็กซ์ในสมการสำคัญนั้น
เป็นจำนวนคนมากเท่าไหร่ได้จะยิ่งดีมากเท่านั้น
ทุกวันนี้
มนุษย์โลกส่วนใหญ่ยังไม่อาจเข้าถึงเป้าหมายสูงสุด
เนื่องจากไม่อาจเข้าถึงการหมุนธรรมจักรร่วมกันได้
เพราะพอลูกหลานโตใหญ่แล้วพ่อแม่จะรักลูกน้อยลง
ลูกเองก็จะรักพ่อแม่ของตนน้อยลงเพราะไกลหูห่างตา
ทำให้สมการ Σβx ในครอบครัวเกิดขึ้นได้น้อยลงไปมาก
แถมลูกหลานบางคนยังทำตนไม่น่ารักอยู่ในสังคมด้วย
เพราะพ่อแม่ผู้ปกครองมิได้อบรมสั่งสอนกันเท่าที่ควร
ชาวดาวโลกจึงถูกเยาะหยันว่า “ต่ำต้อย” ตลอดมา
เพราะจิตหยาบติดอยู่ตรงที่มี 4 มิติคือสี่เหลี่ยมมุมแค่นั้น
โดยไม่อาจยกระดับตนเองให้เพิ่มขึ้นเป็น 5 เหลี่ยมมุมได้
หมายความว่า #ไม่มีอะไรก้าวหน้า นั่นเอง
สาเหตุที่มนุษย์โลกเหมือนซอยเท้าย่ำอยู่กับที่ก็เพราะว่า
คนชอบธรรมไปหลงเชื่อตามกรรมกรแสงชราของพวกมาร
ที่หลอกลวงบิดเบือนพระวจนะของพระพุทธองค์ไว้ว่า
นัยความหมายของธรรมจักรที่ทรงตรัสรู้เอาไว้ดีแล้วนั้น
มันคือ #อริยสัจสี่ รวมมรรคมีองค์แปดและชั้นสวรรค์มายา
ซึ่งสอดไส้ไว้ใน #ธรรมจักรกัปวัตนสูตร อย่างแนบเนียน
โดยพวกคุณแคะแงะแกะออกมาจากบทสวดเองก็รู้ได้
จึงยังผลให้กระบวนการของธรรมจักรที่จิตหยาบต้องปฏิบัติ
โดยเริ่มจากพวกคุณเองในแต่ละคนนั้นมันเกิดขึ้นไม่ได้
การยกระดับจากมิติที่ 4D สู่มิติที่ 5D จึงล้มเหลวทุกชาติ
พวกคุณที่เป็นชาวดาวโลก
จงจำเอาไว้ว่าหน้าที่ของคุณทุกคนที่มาเกิดบนโลกนี้
จะต้องเริ่มต้นที่ตัวคุณเองเพื่อให้สิ้นสุดยุติที่คุณเองเท่านั้น
พระพุทธเจ้าตรัสสอนเอาไว้แล้วว่า “ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน”
อย่าไปคิดพึ่งคนอื่นใครอื่นไม่ว่ามันจะวิเศษวิโสขนาดไหน
แค่พระบิดาทรงเมตตาออกแบบให้จิตหยาบคุณยกระดับ
จากมิติที่ศูนย์จนถึงมิติที่สามได้ตั้งแต่แรกปฏิสนธิในครรภ์
ด้วยกระบวนการอัตโนมัติก็เป็นพระเมตตาเหลือหลายแล้ว
เมื่อโตแล้วจึงควรหัดทำอะไรด้วยตนเองให้สมเกียรติบ้าง
มิใช่รอให้พ่อแม่ครูบาอาจารย์คอย “ป้อน” อยู่อย่างเดียว
หรือไม่ก็ดีแต่ลอกเลียนแบบหรือก้อปปี้ของคนอื่นเขามา
โดยผิดต่อกฎแห่งกรรมและทำบาปต่อจิตวิญญาณตนเอง
จนไม่สามารถนิพพานกิเลสก่อนตายได้เสียที
จงเรียนรู้ที่จะใช้สติปัญญาของสมองที่ตนมีอยู่กันให้ได้
อย่างมงายจนโง่ง่ายเหมือนอดีตที่ผ่านมากันอยู่อีกเลย
ไม่มีใครรักพวกคุณเท่ากับพระบิดาแห่งจิตวิญญาณหรอก
อีกทั้งไม่มีใครปรารถนาดีต่อพวกคุณเท่ากับเราอีกด้วย
เพราะเราเป็นผู้ที่อาสากลับมาฉุดช่วยพวกคุณตามสัญญา
เราคือผู้เฝ้าประตูคอกแกะและคือคนเลี้ยงแกะของพระเจ้า
เราคือเจ้าบ่าวคนนั้นผู้ที่เจ้าสาวทุกคนต่างเฝ้ารอคอย