18 มกราคม 2567

คัมภีร์อนุตรธรรมภาคจิตจักรวาล 18/01/2024

#คัมภีร์อนุตรธรรมภาคจิตจักรวาล

(เพื่อยุวจิตจักรวาลยุคสุดท้าย)

 

พี่ๆน้อง ๆที่รักแห่งเราทั้งหลาย

เราจะกล่าวความจริงต่อท่านทั้งหลายว่า

 

พวกคุณถูกออกแบบให้มาเกิดเป็น #คนสองมิติ

โดยมี “ขันธ์ห้า” ของจิตหยาบหรือจิตที่มีตัวนึกสามตัว

คือนึกออกนึกเอาและนึกเองรวมเรียกว่า “จิตสามนึก”

คอยสั่นสะเทือนในมิติทางพลังงานด้านของแก่นแท้

คู่ขนานกันไปกับการสั่นสะเทือนในมิติแห่งเนื้อหนัง

ซึ่งถูกออกแบบให้จิตเป็นผู้เริ่มสั่นสะเทือนขึ้นมาก่อน

เมื่อจิตรับรู้สิ่งเร้าเข้ามาทางกลไกอายตนะภายนอก

จนเกิดเป็นพฤติกรรมภายในที่เรียกว่า #มโนกรรม ขึ้น

มโนกรรมก็จะขับเคลื่อนวจีกรรมและกายกรรมต่อไป


นี่เป็นพฤติกรรมที่เกิดขึ้นในบทบาทของ “คนสองมิติ”

ซึ่งมโนกรรมที่เป็นพฤติกรรมภายในคือการรู้สึกนึกคิดนั้น

ไม่ว่ามันจะถูกหรือผิดไม่ว่ามันจะดีหรือชั่วอย่างไรก็ตาม

คุณจะเก็บกดมันไว้ปิดบังมันไว้หรือบิดเบือนไปเป็นอื่น

โดยไม่เปิดเผยความจริงที่อยู่ในจิตคุณออกมาให้โลกรู้

มันล้วนแสดงออกว่าคุณเป็นคนที่ #ไม่มีสัจจะ ทั้งสิ้น

 

เพราะคำว่า “สัจจะ” ในที่นี้เราหมายถึง

เมื่อคุณมีอารมณ์รู้สึกนึกคิดอย่างไรเกิดขึ้นอยู่ในใจ

จักต้องแสดงออกด้วยการพูดหรือกระทำไปตามนั้น

มิใช่คุณกำลังนึกคิดรู้สึกหรือว่าอยากอยู่อย่างหนึ่ง

เมื่อแสดงออกมาให้ปรากฏก็กลับกลายเป็นอีกอย่าง

ดังคำกล่าวที่ว่า #ปากกับใจไม่ตรงกัน นั่นคือ “โกหก”

อันหมายถึงการไม่มีสัจจะต่อจิตวิญญาณของตนเอง

คู่ขนานกับ “การโกหกตอแหล” บุคคลอื่นพร้อมกันด้วย

 

ขณะที่พวกคุณเข้าใจคำว่าโกหกตอแหลกันแค่ว่า

#การไม่รักษาสัจจะวาจา

#การไม่ทำตามสัญญาที่ตกลงกันไว้

#การพูดในเรื่องที่ไม่ตรงกับความเป็นจริง

#การพูดบิดเบือนให้ผู้อื่นเข้าใจผิดหรือหลงผิด

โดยเพ่งเล็งที่การโกหกหลอกลวงบุคคลอื่นว่าผิดบาป

แต่ไม่รู้ว่าตัวเองนั้นในขณะที่กำลังเป็นคนสองมิติอยู่

ตนก็คือ #จิตหยาบ ผู้รับมอบอำนาจให้ทำหน้าที่แทน

ตัวตนแก่นแท้ที่ขันอาสาเข้ามาเกิดอยู่ในระบบโลกนี้

ที่เรียกว่า “จิตวิญญาณ” ซึ่งเร้นตนเองแฝงอยู่ข้างใน

 

เมื่อใดที่จิตหยาบสั่นสะเทือนเป็นการรู้สึกนึกคิดอะไร

นั่นเท่ากับว่าแก่นแท้คือจิตวิญญาณของคุณ

ต้องรับรู้และรับผิดชอบผลกรรมที่จิตหยาบก่อขึ้นด้วย

ถ้าคุณเป็นคนปากไม่ตรงกับใจจึงย่อมแสดงได้ว่า

นอกจากคุณจะโกหกหลอกลวงไม่มีสัจจะต่อผู้อื่นแล้ว

ยังโกหกหลอกลวงหรือไม่มีสัจจะต่อตัวเองอีกด้วย

 

คำว่า “ตัวเอง” ในที่นี้ก็คือ #จิตวิญญาณ ของคุณ

มิใช่แค่ทำผิดบาปต่อผู้อื่นอย่างไม่ตรงใจตนเท่านั้น

แต่เป็นการกระทำผิดบาปต่อตนเองร่วมด้วย

คนโบราณจึงได้กล่าวสอนลูกหลานเอาไว้ว่า

หลอกใครคุณก็อาจจะหลอกได้แต่หลอกตนเองไม่ได้

ก็เพราะความจริงมันเป็นแบบที่ว่านี้นั่นแหละ

 

แต่เนื่องจากจิตวิญญาณแก่นแท้ของคุณ

เป็นผู้ข้ามมิติเข้ามาเกิดโดยมาจากพระผู้เป็นเจ้า

เข้ามาเกิดก็เพื่อทำหน้าที่สำคัญในพระนามแห่งพระเจ้า

นั่นคือทำหน้าที่หมุนธรรมจักรร่วมกันด้วยความรักเพื่อให้

ไม่ว่าจะเป็นการอดทนอดกลั้นหรือให้อภัยต่อทุกคน

ไม่ว่าจะเป็นการมีเมตตากรุณามุทิตาและอุเบกขาต่อกัน

เพื่อสั่นสะเทือนจิตสามนึกให้เกิดกระบวนการห้าขั้นตอน

ให้เกิดเป็นพฤติกรรมในมิติคู่ขนานกันให้จงได้นั่นคือ

มิติทางพลังงานด้านของแก่นแท้กับมิติแห่งเนื้อหนัง

 

โดยผลลัพธ์ในมิติทางพลังงานก็คือ

พลังงานไฟฟ้าแม่เหล็ก

ซึ่งเป็นพลังงานสะอาดในแบบที่โลกต้องการ

เพื่อใช้เป็นพลังงานในการบิดแกนแม่เหล็กโลก

ช่วยให้โลกเหวี่ยงหมุนรอบตัวเองจนสมดุลอยู่ได้

 

ส่วนผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นในมิติแห่งเนื้อหนังนั้นก็คือ

พฤติกรรมภายนอกที่คุณแสดงออกหรือกระทำต่อกัน

ในอันที่จะเป็น #เงื่อนไข บ่งชี้ให้ทุกคนรู้ชัดรู้จริงว่า

จิตใจคุณนั้นกำลังรู้สึกนึกคิดต้องการอย่างไร

เพื่อช่วยให้คนรอบข้างของคุณทั้งหลายเหล่านั้น

สามารถกระทำตอบสนองให้กลับมาจบที่ตัวคุณกันได้

ซึ่งหน้าที่หลักก็คือช่วยกันหมุนธรรมจักรร่วมกันนั่นเอง

 

บทบาทหน้าที่เหล่านี้

เป็นบทบาทของคนสองมิติที่เข้ามาเกิดในนามพระเจ้า

เมื่อใดก็ตามที่คุณโกหกหรือไม่มีสัจจะต่อคนอื่นๆอยู่

ก็เท่ากับว่าเมื่อนั้นคุณกำลังผิดสัจจะต่อตัวคุณเอง

ขณะที่คุณกำลังหมิ่นพระเกียรติของพระเจ้าไปด้วย

นี่จึงเป็นสาเหตุที่พระพุทธเจ้าทรงเน้นเรื่องศีลข้อ #มุสา

เพราะว่าถ้าใครทำผิดบาปแล้วมันจะเป็น #กรรมหนัก

จะต้องไปแก้กรรมหนักนี้ในแดนนรกที่แกนโลกนั่นแหละ

 

กรรมหนักเบื้องต้นก็เพราะคุณหลอกลวงผู้อื่นให้หลงผิด

ทำให้จิตหยาบและจิตวิญญาณผู้อื่นเข้าใจผิดไปตามคุณ

อันหมายถึงคุณเป็นสาเหตุให้คนอื่นเสียสมดุลนั่นเอง

 

กรรมหนักเบื้องกลางก็เพราะคุณทำผิดบาปต่อตัวคุณเอง

ในข้อหาบิดเบือนความจริงต่อจิตวิญญาณที่เร้นอยู่ข้างใน

ผิดบาปเพราะไม่สัตย์ซื่อต่อผู้มอบอำนาจให้ทำหน้าที่แทน

ซึ่งผู้มอบอำนาจต้องพลอยรับบาปกรรมนั้นเอาไว้เสียเอง

เมื่อตายแล้วจิตวิญญาณจะถูกส่งลงไป “ทำทุกข์” ในนรก

เพื่อบำบัดรักษาอาการเสียสมดุลด้วยวิธี “ไซโคโชว์”

กับทีมงานพระยายมผู้ชำนาญการด้านการบำบัดรักษา

จนยังผลให้จิตวิญญาณคือตัวคุณเองที่แท้จริงนั่นแหละ

ต้องเสียเวลาไปตกอยู่ในนรกภูมิในระหว่างภพชาติ

ทำให้เสียโอกาสและเวลาทำหน้าที่ค้ำจุนสมดุลโลกไป

 

กรรมหนักเบื้องปลายก็เพราะหมิ่นพระเกียรติพระเจ้า

ด้วยการผิดสัจจะที่ให้ไว้ต่อพระองค์ตามพันธะสัญญา 6

ซ้ำยังแสดงออกในมิติโลกทางกายภาพหรือมิติเนื้อหนัง

ที่ไม่สอดคล้องตรงจริงกับสิ่งที่เกิดขึ้นในมิติของแก่นแท้

ในฐานะที่จิตหยาบของคุณเป็นตัวแทนของจิตวิญญาณ

โดยจิตวิญญาณเป็นผู้เข้ามาทดลองในพระนามพระเจ้า

การไม่มีสัจจะของจิตหยาบจึงทำผิดบาปแบบกราวรูด

ความผิดบาปของพวกคุณจึงเป็นกรรมหนักเพราะเหตุนี้

 

ใครที่เป็นคนชอบธรรมและเชื่อเรื่องกฎแห่งกรรมอยู่

จงรับรู้ความจริงที่เรากล่าวมาให้รู้นี้เอาไว้ด้วยว่า

กรรมในเบื้องปลายที่กระทำผิดบาปต่อพระเจ้า

ซึ่งทรงเป็นพระบิดาแห่งจิตวิญญาณของคุณเองนั้น

มันคือการทำตนเป็น #ลูกกำพร้า ที่ไม่แคร์พ่อแม่เลย

ถ้ากล่าวให้มันชัดๆสำหรับลูกที่กล้าทำผิดบาปต่อพ่อแม่

ก็กล่าวได้ว่าเป็น “ลูกเนรคุณ” หรือ “บุตรอกตัญญู”

จะอ้างว่าตนไม่รู้เพราะจำพระองค์ไม่ได้แล้วนั้นมิได้

 

เพราะสามัญสำนึกของสัตว์ทุกตัวหรือคนทุกคน

จักรู้สำนึกอยู่เสมอว่าใครเป็นแม่ผู้ให้กำเนิดตนมา

รู้อยู่เสมอว่าไม่มีสิ่งใดผู้ใดสามารถให้กำเนิดตนเองได้

ต้องมีผู้ให้กำเนิดต้องมีเหตุแห่งการเกิดด้วยกันทั้งสิ้น

 

กราบพระบาทขอบพระทัยพระบิดาที่ทรงเมตตา

เอเมน สาธุ

#ปัญญาวิสุทธิ์

18/01/2024