(เพื่อยุวจิตจักรวาลยุคสุดท้าย)
พี่ๆน้องๆที่รักแห่งเราทั้งหลาย
เราจะกล่าวความจริงต่อท่านทั้งหลายว่า
พวกคุณแต่ละคน
ร้องขอโอกาสจากพระบิดาแห่งจิตวิญญาณว่า
จะอาสามาเกิดเป็น “คนสองมิติ” ในระบบโลก
เพื่อทำหน้าที่ใช้ “ขันธ์ห้า” ของจิตหยาบ
หมุนธรรมจักรในตนเองด้วยความรักบริสุทธิ์
ตอบสนองเงื่อนไขที่คนรอบข้างหยิบยื่นมาให้
ไม่ว่าจะเป็นเงื่อนไขด้านบวกหรือลบก็ตาม
ถ้าจะให้ขันธ์ห้าสั่นสะเทือนเป็นความรักบริสุทธิ์
คุณจะต้องสั่นสะเทือนจิตสามนึกด้านบวกเท่านั้น
โดยจิตสามนึกด้านบวกก็คือ
1.นึกออกแต่เรื่องดีๆที่ผ่านมาทั้งของตนและผู้อื่น
2.นึกเอาแต่สิ่งที่ดีในเชิงสร้างสรรค์และมีประโยชน์
3.นึกเองในด้านดีๆด้วยการมองโลกในแง่ดีเสมอ
ทั้งนึกออกนึกเอาและนึกเองรวม 3 นึกที่ว่านี้
มันจะทำให้คุณมีความสงบสุขทุกครั้งที่คุณ “นึก”
เช่น ถ้าคุณจำแต่เรื่องดีๆของตนและคนอื่นๆไว้
เมื่อนึกได้ทีไรจิตใจของคุณก็จะสงบเย็นเป็นสุข
หรือถ้าคุณนึกถึงแต่สิ่งดีๆที่คุณจะทำหรือจะพูด
ก็จะช่วยให้คุณคิดด้านดีหรือคิดด้านบวกต่อไปได้
คุณก็จะเป็นทั้งนักคิดนักทำนักพูดผู้สร้างสรรค์ไป
หรือถ้าคุณเป็นคนมองโลกหรือมองผู้อื่นในแง่ดี
คุณก็จะไม่ทำผิดต่อผู้อื่นเพราะนึกระแวงไปเอง
ทั้งหมดนี้เป็นเพียงตัวอย่างเพื่อแสดงให้คุณรู้ว่า
เจ้าจิตหยาบที่เป็น “สามตัวนึก” นี่แหละสำคัญนัก
สำคัญเพราะจิตทั้งสามตัวนึกเป็นบ่อเกิดพฤติกรรม
ทั้งการพูดและการกระทำในชีวิตของพวกคุณ
ตามที่เราได้กล่าวมาในบทก่อนๆแล้วว่า
#ถ้านึกดีก็คิดดีพูดดีและทำดี
#ถ้านึกชั่วก็คิดชั่วและทำชั่ว
#ถ้านึกด้านดีก็จะคิดแต่ด้านดีและทำในสิ่งที่ดี
#ถ้านึกด้านลบก็จะคิดด้านลบและทำสิ่งที่ไม่ดี
จึงมีข้อสรุปเป็นว่าธรรมดาของมนุษย์นั้น
#จิตเป็นนายกายเป็นบ่าว
#นึกด้วยจิตคิดด้วยสมอง
#เริ่มที่จิตสัมฤทธิ์ที่กาย
#จิตก็คือจิตหยาบหรือจิตมนุษย์
#กายก็คือสมองรวมทั้งกายกรรมและวจีกรรม
ข้อสรุปก็คือจิตหยาบหรือจิตมนุษย์นั้น
จะสั่นสะเทือนให้เกิดเป็นพฤติกรรมภายในก่อน
แล้วจึงขับเคลื่อนออกมาเป็นพฤติกกรรมภายนอก
ถ้าคุณนึกลบคิดลบเป็นพฤติกรรมด้านลบของจิต
คุณก็จะแสดงพฤติกรรมด้านลบออกมาภายนอก
ถ้าคุณ #ขาดสติ คือ ควบคุมอารมณ์บูดนั้นไม่ได้
คุณก็จะตกเป็นทาสของอารมณ์บูดนั้นไปทันที
อารมณ์บูดซึ่งเป็นผลจากการนึกลบคิดลบขณะนั้น
มันก็จะขับดันออกมาเป็นพฤติกรรมขยะภายนอก
เพื่อแสดงออกหรือกระทำต่อคู่กรณีของคุณ
นี่จึงเป็นขั้นตอนของการ #หมุนกรรมจักร นั่นเอง
ดังนั้น
กระบวนการ #หมุนกรรมจักรในตนเอง ของคุณ
จึงเริ่มจากการนึกลบคิดลบจนเกิดอารมณ์ไม่ดีขึ้น
เมื่ออารมณ์ไม่ดีคุณก็จะขาดสติเพราะควบคุมไม่ได้
จิตหยาบที่เสียสมดุลเพราะอารมณ์ด้านลบนี่แหละ
จะเป็นสาเหตุให้คุณใช้สติปัญญาของสมองไม่ได้
เมื่อใช้สมองไม่ได้ก็ทำให้การรู้ควรไม่ควรถูกปิดกั้น
เพราะความสามารถที่จะใช้เหตุผลเสื่อมถอยด้อยลง
การมีสำนึกถูกผิดการมีสำนึกในบาปบุญคุณโทษ
ที่จะต้องได้จาก #สัมปชัญญะปัญญา ก็เกิดขึ้นไม่ได้
เนื่องจากคุณเกิดอาการ #ขาดสติ ตั้งแต่ต้นแล้ว
เมื่อคุณหมุนกรรมจักรในตนเองครั้งใด
พฤติกรรมด้านลบหรือพฤติกรรมขยะที่ไม่พึงประสงค์
ที่คุณนำมันออกมาแสดงภายนอกเป็นวจีกรรมกายกรรม
มันก็จะเป็นเงื่อนไขด้านลบของคู่กรณีของคุณ
ถ้าคนๆนั้นเขายอมรับพฤติกรรมขยะของคุณไม่ได้
เขาก็จะใช้มันเป็นเงื่อนไขเพื่อหมุนกรรมจักรในตนเอง
ตามแบบเดียวกันกับที่มันเกิดขึ้นภายในจิตใจคุณ
จนท้ายที่สุดเขาก็จะขับเคลื่อนพฤติกรรมขยะออกมา
เพื่อแสดงออกหรือกระทำพฤติกรรมด้านลบต่อคุณ
เพราะเขาขาดสติเหมือนกันเพราะนึกลบคิดลบเช่นกัน
ดังนั้น
การเป็นเงื่อนไขด้านลบของกันและกันตามที่ว่านี้
ไม่ว่าใครหรือผู้ใดจะเป็นฝ่ายเริ่มต้นก่อนใครก็ตาม
มันก็คือการร่วมกัน “หมุนกรรมจักร” โดยแท้
ซึ่งทั้งสองฝ่ายไม่มีใครได้ประโยชน์ในสองมิติเลย
ในมิติโลกคือการขาดความเป็นหนึ่งเดียวกัน
ในมิติทางพลังงานคือช่วยกันค้ำจุนสมดุลโลกมิได้
ที่สำคัญคือช่วยกันยกระดับจิตหยาบให้สูงขึ้น
เพื่อเป็นหนึ่งเดียวกับจิตวิญญาณซึ่งมี 6D ไม่ได้
ที่ผ่านมาเรากล่าวความจริงให้พวกคุณรู้ว่า
หน้าที่ของมนุษย์ก็คือต้องหมุนธรรมจักรร่วมกัน
ด้วย #ความรักบริสุทธิ์ ในชีวิตประจำวันกันให้ได้
รักบริสุทธิ์คือรักเพื่อให้ คือรักที่ไม่มีเงื่อนไข
ซึ่งผลกรรมในมิติทางพลังงานที่คุณผลิตร่วมกันนั้น
มันจะเป็นพลังงานสะอาดเพราะไม่มีใครเป็นเจ้าของ
โลกจึงจะสามารถนำเอาใช้ประโยชน์ได้เต็ม 100%
ในบทเรียนบทนี้
เราจึงนำเอากระบวนการหมุนกรรมจักรของมนุษย์
มาตีแผ่ให้ได้รับรู้เพื่อเรียนรู้กันเอาไว้ด้วยว่า
มันเกิดขึ้นได้อย่างไรมีขั้นตอนอย่างไรบ้าง
เพื่อคุณจะได้ใช้ความรู้นี้นำไปปรับแก้หรือป้องกัน
มิให้มีการหมุนกรรมจักรเกิดขึ้นง่ายเกินไปในชีวิต
เพื่อให้คุณได้รู้ว่าจะต้องใช้มหาสติในขั้นตอนไหน
ได้รู้ว่าความล้มเหลวในการหมุนธรรมจักรคืออะไร
ด้วยแสงสว่างส่องทางจากตะเกียงที่เราจุดให้นี้
สื่อถ่ายทอดคลื่นความคิดในระบบจิตสู่จิต
จากองค์จิตจักรวาลดวงใหญ่
ปัญญาวิสุทธิ์
4/07/2566
พี่ๆน้องๆที่รักแห่งเราทั้งหลาย
เราจะกล่าวความจริงต่อท่านทั้งหลายว่า
พวกคุณแต่ละคน
ร้องขอโอกาสจากพระบิดาแห่งจิตวิญญาณว่า
จะอาสามาเกิดเป็น “คนสองมิติ” ในระบบโลก
เพื่อทำหน้าที่ใช้ “ขันธ์ห้า” ของจิตหยาบ
หมุนธรรมจักรในตนเองด้วยความรักบริสุทธิ์
ตอบสนองเงื่อนไขที่คนรอบข้างหยิบยื่นมาให้
ไม่ว่าจะเป็นเงื่อนไขด้านบวกหรือลบก็ตาม
ถ้าจะให้ขันธ์ห้าสั่นสะเทือนเป็นความรักบริสุทธิ์
คุณจะต้องสั่นสะเทือนจิตสามนึกด้านบวกเท่านั้น
โดยจิตสามนึกด้านบวกก็คือ
1.นึกออกแต่เรื่องดีๆที่ผ่านมาทั้งของตนและผู้อื่น
2.นึกเอาแต่สิ่งที่ดีในเชิงสร้างสรรค์และมีประโยชน์
3.นึกเองในด้านดีๆด้วยการมองโลกในแง่ดีเสมอ
ทั้งนึกออกนึกเอาและนึกเองรวม 3 นึกที่ว่านี้
มันจะทำให้คุณมีความสงบสุขทุกครั้งที่คุณ “นึก”
เช่น ถ้าคุณจำแต่เรื่องดีๆของตนและคนอื่นๆไว้
เมื่อนึกได้ทีไรจิตใจของคุณก็จะสงบเย็นเป็นสุข
หรือถ้าคุณนึกถึงแต่สิ่งดีๆที่คุณจะทำหรือจะพูด
ก็จะช่วยให้คุณคิดด้านดีหรือคิดด้านบวกต่อไปได้
คุณก็จะเป็นทั้งนักคิดนักทำนักพูดผู้สร้างสรรค์ไป
หรือถ้าคุณเป็นคนมองโลกหรือมองผู้อื่นในแง่ดี
คุณก็จะไม่ทำผิดต่อผู้อื่นเพราะนึกระแวงไปเอง
ทั้งหมดนี้เป็นเพียงตัวอย่างเพื่อแสดงให้คุณรู้ว่า
เจ้าจิตหยาบที่เป็น “สามตัวนึก” นี่แหละสำคัญนัก
สำคัญเพราะจิตทั้งสามตัวนึกเป็นบ่อเกิดพฤติกรรม
ทั้งการพูดและการกระทำในชีวิตของพวกคุณ
ตามที่เราได้กล่าวมาในบทก่อนๆแล้วว่า
#ถ้านึกดีก็คิดดีพูดดีและทำดี
#ถ้านึกชั่วก็คิดชั่วและทำชั่ว
#ถ้านึกด้านดีก็จะคิดแต่ด้านดีและทำในสิ่งที่ดี
#ถ้านึกด้านลบก็จะคิดด้านลบและทำสิ่งที่ไม่ดี
จึงมีข้อสรุปเป็นว่าธรรมดาของมนุษย์นั้น
#จิตเป็นนายกายเป็นบ่าว
#นึกด้วยจิตคิดด้วยสมอง
#เริ่มที่จิตสัมฤทธิ์ที่กาย
#จิตก็คือจิตหยาบหรือจิตมนุษย์
#กายก็คือสมองรวมทั้งกายกรรมและวจีกรรม
ข้อสรุปก็คือจิตหยาบหรือจิตมนุษย์นั้น
จะสั่นสะเทือนให้เกิดเป็นพฤติกรรมภายในก่อน
แล้วจึงขับเคลื่อนออกมาเป็นพฤติกกรรมภายนอก
ถ้าคุณนึกลบคิดลบเป็นพฤติกรรมด้านลบของจิต
คุณก็จะแสดงพฤติกรรมด้านลบออกมาภายนอก
ถ้าคุณ #ขาดสติ คือ ควบคุมอารมณ์บูดนั้นไม่ได้
คุณก็จะตกเป็นทาสของอารมณ์บูดนั้นไปทันที
อารมณ์บูดซึ่งเป็นผลจากการนึกลบคิดลบขณะนั้น
มันก็จะขับดันออกมาเป็นพฤติกรรมขยะภายนอก
เพื่อแสดงออกหรือกระทำต่อคู่กรณีของคุณ
นี่จึงเป็นขั้นตอนของการ #หมุนกรรมจักร นั่นเอง
ดังนั้น
กระบวนการ #หมุนกรรมจักรในตนเอง ของคุณ
จึงเริ่มจากการนึกลบคิดลบจนเกิดอารมณ์ไม่ดีขึ้น
เมื่ออารมณ์ไม่ดีคุณก็จะขาดสติเพราะควบคุมไม่ได้
จิตหยาบที่เสียสมดุลเพราะอารมณ์ด้านลบนี่แหละ
จะเป็นสาเหตุให้คุณใช้สติปัญญาของสมองไม่ได้
เมื่อใช้สมองไม่ได้ก็ทำให้การรู้ควรไม่ควรถูกปิดกั้น
เพราะความสามารถที่จะใช้เหตุผลเสื่อมถอยด้อยลง
การมีสำนึกถูกผิดการมีสำนึกในบาปบุญคุณโทษ
ที่จะต้องได้จาก #สัมปชัญญะปัญญา ก็เกิดขึ้นไม่ได้
เนื่องจากคุณเกิดอาการ #ขาดสติ ตั้งแต่ต้นแล้ว
เมื่อคุณหมุนกรรมจักรในตนเองครั้งใด
พฤติกรรมด้านลบหรือพฤติกรรมขยะที่ไม่พึงประสงค์
ที่คุณนำมันออกมาแสดงภายนอกเป็นวจีกรรมกายกรรม
มันก็จะเป็นเงื่อนไขด้านลบของคู่กรณีของคุณ
ถ้าคนๆนั้นเขายอมรับพฤติกรรมขยะของคุณไม่ได้
เขาก็จะใช้มันเป็นเงื่อนไขเพื่อหมุนกรรมจักรในตนเอง
ตามแบบเดียวกันกับที่มันเกิดขึ้นภายในจิตใจคุณ
จนท้ายที่สุดเขาก็จะขับเคลื่อนพฤติกรรมขยะออกมา
เพื่อแสดงออกหรือกระทำพฤติกรรมด้านลบต่อคุณ
เพราะเขาขาดสติเหมือนกันเพราะนึกลบคิดลบเช่นกัน
ดังนั้น
การเป็นเงื่อนไขด้านลบของกันและกันตามที่ว่านี้
ไม่ว่าใครหรือผู้ใดจะเป็นฝ่ายเริ่มต้นก่อนใครก็ตาม
มันก็คือการร่วมกัน “หมุนกรรมจักร” โดยแท้
ซึ่งทั้งสองฝ่ายไม่มีใครได้ประโยชน์ในสองมิติเลย
ในมิติโลกคือการขาดความเป็นหนึ่งเดียวกัน
ในมิติทางพลังงานคือช่วยกันค้ำจุนสมดุลโลกมิได้
ที่สำคัญคือช่วยกันยกระดับจิตหยาบให้สูงขึ้น
เพื่อเป็นหนึ่งเดียวกับจิตวิญญาณซึ่งมี 6D ไม่ได้
ที่ผ่านมาเรากล่าวความจริงให้พวกคุณรู้ว่า
หน้าที่ของมนุษย์ก็คือต้องหมุนธรรมจักรร่วมกัน
ด้วย #ความรักบริสุทธิ์ ในชีวิตประจำวันกันให้ได้
รักบริสุทธิ์คือรักเพื่อให้ คือรักที่ไม่มีเงื่อนไข
ซึ่งผลกรรมในมิติทางพลังงานที่คุณผลิตร่วมกันนั้น
มันจะเป็นพลังงานสะอาดเพราะไม่มีใครเป็นเจ้าของ
โลกจึงจะสามารถนำเอาใช้ประโยชน์ได้เต็ม 100%
ในบทเรียนบทนี้
เราจึงนำเอากระบวนการหมุนกรรมจักรของมนุษย์
มาตีแผ่ให้ได้รับรู้เพื่อเรียนรู้กันเอาไว้ด้วยว่า
มันเกิดขึ้นได้อย่างไรมีขั้นตอนอย่างไรบ้าง
เพื่อคุณจะได้ใช้ความรู้นี้นำไปปรับแก้หรือป้องกัน
มิให้มีการหมุนกรรมจักรเกิดขึ้นง่ายเกินไปในชีวิต
เพื่อให้คุณได้รู้ว่าจะต้องใช้มหาสติในขั้นตอนไหน
ได้รู้ว่าความล้มเหลวในการหมุนธรรมจักรคืออะไร
ด้วยแสงสว่างส่องทางจากตะเกียงที่เราจุดให้นี้
สื่อถ่ายทอดคลื่นความคิดในระบบจิตสู่จิต
จากองค์จิตจักรวาลดวงใหญ่
ปัญญาวิสุทธิ์
4/07/2566
