12 กรกฎาคม 2566

คัมภีร์อนุตรธรรมภาคจิตจักรวาล 12/07/2023

(เพื่อยุวจิตจักรวาลยุคสุดท้าย)
 
พี่ๆน้องๆที่รักแห่งเราทั้งหลาย
เราจะกล่าวความจริงต่อท่านทั้งหลายว่า
 
เราเปิดเผยความจริงที่เป็นความลับของโลก
ถึงสาเหตุที่ทำให้มนุษย์โลกทุกคนต้องตาย
ทั้งๆที่พระเจ้ามิได้ทรงกำหนดให้มีหน้าที่ตาย
โดยเรากล่าวไว้ถึงประการที่ 4 คือขาดพลังงาน
ซึ่งพลังงานที่ขาดแล้วทำให้ต้องตาย
เราได้กล่าวไว้ให้รู้แล้ว 3 ประการ นั่นคือ
 
1.เพราะไม่กินพืชผักผลไม้และเมล็ดธัญพืช
ซึ่งพระเจ้าทรงปลูกไว้ให้บนโลกอย่างอุดมแล้ว
แต่ไปกินโปรตีนที่ได้จากเลือดเนื้อของสัตว์
ที่มันไม่ใช่อาหารบำรุง DNA ของพระเจ้าเลย
จึงทำให้ร่างกายเติบโตไม่ได้แต่ต้องเติบตายแทน
มิหนำซ้ำโปรตีนที่ได้จากสัตว์ที่กินเข้าไปนั้น
มันจะไปบำรุง DNA ของสัตว์ร้ายในกายมนุษย์
ซึ่งถูกถ่ายทอดพันธุกรรมมาจากบรรพบุรุษมนุษย์
ในการตัดต่อพันธุกรรมโดยศัตรูจากต่างดาว
 
เซลล์อวัยวะร่างกายส่วนไหนจุดใด
ที่โชคร้ายมีดีเอ็นเอของสัตว์ร้ายปรากฏอยู่
เซลล์ตรงนั้นมันจะเจริญเติบโตกว่าเซลล์ข้างเคียง
ถ้าหากใครโชคดีมันก็จะเป็นแค่ “เนื้องอก” ชนิดดี
ที่สามารถจะให้หมอผ่าตัดเอามันทิ้งออกไปได้
ถ้าหากโชคร้ายมันก็จะกลายเป็นเนื้องอกชนิดเลว
ที่วงการแพทย์เรียกกันว่า “มะเร็ง” นั่นเอง
 
ถ้าคุณไม่อยากตายเร็ว
ถ้าต้องการปลอดภัยจากโรคมะเร็ง
คุณจึงงดทานเลือดเนื้อของสัตว์เด็ดขาด
มีบุตรหลานกุมารน้อยก็อย่าป้อนเนื้อสัตว์ให้เขากิน
ถ้าจะให้ลูกหลานดื่มนมสัตว์ที่ไม่ใช่นมแม่
ก็ควรให้ลูกหลานดื่มได้หลังจากหย่านมแม่แล้ว
โดยเมื่อกุมารน้อยอายุครบ 3 ขวบเมื่อไหร่
ก็ควรให้เขางดดื่มนมสัตว์อย่างเด็ดขาด
 
อย่ากลัวว่าถ้าลูกไม่ดื่มนมแล้วเขาจะไม่เติบโต
ถ้าไม่ดื่มนมสัตว์แล้วกระดูกจะไม่แข็งแรง
เพราะนั่นเป็นแค่คำโฆษณาขายของเท่านั้นเอง
คุณดูสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมทั้งหลายเอาไว้บ้างนะ
เมื่อลูกๆของพวกเขาหย่านมแม่เรียบร้อยแล้วนั้น
พวกเขาเจริญเติบโตได้หรือแข็งแรงดีหรือเปล่า
มีสัตว์ตัวไหนได้กินนมเป็นอาหารเสริมกันบ้าง
พวกสัตว์ไม่มีโรงงานผลิตนมขายใช่หรือเปล่า
 
คุณสังเกตดูก็ได้ว่า
ผู้ใหญ่หลายคนจะเกิดอาการท้องอืดท้องเสียเสมอ
ถ้าดื่มนมเข้าไปไม่ว่าจะเป็นนมประเภทใดชนิดใด
แม้ว่านมที่ดื่มนั้นมิใช่นมบูดหรือนมเน่าเสียก็ตาม
แต่ที่เกิดอาการท้องเสียเพราะนมเข้าไปบูดในท้อง
เหตุที่นมบูดในท้องเพราะในท้องไม่มีน้ำย่อยน้ำนม
เมื่อดื่มนมเข้าไปแล้วไม่มีตัวย่อยนมก็เลยบูดเน่า
 
คุณจึงต้องรู้ว่า
พระเจ้าทรงออกแบบให้
มนุษย์ทุกคนตั้งแต่วัยทารกแรกเกิดจนสามขวบ
มีน้ำย่อยนมจากเต้าของแม่ด้วยกันทุกคน
เพราะโปรตีนและสารอาหารในน้ำนมแม่มีเพียบ
แต่เมื่อเด็กน้อยคนนั้นโตขึ้นจนครบสามขวบ
ซึ่งจิตหยาบกับกายหยาบยกระดับถึงมิติที่ 4D ได้
จึงพร้อมต่อการยกระดับสู่มิติที่ 5D แล้ว
 
กายสังขารที่เป็นเครื่องยนต์แห่งกรรมรูปธรรมมนุษย์
จำเป็นจะต้องได้รับสารอาหารบริสุทธิ์เข้าไปเท่านั้น
จิตหยาบก็ต้องสั่นสะเทือนจิตสามนึกทางด้านบวก
สั่นด้วยรักบริสุทธิ์คือ #รักเพื่อให้ ควบคู่กันไปด้วย
 
คำว่า “อาหารบริสุทธิ์” เราหมายถึงต้องไม่ใช่เนื้อสัตว์
แต่จักต้องเป็นสิ่งที่ได้จากพืชพรรณธัญญาหารเท่านั้น
เพราะพวกเขาดูดซับรับเอาอาหารจากดินของพระเจ้า
เข้าไปหล่อเลี้ยงลำต้นกิ่งก้านใบดอกผลจนเติบโตได้
โดยสารอาหารจากดินซึมผ่านรากของเขาเข้าไปเอง
พวกเขาไม่ได้ฆ่าไม้ได้ทำร้ายไม่ได้เบียดเบียนใคร
เพื่อให้ได้อาหารมาเหมือนการฆ่าสัตว์ของมนุษย์เลย
 
ดังนั้น
การกินอาหารไม่ตรงกับที่พระองค์ทรงออกแบบไว้
จึงเป็นสาเหตุการตายของจิตวิญญาณมนุษย์ด้วย
 
2.มนุษย์ต้องตายเพราะขาดออกซิเจนหายใจ
ซึ่งเป็นการตายแบบผ่อนส่งคือร่างกายเฉาตายช้าๆ
เนื่องจากปริมาณก๊าซออกซิเจนในระบบโลกไม่คงที่
แถมยังมีก๊าซพิษจากการเผาไหม้ของพลาสติก
จากการเผาไหม้ของสารเคมีบางอย่างจากโรงงาน
เป็นตัวการทำลายระบบการหายใจของมนุษย์ด้วย
 
สาเหตุที่โลกขาดออกซิเจนก็เพราะว่า
มนุษย์โลกรักกันไม่ได้อภัยกันไม่เป็น
จึงสอบตกบททดสอบจิตสามนึกด้านบวก
จนไม่สามารถหมุนธรรมจักรร่วมกันได้
 
นอกจากนั้น
มนุษย์ส่วนใหญ่ไม่รู้ว่าหน้าที่ของคนชอบธรรมนั้น
การปฏิบัติธรรมที่ถูกต้องมิใช่ทำแค่ที่ทำๆกันอยู่
นั่นคือไปวัดถือศีลฟังธรรมสวดมนต์ตักบาตรขอพร
นั่งกรรมฐานสมาธิ อธิษฐาน ภาวนา สวมผ้าขาว
วัตรปฏิบัติเหล่านี้แม้จะดูดีมีความขลังอยู่ไม่น้อย
แต่มันก็เป็นการปฏิบัติทำตามกิเลสของตนทั้งสิ้น
 
ผลกรรมในมิติแก่นแท้จึงเป็นพลังงานที่ไม่สะอาด
เพราะมันมีคุณสมบัติกรรมและมีเจ้าของกำกับอยู่
โลกอันหมายถึงดาวเคราะห์ดวงนี้และเวไนยสัตว์
ไม่สามารถที่จะนำไปใช้ประโยชน์อย่างเสรีได้เลย
ซึ่งต่างจากก๊าซออกซิเจนในอากาศที่บริสุทธิ์กว่า
เพราะไม่มีใครเป็นเจ้าของใครใคร่จะใช้ก็ใช้ได้
นี่คือนัยความหมายของคำว่า “สะอาด” นั่นล่ะคุณ
 
เพราะพลังงานจิตด้านบวก
จากการสั่นสะเทือนจิตสามนึกด้านบวกบริสุทธิ์
ด้วยการขับเคลื่อนขันธ์ห้าของจิตหยาบนั้น
มันเป็นกระบวนการ 2 มิติที่พระเจ้าทรงออกแบบไว้
ให้มนุษย์แสดงออกหรือกระทำพฤติกรรมภายนอก
ที่พึงประสงค์ของคนรอบข้างในมิติแห่งเนื้อหนัง
ในรูปแบบของกายกรรมและวจีกรรมคำพูดคำจา
กับสั่นสะเทือนในมิติทางพลังงานด้านจิตวิญญาณ
เพื่อผลิตพลังงานจิตที่เป็นคลื่นความถี่ทางไฟฟ้า
ซึ่งพระศาสดาทรงเรียกว่า #วิญญาณ ที่เป็นบวก
 
คำว่า “วิญญาณ” หมายถึง “พลังงานสะอาด”
ที่ไม่มีคำว่า “จิต” นำหน้าเพราะเป็นคลื่นพลังงาน
ที่ไม่มีคุณสมบัติใดๆของจิตกำกับอยู่ในนั้นเลย
 
3.มนุษย์ขาดพลังงานในระดับเซลล์
จึงทำให้สังขารร่างกายร่วงโรยอย่างรวดเร็ว
 
สาเหตุที่สำคัญเป็นเพราะว่า
มนุษย์ไม่ยอมจะสั่นสะเทือนเคลื่อนไหวร่างกาย
ไม่ว่าจะเป็นการออกกำลังกายหรือใช้กำลังทำงาน
ถ้าอายุยังน้อยที่เป็นแบบนี้ก็เพราะความเกียจคร้าน
ถ้าอายุมากหน่อยก็หลอกตัวเองว่าแก่แล้วชราแล้ว
จึงทำการ “เกษียณอายุตัวเอง” หรือตัดรอนอายุขัย
ด้วยการหยุดงานราษฏร์งานหลวงนั่งนอนอยู่กับบ้าน
จึงหยุดการเติบโตของร่างกายไว้ ณ บัดนั้น
ทั้งหยุดงานหรือเกษียณอายุราชการไปพร้อมกัน
 
สังเกตสิคุณ
คนที่เกษียณงานเกษียณก็จะเกษียณอายุไปด้วย
ไม่พบหน้าคาตา (ไม่ใช่ค่าตานะ) แผล็บเดียวแหละ
ก็กลายเป็นคนแก่หง่อมผิดหูผิดตากันไปเลย
พวกนี้จะแก่ชราและตายเร็วกว่าที่ควรจะเป็นทุกราย
ยกเว้นคนที่เกษียณงานราชการหรืองานธุรกิจการค้า
แต่แบ่งเวลาไปออกกำลังกายแบ่งเวลาไปทำสวนทำไร่
ไม่ได้อยู่นิ่งเฉยโดยไม่ทำอะไรเลยเหมือนพวกแรก
ก็จะมีอายุขัยยืนยาวหน้าตาอิ่มเอิบแจ่มใสมากกว่า
 
พวกคุณต้องรู้ว่า
การออกกำลังกายจนได้เหงื่อหรือทำงานให้ได้งาน
คือการประกอบสัมมาอาชีวะตามวิถีที่ถูกต้องแล้ว
เพราะเซลล์อวัยวะร่างกายและเส้นเลือดของมนุษย์
ถ้าไม่หยุดอยู่นิ่งเฉยแต่มีการสั่นสะเทือนมีการยืดหยุ่น
มีการเคลื่อนไหวอย่างสม่ำเสมออยู่ตลอดเวลา
ผลการสั่นสะเทือนนั้นมันจะเกิดพลังอำนาจขึ้นมาเสมอ
พลังอำนาจในระดับเซลล์นั้นจะทำให้เซลล์แข็งแรงขึ้น
เพราะมีพลังงานหล่อเลี้ยงอย่างเพียงพอจึงไม่อ่อนล้า
 
กล้ามเนื้อและเส้นเลือดที่สั่นสะเทือนในแนวนอน
ที่เป็นแบบยืดหดนั้นจะทำให้เกิดความแข็งแรงทนทาน
จะไม่ฉีกขาดและไม่ปริแตกง่ายจนเป็นอันตรายถึงชีวิต
คนที่หยุดนิ่งเฉยไม่ทำอะไรเลยจะเป็นคนขี้โรค
คนขี้โรคจะเจ็บไข้ได้ป่วยบ่อยเพราะภูมิต้านทานต่ำ
คนที่เจ็บป่วยเป็นประจำจะทำให้อายุสั้นกว่าคนปกติ
เห็นหรือยังว่าสาเหตุที่มนุษย์ต้องตายจากกรณีนี้
เพียงแค่อยู่นิ่งเฉยไม่ทำอะไรเลยก็ตายได้เหมือนกัน
ตายช้าตายเร็วอยู่ที่ว่ามีพลังงานสะสมมากหรือน้อย
 
ดูอย่างเด็กๆทั้งหลายก็ได้
พวกเขาส่วนใหญ่จะมีนิสัยซุกซนไม่อยู่นิ่ง
เดี๋ยวก็เดินเดี๋ยวก็วิ่งเล่นสนุกกันจนลืมทานข้าว
พวกเขาจึงเติบโตเป็นหนุ่มเป็นสาวกันเร็วไว
ตรงกันข้ามกับคนที่เป็นผู้ใหญ่ซึ่งพฤตินิสัยเปลี่ยน
นั่งทำงานอยู่ทั้งวันอ้างว่าขยันทำมาหากิน
เดี๋ยวป่วยด้วยโรคนั้นโรคนี้ปวดตรงนั้นเมื่อยตรงนี้
ต่างกับตอนที่ยังเป็นวัยรุ่นหนุ่มสาวเลยทีเดียว
แถมไม่รู้ตัวว่ากายสังขารกำลังเปลี่ยนไปในทางต่ำ
 
ทุกคนเป็นแบบเดียวกันเป็นเหมือนกันหมด
จึงหลอกตนเองกันว่าเป็นเพราะตนเริ่มชราแล้ว
ทั้งๆที่พระเจ้าไม่ได้ทรงมีพระประสงค์เช่นนั้นเลย
เกิดเพื่อตายให้เสียชาติเกิดให้หนักแผ่นดินทำไม
ทรงให้เวลามาเกิดนาน 60,000 ปีเท่ากันทุกคน
เพื่อทำหน้าที่เป็น #ยามประจำโลก หรือยามเฝ้าโลก
พวกคุณจะละทิ้งโลกทิ้งหน้าที่ไปก่อนกำหนดไม่ได้
นอกจากจะมีเด็กๆจากฟ้าสีครามเข้ามาทำหน้าที่แทน
เพื่อเริ่มต้นยุคพลังงานใหม่แล้วคุณจึงกลับบ้านได้
 
สื่อถ่ายทอดคลื่นความคิดในระบบจิตสู่จิต
จากองค์จิตจักรวาลดวงใหญ่
 
ปัญญาวิสุทธิ์
12/07/2566