(เพื่อยุวจิตจักรวาลยุคสุดท้าย)
พี่ๆน้องๆที่รักแห่งเราทั้งหลาย
เราจะกล่าวความจริงต่อท่านทั้งหลายว่า
เราเปิดเผยความจริงที่เป็นความลับของโลก
ถึงสาเหตุที่ทำให้มนุษย์โลกทุกคนต้องตาย
ทั้งๆที่พระเจ้ามิได้ทรงกำหนดให้มีหน้าที่ตาย
โดยเรากล่าวไว้ถึงประการที่ 4 คือขาดพลังงาน
ซึ่งพลังงานที่ร่างกายขาดแล้วจะทำให้ต้องตาย
เราได้กล่าวเปิดเผยไว้ให้รู้ไปแล้ว 3 ประการ
ในบทนี้จะขอกล่าวถึงสาเหตุประการที่สี่ให้ได้รู้
4.เพราะมนุษย์ได้รับความรักจากพระสุริยะไม่พอ
ความรักจาก “พระสุริยะเทพ” ที่ว่านี้เราหมายถึง
#ความร้อนแรงและแสงสว่าง จากดวงอาทิตย์
เพราะมนุษย์เป็นคนขี้ร้อนเป็นโรคกลัวแสงแดด
เป็นคนชอบอยู่แต่ในอาคารชอบทำงานในที่ร่ม
จนยังผลให้เครื่องยนต์แห่งกรรมรูปธรรมมนุษย์
ซึ่งเป็นเหมือนดั่งรถยนต์ทั้งระบบของเจ้าของรถ
โดยเจ้าของรถก็คือ #จิตวิญญาณ หรือตัวคุณเอง
มันขาดความพร้อมที่จะใช้งานอย่างสมบุกสมบัน
โดยเฉพาะเครื่องยนต์กลไกที่จะใช้ขับเคลื่อน
ให้เกิดพฤติกรรมใดๆในสองมิติเพื่อหมุนธรรมจักร
ถ้า “จิตหยาบ” ทำหน้าที่เป็นคนขับรับใช้เจ้าของ
พอตื่นนอนตอนเช้าขึ้นมาแล้วก็สตาร์ทเครื่องยนต์
สตาร์ทปุ้ปใช้งานปั้ปทำการเหยียบคันเร่งเต็มพิกัด
โดยไม่รอให้เครื่องยนต์แห่งกรรม “อุ่นร้อน” ก่อน
ด้วยการยืดเส้นสายออกกำลังกายกล้ามเนื้อเบาๆ
ให้เส้นเลือดเส้นเอ็นและมัดกล้ามเนื้อได้ยืดหยุ่น
ซึ่งการสั่นสะเทือนยืดหดนี้จะทำให้พร้อมใช้งานได้
จะไม่มีการอักเสบไม่ฉีกขาดและไม่เปราะแตกด้วย
ดังนั้น
การตื่นนอนตอนเช้าขึ้นมาในทุกวัน
มนุษย์ส่วนใหญ่ขาดการยืดหยุ่นอุ่นร้อนร่างกาย
น้ำบริสุทธิ์สะอาดจากธรรมชาติก็ไม่ได้ดื่มเข้าไป
เพื่อทำละลายสารอาหารและไม่ใช่สารอาหาร
ที่ตกค้างอยู่ภายในร่างกายตั้งแต่วันวานจนข้ามคืน
ให้น้ำช่วยขับถ่ายสลายมันออกมาทิ้งไปให้หมด
สารตกค้างข้ามคืนตัวใดก็ตามที่ยังมีประโยชน์อยู่
น้ำจะช่วยนำสารนั้นสู่กระบวนการดูดซึมของเซลล์
เพื่อนำมันไปใช้ประโยชน์ต่อไปมิให้เสียของ
นอกจากมนุษย์ตื่นเช้าขึ้นมาน้ำก็ไม่ได้ดื่ม
การอบอุ่นร่างกายตนเองด้วยการยืดหยุ่นก็มิได้ทำ
แถมยัง “นอนตื่นสาย” กันเสียอีกต่างหาก
ส่วนใหญ่จะนอนตื่นสายเพราะปกติเป็นคนนอนดึก
เมื่อนอนดึกก็ทำให้อวัยวะร่างกายใช้งานหนักมาก
เมื่อร่างกายใช้งานหนักมากก็เกิดอาการอ่อนเพลีย
เมื่ออ่อนเพลียก็จะเกิดอาการ “นอนนาน” นั่นเอง
การ “นอนนาน” หมายถึงนอนหลับแล้วไม่อยากตื่น
ไม่อยากจะตื่นแม้ว่าเวลาขณะนั้นจะต้องตื่นกันแล้ว
อาการพรวดพราดลุกขึ้นในตอนเช้าจึงเกิดขึ้นเสมอ
ทำให้เสี่ยงตายจากการ #หัวใจวาย ฉับพลันขั้นสูง
เพราะหัวใจเปลี่ยนจังหวะการเต้นแบบฉุดกระชาก
ไม่ต่างจากร่างกายคนชราทำงานหนักจนเกินกำลัง
ถ้าไม่พังพาบก็เลี้ยงไม่โตอีกต่อไปแล้วนั่นแหละ
มนุษย์ในภูมิภาคเขตร้อนตรงบริเวณใกล้เส้นศูนย์สูตร
ส่วนใหญ่จะขาดแสงแดดเฉลี่ย 20% ต่อคนต่อวัน
เพราะชอบทำงานในร่มและออกกำลังกายในร่มกัน
นิสัยการใช้ชีวิตแบบนี้ยังผลให้ “ต้นคน” ขาดแดด
ถ้าหากสิ่งมีชีวิตที่เป็น “ต้นไม้” ขาดแสงแดดไม่ได้
ต้นคนที่ต้องเติบโตก็จะขาดแสงแดดไม่ได้เช่นกัน
แม้คนสังเคราะห์แสงปรุงอาหารเหมือนต้นไม้ไม่ได้
แต่สูตรทางเคมีของคลอโรฟิลที่เป็นสีเขียวของต้นไม้
กับสูตรทางเคมีของ #ฮีโมโกลบิล ในเม็ดเลือดแดง
ก็เป็นสูตรที่มีองค์ประกอบทุกอย่างไม่ต่างกันเลย
ต่างกันแค่ในพืชเป็นสีเขียวในมนุษย์เป็นสีแดงเท่านั้น
เม็ดเลือดแดงของมนุษย์ที่มีสาร “ฮีโมโกลบิล”
ต้องการพลังงานหรือรังสีจากแสงแดดช่วยกระตุ้น
ให้เกิดกระบวนการเมต้าโบลิซั่มในเซลล์ด้วยเช่นกัน
โดยเฉพาะกลางวันนั้นมนุษย์จะมุดอยู่แต่ในถ้ำไม่ได้
ประเภทเข้าถ้ำมืดปิดวาจาปิดอายตนะและหลบแดด
นานวันเข้านอกจากจะทำให้ร่างกายเสื่อมโทรมแล้ว
ก้อนสมองทั้งระบบที่เปรียบเสมือนยอดไม้ส่วนบนสุด
ก็จะหยุดเติบโตจนเหี่ยวเฉาพระขาดปัจจัยหล่อเลี้ยง
ขาดปัจจัยตัวแรก คือ น้ำดื่มบริสุทธิ์ (ไม่ใช่น้ำฉี่)
ขาดปัจจัยตัวที่สอง คือ สารอาหารที่ต้องบริโภค
ขาดปัจจัยตัวที่สาม คือ ขาดก๊าซออกซิเจน
ขาดปัจจัยตัวที่สี่ คือ ขาดแสงแดดหรือแสงตะวัน
ขาดปัจจัยตัวที่ห้า คือ ขาดการอุ่นร้อนของร่างกาย
เพราะนั่งๆนอนๆอยู่ในถ้ำนานไม่ได้ยืดหยุ่นร่างกาย
เมื่อโผล่ออกมาจากถ้ำกลับคืนสู่แสงตะวันตามปกติ
ถ้าหากสามารถรอดชีวิตจากการขาดปัจจัยทั้งห้าได้
ก็จะเกิดอาการไม่ต่างจาก “นกหลงฟ้า ปลาหลงน้ำ”
คือมึนงงเพราะประสาทสมองสับสนเหมือนคนเพี้ยน
เพราะร่างกายขาดปัจจัยทั้งห้าที่เราว่ามานี้แหละคุณ
โดยเฉพาะพลังรังสีที่มนุษย์จะต้องได้จากแสงแดด
มิใช่แค่ใช้กระตุ้นให้เกิดวิตามินดีบำรุงกระดูกและฟัน
พระสุริยะยังมีคลื่นพลังงานอื่นที่จะมอบให้มนุษย์อีก
เพราะดวงอาทิตย์ของโลกของมนุษย์ทุกคนนี้นั้น
เป็นแหล่งพลังงานที่สมบูรณ์แบบที่สุดในจักรวาล
ถ้าคุณมีความสามารถพิเศษจ้องมองดวงอาทิตย์ได้
เราขอย้ำว่าอย่าอุตริไปฝืนทำถ้าไม่มีความสามารถ
เพราะคุณจะตาบอดสนิทจากการลบหลู่พระองค์นะ
นอกจากจะมีผู้ทรงฤทธิ์โดยพระบิดาทรงพาคุณทำ
ถ้าคุณได้ชมพระบารมีพระองค์ด้วยตาตนเอง
คุณจะสังเกตพบว่าดวงอาทิตย์จะมีแสงสีต่างๆ
หมุนวนเข้าออกอยู่รอบๆและสลับสีกันอย่างต่อเนื่อง
แต่ละสีเป็นคลื่นความถี่แต่ละชนิดที่ร่างกายต้องการ
ล้วนอยู่ในมิติทางพลังงานที่ร่างกายขาดมันไม่ได้
ศิษย์จิตจักรวาลหลายรายเคยได้รับพลังงานเหล่านี้
จากพระสุริยะช่วยเติมเต็มในส่วนที่ขาดกันมาแล้ว
พวกคุณจะต้องรู้ว่า
เครื่องยนต์แห่งกรรมรูปธรรมมนุษย์ทุกคนนั้น
พระเจ้าทรงออกแบบเอาไว้ให้เรียบร้อยแล้ว
เพื่อให้มีการเชื่อมต่อกันกับจักรวาลแบบอัตโนมัติ
โดยทรงมอบอำนาจให้พระสุริยะเทพคือดวงอาทิตย์
คอยสร้างสัมพันธ์กับคุณและปกป้องคุ้มครองคุณ
ให้มีพลังงานชีวิตและอยู่รอดปลอดภัยอย่างสงบสุข
โดยคุณไม่ต้องไปหาทำด้วยการเชื่อมจิตกับใคร
ไม่ว่าจะเป็นการเชื่อมจิตคุณกับดวงอาทิตย์หรือโลก
ไม่ว่าจะเป็นการเชื่อมจิตกับพระผู้สูงส่งในจักรวาล
ไม่ว่าจะเป็นการเชื่อมจิตกับสัตว์หรือมนุษย์คนใดๆ
ไม่ว่าจะเป็นการเชื่อมจิตกับธรรมชาติที่ทรงสร้างไว้
ต้นไม้ต้นหญ้าทุกต้นทุกกอจนถึงทรายทุกเม็ด
กระบวนการเชื่อมจิตระหว่างคุณกับเป้าหมาย
มันจะเกิดขึ้นเองโดยระบบอัตโนมัติในทันที
เพียงแค่คุณสั่นสะเทือนจิตหยาบให้เป็นความรัก
ที่มีต่อสิ่งประเสริฐซึ่งเป็นเป้าหมายนั้นด้วยศรัทธา
ด้วยสภาวะจิตอันบริสุทธิ์แท้จริงมิใช่งมงายเท่านั้น
ตัวอย่างเช่น
ถ้าคุณต้องการประโยชน์จากแสงแดด
คุณก็ต้องรักดวงอาทิตย์มีศรัทธาต่อพระสุริยะเทพ
เพราะมีสำนึกรู้ในคุณค่าของพระองค์อย่างแท้จริง
ถ้าต้องการเป็นหนึ่งเดียวกันกับโลก
คุณก็ต้องรักโลกและศรัทธาต่อโลกอย่างแท้จริง
โดยมีสำนึกรู้ว่าคุณเป็นเพื่อนร่วมงานกับโลก
ซึ่งคุณกับโลกจะขาดซึ่งกันและกันไม่ได้เลย
ถ้าโลกขาดคุณโลกจะเป็นเช่นไร
ถ้าคุณขาดโลกแล้วจะเกิดอะไรขึ้นกับชีวิตคุณบ้าง
ถ้าคุณต้องการเป็นหนึ่งเดียวกับพระเจ้า
คุณก็ต้องรักและศรัทธาต่อพระองค์
โดยมีสำนึกรู้ว่าจิตวิญญาณคุณมิใช่บุตรกำพร้า
จิตวิญญาณและตัวคุณมิได้เกิดมาจาก “ง้วนดิน”
แต่เกิดมาเพราะมีพระผู้สร้างเป็นผู้ให้กำเนิดคุณ
ซึ่งคุณเกิดมาจากความรักบริสุทธิ์ของพระองค์
จิตวิญญาณของคุณเป็นผู้ขันอาสาพระองค์มาเกิด
เพื่อทำหน้าที่สำคัญบนโลกในเอกภพอันไพศาลนี้
ในบทบาทคนสองมิติเพื่อคนตนเองให้เป็นมนุษย์
โดยสั่นสะเทือนขันธ์ห้าของจิตหยาบด้วยรักบริสุทธิ์
ที่เรียกว่า #หมุนธรรมจักร เพื่อผลิตพลังงานสะอาด
ในรูปของคลื่นไฟฟ้าแม่เหล็กด้านบวกมอบให้โลก
ได้นำไปใช้เพื่อการเหวี่ยงหมุนรอบตัวเองเป็นนิรันดร์
ซึ่งมันจะช่วยให้คุณเกิดความปีติยินดีเป็นที่ยิ่ง
ที่จิตวิญญาณคุณได้รับโอกาสเป็นตัวแทนของพระเจ้า
โดยการเป็น #ตัวแทนของพระเจ้า ของพวกคุณนั้น
มันสูงส่งกว่ารูปธรรมที่มีชีวิตบนดาวดวงอื่นด้วยซ้ำไป
เพราะถ้าคุณช่วยกันใช้ความรักผลิตพลังงานสะอาด
ด้วยกลไกขันธ์ห้าในจิตหยาบของพวกคุณได้สำเร็จ
มันจะช่วยทำให้ดาวเคราะห์โลกนี้เกิดความสมดุลได้
เมื่อโลกสมดุลก็จะช่วยค้ำจุน “เอกภพ” สมดุลได้ด้วย
มีแต่มนุษย์โลกที่เป็นคนสองมิติ
อันประกอบด้วยจิตหยาบกับกายหยาบฝ่ายเนื้อหนัง
ซึ่งมีจิตวิญญาณหรือ “พระจิต” เป็นแก่นแท้เท่านั้นเอง
ที่จะสามารถปฏิบัติภารกิจสำคัญของพระเจ้านี้ได้
จงภูมิใจในความเป็นตัวของตัวเองกันได้แล้ว
จงรักศรัทธาในการเกิดเป็นมนุษย์ของตัวเองให้มากๆ
จงรักโลกรักทุกสรรพสิ่งในระบบโลกที่ทรงสร้างไว้ให้
จงอย่าเบียดเบียนทำร้ายกันให้ระบบโลกต้องเสียหาย
ภารกิจดูแลโลกเป็นเพื่อนร่วมงานกับโลกไม่ยากเลย
แค่อย่าโง่ง่ายไปเสพติดกิเลสจนใช้จิตปัญญาไม่ได้
จนเข้าถึงธรรมชาติหรือธรรมจักรในตนเองกันไม่สำเร็จ
ถ้าไม่เสียชาติเกิดก็หนักแผ่นดินอยู่อย่างเดิม
ซึ่งมันเหลวไหลทั้งสองพวกนั่นแหละ
สื่อถ่ายทอดคลื่นความคิดในระบบจิตสู่จิต
จากองค์จิตจักรวาลดวงใหญ่
ปัญญาวิสุทธิ์
14/07/2566
พี่ๆน้องๆที่รักแห่งเราทั้งหลาย
เราจะกล่าวความจริงต่อท่านทั้งหลายว่า
เราเปิดเผยความจริงที่เป็นความลับของโลก
ถึงสาเหตุที่ทำให้มนุษย์โลกทุกคนต้องตาย
ทั้งๆที่พระเจ้ามิได้ทรงกำหนดให้มีหน้าที่ตาย
โดยเรากล่าวไว้ถึงประการที่ 4 คือขาดพลังงาน
เราได้กล่าวเปิดเผยไว้ให้รู้ไปแล้ว 3 ประการ
4.เพราะมนุษย์ได้รับความรักจากพระสุริยะไม่พอ
ความรักจาก “พระสุริยะเทพ” ที่ว่านี้เราหมายถึง
#ความร้อนแรงและแสงสว่าง จากดวงอาทิตย์
เพราะมนุษย์เป็นคนขี้ร้อนเป็นโรคกลัวแสงแดด
เป็นคนชอบอยู่แต่ในอาคารชอบทำงานในที่ร่ม
จนยังผลให้เครื่องยนต์แห่งกรรมรูปธรรมมนุษย์
ซึ่งเป็นเหมือนดั่งรถยนต์ทั้งระบบของเจ้าของรถ
โดยเจ้าของรถก็คือ #จิตวิญญาณ หรือตัวคุณเอง
มันขาดความพร้อมที่จะใช้งานอย่างสมบุกสมบัน
โดยเฉพาะเครื่องยนต์กลไกที่จะใช้ขับเคลื่อน
ให้เกิดพฤติกรรมใดๆในสองมิติเพื่อหมุนธรรมจักร
ถ้า “จิตหยาบ” ทำหน้าที่เป็นคนขับรับใช้เจ้าของ
พอตื่นนอนตอนเช้าขึ้นมาแล้วก็สตาร์ทเครื่องยนต์
สตาร์ทปุ้ปใช้งานปั้ปทำการเหยียบคันเร่งเต็มพิกัด
โดยไม่รอให้เครื่องยนต์แห่งกรรม “อุ่นร้อน” ก่อน
ด้วยการยืดเส้นสายออกกำลังกายกล้ามเนื้อเบาๆ
ให้เส้นเลือดเส้นเอ็นและมัดกล้ามเนื้อได้ยืดหยุ่น
ซึ่งการสั่นสะเทือนยืดหดนี้จะทำให้พร้อมใช้งานได้
จะไม่มีการอักเสบไม่ฉีกขาดและไม่เปราะแตกด้วย
ดังนั้น
การตื่นนอนตอนเช้าขึ้นมาในทุกวัน
มนุษย์ส่วนใหญ่ขาดการยืดหยุ่นอุ่นร้อนร่างกาย
น้ำบริสุทธิ์สะอาดจากธรรมชาติก็ไม่ได้ดื่มเข้าไป
เพื่อทำละลายสารอาหารและไม่ใช่สารอาหาร
ที่ตกค้างอยู่ภายในร่างกายตั้งแต่วันวานจนข้ามคืน
ให้น้ำช่วยขับถ่ายสลายมันออกมาทิ้งไปให้หมด
สารตกค้างข้ามคืนตัวใดก็ตามที่ยังมีประโยชน์อยู่
น้ำจะช่วยนำสารนั้นสู่กระบวนการดูดซึมของเซลล์
เพื่อนำมันไปใช้ประโยชน์ต่อไปมิให้เสียของ
นอกจากมนุษย์ตื่นเช้าขึ้นมาน้ำก็ไม่ได้ดื่ม
การอบอุ่นร่างกายตนเองด้วยการยืดหยุ่นก็มิได้ทำ
แถมยัง “นอนตื่นสาย” กันเสียอีกต่างหาก
ส่วนใหญ่จะนอนตื่นสายเพราะปกติเป็นคนนอนดึก
เมื่อนอนดึกก็ทำให้อวัยวะร่างกายใช้งานหนักมาก
เมื่อร่างกายใช้งานหนักมากก็เกิดอาการอ่อนเพลีย
เมื่ออ่อนเพลียก็จะเกิดอาการ “นอนนาน” นั่นเอง
การ “นอนนาน” หมายถึงนอนหลับแล้วไม่อยากตื่น
ไม่อยากจะตื่นแม้ว่าเวลาขณะนั้นจะต้องตื่นกันแล้ว
อาการพรวดพราดลุกขึ้นในตอนเช้าจึงเกิดขึ้นเสมอ
ทำให้เสี่ยงตายจากการ #หัวใจวาย ฉับพลันขั้นสูง
เพราะหัวใจเปลี่ยนจังหวะการเต้นแบบฉุดกระชาก
ไม่ต่างจากร่างกายคนชราทำงานหนักจนเกินกำลัง
ถ้าไม่พังพาบก็เลี้ยงไม่โตอีกต่อไปแล้วนั่นแหละ
มนุษย์ในภูมิภาคเขตร้อนตรงบริเวณใกล้เส้นศูนย์สูตร
ส่วนใหญ่จะขาดแสงแดดเฉลี่ย 20% ต่อคนต่อวัน
นิสัยการใช้ชีวิตแบบนี้ยังผลให้ “ต้นคน” ขาดแดด
ถ้าหากสิ่งมีชีวิตที่เป็น “ต้นไม้” ขาดแสงแดดไม่ได้
ต้นคนที่ต้องเติบโตก็จะขาดแสงแดดไม่ได้เช่นกัน
แม้คนสังเคราะห์แสงปรุงอาหารเหมือนต้นไม้ไม่ได้
แต่สูตรทางเคมีของคลอโรฟิลที่เป็นสีเขียวของต้นไม้
กับสูตรทางเคมีของ #ฮีโมโกลบิล ในเม็ดเลือดแดง
ก็เป็นสูตรที่มีองค์ประกอบทุกอย่างไม่ต่างกันเลย
ต่างกันแค่ในพืชเป็นสีเขียวในมนุษย์เป็นสีแดงเท่านั้น
เม็ดเลือดแดงของมนุษย์ที่มีสาร “ฮีโมโกลบิล”
ต้องการพลังงานหรือรังสีจากแสงแดดช่วยกระตุ้น
ให้เกิดกระบวนการเมต้าโบลิซั่มในเซลล์ด้วยเช่นกัน
โดยเฉพาะกลางวันนั้นมนุษย์จะมุดอยู่แต่ในถ้ำไม่ได้
ประเภทเข้าถ้ำมืดปิดวาจาปิดอายตนะและหลบแดด
นานวันเข้านอกจากจะทำให้ร่างกายเสื่อมโทรมแล้ว
ก้อนสมองทั้งระบบที่เปรียบเสมือนยอดไม้ส่วนบนสุด
ก็จะหยุดเติบโตจนเหี่ยวเฉาพระขาดปัจจัยหล่อเลี้ยง
ขาดปัจจัยตัวแรก คือ น้ำดื่มบริสุทธิ์ (ไม่ใช่น้ำฉี่)
ขาดปัจจัยตัวที่สอง คือ สารอาหารที่ต้องบริโภค
ขาดปัจจัยตัวที่สาม คือ ขาดก๊าซออกซิเจน
ขาดปัจจัยตัวที่สี่ คือ ขาดแสงแดดหรือแสงตะวัน
ขาดปัจจัยตัวที่ห้า คือ ขาดการอุ่นร้อนของร่างกาย
เพราะนั่งๆนอนๆอยู่ในถ้ำนานไม่ได้ยืดหยุ่นร่างกาย
เมื่อโผล่ออกมาจากถ้ำกลับคืนสู่แสงตะวันตามปกติ
ถ้าหากสามารถรอดชีวิตจากการขาดปัจจัยทั้งห้าได้
ก็จะเกิดอาการไม่ต่างจาก “นกหลงฟ้า ปลาหลงน้ำ”
คือมึนงงเพราะประสาทสมองสับสนเหมือนคนเพี้ยน
เพราะร่างกายขาดปัจจัยทั้งห้าที่เราว่ามานี้แหละคุณ
โดยเฉพาะพลังรังสีที่มนุษย์จะต้องได้จากแสงแดด
มิใช่แค่ใช้กระตุ้นให้เกิดวิตามินดีบำรุงกระดูกและฟัน
พระสุริยะยังมีคลื่นพลังงานอื่นที่จะมอบให้มนุษย์อีก
เพราะดวงอาทิตย์ของโลกของมนุษย์ทุกคนนี้นั้น
เป็นแหล่งพลังงานที่สมบูรณ์แบบที่สุดในจักรวาล
ถ้าคุณมีความสามารถพิเศษจ้องมองดวงอาทิตย์ได้
เราขอย้ำว่าอย่าอุตริไปฝืนทำถ้าไม่มีความสามารถ
เพราะคุณจะตาบอดสนิทจากการลบหลู่พระองค์นะ
นอกจากจะมีผู้ทรงฤทธิ์โดยพระบิดาทรงพาคุณทำ
ถ้าคุณได้ชมพระบารมีพระองค์ด้วยตาตนเอง
คุณจะสังเกตพบว่าดวงอาทิตย์จะมีแสงสีต่างๆ
หมุนวนเข้าออกอยู่รอบๆและสลับสีกันอย่างต่อเนื่อง
แต่ละสีเป็นคลื่นความถี่แต่ละชนิดที่ร่างกายต้องการ
ล้วนอยู่ในมิติทางพลังงานที่ร่างกายขาดมันไม่ได้
ศิษย์จิตจักรวาลหลายรายเคยได้รับพลังงานเหล่านี้
จากพระสุริยะช่วยเติมเต็มในส่วนที่ขาดกันมาแล้ว
พวกคุณจะต้องรู้ว่า
เครื่องยนต์แห่งกรรมรูปธรรมมนุษย์ทุกคนนั้น
พระเจ้าทรงออกแบบเอาไว้ให้เรียบร้อยแล้ว
เพื่อให้มีการเชื่อมต่อกันกับจักรวาลแบบอัตโนมัติ
โดยทรงมอบอำนาจให้พระสุริยะเทพคือดวงอาทิตย์
คอยสร้างสัมพันธ์กับคุณและปกป้องคุ้มครองคุณ
ให้มีพลังงานชีวิตและอยู่รอดปลอดภัยอย่างสงบสุข
โดยคุณไม่ต้องไปหาทำด้วยการเชื่อมจิตกับใคร
ไม่ว่าจะเป็นการเชื่อมจิตคุณกับดวงอาทิตย์หรือโลก
ไม่ว่าจะเป็นการเชื่อมจิตกับพระผู้สูงส่งในจักรวาล
ไม่ว่าจะเป็นการเชื่อมจิตกับสัตว์หรือมนุษย์คนใดๆ
ไม่ว่าจะเป็นการเชื่อมจิตกับธรรมชาติที่ทรงสร้างไว้
ต้นไม้ต้นหญ้าทุกต้นทุกกอจนถึงทรายทุกเม็ด
กระบวนการเชื่อมจิตระหว่างคุณกับเป้าหมาย
มันจะเกิดขึ้นเองโดยระบบอัตโนมัติในทันที
เพียงแค่คุณสั่นสะเทือนจิตหยาบให้เป็นความรัก
ที่มีต่อสิ่งประเสริฐซึ่งเป็นเป้าหมายนั้นด้วยศรัทธา
ด้วยสภาวะจิตอันบริสุทธิ์แท้จริงมิใช่งมงายเท่านั้น
ตัวอย่างเช่น
ถ้าคุณต้องการประโยชน์จากแสงแดด
คุณก็ต้องรักดวงอาทิตย์มีศรัทธาต่อพระสุริยะเทพ
เพราะมีสำนึกรู้ในคุณค่าของพระองค์อย่างแท้จริง
ถ้าต้องการเป็นหนึ่งเดียวกันกับโลก
คุณก็ต้องรักโลกและศรัทธาต่อโลกอย่างแท้จริง
โดยมีสำนึกรู้ว่าคุณเป็นเพื่อนร่วมงานกับโลก
ซึ่งคุณกับโลกจะขาดซึ่งกันและกันไม่ได้เลย
ถ้าโลกขาดคุณโลกจะเป็นเช่นไร
ถ้าคุณขาดโลกแล้วจะเกิดอะไรขึ้นกับชีวิตคุณบ้าง
ถ้าคุณต้องการเป็นหนึ่งเดียวกับพระเจ้า
คุณก็ต้องรักและศรัทธาต่อพระองค์
โดยมีสำนึกรู้ว่าจิตวิญญาณคุณมิใช่บุตรกำพร้า
จิตวิญญาณและตัวคุณมิได้เกิดมาจาก “ง้วนดิน”
แต่เกิดมาเพราะมีพระผู้สร้างเป็นผู้ให้กำเนิดคุณ
ซึ่งคุณเกิดมาจากความรักบริสุทธิ์ของพระองค์
จิตวิญญาณของคุณเป็นผู้ขันอาสาพระองค์มาเกิด
เพื่อทำหน้าที่สำคัญบนโลกในเอกภพอันไพศาลนี้
ในบทบาทคนสองมิติเพื่อคนตนเองให้เป็นมนุษย์
โดยสั่นสะเทือนขันธ์ห้าของจิตหยาบด้วยรักบริสุทธิ์
ที่เรียกว่า #หมุนธรรมจักร เพื่อผลิตพลังงานสะอาด
ในรูปของคลื่นไฟฟ้าแม่เหล็กด้านบวกมอบให้โลก
ได้นำไปใช้เพื่อการเหวี่ยงหมุนรอบตัวเองเป็นนิรันดร์
ซึ่งมันจะช่วยให้คุณเกิดความปีติยินดีเป็นที่ยิ่ง
ที่จิตวิญญาณคุณได้รับโอกาสเป็นตัวแทนของพระเจ้า
โดยการเป็น #ตัวแทนของพระเจ้า ของพวกคุณนั้น
มันสูงส่งกว่ารูปธรรมที่มีชีวิตบนดาวดวงอื่นด้วยซ้ำไป
เพราะถ้าคุณช่วยกันใช้ความรักผลิตพลังงานสะอาด
ด้วยกลไกขันธ์ห้าในจิตหยาบของพวกคุณได้สำเร็จ
มันจะช่วยทำให้ดาวเคราะห์โลกนี้เกิดความสมดุลได้
เมื่อโลกสมดุลก็จะช่วยค้ำจุน “เอกภพ” สมดุลได้ด้วย
มีแต่มนุษย์โลกที่เป็นคนสองมิติ
อันประกอบด้วยจิตหยาบกับกายหยาบฝ่ายเนื้อหนัง
ซึ่งมีจิตวิญญาณหรือ “พระจิต” เป็นแก่นแท้เท่านั้นเอง
ที่จะสามารถปฏิบัติภารกิจสำคัญของพระเจ้านี้ได้
จงภูมิใจในความเป็นตัวของตัวเองกันได้แล้ว
จงรักศรัทธาในการเกิดเป็นมนุษย์ของตัวเองให้มากๆ
จงรักโลกรักทุกสรรพสิ่งในระบบโลกที่ทรงสร้างไว้ให้
จงอย่าเบียดเบียนทำร้ายกันให้ระบบโลกต้องเสียหาย
ภารกิจดูแลโลกเป็นเพื่อนร่วมงานกับโลกไม่ยากเลย
แค่อย่าโง่ง่ายไปเสพติดกิเลสจนใช้จิตปัญญาไม่ได้
จนเข้าถึงธรรมชาติหรือธรรมจักรในตนเองกันไม่สำเร็จ
ถ้าไม่เสียชาติเกิดก็หนักแผ่นดินอยู่อย่างเดิม
ซึ่งมันเหลวไหลทั้งสองพวกนั่นแหละ
สื่อถ่ายทอดคลื่นความคิดในระบบจิตสู่จิต
จากองค์จิตจักรวาลดวงใหญ่
ปัญญาวิสุทธิ์
14/07/2566