31 พฤษภาคม 2564

สนทนาประสาจิตจักรวาล 31/05/2021

สนทนาประสาจิตจักรวาล

31/05/2021




พี่ๆน้องๆที่รักแห่งเราทั้งหลาย

เราจะกล่าวความจริงของพระผู้สร้าง
ให้ท่านทั้งหลายได้รู้ต่อไปอีกว่า

เมื่อพระองค์ทรงกำหนดสร้าง
เครื่องยนต์แห่งกรรมรูปธรรม ไดโนเสาร์
ซึ่งเป็นสิ่งมีชีวิตชนิดแรกที่เคลื่อนไหวย้ายที่ได้
ดำรงอยู่บนโลกเสรีร่วมกับ "ป่าไม้" ของพระองค์
จึงทรงติดตั้งกระบวนการพิเศษที่เรียกว่า "ขันธ์ 5"
ให้ "ไดโนเสาร์" ใช้เป็นเครื่องมือขับเคลื่อนพฤติกรรม
ทั้งในมิติโลกทางกายภาพและในมิติทางพลังงาน
ซึ่งมันจะสั่นสะเทือน "คู่ขนานกัน" เสมอ

ขันธ์ห้า
ประกอบด้วยรูป สัญญา เวทนา สังขาร และพลังงาน
โดยขันธ์ทั้งห้าที่พระองค์ทรงกำหนดให้ไดโนเสาร์ใช้นี้
เป็นกระบวนการทำงานของ จิตวิญญาณ ในสองมิติ
ของผู้ขันอาสาพระบิดามาเกิดเป็นไดโนเสาร์นั่นเอง
ซึ่งมันจะเกิดขึ้นได้ทุกขณะในยามที่ไดโนเสาร์ตื่น

นั่นคือจิตวิญญาณของไดโนเสาร์ของพระองค์
จะแสดงพฤติกรรมอะไรอย่างไรในยามตื่น
จะผลิตพลังงานความรักให้โลกได้ไม่ได้ในขณะนั้น
ล้วนขึ้นอยู่กับกระบวนการ 5 ขั้นหรือ 5 ขันธ์นี้ทั้งสิ้น

ถ้าจะให้เข้าใจกันง่ายขึ้นก็พอจะกล่าวได้ว่า
ทันทีที่ไดโนเสาร์ตัวนั้นๆ
สัมผัสรู้ดูเห็นอะไรหรือสิ่งใดรายรอบตัวก็ตาม
จิตวิญญาณแก่นแท้ของไดโนเสาร์ตัวนั้น
ก็จะสั่นสะเทือนเป็น การรับรู้รูป ด้วยขันธ์แรกทันที
จากนั้นจิตวิญญาณของไดโนเสาร์
ก็จะสั่นสะเทือนเป็นกระบวนการขั้นที่สองสามสี่ห้า
ตามที่ทรงกำหนดไว้ให้มันต้องเป็นเช่นนั้นเสมอ
เพื่อทำการ ตอบสนอง สิ่งแวดล้อมที่เป็นสิ่งเร้านั้น

จิตวิญญาณของไดโนเสาร์ทุกตัว
แม้ถูกกำหนดให้ใช้กระบวนการของ "ขันธ์ 5"
แต่ต่างก็มีอิสระเสรีในการสั่นสะเทือนตนเอง
เพื่อที่จะ "ตอบสนอง" เงื่อนไขที่เป็นสิ่งเร้านั้น
ตามความ รู้สึก ที่ตนพึงพอใจไม่พึงพอใจได้เลย
โดยพระองค์จะมิทรงบังคับขับเข็ญ

เพราะกระบวนการของ "ขันธ์ 5"
ที่ทรงกำหนดติดตั้งเอาไว้ให้ไดโนเสาร์ใช้นี้
ทรงอนุญาตให้จิตวิญญาณของไดโนเสาร์
สามารถสั่นสะเทือนทางจิตในขั้น เวทนา
ได้เสรีตามที่ตนปรารถนาเป็นต้นว่า

จะชอบใจก็ได้ ไม่ชอบใจก็ได้
จะพอใจก็ได้ ไม่พอใจก็ได้
จะขลาดกลัวก็ได้ จะไม่กลัวก็ได้
จะวางเฉยไม่ใส่ใจก็ได้ จะใส่ใจมันก็ได้
ฯลฯ

นี่จึงเป็นวิธีคิดดำริของพระองค์
เพื่อมอบอำนาจในตนเองให้แก่สิ่งที่ทรงสร้าง
ขณะดำเนินชีวิตอยู่บนดาวเคราะห์โลกนี้
โดยสามารถพึ่งพาตนเองได้
ขณะต้องทำหน้าที่ทางจิตวิญญาณ
ในการมอบพลังงานความรักให้โลกทั้งระบบ

ดังนั้น
ทั้งต้นไม้ในป่าไม้ของพระองค์และไดโนเสาร์
จึงต่างล้วนได้รับ พลังอำนาจ จากพระผู้เป็นเจ้า
ให้เป็นผู้มีพลังอำนาจในตนเองและมีสิทธิ์เสรี
ที่จะสั่นสะเทือนจิตวิญญาณผ่าน เวทนาขันธ์ ว่า
ตนจะทำหน้าที่เพื่อ พระเจ้า ซึ่งเป็นพระผู้สร้าง
หรือจะทำหน้าที่เพื่อตอบสนอง ตัวเอง เท่านั้น

ถ้าไดโนเสาร์จะใช้ขันธ์ 5 กระทำเพื่อพระเจ้า
เขาก็ต้องข้ามผ่านขั้นตอนเวทนาขันธ์ไปให้ได้
กล่าวคือเมื่อได้สัมผัสรู้ดูเห็นสิ่งใดก็ตาม
เขาต้องเลือกที่จะไม่เสียความรู้สึกต่อสิ่งเร้านั้น
อันหมายถึง "การวางเฉย" หรือเป็นอุเบกขา
หรือว่าเขาอาจจะเลือกสั่นสะเทือนเป็น "ความรัก"
เช่น รักคู่ผัวตัวเมียของตัวเอง รักลูกของตัวเอง
รักฝูงไดโนเสาร์ของตัวเองและรักตัวเอง
รวมทั้งรักป่าไม้และทุกสรรพสิ่งของพระบิดา
ด้วยความรักอันเป็นคุณสมบัติของจิตวิญญาณ
ที่แบกขนกันมาจากแดนสุญตาก็ได้
เพราะเป็นหน้าที่ของจิตวิญญาณที่ขันอาสามาทำ

พี่ๆน้องๆที่รักแห่งเราทั้งหลาย

นี่จึงเป็นที่มาของคำว่า
ดาวเคราะห์โลกเป็นดาวแห่งทางเลือกเสรี
ตามที่เรากล่าวต่อท่านทั้งหลายมานานแล้ว

หลังจากเครื่องยนต์แห่งกรรม
รูปธรรมต้นไม้ใหญ่กับไดโนเสาร์ที่ทรงสร้างใหม่
ร่วมกันผลิตสร้างพลังงานความรักให้แก่แกนโลก
จึงยังผลให้ดาวเคราะห์โลกมีความสมดุลมากขึ้น
เพราะแกนโลกได้รับคลื่นไฟฟ้าแม่เหล็กด้านบวก
จากจำนวนเครื่องยนต์แห่งกรรมที่ผลิตมากกว่าเดิม
พลังงานที่แกนโลกได้รับจึงมีปริมาณมากขึ้นนั่นเอง

แต่เมื่อผ่านมาตามกาลเวลาโลกได้ไม่นานนัก
พระผู้สร้างก็ทรงเรียนรู้ได้จากการทดลองอีกว่า
มีปัญหาบางอย่างเกิดขึ้นใหม่ในระบบโลก
ที่พระองค์จักต้องมีพระดำริเพื่อการแก้ไขอีกแล้ว

ปัญหาของพระผู้สร้างที่ว่านี้คืออะไร
จะทรงมีพระปรีชาญาณจัดการแก้ไขอย่างไร
ผู้ใดใคร่จะตามติดความคิดของพระผู้สร้าง
ถ้าว่างๆ...ก็จงยกมือสองข้างขึ้นมาสำแดง

กราบพระบาทพระบิดาทรงเมตตา

ได้โนเสาร์ใช้กระบวนการขันธ์ 5

ผลิตพลังงานความรักให้แกนโลก

ได้บ้างไม่ได้บ้าง เพราะใช้ความรู้สึก

ในกลุ่มเวทนาขันธ์ทำเพื่อตนเอง

มนุษย์ต้องใช้ขันธ์ 5 ผลิตความรัก

มอบให้โลกเช่นกัน แต่จะใช้ความรู้สึก

ทำเพื่อตนเองเหมือนไดโนเสาร์ไม่ได้

เพราะทุกคนมีกฎแห่งกรรม

 


เอเมน สาธุ
ป.วิสุทธิปัญญา
31/05/2021