26 พฤษภาคม 2564

สนทนาประสาจิตจักรวาล 26/05/2021

สนทนาประสาจิตจักรวาล

26/05/2021



พี่ๆน้องๆที่รักแห่งเราทั้งหลาย
เราจะกล่าวความจริงต่อท่านทั้งหลายว่า

เมื่อพระองค์ทรงทราบในเบื้องต้นแล้วว่า
ประดาเครื่องยนต์แห่งกรรมรูปธรรมต้นไม้
ทั้งที่เป็นประเภทหยัดยืนปักรากอยู่บนแผ่นดิน
และที่เป็นประเภท "ต้นไม้บนต้นไม้" ทั้งหลาย
ไม่สามารถช่วยสร้างพลังงานความรัก
เป็นเชื้อเพลิงให้แก่แกนโลกของพระองค์ได้นั้น

พระองค์จึงตัดสินพระทัยแล้วว่า
จะต้องออกแบบเครื่องยนต์แห่งกรรม
ที่จะทำหน้าที่เป็น เป็นเพื่อนร่วมงานกับโลก
เป็นรูปธรรมใหม่ที่ต้องแตกต่างไปจากต้นไม้
โดยทรงมีประเด็นการสร้างใหม่ให้ขบคิดดังนี้

1.เครื่องยนต์แห่งกรรมรูปธรรมใหม่ที่ทรงสร้าง
จักต้องดำรงอยู่ร่วมกันกับป่าไม้ของพระองค์ได้
โดยไม่เปลืองพื้นที่เหมือนต้นไม้ป่าไม้ทั้งหลาย

2.เครื่องยนต์แห่งกรรมรูปธรรมใหม่ที่ทรงสร้าง
จักต้องดำรงอยู่ร่วมกันกับป่าไม้ของพระองค์ได้
โดยไม่เบียดเบียนทำร้ายต้นไม้ป่าไม้ของพระองค์
ทั้งยังพึ่งพาอาศัยกันและเป็นประโยชน์ต่อกันด้วย

3.เครื่องยนต์แห่งกรรมรูปธรรมใหม่ที่ทรงสร้าง
จักต้องสามารถเคลื่อนที่ไปในป่าไม้ของพระองค์
หรือเดินทางท่องไปทั่วแผ่นดินโลกได้ด้วย

4.เครื่องยนต์แห่งกรรมรูปธรรมใหม่ที่ทรงสร้าง
จักต้องร่วมกันผลิตพลังงานความรักมอบให้โลก
ได้มากกว่า 3 เท่าที่ป่าไม้ทั้งโลกของพระองค์
สามารถทำได้อยู่ในขณะนั้น

5.เครื่องยนต์แห่งกรรมรูปธรรมใหม่ที่ทรงสร้าง
จักต้องมีอาหารเลี้ยงชีวิตเพื่อการดำรงอยู๋บนโลก
เพื่อทำหน้าที่เป็นเพื่อนร่วมงานกับโลกได้
โดยมีอายุขัยยืนยาวหรือไม่มีการกำหนดอายุขัย
ซึ่งอาหารต้องหาเอาได้จากป่าบนแผ่นดินโลก

พี่ๆน้องๆที่รักแห่งเราทั้งหลาย

ทั้งหมด 5 ประการที่เรากล่าวมาแล้วนั้น
คือโจทย์หลักที่มันสุดจะอลังการงานสร้าง
ซึ่งท้าทายการเรียนรู้ของพระเจ้าโดยแท้

อย่างน้อยมนุษย์ทั้งหลายที่อ่านมาถึงบรรทัดนี้
ย่อมรู้ได้เองแล้วว่ากว่าพระองค์จะทรงคิด
เพื่อการสร้างสรรค์สิ่งที่ยิ่งใหญ่ขึ้นมาได้นั้น
ทรงต้อง ฉลาดนึก ก่อนจะฉลาดคิดตามที่นึก
ด้วยพลังแห่งแรงบันดาลใจแบบไหนอย่างไร
ที่สำคัญคือจะรู้ว่าทุกสิ่งในจักรวาลอันไพศาลนี้
มันเกิดเองมีเองเป็นเองตามธรรมชาติไม่ได้
ปรากฏการณ์บิ๊กแบงจะบังเอิญสร้างทุกสรรพสิ่ง
ที่ละเอียดอ่อนแยบยลตามแบบที่ทรงสร้างไม่ได้
คงมีแต่พระเจ้าหรือพระผู้สร้างที่ทรงพระปรีชา
เพียงพระองค์เดียวเท่านั้นที่จะทรงบันดาลได้

ดังนั้น
แผนการสร้างรูปธรรมเครื่องยนต์แห่งกรรมใหม่
จึงทรงใช้เงื่อนไขข้อกำหนดทั้งห้าข้อเป็นโจทย์

1.จากเงื่อนไขข้อแรกทำให้พระองค์
ต้องกำหนดสร้างเครื่องยนต์แห่งกรรม
ที่ไม่มีรากยึดรั้งตนเองอยู่กับที่เหมือนต้นไม้แล้ว
แต่ต้องสามารถดำรงอยู่ร่วมกันกับป่าไม้ได้

2.จากเงื่อนไขข้อที่สองทำให้พระองค์
ต้องกำหนดให้เครื่องยนต์แห่งกรรมรูปธรรมใหม่
ใช้อาหารที่ได้จากป่าไม้บนแผ่นดินโลกยังชีพ
เช่น ยอดไม้ ใบไม้ ผลไม้ หน่อไม้ รากไม้ เป็นต้น

ดังนั้น
เครื่องยนต์แห่งกรรมรูปธรรมที่ว่านี้
จึงต้องมีช่องทางในการเอาอาหารหยาบๆ
เข้าสู่เครื่องยนต์แห่งกรรมช่องทางใหม่
เพราะจะใช้รากเหมือนต้นไม้ไม่ได้แล้ว
ระบบการนำอาหารที่ใส่เข้าไปเพื่อใช้ประโยชน์
ก็จะต้องออกแบบใหม่หมดเลยด้วย

ด้วยเหตุนี้เอง
จึงเป็นที่มาของปาก ลิ้น ระบบทางเดินอาหาร
กระเพาะอาหาร ตับ ไต ไส้พุง ถุงน้ำดีอีกจิปาถะ
จนเป็นที่มาของการสร้างน้ำย่อยสิ่งที่รับเข้าไป
รวมทั้งต้องมีระบบขับถ่ายกากใยที่ไม่ต้องการ
ผ่านออกไปทางทวารหนักด้วย
ซึ่งในเครื่องยนต์แห่งกรรมรูปธรรมต้นไม้ไม่มี

นอกจากนั้น
ทรงกำหนดให้เครื่องยนต์แห่งกรรมรูปธรรมใหม่
ยังสามารถหายใจเอาก๊าซออกซิเจนเข้าไป
และคายก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ออกมา
ซึ่งต้นไม้ก็ใช้ในกระบวนการปรุงอาหารด้วย
จึงเป็นที่มาของการสร้างระบบทางเดินหายใจ
โดยเริ่มจากการมีจมูก หลอดลม ปอด
เม็ดเลือดแดง เม็ดเลือดดำ ฯลฯ เป็นต้น

จากเงื่อนไขของพระผู้สร้างในข้อสองนี้
จึงเป็นที่มาของเครื่องยนต์แห่งกรรมรูปธรรมใหม่
ที่แตกต่างจากต้นไม้ของพระองค์อย่างสิ้นเชิง
โดยเฉพาะโครงสร้างทางชีววิทยาตับไตไส้พุง
และกระบวนการทางชีวภาพที่สลับซับซ้อน
แลดูแล้วค่อนข้างแยบยลปนมหัศจรรย์ยิ่งนัก
ซึ่งแม้จะทรงมีพระดำริในแบบแผนมาถึงจุดนี้
ในขณะนั้นพระองค์ก็ยังทรงสรุปมิได้ว่า
ตัวตนรูปธรรมที่จะทรงสร้างนั้นจะเป็นแบบไหน

3.มาถึงเงื่อนไขการสร้างประการที่สามที่ว่า
เครื่องยนต์แห่งกรรมรูปธรรมใหม่ที่ทรงสร้าง
จักต้องสามารถเคลื่อนที่ไปในป่าไม้ของพระองค์
หรือเดินทางท่องไปทั่วแผ่นดินโลกได้ด้วย

ด้วยเหตุนี้เอง
ผลึกแห่งการคิดสร้างสรรค์ของพระองค์
จึงปรากฏผลว่าเครื่องยนต์แห่งกรรมที่ว่านี้
ต้องมีอวัยวะที่ใช้หยัดยืนและเคลื่อนที่ได้
ต้องมีกลไกที่ใช้ในการมองเห็นอาหารที่จะกิน
ต้องมีกลไกในการได้ยินเสียงธรรมชาติ
ต้องมีอวัยวะที่ใช้เคลื่อนย้ายตนเองที่แข็งแรง
ต้องมีเปลือกนอกที่ทนแดดทนฝนทนการขีดข่วน

จึงเป็นที่มาของเครื่องยนต์แห่งกรรมที่ทรงสร้าง
อันประกอบด้วยหู ตา จมูก ผิวหนังร่างกาย
เท้าที่ใช้ในการหยัดยืนและก้าวเดิน

ปัญหาต่อไปของพระองค์ก็คือ
จะให้เครื่องยนต์แห่งกรรมรูปธรรมใหม่นี้
ทำทุกสิ่งตามที่ทรงออกแบบไว้ตั้งแต่ต้น
ด้วยอะไรและขับเคลื่อนอย่างไร
ซึ่งมันสลับซับซ้อนมากกว่าต้นไม้ของพระองค์
ที่ทรงกำหนดให้มีกลุ่มพลังงานหรือจิตหยาบ
แบ่งหน้าที่กันทำเพื่อการดำรงชีพ
และทำหน้าที่มอบความรักให้โลก
ด้วยกระบวนการทางชีวภาพและโครงสร้าง
ที่ค่อนข้างจะไม่มีอะไรพิศดารเท่าใดนัก

แต่ที่สำคัญไปกว่านั้นก็คือ
เครื่องยนต์แห่งกรรมรูปธรรมที่จะสร้างใหม่นี้
ต้องอยู่ยั้งยืนยงได้โดยไม่มีวันตายเองด้วย

ทั้งหมดนี้จึงเป็นที่มาของ
การกำหนดให้มีเซลอวัยวะร่างกาย
รับเอาสารอาหารจากป่าไม้ของพระองค์
ใช้บำรุงหล่อเลี้ยงเครื่องยนต์แห่งกรรมได้
โดยทรงกำหนดให้สามารถเจริญเติบโตได้
ทรงกำหนดให้ซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอได้ด้วย
เพื่อให้เครื่องยนต์แห่งกรรมนี้ไม่มีวันตาย

ปัญหาขั้นต่อไปก็คือ
เครื่องยนต์กลไกและกระบวนการต่างๆ
ที่ได้ทรงออกแบบวางแผนไว้แล้วนี้
จะใช้สิ่งใดเป็นผู้ขับเคลื่อนดำเนินการ
จึงจะทำให้ประสบผลสำเร็จได้สมปรารถนา

นี่จึงเป็นที่มาของการทดลองที่ยิ่งใหญ่
ที่พระองค์จักได้เรียนรู้ว่าทรงทำอะไรได้อีกบ้าง
นั่นคือการคัดเลือกพระบุตรของพระองค์
ที่ขันอาสาให้เข้ามาทำหน้าที่อันยิ่งใหญ่นี้
ในพระนามของพระองค์

โดยพระบุตรคือ จิตจักรวาลดวงเล็ก
จักต้องแบ่งภาคทางพลังงานของตนออกมา
ในอัตรา 70% เป็นรูปธรรมที่เรียกว่าจิตวิญญาณ
แล้วให้เดินทางข้ามมิติเข้ามายังระบบโลก
เพื่อปฏิสนธิทางวิญญาณกับเครื่องยนต์แห่งกรรม
ที่จะทรงสร้างขึ้นไว้ในระบบโลกนี้ต่อไป
โดยจิตวิญญาณที่เข้ามาจะนำคุณสมบัติต่างๆ
พร้อมข้อมูลการขับเคลื่อนเครื่องยนต์แห่งกรรม
ติดตัวมาจากแดนจิตจักรวาลนอกระบบเอกภพด้วย

4.มาถึงเงื่อนไขการสร้างใหม่ในประการที่สี่
เครื่องยนต์แห่งกรรมรูปธรรมใหม่ที่ทรงสร้าง
จักต้องร่วมกันผลิตพลังงานความรักมอบให้โลก
ได้มากกว่า 3 เท่าที่ป่าไม้ทั้งโลกของพระองค์
สามารถทำได้อยู่ในขณะนั้น

ผลึกแห่งพระดำริของพระองค์ในขั้นตอนนี้
จึงทรงเจียระไนออกมาเป็นผลึกได้ว่า
จักต้องสร้างขึ้นมาจำนวนหลายๆรูปธรรม
เพื่อช่วยกันสร้างพลังร่วมมอบให้โลกได้ตามเป้า
คือต้องไม่ต่ำกว่า 3 เท่าที่ป่าไม้มอบให้โลกอยู่

ดังนั้น
จึงกำหนดให้จิตวิญญาณร่วมกับกลไกอายตนะ
ของรูปธรรมเครื่องยนต์แห่งกรรมที่จะสร้างใหม่
ให้มีการสั่นสะเทือนร่วมกันในสองมิติ
โดยมีสมองเป็นเครื่องมือของจิตวิญญาณ
เมื่ออายตนะภายนอกเกิดการรับรู้สิ่งเร้าเข้า
หรือเมื่อจิตวิญญาณนึกเองอยู่ข้างในเมื่อใด
พระองค์ก็ทรงกำหนดให้เกิด ขันธ์ห้า ขึ้นเมื่อนั้น

ขันธ์ห้าที่ทรงกำหนดติดตั้งไว้ให้ใช้นี้
จะเกิดขึ้นเมื่อกลไกอายตนะทั้งหก
มีการสัมผัสรู้ดูเห็นสิ่งแวดล้อมรายรอบตัว
หรือสิ่งที่จิตวิญญาณนึกเองข้างในก็ตาม
โดยการสั่นสะเทือนทางจิตที่เป็นขันธ์ห้านี้
คือกระบวนการผลิตพลังงาน ความรัก ของจิต
เป็นรูป สัญญา เวทนา สังขาร และวิญญาณ
ที่ดาวเคราะห์โลกต้องการเป็นอย่างมาก
วิญญาณในขั้นตอนที่ห้านี้ก็คือ พลังงานความรัก
ในแบบที่โลกต้องการตามที่ทรงออกแบบไว้นั่นเอง

5.มาถึงเงื่อนไขการสร้างใหม่ประการสุดท้าย
เครื่องยนต์แห่งกรรมรูปธรรมใหม่ที่ทรงสร้าง
จักต้องมีอาหารเลี้ยงชีวิตเพื่อการดำรงอยู๋บนโลก
เพื่อทำหน้าที่เป็นเพื่อนร่วมงานกับโลกได้
โดยมีอายุขัยยืนยาวหรือไม่มีการกำหนดอายุขัย
ซึ่งอาหารต้องหาเอาได้จากป่าบนแผ่นดินโลก

จึงเป็นที่มาของการกำหนดสร้าง
พืชพันธุ์ธัญญาหารขึ้นมาเสริมบนแผ่นดินโลก
เพื่อให้รูปธรรมที่ทรงสร้างใหม่ได้ใช้เป็นอาหาร
หลังจากทรงสร้างเครื่องยนต์แห่งกรรมใหม่
ซึ่งเป็นรูปแบบแรกหรือชนิดแรกได้สำเร็จแล้ว
เพราะภายหลังทรงสร้างขึ้นไว้หลากหลายมาก
อาหารของสิ่งที่ทรงสร้างจึงต้องมีหลากหลาย

พี่ๆน้องๆที่รักแห่งเราทั้งหลาย

เมื่อพระองค์ทรงนำเอาแบบแผนที่ทรงดำริ
มาเรียบเรียงรวบรวมเข้าไว้ด้วยกัน
สิ่งที่จะทรงสร้างนั้นจึงเป็นยอดแห่งนวัตกรรม
เมื่อทรงทอดพระเนตรเห็นต้นไม้ใหญ่ล้มนอน
จึงเกิดแรงบันดาลใจในรูปแบบที่จะสร้างใหม่ได้
มันคือสิ่งมีชีวิตขนาดใหญ่ที่เรียกว่าไดโนเสาร์
ตามความจริงที่เรากล่าวไว้ก่อนหน้านี้นั่นเอง

ท่านทั้งหลายเรียนรู้วิธีคิดสร้างสรรค์
ตามแบบพระบิดาแห่งจิตวิญญาณของท่าน
เพื่อช่วยให้ตนเองฉลาดขึ้นมาได้บ้างหรือยัง

ท่านทั้งหลายยอมรับกันได้บ้างหรือยังว่า
พระผู้เป็นเจ้าผู้ทรงฤทธิ์เหนือสิ่งใด
พระผู้ทรงภูมิปัญญาปาฏิหาริย์เหนือทุกสิ่ง
คือพระผู้เป็นเจ้าหรือองค์จิตจักรวาล
ที่เป็นพระผู้สร้างที่แท้จริง
มิใช่ธรรมชาติคือผู้สร้างจากการเดาว่าบังเอิญ
มิใช่เทพเจ้าคือพระผู้สร้างเพราะเชื่อในมโนคติ

ทั้งหมดที่เราหงายกะลาให้พวกท่านรู้นี้
ท่านรักศรัทธาพระองค์มากกว่าเดิมกันหรือยัง
คุ้นเคยกับพระเจ้าของท่านบ้างหรือยัง
จำผู้ให้กำเนิดจิตวิญญาณของท่านได้หรือยัง

ถ้าท่านจะเข้าถึงความจริงที่เป็นอนุตรธรรมได้
ท่านต้องเลิกเชื่อตามคนนำทางตาบอดเสียที
แล้วหันมาคิดตามเราด้วยจิตปัญญาของตนเอง
พวกท่านมีสมองให้ใช้กันอยู่แล้ว
แม้จะยังคิดเองไม่เป็นก็ไม่เป็นไรหรอก
เพียงแค่คิดตามพระบิดาและคิดตามเรา
เพียงเท่านี้ท่านก็จะใช้สมองเป็นแล้ว
ใครจะกล่าวหาว่าท่านโง่และงมงายไม่ได้อีกแล้ว

กราบพระบาทพระบิดาทรงเมตตา

เอเมน สาธุ
ป.วิสุทธิปัญญา
26/05/2021