10 พฤษภาคม 2564

สนทนาประสาจิตจักรวาล 10/05/2021

 สนทนาประสาจิตจักรวาล

10/05/2021

พี่ๆน้องๆที่รักแห่งเราทั้งหลาย
เราจะกล่าวความจริงต่อท่านทั้งหลายว่า

ในการมาเกิดเป็นมนุษย์ในระบบโลกเสรีนั้น
"จิตวิญญาณ" ผู้เป็นตัวตนแก่นแท้ของท่าน
ซึ่งขันอาสาพระบิดาแห่งจิตวิญญาณเข้ามานี้
ก็เพื่อทำหน้าที่มอบความรักบริสุทธิ์ให้โลก

ความรักบริสุทธิ์ ก็คือ
ความรักเพื่อให้อย่างไม่มีเงื่อนไข
เช่น ความอดทน อดกลั้น และการให้อภัย
ความมีเมตตา กรุณา มุทิตา และอุเบกขา

มิใช่ความรักเพื่อ "เอา" ซึ่งมีตนเองเป็นศูนย์กลาง
เช่น ความโลภ ความโกรธ ความลุ่มหลง
ความเสียดาย ความเสียใจ ความอาลัยอาวรณ์
ความห่วงหาอาทร ความหดหู่หม่นหมอง
ความพึงพอใจ ความท้อแท้สิ้นหวัง ฯลฯ

ซึ่งจิตวิญญาณแก่นแท้ของท่านทั้งหลาย
ได้พกพาเอาความรักบริสุทธิ์เหล่านี้
ติดตัวมาเกิดเป็นมนุษย์ในระบบโลกเสรีนี้ด้วย
เพราะเป็นคุณสมบัติหลักของทุกรูปธรรม
ที่องค์จิตจักรวาลหรือพระบิดาประทานเอาไว้ให้
ตั้งแต่แรกให้กำเนิดพวกท่านในแดนสุญตาแล้ว

พี่ๆน้องๆที่รักแห่งเราทั้งหลาย

เมื่อแก่นแท้ของท่านทั้งหลาย
ได้รับโอกาสให้มาเกิดเป็นมนุษย์แล้ว
จิตวิญญาณของท่านเองจะต้องปฏิบัติตาม
แผนการที่พระบิดาทรงออกแบบไว้
โดยมอบหมายให้ จิตหยาบ ทำหน้าที่แทน
เพื่อขับเคลื่อนเครื่องยนต์แห่งกรรมรูปธรรมมนุษย์
ในบทบาทของ คนสองมิติ ขณะที่มีชีวิตอยู่

ดังนั้น
"จิตหยาบ" ของท่านขณะยังมีชีวิตอยู่นี้
จึงต้องสั่นสะเทือนตนเองทางด้านบวกสูงสุด
เพื่อเข้าถึงความรักบริสุทธิ์หรือรักเพื่อให้
อันเป็นคุณสมบัติเดียวกันกับจิตวิญญาณให้ได้

โดยขณะที่ท่านมาเกิดเป็นมนุษย์อยู่นี้
จิตวิญญาณซึ่งเป็นตัวตนที่แท้จริงของท่านนั้น
จะถูกกำหนดบทบาทให้ทำหน้าที่
คล้าย พระประธาน ที่ประดิษฐานอยู่ในโบสถ์
พิธีกรรมปฏิบัติการต่างๆเป็นเรื่องของ "จิตหยาบ"
คล้ายบทบาทหน้าที่ของ เจ้าอาวาส หรือเจ้าวัด
มิได้มีอะไรแตกต่างไปจากนี้

พี่ๆน้องๆที่รักแห่งเราทั้งหลาย

การที่จิตหยาบของท่าน
จะสั่นสะเทือนตนเองให้เป็นคลื่นความถี่
จากระดับ "ศูนย์" ซึ่งอยู่ในแนวระนาบคือเส้นตรง
ให้มันยกระดับแรงสั่นสะเทือนสูงขึ้นทางด้านบวก
จนถึงความถี่ด้านบวกสูงสุดตามต้องการได้นั้น
จิตจักต้องสั่นสะเทือนในย่านความถี่ต่ำก่อนเสมอ
มันจะไม่สามารถ "ยกกระชาก" จากระดับต่ำสุด
ให้ขึ้นถึงการสั่นสะเทือนด้านบวกสูงสุดฉับพลันได้

ด้วยเหตุนี้เอง
ท่านทั้งหลายจึงไม่ต้องแปลกใจหรอกว่า
ทำไมตั้งแต่วัยเด็กของท่านจนถึงวันเป็นผู้ใหญ่แล้ว
พวกท่านจึงตกอยู่ใต้อำนาจกิเลสตัณหาอารมณ์ขยะ
จนต้องหาทางดับมันเป็นการใหญ่
แต่ดับเท่าใดก็รู้ดีว่ายากที่จะดับมันให้สิ้นเชื้อได้
เพราะส่วนใหญ่จะหันมาดับกันก็ตอนแก่ชรา
ขณะที่จิตติดสันดานสั่นสะเทือนย่านความถี่ต่ำแล้ว

ท่านทั้งหลายเองก็รู้กันดีอยู่แล้วว่า
สันดอนขุดง่ายแต่สันดานขุดยาก

การแก้ไขเยียวยาจิตหยาบของท่านทั้งหลาย
มันจึงมิใช่งานง่ายๆทำเล่นๆอย่างที่คิด
เพราะท่านต้องใช้เวลาโลก จิตปัญญาและมหาสติ
เป็นเครื่องมือชิ้นสำคัญในการยกระดับจิต
ให้ข้ามผ่านกิเลส ตัณหา อารมณ์ขยะ
ในย่านความถี่ต่ำๆเหล่านี้ให้สูงขึ้นให้จงได้

เวลาโลกที่ต้องใช้ยกระดับการสั่นสะเทือนของจิต
ก็เพื่อสอบให้ผ่านบททดสอบจิตสามนึก
ซึ่งจิตวิญญาณคือตัวท่านเป็นผู้ออกแบบเอาไว้เอง
ตั้งแต่ภพชาติแรกที่ได้มาเกิดเป็นมนุษย์
พระบิดาทรงเรียกบททดสอบนี้ว่า ชะตาชีวิต
รวมทั้ง ชะตากรรม ซึ่งพวกท่านต้องเผชิญเช่นกัน
เพราะจิตหยาบของท่านในภพชาติอดีต
ได้สอบตกบททดสอบในชะตาชีวิตมาก่อนแล้ว
จิตวิญญาณของท่านจึงสอบตกต้องพกมาสอบซ้ำ

การสอบตก เกิดจากการที่จิตหยาบของท่าน
เมื่อเผชิญกับเงื่อนไขทั้งด้านลบและด้านบวก
ที่เป็นเรื่องราว เหตุการณ์ สถานการณ์ประจำวัน
ซึ่งคนใกล้ตัวและคนรอบข้างหยิบยื่นให้นั่นเอง

โดยท่านรักพวกเขาไม่ได้เมื่อเขาทำตัวไม่น่ารัก
ท่านไม่รักพวกเขาหรือวางเฉยแม้เขาจะทำตัวน่ารัก
ท่านไม่ให้อภัยเขาเมื่อเขาทำตัวไม่น่าให้อภัย
เพราะจิตหยาบของท่านมันติดสันดานหยาบๆอยู่

เนื่องจากท่านทั้งหลายไม่รู้ความจริงว่า
การที่คนรอบข้างของท่าน
เดี๋ยวคนนี้ดีกับท่านเดี๋ยวคนนั้นทำชั่วกับท่าน
จนวันๆแทบจะหาความสุขสงบสติแทบมิได้
มันคือบทละครในชะตาชีวิตและชะตากรรม
ที่ถูกออกแบบมาเพื่อช่วยให้จิตหยาบคือตัวท่าน
ใช้ในการยกระดับจากความถี่ต่ำๆให้สูงขึ้นนั่นเอง

เหตุที่ท่านต้องเจอเรื่องร้ายๆจากคนรอบข้าง
ทั้งคนคุ้นหน้าคุ้นตาที่คุ้นเคยและคนแปลกหน้า
อย่างไม่ว่างเว้นกันในแต่ละวันก็เพราะว่า
ตัวท่านยัง "สอบตก" บททดสอบทั้งหลายอยู่
เมื่อนักเรียนสอบตกก็ต้องเรียนซ้ำชั้นอยู่อย่างนั้น

ต่อนี้ไปท่านไม่ต้องไปนั่งหลับตาอยู่คนเดียว
แล้วเพ่งจิตข่มบังคับจิตตนเองให้มันสุขสงบอีก
ท่านต้องเข้าชั้นเรียนแบบคนอายตนะไม่พิการ
โดยมีเพื่อนนักเรียนร่วมชั้นในสังคมช่วยท่าน
แล้วปฏิบัติธรรมกันในชีวิตจริงมิใช่ "มโน"

ท่านจะรู้ได้เองว่า
ถ้าจะรักคนที่ไม่น่ารักให้ได้นั้น
ท่านต้องฉลาดคิดฉลาดใช้ปัญญา
จะมองหาความน่ารักของพวกเขาด้วยสองตาเนื้อ
ในแบบเดิมตามสันดานเดิมที่ท่านทำอยู่ไม่ได้
ท่านต้องใช้เวลาเพื่อติดอาวุธทางปัญญาเช่นกัน

พี่ๆน้องๆที่รักแห่งเราทั้งหลาย

การปลีกวิเวกละสังคมมันเหมือนกับการหนีเรียน
เพื่อนร่วมชั้นที่เขาพร้อมจะเป็นครูของท่าน
ก็มิอาจช่วยเหลืออะไรท่านได้
การที่ท่านแอบไปนั่งหลับตาอยู่เดียวดาย
มันยังจะเป็นช่องทางให้จิตของท่านติดสุขสงบ
ที่มันสุขสงบเพราะอายตนะของท่านถูกปิดตาย
เหลือแต่จิตที่เป็นอายตนะภายในอยู่อย่างเดียว
ความสุขสงบที่ท่านพึงใจมันแค่ชั่วคราวเท่านั้น

ออกจากห้องพระกลับมาจากป่าจากธรรมศาลา
ท่านก็จะยังคงสอบตกบททดสอบอยู่ดังเดิม
เพราะวิธีปฏิบัติธรรมวิธีชำระจิต
โดยไม่ใช้บททดสอบโดยมิยอมให้ใครทดสอบ
เป็นวิธีการปฏิบัติที่ไม่ถูกต้องตามแบบแผน
ที่พระบิดาแห่งจิตวิญญาณทรงออกแบบไว้ไงล่ะ

ที่ผ่านมาคนนำทางตาบอด
พยายามชี้นำพวกท่านให้ปลีกตัวปฏิบัติจิต
โดยสอนวิธีคิดว่าจะนั่งหลับตาข่มจิต
เพื่อเอาชนะจิตฝ่ายต่ำต้องทำอย่างไร
ซึ่งแท้แล้วมันเป็นการ "จัดการสันดาน" ที่ไม่ดี
ที่จิตท่านมันบันทึกไว้ใน สัญญา มาตั้งแต่เด็ก

แต่นิสัยทางจิตอันเกิดจาก กรรมจักร หรือขันธ์ 5
ที่มันจะสั่นสะเทือนย่านความถี่ต่ำก่อนเสมอ
เมื่อได้รับเงื่อนไขจากคนรอบข้างเข้ามาทางอายตนะ
กลับถูกละเลยมิเคยได้รับการฝึกทักษะเพื่อยกระดับ
หากท่านยังปฏิบัติธรรมเพื่อยกระดับจิตอยู่แบบเดิม
ท่านอาจแก้ไขสันดานจิตจากการหมายรู้ด้านลบได้
แต่ท่านจะมิอาจยกระดับกรรมจักรให้เป็นธรรมจักร
ในโลกแห่งความจริงที่เป็น ธรรมชาติ ได้เลย

เพราะการหมุนธรรมจักรนั้น
จะปลีกวิเวกด้วยการนั่งหมุนอยู่คนเดียว
เพื่อจะสั่นสะเทือนขันธ์ห้าตามลำพัง
โดยไม่มีคนรอบข้างช่วยยื่นเงื่อนไขให้นั้นไม่ได้
คงเป็นได้แค่เพียงมโนเอาแล้วเชื่อเองเท่านั้น

กราบพระบาทพระบิดาทรงเมตตา

เอเมน สาธุ
ป.วิสุทธิปัญญา
10/05/2021