26 พฤษภาคม 2564

สนทนาประสาจิตจักรวาล 26/05/2021

สนทนาประสาจิตจักรวาล

26/05/2021




พี่ๆน้องๆที่รักแห่งเราทั้งหลาย
เราจะกล่าวความจริงต่อท่านทั้งหลายว่า

เมื่อพระบิดาแห่งจิตวิญญาณหรือพระเจ้า
ได้ทรงสร้างป่าไม้นานาพรรณไว้บนโลก
เพื่อให้เป็นเครื่องยนต์แห่งกรรมรูปธรรมต้นไม้
ที่สามารถช่วยกันค้ำจุนสมดุลโลกทางกายภาพ
และช่วยกันผลิตสร้างพลังงานความรักบริสุทธิ์
ที่เป็นคลื่นไฟฟ้าแม่เหล็กด้านบวกให้แกนโลก
เพื่อใช้จุดระเบิดอะตอมของก้อนธาตุออกซิเจน
ที่พระองค์ทรงติดตั้งเอาไว้ตั้งแต่แรกสร้างโลก
ให้เกิดการ "บิดตัว" เพื่อทำให้โลกเหวี่ยงหมุน
ตามที่พระองค์ทรงออกแบบไว้สำเร็จแล้ว

แต่พระองค์ก็ทรงพบความจริงว่า
พลังงานไฟฟ้าแม่เหล็กด้านบวก
ที่ได้จากเครื่องยนต์แห่งกรรมรูปธรรมต้นไม้
ที่ทรงกำหนดสร้างไว้ทั้งหมดบนแผ่นดินโลกนั้น
ยังมีปริมาณน้อยกว่าที่ดาวเคราะห์โลกต้องใช้
โดยโลกยังเหวี่ยงหมุนรอบตัวเองเชื่องช้าอยู่
เมื่อหมุนรอบตัวเองช้าโลกจึงขาดความสมดุล
อีกทั้งพลังอำนาจของดาวเคราะห์ก็ต่ำไปด้วย

ถ้าดาวเคราะห์โลกหมุนรอบตัวเองช้าไป
ก็จะเกิดอาการแกว่งส่ายขณะเหวี่ยงหมุน
สนามแม่เหล็กที่ถูกเหวี่ยงออกมาจากแกนโลก
ก็จะไม่สม่ำเสมอหรือไม่คงที่ตามไปด้วย
จนยังผลให้เครื่องยนต์แห่งกรรมรูปธรรมต้นไม้
สร้างไฟฟ้าเหนี่ยวนำกับสนามแม่เหล็กโลก
วิปริตผิดไปจากค่ามาตรฐานที่ทรงกำหนดไว้อีก
กระบวนการทางชีวภาพในระดับเซลของต้นไม้
ก็จะเสียสมดุลจนต้นไม้ป่าไม้ของพระองค์
ถ้าพวกเขาไม่ตายก็ไม่โตนั่นแหละ

นอกจากนั้น
ถ้าระบบโครงข่ายสนามแม่เหล็กโลก
ที่ห่อหุ้มโลกไว้ไม่สมดุลและไม่แข็งแรง
ก็จะไม่มีพลังอำนาจเหนี่ยวรั้งนำพา
ดาวเคราะห์ทั้งแปดดวงในระบบสุริยะเดียวกัน
ให้โคจรไปรอบๆดวงอาทิตย์ดวงเดียวกัน
ในแบบวงโคจรของใครของมันให้ต่อเนื่องได้

ปัญหาที่จักต้องแก้ไขจึงมีอยู่ว่า
พระองค์จะต้องทำอย่างไร
เพื่อให้โลกมีพลังอำนาจมากกว่าที่เป็นอยู่
เพื่อให้โลกมีความสมดุลมากกว่าเดิม

คำตอบที่พระองค์ทรงเรียนรู้ได้ในขณะนั้นก็คือ
พระองค์จักต้องเพิ่มจำนวนเครื่องยนต์แห่งกรรม
ที่ใช้ผลิตสร้างพลังงานความรักให้โลกให้มากขึ้น
นั่นคือทรงต้องเพิ่มป่าไม้ต้นไม้บนแผ่นดินโลกอีก
จนกว่าจะเพียงพอกับที่โลกต้องการนั่นเอง

พี่ๆน้องๆที่รักแห่งเราทั้งหลาย

เนื่องจากแผ่นดินโลกที่มีแค่เพียงหนึ่งส่วน
เพราะเป็นพื้นน้ำไปสามส่วนแล้วนั้น
พระบิดาได้ทรงสร้างต้นไม้ป่าไม้เอาไว้เขียวขจี
จนเต็มพื้นที่แผ่นดินโลกไปหมดแล้ว

นี่คือสิ่งที่พระองค์ทรงทราบด้วยพระปัญญาว่า
จะทรงคิดแบบเดิมสร้างแบบเดิมๆอีกไม่ได้แล้ว
เครื่องยนต์แห่งกรรมที่จะทรงสร้างใหม่เพิ่มนั้น
ไม่มีพื้นที่บนแผ่นดินเหลือให้ "ยึดเกาะ" อีก
นี่จึงเป็นที่มาของการทรงสร้าง "ต้นไม้บนต้นไม้"

ตัวอย่างที่ทรงสร้างขึ้นใหม่ก็คือ
พืชจำพวกเถาวัลย์ กาฝาก กล้วยไม้ เป็นต้น
แต่ในที่สุดแล้วพระองค์ก็ทรงพบว่า
ต้นไม้บนต้นไม้ทั้งหลายเหล่านี้
ก็ยังไม่อาจเติมเต็มพลังงานความรักให้โลกได้

ด้วยพระปรีชาญาณอันล้ำเลิศของพระเจ้า
ที่ทั้งหลายจักต้องน้อมเกล้าถวายพระเกียรติให้
จากการที่พระองค์ทรงมีคำตอบให้ตนเองว่า
เครื่องยนต์แห่งกรรมที่จะทรงสร้างเพิ่มขึ้น
จะต้องไม่แย่งที่หยัดยืนกับต้นไม้ป่าไม้เท่านั้น
โดยสิ่งที่จะทรงสร้างใหม่นั้นจักต้องอยู่ร่วมกัน
กับป่าไม้น้อยใหญ่ของพระองค์ได้อย่างลงตัว

พี่ๆน้องๆที่รักแห่งเราทั้งหลาย

นี่จึงเป็นที่มาของเครื่องยนต์แห่งกรรม
ที่มีโครงสร้างทางชีววิทยาและรูปลักษณ์
แตกต่างจากต้นไม้ใหญ่น้อยของพระองค์แต่เดิม
ซึ่งพระบิดาทรงเรียกว่า สัตว์ประจำโลก

เครื่องยนต์แห่งกรรมรูปธรรมสัตว์ประจำโลก
จึงต้องมีขาที่เดินไปเดินมาในป่าได้ไม่แย่งพื้นที่กัน
จึงต้องมี จิตวิญญาณ จากแดนสุญตานอกเอกภพ
ขันอาสาพระองค์เข้ามาเกิดเป็นสัตว์ประจำโลกกัน
เพื่อทำหน้าที่ขับเคลื่อนเครื่องยนต์แห่งกรรม
และมอบความรักบริสุทธิ์ให้โลกเช่นเดียวกับต้นไม้
ตามพระประสงค์ของพระองค์

โดยกลไกการผลิตสร้างพลังงานความรักในสัตว์นั้น
จะถูกขับเคลื่อนทั้งสองมิติด้วย "จิตวิญญาณ"
กับเครื่องยนต์แห่งกรรมที่มีความสลับซับซ้อน
มากกว่าโครงสร้างทางชีววิทยาของต้นไม้
และมีความแตกต่างจากต้นไม้อย่างสิ้นเชิงอีกด้วย
ซึ่งเราจะนำมากล่าวให้ท่านรู้ในโอกาสต่อไป

พี่ๆน้องๆที่รักทั้งหลาย

เครื่องยนต์แห่งกรรมรูปธรรมสัตว์ประจำโลก
ซึ่งเป็นสัตว์ชนิดแรกสุดของดาวเคราะห์โลก
ที่ทรงสร้างขึ้นมาใหม่คือ ไดโนเสาร์ นั่นเอง

แรงบันดาลใจในการสร้างไดโนเสาร์
ได้จากการที่พระองค์ทรงทอดพระเนตรเห็น
ต้นไม้ใหญ่ของพระองค์ล้มลงมากองอยู่กับพื้น
ต้นไม้ต้นนั้นเป็นต้นไม้ที่ตายแล้ว

ภาพที่เห็นคือ
1.ด้านโคนต้นจะอ้วนใหญ่กว่าด้านปลาย
2.ด้านโคนต้นจะมีรากแขนงใหญ่ๆค้ำยันไว้
3.ด้านโคนต้นจะมีรากแก้วยาวเรียวชี้ไปข้างหลัง
4.ด้านปลายยอดจะมีกิ่งใหญ่ๆค้ำยันพยุงไว้
ทำให้ส่วนลำต้นทางปลายยอดไม่ถึงพื้น
5.เปลือกของต้นไม้นั้นมีสีน้ำตาลคล้ำและไม่เรียบ

ลักษณะทั้งหมด 5 ประการดังกล่าว
จึงเป็นที่มาของสัตว์ที่เรียกว่าไดโนสาร์
ที่ทรงใช้ต้นไม้ล้มของพระองค์เป็นต้นแบบนั่นเอง

พี่ๆน้องๆที่รักแห่งเราทั้งหลาย

ที่เรากล่าวมาทั้งหมดนี้
เพื่อต้องการแสดงพระปรีชาญาณของพระเจ้า
ให้มนุษย์โลกได้รู้เห็นและศรัทธาพระองค์ว่า
ที่เรากล่าวว่าองค์จิตจักรวาลคือพระเจ้า
พระองค์ทรงเป็นผู้สร้างทุกสรรพสิ่งนั้น
พระองค์ทรงสร้างด้วยแรงบันดาลใจไม่มีต้นแบบ
พระองค์ทรงมีวิธีคิดและทรงมีมุมมองที่แยบยล
จนมนุษย์โลกเข้าไม่ถึงและไม่เข้าใจในพระผู้สร้าง
เพราะไม่ฉลาดใช้ปัญญาได้แต่ดูกับเดาเท่านั้น
จึงพากันปฏิเสธพระผู้สร้าง
พากันปฏิเสธว่าทุกสิ่งมิใช่พระองค์เป็นผู้สร้าง
โดยยกให้ธรรมชาติคือผู้สร้างทุกสรรพสิ่งแทน

ธรรมชาติที่มีแต่โมเม มีแต่สมมติฐาน
ธรรมชาติที่มีแต่ "บังเอิญ" แบบจับแพะชนแกะ
ทั้งๆที่ผู้อยู่เบื้องหลังธรรมชาติก็คือพระบิดา
แต่มนุษย์ส่วนใหญ่กลับตาบอดมองไม่เห็น...กัน

กราบพระบาทพระบิดาทรงเมตตา

เอเมน สาธุ
ป.วิสุทธิปัญญา
26/05/2021