04 พฤษภาคม 2564

สนทนาประสาจิตจักรวาล 04/05/2021

สนทนาประสาจิตจักรวาล

04/05/2021


พี่ๆน้องๆที่รักแห่งเราทั้งหลาย
เราจะขอกล่าวความจริงต่อท่านทั้งหลายว่า

เพราะคนนำทางตาบอด
พาคนตาบอดผู้เคร่งครัดปฏิบัติธรรมจำนวนมาก
หลงทางนิพพานจนจิตวิญญาณกลับบ้านไม่ได้
ทุกวันนี้แม้เป็นวันที่โลกสิ้นยุคพลังงานเก่าแล้ว
จิตวิญญาณมนุษย์ผู้เป็นดั่งฝูงแกะของพระองค์
ก็ยังคงหลงทางและยังเป็นฝูงแกะนอกคอกกันอยู่
ทั้งๆที่เราผู้เฝ้าประตูคอกกลับมาร้องเรียกฝูงแกะ
ให้กลับเข้าคอกให้ทันก่อนประตูจะปิดอยู่นานแล้ว

สาเหตุอย่างหนึ่งที่เราได้กล่าวไว้ก่อนหน้านี้
ที่ทำให้จิตวิญญาณพวกท่านหลงทางนิพพานก็คือ
การที่คนนำทางตาบอดเข้าใจผิดเรื่องของขันธ์ 5 ว่า
รูป สัญญา เวทนา สังขาร และ วิญญาณนั้น
เป็นองค์ประกอบหลักของการเป็นมนุษย์
อันเป็นเหตุที่มาแห่งกองทุกข์ทั้งหลายทั้งปวง

คนนำทางตาบอดจึงเข้าใจผิดแล้วคิดต่อว่า
ถ้าตนสามารถดับขันธ์ทั้งห้าอย่างสิ้นเชิงได้
ความมีตัวตนของจิตวิญญาณย่อมดับสูญ
เมื่อจิตวิญญาณดับสูญก็แปลว่าตัวตนไม่มีแล้ว
เมื่อจิตวิญญาณไม่มีตัวตนแล้วจึงเป็น "สุญตา"
เมื่อจิตวิญญาณเป็นสุญตาจึงถึง นิพพาน แล้ว

เมื่อจิตวิญญาณถึงนิพพานแล้วตามแนวคิดนี้
การมีสังสารวัฏคือเวียนว่ายตายเกิดจึงไม่มี
การมีภพชาติและการมีกรรมเป็นกำเนิดจึงไม่มี
การมีกฎแห่งกรรมก็ไม่มีด้วยเช่นกัน

พวกเขาจึงพากันสรุปง่ายๆว่า
มรรคผลนิพพานที่พวกเขาต้องการแท้จริงก็คือ
การทำให้จิตวิญญาณแก่นแท้ของพวกเขา
ดับสูญหายว้าปไปในอนันตจักรวาล
นั่นคือเมื่อตายไปจากการเป็นมนุษย์เมื่อไหร่
จิตวิญญาณพวกเขาก็จะดับไปพร้อมขันธ์ห้าด้วย
ทั้งๆที่รูปธรรมจิตวิญญาณของพวกท่านนั้น
เป็นรูปธรรมทางพลังงานที่สมดุลอยู่ในตนเอง
จะไม่สามารถสูญสลายล่องหนหายไปไหน
ตามวิธีคิดแบบจิตมนุษย์ของพวกเขาที่ว่านั้นได้

พี่ๆน้องๆที่รักแห่งเราทั้งหลาย

วิธีคิดพิจารณาจนถึงบทสรุปเรื่องนิพพาน
ที่เริ่มต้นเป็นแค่แนวคิดจนกลายเป็นความเชื่อผิดๆ
ในลักษณะของ อุปาทานหมู่ จนถึงทุกวันนี้นั้น
เกิดจากคนนำทางตาบอดรุ่นแรกๆเข้าใจผิดคิดว่า
ขันธ์ห้าเป็นองค์ประกอบหลักแห่งการเป็นมนุษย์

แต่แท้จริงแล้วขันธ์ 5 คือ กระบวนการทางจิต
ที่ทำงานร่วมกันกับกลไกอายตนะทั้งหกและสมอง
เมื่อมีการสัมผัสรู้ดูเห็นสิ่งเร้าทั้งภายนอกภายใน
ซึ่งมันต้องเป็นแบบนี้กันตั้งแต่อายุครบ 3 ขวบแล้ว
โดยกระบวนการทางจิตทั้งห้าขั้นตอนหรือ 5 ขันธ์นี้
พระบิดาหรือพระผู้สร้างทรงออกแบบเอาไว้ให้เอง

ดังนั้น
เราจะกล่าวความจริงที่เป็น อนุตรธรรม
ซึ่งพระศาสดาที่เกิดจากโลกบอกให้ท่านรู้ไม่ได้
อันเป็นความจริงเหนือโลกเหนือจักรวาล
ที่เป็นความลับมายาวนานนับหมื่นๆปีแล้วนั่นคือ

1.กระบวนการของจิตทั้ง 5 ขันธ์หรือห้าขั้นตอน
จะเกิดขึ้นเมื่อสัมผัสรู้ดูเห็นสิ่งใดก็ตามในยามตื่น
โดยมันจะก่อให้เกิดอารมณ์รู้สึกนึกคิดขึ้นมาทันที
เพื่อการ ตอบสนอง สิ่งนั้นๆเสมอ

2.จิตที่ทำหน้าที่สั่นสะเทือนเคลื่อนไหล
จนเกิดกระบวนการทั้งห้าขั้นตอนหรือ 5 ขันธ์นี้
คือ จิตหยาบ มิใช่ จิตวิญญาณ ที่ท่านเข้าใจ
เพราะพระบิดาทรงออกแบบให้จิตวิญญาณ
แบ่งภาคตนเองออกมาเป็น "จิตหยาบ"
เพื่อทำหน้าที่แทนในทุกภพชาติที่เกิดเป็นมนุษย์

เปลี่ยนภพชาติใหม่เมื่อใด
จิตวิญญาณของท่านก็จะมีจิตหยาบใหม่เสมอ
จิตหยาบจึงเป็น นอมินี ของจิตวิญญาณนั่นเอง

3.กระบวนการทางจิต 5 ขั้นตอนหรือขันธ์ 5 นี้
พระบิดาหรือองค์จิตจักรวาลหรือพระผู้สร้าง
ทรงกำหนดออกแบบไว้ให้จิตหยาบมนุษย์ทุกคน
สามารถสั่นสะเทือนกันได้เองโดยอัตโนมัติ
ซึ่งกุมารน้อยตั้งแต่สามขวบก็สั่นสะเทือนเป็นแล้ว

4.กระบวนการของขันธ์ 5 ที่ว่านี้
เป็นกระบวนการสั่นสะเทือนของจิตหยาบ
ที่ทรงออกแบบไว้ให้เป็นกระบวนการที่ไม่ถูกต้อง

ถ้าท่านสั่นสะเทือนจิตหยาบเพื่อตอบสนองสิ่งเร้า
ด้วยกระบวนการของขันธ์ห้าที่ว่านี้ขึ้นมาเมื่อไหร่
ท่านก็จะตกเป็นทาสของ กฎแห่งกรรม เมื่อนั้น
องค์จิตจักรวาลหรือพระเจ้าทรงเรียกว่า กรรมจักร
การสั่นสะเทือนจิตหยาบจนเกิดเป็นกรรมจักรนี้
มันคือการ "หมุน" กรรมจักรนั่นเอง

5.การออกแบบมนุษย์ให้หมุนกรรมจักร
คือการให้บทเรียนที่ไม่ถูกต้องแก่จิตหยาบว่า
ถ้าตกเป็นทาสของกฎแห่งกรรมด้วยกรรมจักร
เมื่อตายไปแล้วจะต้องตกนรกเพื่อชำระบาป
แล้วก็ต้องย้อนกลับมาเกิดใหม่ในภพชาติใหม่อีก
มันจะวนเวียนอยู่เช่นนี้ตลอดไปไม่รู้สิ้นสุด
ซึ่งรวมเรียกว่าการมีสังสารวัฏนั่นเอง

แผนการของพระองค์ก็คือ
ทรงต้องการให้จิตหยาบของท่านทั้งหลาย
ได้เรียนรู้ด้วยปัญญาของตนเองกันให้ได้ว่า
ถ้าไม่ปรารถนาสังสารวัฏ ไม่ต้องการตกนรก
ไม่ต้องการกลับมาเกิดใหม่เพื่อเรียนรู้ใหม่
ไม่ต้องกลับมาเกิดใหม่เพื่อแก้ไขตนเองใหม่
โดยที่ท่านไม่ต้องตายแต่จะมีชีวิตอมตะได้นั้น

คำตอบเดียวที่พวกท่านจะต้องฉุกคิดกันให้ได้
ในภพชาติใดภพชาติหนึ่งภายในหกหมื่นปีโลก
ที่พวกท่านต้องติดอยู่ในสังสารวัฏนั่นคือ
พวกท่านจะต้องอยู่เหนือกฎแห่งกรรมให้ได้
ด้วยการหยุดหมุน "กรรมจักร" ที่พระองค์กำกับไว้

วิธีที่ท่านทั้งหลายจะสามารถหยุดกรรมจักรได้
ก็ด้วยการ "แทรกแซง" กรรมจักรให้ได้
เพื่อเปลี่ยนให้เป็นการหมุน ธรรมจักรแทน
เพียงเท่านี้กองทุกข์ทั้งหมดที่เคยเผชิญ
มันจะถูกดับสูญตั้งแต่ท่านยังไม่ตายเลยเชียว

ซึ่งบทเรียนจากพระโอวาทบทต่อๆไป
เราจะชี้แนวทางการเปลี่ยนกรรมจักรเป็นธรรมจักร
ให้สำเร็จง่ายๆในชีวิตประจำวัน
โดยมิพักต้องทรมานสังขาร
ไม่ต้องใช้วิธีการที่แปลกประหลาดเกินมนุษย์
ไม่ต้องคิดให้มันยากเกินความเป็นจริงอีกต่อไป
ถ้ารู้ความจริงนี้แล้วใครๆก็บรรลุธรรมจักรได้

6.ท่านต้องจำไว้ว่า
เพียงแค่ท่านแทรกแซงกรรมจักร
เปลี่ยนให้มันเป็นธรรมจักรได้สำเร็จในชาตินี้
มันคือการกินขนมปังของพระบิดาหรือพระเจ้า
เพราะว่าท่านเชื่อฟังและปฏิบัติตามพระโอวาท
ชาตินี้จิตวิญญาณท่านจะไม่ต้องตายอีกแล้ว

ท่านจะมีอายุยืนยาวจนไม่มีอายุขัยอีก
เพราะพระเจ้าหรือองค์จิตจักรวาล
จะทรงประทานรางวัลนี้ให้แก่ท่าน

พี่ๆน้องๆที่รักแห่งเราทั้งหลาย

ที่เรากล่าวมาทั้งหมดนั้นเป็นความจริงทุกสิ่ง
เราได้ฟังพระโอวาทมาอย่างไร
เราก็กล่าวให้ท่านรู้จนครบถ้วนทุกพระคำ

การที่จิตหยาบสามารถสั่นสะเทือนขันธ์ 5
โดยเปลี่ยนจากกรรมจักรเป็นธรรมจักรได้
มันคือหน้าที่ของมนุษย์ทุกคนต้องทำให้สำเร็จ
เพราะมันคือการที่จิตหยาบของท่าน
สามารถเข้าถึงการเป็นหนึ่งเดียวกันกับแก่นแท้
เพื่อขับเคลื่อนภารกิจของจิตวิญญาณ
ตามที่ขันอาสาพระบิดาเข้ามาทำได้ทันทีนั่นเอง

เพียงแค่ท่านรู้วิธีหมุนธรรมจักร
ด้วยการแทรกแซงกระบวนการขันธ์ห้าที่ผิดๆได้
จิตหยาบของท่านก็นิพพาน "ขยะ" ที่ในจิต
ซึ่งเป็นอุปสรรคในการเข้าถึงจิตวิญญาณได้แล้ว

ท่านจะเป็นคนแรกของจักรวาล
ที่สามารถทำภารกิจของจิตวิญญาณที่อาสามา
ร่วมกับจิตหยาบของท่านเองได้อย่างลงตัว
โดยไม่ต้องหลงทางนิพพานเหมือนอดีตอีก

ตามเรามาเถิดฝูงแกะทั้งหลาย
เราจะจูงพวกท่านถึงนิพพานตั้งแต่ยังไม่ตาย
เราจะก้าวนำพวกท่านเข้าสู่ประตูคอกแกะ
คือ ด่านนภาลัย ที่กุญแจเปิดปิดอยู่ในมือเรา
เพื่อหลุดพ้นออกไปจากอนันตจักรวาลนี้ด้วยกัน
กลับไปกราบพระบาทพระผู้ให้กำเนิดจิตวิญญาณ
ที่ทรงรอคอยและเฝ้าดูพวกท่านอยู่นานแล้ว

จงจำไว้ว่าสภาวะนิพพาน
มิใช่การ "ล่องหน" ของจิตวิญญาณอย่างที่คิด

นอกจากนั้นใครอยากเรียนรู้ว่า
จะแทรกแซงกรรมจักรอย่างไร
เพื่อเปลี่ยนเป็นธรรมจักรให้ทันก่อนวันปิดยุค
โดยไม่ต้องปลีกวิเวก
ไม่ต้องแสร้งทำอายตนะดีๆให้มันพิการ
ไม่ต้องทำตนเหมือนอยากจะไปสวรรค์คนเดียว
ก็ให้ยกมือขึ้น...

หากอยากรู้อะไรในเรื่องนี้อีก
ก็ทูลถามพระบิดาผ่านมาทางเราได้เลย
ตราบใดที่ประตูคอกแกะยังเปิดรอพวกท่านอยู่

กราบพระบาทพระบิดาทรงเมตตา

เอเมน สาธุ
ป.วิสุทธิปัญญา
4/05/2021