02 พฤศจิกายน 2562

สนทนาประสาจิตจักรวาล 2/11/2019

 #สนทนาประสาจิตจักรวาล

 

พี่ๆน้องๆที่รักแห่งเราทั้งหลาย

เราขอกล่าวความจริงต่อท่านทั้งหลายว่า

 

บนมรรควิถีจิตจักรวาลเพื่อการหลุดพ้น

ในบทบาทของ #นักสู้เพื่อการรู้แจ้ง

สำหรับผู้ที่เป็นฆราวาสญาติธรรมนั้น

ท่านสามารถนำพาจิตวิญญาณของท่าน

หลุดพ้นออกไปจากอนันตจักรวาล

เพื่อกลับคืนบ้านเกิดในแดนสุญตาได้

ภายในภพชาติเดียวเท่านั้น

 

เพียงแต่ท่านทั้งหลายต้องรู้ว่า

การกระทำใดๆในมิติโลกทางกายภาพ

มันจะมีผลต่อการกระทำในมิติของแก่นแท้ด้วย

เพราะทั้งสองมิตินั้นมันคู่ขนานกันอยู่

ดังคำกล่าวที่ว่า "จิตเป็นนาย กายเป็นบ่าว"

ที่ท่านคุ้นชินกันอยู่นั่นเอง

 

เนื่องจากว่าในการเป็นคนสองมิตินั้น

องค์จิตจักรวาล พระบิดาแห่งจิตวิญญาณ

ได้ทรงกำหนดให้พฤติกรรมภายนอก

ทั้งกายกรรมและวจีกรรม

ถูกขับเคลื่อนออกมาจากพฤติกรรมภายใน

อันเกิดจากการสั่นสะเทือนทางจิตทั้งสิ้น

 

ดังนั้น

เมื่อใดที่ท่านแสดงพฤติกรรมภายนอก

ให้ปรากฏในมิติโลกทางกายภาพ

เป็นการแสดงออกหรือกระทำใดๆก็ตาม

ในขณะเดียวกันนั้น

ท่านก็ได้กระทำแบบเดียวกัน

ในมิติของจิตวิญญาณด้านของแก่นแท้

ควบคู่กันไปด้วยแล้ว

 

ที่ผ่านมาเราจึงกล่าวต่อท่านทั้งหลายว่า

เป็นฆราวาสก็สามารถหลุดพ้นหรือนิพพานได้

เป็นผู้หญิงหรือผู้ชายก็สามารถหลุดพ้นได้

โดยไม่ว่าท่านจะสมมติว่าตนเองเป็นใคร

ท่านก็สามารถจะนิพพานหรือหลุดพ้นได้

ภายในภพชาติเดียวเท่านั้น

ขอเพียงท่านมีปณิธานแห่งการหลุดพ้นเท่านั้น

 

เราจะกล่าวความจริงให้ท่านรู้ว่า

การใช้ชีวิตทุกวันคืนกับทุกคนในครอบครัว

การต้องใช้ชีวิตอยู่กับคนหมู่มากในสังคม

การต้องทำงานร่วมกันกับเพื่อนร่วมงาน

นอกจากมีเป้าหมายด้านความมั่งคั่งและมั่นคง

ในชีวิตส่วนตัวและครอบครัวของท่านแล้ว

ท่านยังสามารถบรรลุเป้าหมายของจิตวิญญาณ

คู่ขนานกันไปกับความสำเร็จทางโลกได้ด้วย

 

เพียงท่านเรียนรู้ที่จะเป็นสัตว์สังคม

โดยใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันกับทุกคนในครอบครัว

อย่างลงตัว มีความรัก มีความสุขและอบอุ่น

นี่เท่ากับว่าท่านก็เป็นมนุษย์ที่สมดุลได้แล้ว

 

เพียงท่านเรียนรู้ที่จะเป็นสัตว์สังคม

โดยใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันกับคนหมู่มากในสังคม

อย่างมีความสุขสงบและเรียบร้อยได้

ทั้งๆที่แต่ละคนนั้นมีธรรมชาติที่แตกต่างกัน

เพราะท่านสามารถยอมรับและปรับตัว

เข้าหาบุคคลแวดล้อมในสังคมได้อย่างลงตัว

นี่เท่ากับว่าท่านเป็นสัตว์สังคมที่แท้จริงแล้ว

 

เพียงท่านเรียนรู้ที่จะเป็นสัตว์สังคม

โดยใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันกับเพื่อนร่วมงาน

ในระดับที่สามารถทำงานร่วมกันเป็นผลสำเร็จ

โดยที่ตัวท่านและเพื่อนทุกคนล้วนมีความสุข

ไม่มีการขัดแย้งหรือทะเลาะเบาะแว้งกัน

ไม่แก่งแย่งชิงดีชิงเด่นกัน

มีแต่การร่วมมือ ร่วมแรง ร่วมใจกัน

นี่ก็เท่ากับว่าท่านเป็นคนที่มีคุณภาพได้แล้ว

 

พี่ๆน้องๆที่รักแห่งเราทั้งหลาย

 

การที่ท่านสามารถเข้าถึง

การเป็นมนุษย์ที่สมดุลในครอบครัวได้

เข้าถึงการเป็นสัตว์สังคมที่แท้จริงได้

เข้าถึงการเป็นคนคุณภาพในที่ทำงานได้

 

อย่างน้อยท่านต้องใช้พลัง 3 ประการ

ดังต่อไปนี้ คือ

 

1. #พลังความรัก

เพื่อเหนี่ยวรั้งตนเองเอาไว้กับผู้อื่น

เพื่อเหนี่ยวรั้งผู้อื่นเอาไว้กับตนเอง

เพื่อเปลี่ยนสิ่งร้ายๆให้กลายเป็นดี

 

2. #พลังความฉลาด รวม 3 ด้าน คือ

ความฉลาดทางปัญญาของสมอง

ความฉลาดทางจิต

ความฉลาดทางสังคม

 

เพื่อการคิดแก้ปัญหาและตัดสินใจที่ถูกต้อง

เพื่อการนึกบวกคิดบวกมองบวก

เพื่อการสร้างสันติสุขกับคนรอบข้าง

 

3. #พลังความกล้าหาญ

เพื่อการกล้าริเริ่มสร้างสรรค์

เพื่อการกล้าคิด กล้าทำ กล้าแสดงออก

เพื่อการกล้าที่จะเปลี่ยนแปลง

เพื่อการกล้าที่จะรับผิดชอบ

 

พลังอำนาจอย่างน้อยทั้งสามประการ

ที่เรานำมากล่าวต่อท่านทั้งหลายนี้

เป็นพลังอำนาจอันเกิดจาก #ธรรมะปฏิบัติ

มันมิได้เกิดขึ้นมาเองโดยมิได้ทำอะไรเลย

ซึ่งท่านสามารถ "ปฏิบัติ" ในชีวิตประจำวัน

จนเกิดความเชี่ยวชาญได้ไม่ยากเย็น

 

ตัวอย่างเช่น

เรียนรู้ที่จะรักคนในครอบครัวตัวเองให้ได้

ด้วยการอดทน อดกลั้น ให้อภัย

ครั้งแล้วครั้งเล่าที่พวกเขาทำผิดอยู่ซ้ำซาก

การอดทน อดกลั้น และให้อภัย

ก็คือการปฏิบัติธรรมของท่าน

บนเส้นทางสู่สวรรค์นิรันดรนั่นเอง

 

ตัวอย่างเช่น

เรียนรู้ที่จะใช้ปัญญาของสมองสองซีกได้

ก็ต้องสร้างกระบวนการคิดรู้ให้เป็น

กระบวนการคิดรู้จะเกิดได้ก็ต้องมีสติ

มีสติเพื่อที่จะรู้ตนเองว่า

ท่านจะคิดอะไร ท่านกำลังคิดอะไร

คิดบวกหรือคิดลบ คิดดีหรือคิดชั่ว

ท่านเป็นทาสอารมณ์ขยะอยู่รึเปล่า เป็นต้น

 

พี่ๆน้องๆที่รักแห่งเราทั้งหลาย

 

ที่เรากล่าวมาทั้งหมดนี้

ก็เพื่อจะเป็นตัวอย่างให้ท่านได้รู้เห็นกันว่า

การใช้ชีวิตประจำวันอยู่ในสังคม

ไม่ต้องเข้าป่าหาความสงัดวิเวก

ท่านก็สามารถสร้างความสุขสงบในชีวิต

เรียนรู้ที่จะยกระดับจิตพัฒนาปัญญา

นำพาจิตวิญญาณแก่นแท้ของท่าน

สู่การหลุดพ้นกลับบ้านแดนสุญตาได้

ขณะที่ก้าวไปในโลกกว้าง

 

ท่านไม่ต้องละทิ้งครอบครัว และสังคม

ทำตัวให้กลมกลืนไม่ฝืนธรรมชาติ

โดยไม่ต้องถามหาคำตอบด้วยซ้ำไปว่า

สัจธรรมที่ท่านนำมาใช้ในชีวิตนั้น

เป็นสัจธรรมของใคร

 

เอเมน สาธุ

ป.วิสุทธิปัญญา

2-11-2019