21 พฤศจิกายน 2562

สนทนาประสาจิตจักรวาล 21/11/2019

 #สนทนาประสาจิตจักรวาล

 

พี่ๆน้องๆที่รักแห่งเราทั้งหลาย

เราจะกล่าวความจริงให้ท่านรู้ว่า

เหตุการณ์และปรากฏการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้น

ในสถานที่สำคัญบนดาวเคราะห์โลกเสรีดวงนี้

นับตั้งแต่ต้นเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา

 

ตราบจนกระทั่งถึงวันเวลานี้นั้น

ถ้าท่านยังรับฟังสัญชาตญาณตนเองได้อยู่

ท่านจะไม่เป็นผู้ "ตกข่าว" จากจักรวาลแน่ๆ

เพราะท่านทั้งหลายจะ "ตื่นรู้" จึงไม่ตกข่าว

โดยจะตื่นรู้ว่าเหตุการณ์มากมายที่มันเกิดขึ้น

ซึ่งเราเองก็มีส่วนเกี่ยวข้องใน "ข่าว" เหล่านั้น

ทุกๆเหตุการณ์มันเชื่อมโยงสัมพันธ์กันตลอด

และถ้าท่านสามารถใช้จิตกับสมองซีกขวาได้

ท่านก็จะสังเคราะห์ข้อมูลจากข่าวสารนั้นได้

 

พี่ๆน้องๆที่รักทั้งหลาย

คำว่า "ท่าน" ในที่นี้ เราหมายถึง

พี่ๆน้องๆซึ่งเป็นผู้คนที่ดำรงอยู่บนแผ่นดินนี้

เป็นแผ่นดินเดิมที่โบราณเรียกว่า #อาระเบีย

เป็นแผ่นดินที่ถูกคัดเลือกให้

เป็นสถานที่ตั้งของ #บาบิโลนใหม่

เป็นบ้านหลังสุดท้ายของชนนานาชาติ

ในปลายยุคพลังงานเก่านี้

สำหรับผู้ที่จะได้รับความรอดจากพระบิดา

เมื่อปรากฏการณ์และเหตุการณ์ต่างๆ

อันเป็นหมายสำคัญที่เกิดขึ้น

 

ตั้งแต่ต้นเดือนพฤศจิกายนศกนี้เป็นต้นมา

ล้วนเป็น "ข่าวสารจากจักรวาล"

ที่ประดาฑูตสวรรค์ได้สื่อผ่านมายังโลก

เพื่อให้เรานำมาแจ้งต่อท่านทั้งหลาย

ให้สร้างแรงสั่นสะเทือนด้านบวกตอบรับ

ในทันทีที่ได้รับรู้ข่าวสารจากจักรวาล

ซึ่งเราได้ทำหน้าที่ "ผู้สื่อข่าวจักรวาล"

ด้วยการทำงานตลอด 24 ชั่วโมง

โดยงานข่าวที่เราทำมีดังนี้

 

1. ประกาศวันพิพากษาโลก

(The Judgment Days)

ด้วยมหันตภัยพิบัติที่ละเอียดชัดเจนกว่า

ที่เคยระบุไว้ในพระคัมภีร์ในอดีต

ทรงให้เรารับสื่อสำคัญจากพระองค์มาทั้งหมด

แล้วนำมาจัดพิมพ์เป็นพระคัมภีร์ฉบับแรก

ในพระนามแห่งพระผู้เป็นเจ้า

เพื่อบอกกล่าวเรื่องราวข่าวสารให้รู้ล่วงหน้า

ในแผนการพิพากษาโลกของพระองค์

เพื่อให้ยุวจิตจักรวาลทายาททุกชนชาติ

เตรียมตนเองและจิตวิญญาณเพื่อการผจญภัย

ทั้งนี้เพื่อสร้างให้เป็นเงื่อนไขในการสั่นสะเทือน

ตอบรับพระคัมภีร์ฉบับแผนปฏิบัติการชำระโลก

ที่จะเป็นแผนการจริงซึ่งพวกท่านต้องเผชิญ

ที่พวกท่านกระหายจะรู้ความจริงมานานนับพันปี

เมื่ออ่านแล้วรู้แล้วก็ให้สั่นสะเทือน "ตอบรับ"

ด้วยสติปัญญาในตนที่ทุกคนพอมีอยู่

แต่...อนิจจา

 

พี่ๆน้องๆส่วนใหญ่ไม่มีการ #สั่นไหว

ไปตามเงื่อนไขที่พระบิดาเมตตาประทานมาให้

ผ่านพระคัมภีร์ฉบับแรกของพระองค์

ในยุค "จิตจักรวาล" กันแต่อย่างใด

เหตุเพราะงมงายกับการยึดของเก่า

เหตุเพราะเบาปัญญาไม่สามารถคิดตามได้

เหตุเพราะ "ไม่เชื่อ" เราตั้งแต่แรกแล้วว่า

เราสื่อพระโอวาทจากพระองค์ได้จริงๆ

 

2. ทรงมอบหมายให้ฑูตสวรรค์ของพระองค์

สำแดงมายาแสงสีทองอมแดงดั่งแสงเพลิง

เป็นภาพของ "นกยักษ์ฟีนิกซ์" บนก้อนเมฆ

ให้ปรากฏเหนือฟ้าประเทศบราซิล

ประเทศที่มีพระรูปปั้นขนาดใหญ่ของพระเยซู

ประทับยืนอยู่บนยอดเขาสูงอย่างเด่นเป็นสง่า

พระผู้ที่ให้สัญญาว่าจะทรงย้อนกลับมา

เมื่อถึงคราที่พระบิดา "ทรงพิพากษาโลก"

 

พี่ๆน้องๆที่รักทั้งหลาย

 

นกยักษ์ #ฟีนิกซ์

เป็นนกศักดิ์สิทธิ์ในตำนานอียิปต์โบราณ

เป็นเทพแห่งดวงอาทิตย์เป็นจ้าวแห่งอัคคี

เป็นผู้ที่รู้ตัวล่วงหน้าว่าจะตายเมื่อใด

เมื่อตายแล้วทั้งตัวจะลุกเป็นไฟกลายเป็นถ่าน

แล้วจะเกิดเป็นนกตัวใหม่มีชีวิตใหม่อีกครั้ง

 

จากกองเถ้าถ่านของตัวเอง

ในตำนานยังระบุไว้ว่าน้ำตาของนกฟีนิกซ์

สามารถชุบชีวิตคนตายให้ฟื้นคืนได้

ซึ่งหมายถึงพระจิตเดิมที่ทรงกลับมาจุติใหม่

จะทรงสละน้ำตาและเม็ดเหงื่อของพระองค์

ช่วยฉุดช่วย "แกะ" พี่ๆน้องๆจำนวนมากมาย

ที่หลงทางเพราะก้าวตามคนนำทางตาบอด

และหลงยึดติดมายาเพราะนึกว่าเป็นแก่นแท้

ให้หลุดพ้นออกไปจากอนันตจักรวาล

ภายในภพชาติสุดท้ายของทุกคน

ในท่ามกลางมหันตภัยพิบัติทุกแบบให้จงได้

การที่พระองค์ช่วยให้จิตวิญญาณหลุดพ้นได้

โดยท่านไม่ต้องกลับมาเกิดใหม่อีกชั่วนิรันดร

แปลว่าจิตวิญญาณนั้นไม่ต้องตายอีกแล้ว

สังสารวัฏเพื่อการตายแล้วเกิดใหม่ไม่สิ้นสุด

จึงมิได้เป็นของแสลงของพวกท่านอีกต่อไป

หากท่านไม่ปฏิเสธการกลับมาของพระองค์

สิ่งบอกเหตุเป็นสัญญาณว่าพระองค์กลับมาแล้ว

ก็คือภาพมายาของนกฟีนิกซ์บนเมฆฟ้า

ที่ปรากฏเหนือกรุงริโอเดอบราซิล

ในประเทศ...บราซิล นี่เอง

 

ดังนั้น

ในการสื่อพระโอวาทครั้งล่าสุดนั้น

จึงทรงมีพระบัญชาให้เรานำเอาเรื่องราวข่าวสาร

ของนกฟีนิกซ์ที่ปรากฏมายาบนก้อนเมฆที่บราซิล

มาประกาศข่าวเล่าความให้ชาวโลกรับรู้รับทราบ

พร้อมเล่าตำนานของนกศักดิ์สิทธิ์ให้โลกรู้ด้วย

เมื่อรู้แล้วก็หวังให้ทุกท่านสั่นสะเทือน "ตอบรับ"

ด้วยสติปัญญาในตนที่ทุกคนพอมีอยู่

แต่...อนิจจา

คนส่วนใหญ่ไม่มีการ #สั่นไหว ไปตามเงื่อนไข

ที่พระบิดาทรงเมตตาประทานมาให้

ผ่านเรื่องราวของนกฟีนิกซ์ฟื้นคืนชีพ

กับพระผู้สัญญาว่าจะทรงกลับมาฉุดช่วย

กับพระรูปปั้นในบราซิลของผู้ที่เคยให้สัญญาไว้

กับเมฆมายาที่ปรากฏแต่ในประเทศบราซิล

แต่อย่างใดทั้งสิ้น

 

มนุษย์ที่รับรู้รับทราบ

"ข่าวสารจากจักรวาล" เหล่านี้แล้วไม่สั่นไหว

เหตุเพราะงมงายกับการยึดติดของเก่า

เหตุเพราะเบาปัญญาจึงไม่สามารถคิดตามได้

เหตุเพราะ "ไม่เชื่อ" ตั้งแต่แรกจึงไม่คิดตาม

 

3. พระบิดาทรงเปิดบัญชรแห่งมิติ

ให้พระประมุขแห่งสงฆ์ของสองศาสนา

ได้ประกาศความสัมพันธ์เป็นหนึ่งเดียวกัน

ระหว่างคริสต์ชนกับพุทธศาสนิกชน

เพื่อยืนยันตามที่เรากล่าวเอาไว้เสมอว่า

 

"ทุกศาสนาล้วนเป็นสากล

ทุกศาสดาล้วนเป็นหนึ่งเดียวกัน"

 

จะไปหลงยึดติดพระศาสดาองค์เดียว

แล้วก้าวล่วงศาสดาอื่นศาสนาอื่นไม่ได้

ทั้งนี้ก็เพื่อยืนยันให้พี่ๆน้องๆผู้หลงทาง

ที่เคยก้าวล่วงเราเพราะคำกล่าวข้างต้นนี้

ได้เกิดสติทางวิญญาณด้วยว่า

 

เรากล่าวความจริงเสมอ

เรากล่าวตามที่พระองค์ให้เรากล่าว

โดยใช้เงื่อนไขของการเป็นหนึ่งเดียวกัน

 

ของพระประมุขทั้งสองศาสนา

ที่ปรากฏเป็นประวัติศาสตร์แห่งโลกเช้าวันนี้

ให้เป็นสิ่งกระตุ้นต่อมคิดโดยทั่วกัน

 

หวังว่าต่อนี้ไป

คงไม่มีสาวกของต่างศาสนา

จะมีการก้าวล่วงศาสนาอื่นให้ผิดบาปอีก

เมื่อพระประมุขทรงแสดงพระไมตรีต่อกัน

ให้ได้รู้เห็นกันทั้งประเทศและทั้งโลกแล้ว

 

แต่อนิจจา...

เราก็เชื่อว่า "นัยสำคัญ" ประการที่สามนี้

ก็คงมีจำนวนเพียงน้อยนิดที่จะนึกจะฉุกคิด

เพื่อ "สั่นสะเทือน" จิตสามนึก

ตามพระประสงค์ของพระบิดาได้

4. พระบิดายังทรงมีพระบัญชาให้

ฑูตสวรรค์ของพระองค์ที่เป็นมนุษย์

ให้เสด็จมาวางศีรษะแรมคืน

บนแผ่นดินที่ทรงจะสร้าง "บาบิโลนใหม่"

นั่นคือ แผ่นดินของประเทศไทย

จึงเสด็จมาอย่างเป็นทางการตามที่ท่านรู้อยู่

 

นอกจากนั้น

ยังทรงประกอบพิธีมิสซาในแบบคริสต์

เพื่อประทานความรักจากพระบิดา

ให้แก่พี่ๆน้องๆชาวไทยผู้ศรัทธา

โดยไม่แยกศาสนาอีกต่างหากด้วย

 

เงื่อนไขเหล่านี้

เป็นรหัสแห่งพระบิดาที่ทรงสร้างขึ้น

เพื่อให้ท่านทั้งหลายสั่นสะเทือนการคิด

ด้วยจิตสามนึกของตนเองว่า

การเสด็จมาของฑูตสวรรค์ในครั้งนี้

เป็นการยืนยันว่าบาบิโลนใหม่ในไทย

เป็นหนึ่งในพระอาณาจักรแห่งพระบิดา

พระผู้เป็นเจ้าเหนือสิ่งทั้งปวงนั่นเอง

และยังให้แสดงต่อมนุษย์ทั้งหลายว่า

 

ต่อนี้ไป

พิธีมิสซาก็ควรกระทำในที่สาธารณะเปิดเผย

เพราะเป็นการประทานความรักจากพระเจ้า

ต่อบุตรมนุษย์ทุกคนของพระองค์

โดยไม่แบ่งแยกชนชาติและศาสนานั่นเอง

เพราะทุกคนมีพระผู้ให้กำเนิดพระองค์เดียวกัน

ทุกคนจึงมีพระเจ้าพระองค์เดียวกัน

เราคงมิสรุปเร็วเกินไปนะ

 

ถ้าจะกล่าวตั้งแต่ต้นมือว่า

เงื่อนไขให้เกิดการสั่นสะเทือนจิตสามนึก

เพื่อสร้างสติทางวิญญาณในข้อสุดท้ายนี้

จะมิได้รับการตอบสนองจากคนส่วนใหญ่

บนดาวโลกเสรีดวงนี้เลย

 

พี่ๆน้องๆที่รักแห่งเราทั้งหลาย

เราขอหลั่งน้ำตาและหยดเหงื่อ

เพื่อกล่าวความจริงต่อท่านทั้งหลายว่า

ตั้งแต่ย่ำรุ่งของวันนี้

ได้เกิดแผ่นดินไหวรุนแรงระดับ 6.1

ในพื้นที่ประเทศลาว

ซึ่งห่างจาก อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.น่าน

ราวๆ 20 กิโลเมตร

 

แรงสั่นสะเทือนในครั้งนี้

รับรู้ได้ทั่วภาคอีสาน ภาคเหนือตอนบน

และพื้นที่ในเขตกรุงเทพมหานคร

นอกจากนั้นยังมีนัยสำคัญอีกอย่างหนึ่งว่า

ภายใน 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา

 

โลกเกิดแผ่นดินไหวระดับ 6 ขึ้นไป 4 ครั้ง

ถ้าดูแผนที่การเกิดแผ่นดินไหวจะพบว่า

เป็นการกำหนดจุด 4 จุดเอาไว้

ตามแนววงแหวนแห่งไฟบนแผนที่โลกนั่นเอง

 

บทสรุปคือ

เป็นเพราะเจ้าสาวถือตะเกียงแต่ไม่มีน้ำมัน

การสั่นสะเทือนให้เกิดแสงสว่างจึงไม่มี

 

เมื่อคนไม่ไหวโลกก็ต้องสั่นไหวแทน

 

เอเมน สาธุ

ป.วิสุทธิปัญญา

21-11-2019