19 พฤศจิกายน 2562

สนทนาประสาจิตจักรวาล 19/11/2019

 #สนทนาประสาจิตจักรวาล

 

พี่ๆน้องๆที่รักแห่งเราทั้งหลาย

เราขอกล่าวความจริงต่อท่านทั้งหลายว่า

 

เมื่อไม่นานมานี้

พระบิดาทรงเปิดมิติให้นักวิทยาศาสตร์โลก

ทำการวิจัยเกี่ยวกับแผ่นดินไหวว่า

การไหวแรงๆระดับ 7.0 ขึ้นไป

นับตั้งแต่ปี ค.ศ.1900 เป็นต้นมา

มันมีเหตุมีผลเกี่ยวเนื่องกับโลกอย่างไรบ้าง

 

ผู้ที่ทำการวิจัยในเรื่องนี้ก็คือ

ศาสตราจารย์ Roger Bilham

จากมหาวิทยาลัยโคโลราโด้ ที่ Boulder

และศาสตราจารย์ Rebecca Bendick

จากมหาวิทยาลัยมอนตาน่า ที่ Missoula

 

พวกเขาทำการวิเคราะห์การเกิดแผ่นดินไหว

ขนาดที่ใหญ่กว่า 7.0 ตั้งแต่ปี 1900 เป็นต้นมา

ก็พบว่าราวๆห้าปีตั้งแต่ต้นศตวรรษที่ยี่สิบ

ซึ่งมีการเกิดแผ่นดินไหวมากกว่า 7.0

อย่างมีนัยสำคัญนั้นมันเป็นปีที่

ความเร็วในการหมุนรอบตัวเองของโลกลดลง

 

ศาสตราจารย์ Bilham กล่าวว่า

ในช่วงเวลาดังกล่าวมีแผ่นดินไหวที่รุนแรง

เกิดขึ้นระหว่าง 25 ถึง 30 ครั้งต่อปี

โดยจะมีแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ๆ

อยู่ที่ประมาณ 15 ครั้งต่อปี

 

งานวิจัยของพวกเขา

พบว่าการเกิดแผ่นดินไหวของโลกอนาคต

มีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นและรุนแรงขึ้น

ซึ่งมันจะสัมพันธ์กันกับความเร็วที่ช้าลง

ในการหมุนรอบตัวเองของโลกนั่นเอง

 

นอกจากนั้น

นักวิชาการสองท่านนี้

ยังพบความจริงที่น่าตกใจด้วยว่า

ดวงจันทร์กำลังเคลื่อนตัวออกห่างจากโลก

ประมาณหนึ่งนิ้วครึ่งต่อปี!!!

 

พี่ๆน้องๆที่รักแห่งเราทั้งหลาย

เราจะขอกล่าวความจริงต่อท่านทั้งหลายว่า

ผลงานวิจัยของศาสตราจารย์ทั้งสองท่านนี้

ที่ได้ค้นพบความเป็นพิรุธของโลกหลายเรื่อง

ทั้งหมดนั้นล้วนเป็นความจริงทั้งสิ้น

ซึ่งความจริงที่เขาค้นพบที่เราขอยืนยัน

ไว้เป็นสาระสำคัญอันดับแรกก็คือ

 

พวกเขาค้นพบว่า

#โลกหมุนรอบตัวเองช้าลง

เราขอยืนยันต่อท่านทั้งหลายว่าเป็นความจริง

 

สาเหตุที่โลกหมุนรอบตัวเองช้าลงเรื่อยๆ

เพราะแรงบิดตัวของแกนแม่เหล็กโลก

ซึ่งพระบิดาทรงติดตั้งไว้ในแกนโลกนั้น

มีพลังอำนาจตกต่ำลงเรื่อยๆ

 

สาเหตุที่แรงบิดตัวของแกนโลกลดต่ำลงเรื่อยๆ

ก็เป็นเพราะว่า #จิตสามนึกมนุษย์โดยรวม ตกต่ำ

และที่จิตสามนึกมนุษย์โลกโดยรวมตกต่ำ

ก็เป็นเพราะคนทั้งโลกไม่รู้หน้าที่ว่า

ทุกคนที่เกิดมาจะต้องช่วยกัน #หมุนธรรมจักร

จึงได้แต่หมุน #กรรมจักร กันมากกว่า

 

เนื่องจาก #คนนำทางตาบอด ชักพาหลงทาง

ให้ไปวุ่นวายอยู่กับเรื่อง "ทุกข์" ส่วนตัวกันเอง

แล้วชวนให้หนีทุกข์ไปเกิดบนสวรรค์มายาแทน

เพราะหลงผิดว่าถ้าหนีไปเกิดบนสวรรค์มายาได้

แสดงว่าดับสังสารวัฏได้แล้วนิพพานแล้ว

ทั้งๆที่เป็นเรื่อง "งมงาย" เพราะหลงธรรมทั้งสิ้น

จึงยังผลให้ไม่มีผู้ใดใส่ใจที่จะหมุนธรรมจักร

จนดาวเคราะห์โลกขาดพลังในการเหวี่ยงหมุน

จึงหมุนรอบตัวเองช้าลงเรื่อยๆแล้ว

 

พี่ๆน้องๆทั้งหลายคงจะยังจำกันได้ว่า

 

เมื่อหลายปีที่ผ่านมาแล้วนั้น

เราได้เปิดเผยความจริงระดับ #อนุตรธรรม

ต่อชาวโลกเสรีนี้เอาไว้เป็นครั้งแรก

ในประวัติศาสตร์โลก

เพราะไม่เคยมีใครกล่าวมาก่อนว่า

 

ทุกคนที่มีจิตวิญญาณมาเกิดในระบบโลก

ล้วนมีหน้าที่จะต้องหมุนธรรมจักร

เพื่อ "คน" ตนเองให้เป็น "มนุษย์" ให้ได้

แล้วใช้ความเป็นมนุษย์ผู้มีจิตใจสูงดีแล้ว

ร่วมกันผลิตพลังงานจิตด้านบวกคือ "รัก"

ซึ่งเป็นคลื่นไฟฟ้าแม่เหล็กด้านบวก

ชนิดเดียวกันกับคลื่นพลังงานแม่เหล็กโลก

ป้อนให้กับดาวเคราะห์โลกดวงนี้ทั้งวันคืน

ตามสมการพลังงานทางช้างเผือก

 

ผลรวมทางพลังงานไฟฟ้าแม่เหล็กด้านบวก

ต้องได้จากมนุษย์ สัตว์ พืชและสิ่งมีชีวิตเท่านั้น

ต้องร่วมกันป้อนให้ "แกนโลก" ในทุกวินาทีด้วย

โดยพระบิดาทรงติดตั้งธาตุออกซิเจนเอาไว้ที่นั่น

ซึ่งเป็นธาตุออกซิเจนที่บริสุทธิ์ 100% ก้อนใหญ่

อยู่ตรงแกนกลางของดาวเคราะห์โลกเลย

 

ธาตุออกซิเจนบริสุทธิ์นี้

จะมีลักษณะเหนียวหนืดคล้ายตังเม

โดยอะตอมของธาตุออกซิเจนนั้น

จะว่องไวต่อคลื่นพลังงานไฟฟ้าด้านบวก

มากเป็นพิเศษ

 

ถ้าปฏิสัมพันธ์กับพลังงานไฟฟ้าด้านลบ

ก็จะดูดซับรับเอาอิเล็คตรอนมาเก็บไว้

แต่ถ้าปฏิสัมพันธ์กันกับพลังงานไฟฟ้าด้านบวก

อะตอมของธาตุออกซิเจนในแกนโลก

ที่มีศักยภาพทางไฟฟ้าเป็นลบ

ก็จะก่อให้เกิดปฏิกริยานิวเคลียร์ฟิชชั่น

โดยจะมีการระเบิดอย่างรุนแรงเกิดขึ้น

จนทำให้อะตอมข้างเคียงระเบิดตามต่อเนื่อง

เป็นระเบิดนิวเคลียร์แบบปฏิกริยา "ลูกโซ่"

 

ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นจากกระบวนการนี้

จะยังผลให้แกนโลกระเบิดรุนแรง

เฉพาะด้านกลางวันที่สิ่งมีชีวิตทุกชนิดตื่นอยู่

ขณะที่ด้านตรงข้ามอีกซีกโลกหนึ่ง

ซึ่งเป็นเวลาค่ำคืนที่ทุกชีวิตหลับไหล

ภายในแกนโลกก็จะไม่มีการระเบิดใดๆเกิดขึ้น

 

ดังนั้น

แกนโลกด้านหนึ่งก็จะเกิดการบิดตัวอย่างรุนแรง

พอรุ่งเช้าขึ้นมาสิ่งมีชีวิตอีกซีกโลกหนึ่ง

ก็จะพากันตื่นขึ้นมาทำหน้าที่รับช่วงต่อ

เพื่อผลิตพลังงานความรักป้อนให้โลกต่อไป

ขณะที่ซีกโลกที่เป็นกลางวันแต่เดิม

ก็จะเปลี่ยนเป็นเวลาค่ำคืนเพื่อหลับนอนต่อไป

โดยสิ่งมีชีวิตในซีกโลกตรงข้ามกัน

จะผลัดกันทำหน้าที่ร่วมกับโลกแบบนี้เสมอ

 

พี่ๆน้องๆที่รักแห่งเราทั้งหลาย

 

ในปลายยุคพลังงานเก่า

ตั้งแต่ปี พ.ศ.2535 เป็นต้นมา

จากการตรวจวัดค่าพลังงานพบว่า

 

สิ่งมีชีวิตบนโลกโดยเฉพาะคนทั้งโลก

มีจิตสามนึกตกต่ำลงเรื่อยๆเพราะเหตุว่า

มีพระศาสดาเอาไว้ให้ยึดติด

มีศาสนาเอาไว้เป็นแค่อาภรณ์ของชีวิต

มีธรรมะเอาไว้แค่ท่องจำ

มีพิธีกรรมเอาไว้ "งมงาย"

 

มีสติปัญญาแต่ว่าไม่รู้จักใช้

คงนิยมใช้แต่ "ชอบ - ชัง - เชื่อ"

เพราะถูกจริตหรือไม่ถูกจริตกันเท่านั้น

จึงพากันหลงทางเพราะเชื่อคนนำทางตาบอด

สร้างทางเบี่ยงไปติดค้างอยู่บนสวรรค์มายา

จนหลุดพ้นถึงนิพพานแท้ก็ไม่ได้

จะหลุดหล่นลงมาเป็นมนุษย์ก็ลงมาไม่ได้

ยังผลให้โลกขาดแคลนพลังงานตลอดมา

เพราะว่าหมุนแต่กรรมจักรจนนรกล้น

 

มาถึงวันนี้

ใกล้คาบสุดท้ายของการชำระโลกเข้าไปทุกที

ภัยพิบัติที่เกิดขึ้นจากการที่โลกเสียสมดุล

เพราะน้ำมือมนุษย์ที่ไร้น้ำใจ

กับภัยพิบัติที่เกิดขึ้นตามแผนปฏิบัติการชำระโลก

ซึ่งฑูตสวรรค์ของพระบิดาเป็นช่างเท็คนิกนั้น

มันก็จะเกิดขึ้นทับซ้อนกันไปจนแยกไม่ออกว่า

ภัยพิบัติที่ไหนแบบใดที่เกิดขึ้นบนโลก

เป็นภัยพิบัติจากความเหลวไหลของมนุษย์เอง

หรือเป็นภัยพิบัติที่ถูกจัดให้ตามแผน

 

พี่ๆน้องๆที่รักแห่งเราทั้งหลาย

 

ข้อสังเกตจากงานวิจัย

ของศาสตราจารย์ Roger Bilham

จากมหาวิทยาลัยโคโลราโด้ ที่ Boulder

และศาสตราจารย์ Rebecca Bendick

จากมหาวิทยาลัยมอนตาน่า ที่ Missoula

ที่ว่า #โลกหมุนช้าลง เรื่อยมา

จึงเป็นความจริงที่เราขอยืนยันไว้ในที่นี้

 

แต่เราจะกล่าวความจริง

ที่งานวิจัยชิ้นนี้มิได้กล่าวไว้เพราะยังเข้าไม่ถึง

นั่นคือ ขณะนี้จักรวาลพบว่า

จากสาเหตุที่โลกหมุนรอบตัวเองช้าลงเรื่อยๆ

จึงยังผลให้เดิม 1 รอบเดือน

อันหมายถึงดวงจันทร์โคจรรอบโลกคือ 30 วัน

เปลี่ยนเป็นมากกว่า 30 วันแล้ว

 

ที่เป็นเช่นนี้เพราะว่า

ดวงจันทร์ถอยห่างออกไปจากโลกมากขึ้น

เนื่องจากโลกหมุนรอบตัวเองช้าลง

จึงยังผลให้แรงดึงดูดที่โลกมีต่อดวงจันทร์

มีพลังลดน้อยถอยลงไปนั่นเอง

 

ดังนั้น

เมื่อดวงจันทร์ถอยห่างออกไปเรื่อยๆเช่นนี้

มันคือตัวชี้วัดได้อย่างหนึ่งว่า

แรงดึงดูดของโลกที่กระทำต่อดวงจันทร์

ลดลงจากค่าคงที่แต่เดิมแล้วนั่นเอง

และมนุษย์โลกนี่แหละเป็นต้นเหตุ

 

นักวิจัยพบว่า

ดวงจันทร์ถอยห่างออกไปจากโลก

เป็นระยะทางเฉลี่ย 1.5 นิ้ว/ปีที่ผ่านมา

แต่เราจะเติมเต็มข้อมูลนี้ให้รู้ว่า

ถ้ามนุษย์ยังงมงายไร้สามนึกกันอยู่ต่อไป

ยังฝักใฝ่กับการหนีโลกไปเกิดเป็นเทพเทวดา

มากกว่าจะช่วยกันหมุนธรรมจักรช่วยโลก

แล้วพากันหลุดพ้นออกไปจากอนันตจักรวาล

ตามเส้นทางปรินิพพานของพระตถาคต

 

ถึงวันนั้น

วันที่โลกจะมีรอบเดือนใกล้ 47 วัน

เพราะดวงจันทร์ถอยไปไกลจากโลกมากเกิน

หายนะโลกก็จะเกิดขึ้นทันที

เพราะดวงจันทร์หลุดลอยออกไปจากระบบ

 

ถ้าโลกขาดพลังงานความรักมากยิ่งขึ้น

แกนหมุนของโลกจะแกว่งส่ายรุนแรง

โลกจะเกิดแผ่นดินไหวทุกวันและเกิดทั่ว

 

เมื่อฑูตสวรรค์ส่งพลังงานพายุสุริยะเข้ามา

เพื่อกระตุ้นให้เกิดการระเบิดบิดตัวที่แกนโลก

เพื่อชดเชยพลังงานในส่วนที่ขาดไป

มันจะยังผลให้โลกถูกกระชากให้บิดตัว

แผ่นดินไหวที่รุนแรงก็จะเกิดขึ้น

ภูเขาไฟเก่าใหม่ก็จะพากันปะทุหรือระเบิด

ทั่วแผ่นดินโลกก็จะมีบ่อย่ำองุ่นกับบึงไฟ

ที่จะเป็นสุสานให้สิ่งมีชีวิตที่เหลวไหลทั้งหมด

ถูกจับโยนลงไปชำระทิ้งดั่งขยะที่รกโลก

เป็นจำนวนบ่อและบึงมากมายแน่ๆ

 

ส่วนแผ่นดินไหวระดับต่ำไม่เกิน 6.0

ที่ปรากฏเกิดขึ้นบนโลก

ซึ่งมีความลึกไม่เกิน 100 กม.จากพื้นโลก

จะเป็นผลมาจากโลกขาดพลังงานความรัก

เพราะมนุษย์เหลวไหลรักกันไม่ได้ให้อภัยไม่เป็น

ทำบุญทำทานกันเฉพาะที่ธรรมศาลา

ทำบุญทำทานกันเพื่ออาราธนาขอสิ่งตอบแทน

มิได้ทำด้วยจิตสามนึกแห่งการเป็นผู้ให้

จึงยังผลให้ผลิตพลังงานจิตด้านบวกไม่ได้

 

พี่ๆน้องๆที่รักทั้งหลาย

นอกจากที่เรากล่าวมาทั้งหมดนี้แล้ว

พวกท่านยังจะได้เผชิญภัยพิบัติอีกมากแบบ

จากการที่โลกเสียสมดุลและจากแผนชำระโลก

โดยช่างเท็คนิกจากฟ้าไกลเป็นอาทิ เช่น

 

ทะเลกลืนแผ่นดินชายฝั่งทั่วโลก

เกาะหลายเกาะถูกน้ำทะเลท่วมมิดเลย

ฝนตกหนักจนน้ำท่วมขังไปทั้งเมือง

ท่วมบนพื้นที่สีแดงที่เราระบุไว้ให้แล้ว

ที่ไม่เคยท่วมก็จะท่วม

ที่เคยท่วมแล้วลดก็จะท่วมอีก

โดยคราวนี้จะท่วมแล้วไม่ลด

 

จะมีพายุหมุนรุนแรงจำเพาะถิ่นพัดถล่มเมือง

จะมีน้ำป่าไหลบ่าเข้าท่วมเมืองยามหลับไหล

 

นอกจากนั้น

บางพื้นที่ซึ่งเป็นพื้นที่เพาะปลูกจะแล้งกันดาร

เพื่อจัดการแกะตัวที่ยึดติดให้กลับเข้าคอก

เพราะเห็นแล้วว่าในทุ่งนี้ไม่มีหญ้าให้กินแล้ว

เพราะเมฆฝนถูกขนไปโจมตีแผ่นดินอื่น

เพื่อคัดปลาที่หายใจด้วยปอดตัวที่ไร้ค่าทิ้ง

ในอีกพื้นที่หนึ่งควบคู่กันไปด้วย

 

เรายืนยันว่าทุกคำกล่าวของเราแต่ต้น

เรากล่าวตามความจริง

ตามที่พระบิดาทรงพระอนุญาตให้เรากล่าว

ใครมีหูก็จงรับฟังไว้

ใครมีปัญญาก็จงตรองกันเถิด

ไม่มีใครบังคับให้ท่านเชื่อ

เพราะโลกนี้เป็นดาวแห่งทางเลือกเสรี

 

เอเมน สาธุ

ป.วิสุทธิปัญญา

19-11-2019